มณีสัตยา

วสุนทรา

...สัตยาอธิษฐานจารวันนี้ 
เลือดหลั่งโลมปฐพีมิมีหวั่น 
สัจจะข้าฯ แลกได้แม้ชีวัน 
ชาตินักรบฤา..จักพลั่นเรื่องความตาย 
ขอเจดีย์ยอดหัก ณ เบื้องหน้า 
เป็นสักขีแทนวาจา ข้าฯมากหลาย 
มอบแด่เจ้าพิลาสพรรณดาราราย 
ก่อนนิราศจากกายเพื่อเมืองตน 
ราตรีกาลนี้มืดมิด..บุหลันเลือนลอยหลบลี้หนีหายมิกรายกล้ำฟ้า บรรยากาศวังเวงราวกับอาลัยอาวรณ์ต่อการจากไปของบุรุษชาตินักรบผู้หนึ่ง..พระพายพัดแผ่วพลิ้วแว่วหวิว คล้ายรำพึงรำพันพิลาปร่ำอาดูรต่อดรุณีน้อยผู้สูงศักดิ์นางหนึ่ง 
...บุรุษหนุ่มผิวเนียนสีทองแดง นอนสงบแน่นิ่ง มิไหวติงอยู่บนแท่นศิลาอันเย็นชืด ภายใต้ต้นลีลาวดี ซึ่งยามนี้ส่งกลิ่นหอมหวานคลอเคล้าไอโศก เฉกเช่นในความรู้สึกของผู้ที่คงมีชีวิตอยู่เพียงกาย จากคบไฟที่ปักเรียงราย สะท้อนให้เห็นเค้าหน้าอันคมคาย จมูกโด่งเป็นสันตั้งตรง ริมฝีปากอิ่มได้รูป บนลำตัวที่ประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อสีทองแดงอันแสดงถึงความแข็งแกร่งแห่งบุรุษเพศบัดนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบโลหิตแห้งเกรอะกรัง 
....ไม่มีแล้วลมหายใจให้ขาดสิ้น 
ไม่มีแล้วรอยแย้มยิ้มถวิลหา 
ไม่มีแล้วถ้อยห่วงใยใฝ่เจรจา 
ไม่มีแล้วสองหัตถามากุมกร 
..ดรุณีน้อยรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นบอบบาง ยืนอย่างสงบท่ามกลางพระพายยะเยือกเย็น ภายใต้นภาไร้เดือนเด่นฉาย แวดล้อมด้วยลีลาวดีร่วงกระจัดกระจาย ดาราพรรณพิลาสเฉกนายิกาพรรณรายไยมิใช่เดียวดายแต่บัดนี้ 
.พระรูปพระโฉมแห่งขัตติยนารีน้อย งดงามโสภิตพ่างเพี้ยงดั่งอัปสรสวรรค์จรจรัลลัดลงมาจากสรวง ดั่งภาพลวงปรากฏยามรัตติกาลอันมืดมนแห่งคืนนี้ มาตรแม้นเวลานี้พระพักตร์จะซีดขาวไร้สีพระโลหิต พระเนตรที่เคยวาววับดุจดาเรศเยือนอันธิกาบัดนี้ฉายแวววิปโยคเทวษเกินพร่ำพรรณนา รอยแย้มโอษฐ์ที่เคยแต้มปรางอยู่เนืองนิจ ยามนี้อันตรธานไปเสียสิ้น.. 
..ดาราพรรณพิลาสไร้แล้วซึ่งลำแสงแห่งชีวิต...เหลือเพียงซากทรงอันต้องกระทำหน้าที่ต่อไปในฐานะที่ถือกำเนิดเป็นกษัตริยนารีแห่ง หิรัณย์เมทินีนาคร 
ฤา....จักมีผู้ใดยินดีเมื่อภัสดาผู้เป็นที่รักจากไป 
ฤา.....จักมีผู้ใดแย้มสรวลเมื่อภัสดามาล่วงลับ 
เจ้าหญิงดาราพรรณพิลาส ทอดพระเนตรมองร่างแน่นิ่งแห่งภัสดา ไม่มีน้ำพระเนตรไหลหลั่ง ความทุกข์โทมนัสที่ทรงได้รับเกินกว่าที่อัสสุชลจะหลั่งภายนอก หากหลั่งลงสู่ห้วงหทัยอันแหลกลาญ 
ลูกหญิงต้องเข้มแข็ง น้ำตาไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ความอ่อนแอไม่ได้ช่วยให้มนุษย์พ้นทุกข์ พ่อรู้ว่าลูกเสียใจเพียงใด วันที่แม่ของลูกเสียชีวิตกลางสมรภูมิ ต่อหน้าพ่อ วันนั้นเป็นวันที่พ่อไม่มีวันลืม ...บำราบอรินทร์ตายอย่างสมศักดิ์ศรี เช่นเดียวกับแม่ของลูก ลูกจงภูมิใจที่ภัสดาแห่งลูกเป็นนักรบผู้พลีชีพเพื่อเอกราชแห่งเมืองเรา จนสามารถขับไล่พวกมอญหริภุญชัยไปเสียสิ้นจากแผ่นดินหิรัณย์เมทินีนาคร เขาไม่เสียชาติเกิดที่เกิดมาเป็นบุรุษชาตินักรบ และลูกจงภูมิใจที่ภัสดาแห่งลูกเป็นนักรัก...รักสัตย์...รักชาติ และรักลูกสาวของพ่อยิ่งกว่าชีวิต ดาราลูกอย่าอ่อนแอ แม้ต่อไปลูกอาจไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อรักบุคคลผู้เป็นที่รักเช่นภัสดาแห่งลูก แต่ลูกจงมีชีวิตอยู่เพื่อรักราษฎร์แห่งหิรัณย์เมทินีนาคร..ระหว่างหน้าที่และเรื่องส่วนตัว เราจำต้องเลือกหน้าที่มาเป็นอันดับแรก นี่เป็นชะตาของผู้ที่เกิดมาเป็นกษัตริย์  
พระเจ้าพรหมมินทร์มหาราช ตรัสกับพระราชธิดา ก่อนปล่อยให้พระนางอยู่ตามลำพัง ท่ามกลางความเงียบสงัดของนิศากาล 
เจ้าหญิงดาราพรรณพิลาส ทรงรำพึงแผ่วเบาด้วยพระสุรเสียงสั่นสะท้าน 
วันนี้หญิงขออ่อนแอสักครั้งได้ไหมจ๊ะ ภัสดา พรุ่งนี้หญิงจะเข้มแข็ง เป็นดาราพรรณพิลาสดวงเดียวที่ฉายแสงกลางฟากฟ้า แม้จะเดียวดาย 
ในที่สุด ความอดทนอดกลั้นต่อทุกข์เทวษก็พังภินท์สิ้น ทรงกอดร่างที่แน่นิ่งนั้นด้วยความอาลัยอาวรณ์สนิทเสน่หา หากทรงตายแทนได้ ฤ..จะมิกระทำทันที ยามนี้ทุกอณูแห่งหฤทัยได้ย้อนเยือนเลื่อนไหลสู่วันวาน ..ในวันที่ภัสดาใกล้ออกรบในศึกครั้งใหญ่นี้ มิได้ทรงสังหรณ์พระทัยว่า นั่นเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย ก่อนพรากจากนิรันดร์ 
.................................................................................................... 
ศาลาหลังน้อยกะทัดรัด ทำจากไม้สักสีทอง ยอดคล้ายมณฑปส่องประกายสีทองแวววาวอันมาจากสุวรรณแท้ ชาวหิรัณย์เมทินีนาคร ขึ้นชื่อเรื่องการร่อนทอง หาแหล่งทองคำ รวมทั้ง การนำแร่มาแปลงเป็นทองคำ โดยเฉพาะสายแร่ทองคำที่มีอยู่มากมายใต้ผืนแผ่นดินแห่งนี้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่หมายปองของบรรดาเมืองรอบข้าง มาตรว่าจะนับถือพระพุทธศาสนาเฉกเช่นเดียวกัน ผู้ใดเลยจะคิดว่า อดีตกาลโพ้นดินแดนที่ไม่เคยมีสงคราม บรรดาเมืองล้อมรอบ ต่างมีกฎบ้านกฎเมือง ไม่ก้าวก่าวซึ่งกันและกัน ปกครองด้วยทศพิศราชธรรม จวบจนกระทั่งเจ้าเหนือหัวพระองค์ก่อน ผู้เป็นพระราชบิดาแห่ง พระเจ้าพรหมมินทร์มหาราช เพลานั้น พวกมอญหริภุญชัยกลับยกกำลังมาโจมตีจนเมืองแตก ด้วยเหตุมิได้มีการป้องกัน ซ้อมรบ เพราะที่ผ่านมา ต่างฝ่ายต่างอยู่อย่างสงบสันติ แลเมื่อถึงวันที่ต้อง***้เอกราชคืนมา ก่อนถึงวันนั้นเพียงไม่กี่วัน ณ ศาลาหลังน้อยแห่งนี้ ที่รายล้อมรอบไปด้วยต้นลีลาวดี อันเป็น ที่รโหฐานระหว่างเจ้าหญิงดาราพรรณพิลาสและภัสดา ผู้หลงมนต์เสน่ห์แห่งบุบผาหอมกลีบสีขาวพิสุทธิ์นามลีลาวดี 
บุรุษหนุ่มรูปงาม ยืนชื่นชมบรรยากาศยามราตรี กลิ่นหอมเย็นรวยระรินมาจากดอกไม้ที่เขาชื่นชอบ คคนานต์ ณ..เบื้องบนประดับด้วยบุหลันเต็มดวงเด่นกระจ่างถูกห้อมล้อมด้วยหมู่พฤกษ์สวรรค์ส่องประกายระยิบระยับจับตา 
ผู้ใดเลยจะคาดคิดว่า บำราบอรินทร์นักรบผู้ห้าวหาญเด็ดเดี่ยว ผู้ที่ฆ่าศัตรูอย่างมิได้ละเว้นปราณี ผู้ที่สองมือถือดาบ ผู้ที่บัญชาการรบเยี่ยงแม่ทัพ กลับมีอีกด้านหนึ่งที่ไม่มีผู้ใดรู้นอกจากเจ้าหญิงดาราพรรณพิลาสผู้เป็นชายา 
..ความรักฤา...จะถูกขีดคั่นด้วยฐานันดร 
...บุรุษผู้นี้มีความอ่อนโยนในหัวใจนัก 
..บุรุษผู้นี้ถือสัตย์ยิ่งกว่าชีวิต 
มีเพียงบุรุษผู้เดียวที่ครอบครองหัวใจแห่งดารา ณ หิรัณย์เมทินีนาคร...นาม บำราบอรินทร์ 
ภัสดาท่านมีเหตุใดให้กังวลใจรึ สุรเสียงพิเราะเสนาะกรรณปันความห่วงใย ดังขึ้นเบา ๆ 
บำราบอรินทร์ ทอดสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักและเทิดทูนมองดูนางผู้เป็นที่รักยิ่ง ราวกับเขาทราบว่าอีกไม่นานอาจจะจากเธอไปตลอดกาล ทว่าเขาไม่อยากให้เจ้าหญิงทรงกังวล จึงได้ตอบว่า 
ไม่มีอันใดน้องหญิง คืนนี้พระจันทร์งาม ดาราก็พร่างพราว พี่ยืนคิดอะไรเพลินไปเท่านั้น ดึกแล้วน้องหญิงควรไปพักผ่อน ตากน้ำค้างๆดึกๆ แบบนี้ จะได้ไข้ น้ำเสียงเขาอ่อนโยนนักยามเอ่ยกับชายา 
หญิงอยากจะอยู่กับภัสดานานๆ อีกไม่กี่วันท่านจักออกรบแล้ว หญิงคงเหงา ที่ต้องรออยู่อย่างนี้ ถ้ามิใช่เพราะหญิงร่างกายอ่อนแอมาแต่เล็กแต่น้อย หญิงจะจับดาบสู้รบขับไล่อริราชศัตรูเคียงคู่กับท่าน ถ้าเราตายก็จักตายพร้อมกัน 
บำราบอรินทร์ดึงวรองค์บอบบางเข้ามาสู่อ้อมกอดด้วยความนุ่มนวลทะนุถนอม เขาถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อเจ้าหญิงดาราพรรณพิลาสผ่านอ้อมแขนอันแข็งแกร่งนี้ 
ไม่รู้ว่าเป็นบุญแต่ชาติปางใด ถึงทำให้เราได้อยู่ร่วมกัน พี่ขอบใจน้องหญิงในทุกสิ่งที่มอบให้พี่ พี่มีรึจะยอมให้น้องตาย ถ้าพี่ยังมีลมหายใด ผู้ใดก็จักมากระทบน้องสักเล็บมือหนึ่งมิได้ 
น้องหญิงคงจำได้ วันที่เราไปยังเจดีย์แห่งปฐมกษัตริย์ พี่ได้ตั้งสัตยาธิษฐานต่อหน้าพระวิญญาณแห่งวงศ์อธิราราชาแต่ปางบรรพ์ ว่า จักดูแลคุ้มครองน้องหญิงของพี่จนกว่าชีวีจักสิ้น ดินจักถมกายไปทุกๆชาติตราบกระทั่งสิ้นสุดถึงพระนิพพาน 
หญิงจำได้ไม่เคยลืม ไม่ว่าชาติภพใด หทัยแห่งหญิงก็จักเป็นเพียงของภัสดา หากว่าภพใดเราจักมิอาจพบกัน หญิงก็จะรอ หญิงให้สัญญา 
พี่มีอะไรจะให้น้องหญิง 
บำราบอรินทร์คลายวงแขนจากร่างงามช้า ๆ ก่อนเขาจะถอดสร้อยที่คล้องคอออกมา สร้อยทองถักประดับด้วยมณีสีแดงรูปหัวใจขลิบด้วยทองรอบล้อม ประกายของมณีสีแดง ดูงดงามสะท้อนเล่นแสงโสมที่โลมหล้า เขาบรรจงสวมไปบนพระศองามระหง 
มณีสัตยา พี่ทำไว้สองชิ้น ชิ้นหนึ่งพี่เก็บไว้กับตัว อีกชิ้นให้น้องหญิงสวมไว้ พี่ตั้งใจทำให้เสร็จก่อนไปออกรบ 
มณีสัตยาเป็นตัวแทนแห่งความรักความภักดีที่พี่มีให้น้องหญิง ยามใดที่น้องหญิงคิดถึงพี่ มณีสัตยาจะเป็นตัวแทนระหว่างใจของเรา ไม่ว่าพี่หรือน้องหญิงไปที่ใดก็ตาม ตราบใดที่มีสร้อยเส้นนี้คงอยู่ เราจักอยู่เคียงกันเสมอ พี่เองจะรักษาไว้ด้วยชีวิตของพี่ 
.................................................................................................. 
บัดนี้มณีสัตยาเหลือเพียงหนึ่งเดียว เจ้าหญิงดาราพรรณพิลาสซบพระพักตร์นิ่งกับร่างแห่งภัสดาที่ปราศจากวิญญาณ ในอุ้งพระหัตถ์กำมณีสัตยาแนบแน่น ราวกับจะจารึกทุกสิ่งทุกอย่างไว้ 
หญิงพี่เสียใจที่เข้าไปช่วยภัสดาน้องไม่ทัน หลังจากที่พี่สังหารอุปราชแห่งมอญหริภุชชัย พี่รีบเข้าไปช่วยบำราบฯความจริงตอนนั้นเขาหลบดาบของเจ้ามอญหริภุญชัยได้ แต่เหตุใดอยู่ ๆถึงกับหยุดชะงัก ราวกับจะคว้าบางสิ่งบางอย่างไว้ เลยถูกเจ้ามอญแทงทะลุร่าง แต่เขาก็ใช้ดาบที่อยู่ในมือตัดศีรษะเจ้ามอญในขณะนั้น ..จึงล้มทั้งคู่ พี่เพียงแต่ทันไปรับร่างบำราบอรินทร์ ทว่าบาดแผลของเขาฉกรรจ์เกินไป ไม่นานจึงสิ้นลมเพราะเสียเลือดมาก เขาฝากสร้อยเส้นนี้มาให้น้อง 
พระเชษฐาร่วมอุทรตรัส ด้วยแววพระเนตรโศกเศร้าและเห็นใจ 
เจ้าหญิงดาราพรรณพิลาสแทบล้มทั้งยืน เมื่อทอดพระเนตรเห็นเพียงสายสร้อยสุวรรณอันปราศจากมณีสัตยา ทรงยื่นพระกรสั่นน้อยๆรับจากหัตถ์พระเชษฐา ก่อนเปล่งพระสุรเสียงโศกสลดอย่างสุดซึ้ง 
หญิงเกลียดสงคราม การสู้รบและการศึกทำให้ผู้คนต้องพลัดพราก แม้แต่หญิงต้องสูญเสียทั้งแม่และภัสดา ผู้เป็นที่รักในดวงใจของหญิง แต่หญิงทราบว่าเราไม่มีทางหลีกเลี่ยงการศึกได้ เมื่อเราต้องสู้เพื่อเอกราช เพื่อลูกหลานสืบต่อไป เพื่อให้พวกเขาได้มีดินแดนอาศัยอยู่ ไม่ต้องตกเป็นขี้ข้าเฉกเช่นกาลเวลานับสามสิบปีเยี่ยงนี้ 
บางครั้งหญิงอดคิดไม่ได้ว่า ยามใดที่ราษฎร์ไม่ว่าหญิงหรือชาย คนแก่คนชรา ต่างออกรบ ต้องเสียเลือดเสียเนื้อพลีชีวิตเพื่อชาติ ลูกหลานของเราต่อไปภายหน้าจะรู้ซึ้งถึงแผ่นดินที่พวกเราแลกมาด้วยเลือดแลน้ำตาหรือไม่ ทุกอย่างอาจจะสูญเปล่า หากว่า พวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงคุณค่าที่พวกเราสูญเสียออกไป 
เราคงทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนหยัดต่อสู้ และทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ทั้งต่อตนเองและทวยราษฎร์ เพราะฟ้าได้กำหนดให้พวกเราเป็นเผ่าวงศ์แห่งกษัตริย์ ผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่เพื่อชาวประชามากกว่าเพื่อตนเอง หญิงรู้หน้าที่ของตัวเองดีเพคะ 
พระเนตรงามคลอวับด้วยพระอัสสุชล พระสุรเสียงนั้นแผ่วเศร้า ยามมองสบเนตรกับพระเชษฐา 
พระองค์ทรงถอนพระราชหฤทัยด้วยความหดหู่และเศร้าสร้อย ต่อบุคคลที่พระองค์ทรงให้ความรัก คนหนึ่งนั้นเป็นพระกนิษฐาที่ทรงเอ็นดูนัก อีกคนหนึ่งนั้นเป็นพระสหายที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ก่อนทอดพระเนตรมองร่างพระสหายที่ไร้วิญญาณ พระองค์มีหน้าที่มากหลาย เกินกว่าจะมีเวลาพอที่จะปลอบพระขนิษฐา ทรงตะหนักถึงหน้าที่เสมอและเพราะ หน้าที่ จึงทำให้ทรงยืนอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง แม้ว่าจะไม่มีผู้ใดเลยทราบความเศร้าโศกในพระหฤทัยแห่งพระองค์ก็ตาม 
...บุรุษชาติอาชาไนย ฤ...จักหลั่งน้ำตาโดยง่าย 
หากน้ำตาแห่งเราจักหลั่ง เราจักหลั่งเพื่อแผ่นดินและบ้านเมือง 
หากน้ำตาเราจักหลั่ง เราจักหลั่งในวันที่กำชัยชยะจากหมู่อริราชศัตรู 
.................................................................................................. 
หญิงจะรอ ไม่ว่านานเพียงใด หญิงสัญญาจ้ะภัสดา วันนี้เมื่อหญิงหลั่งน้ำตา พรุ่งนี้หญิงจะไม่มีน้ำตาให้หลั่ง 
รอหญิงนะจ๊ะ รอให้หญิงเสร็จภาระให้พึงทำในฐานะขัตติยนารี เสร็จสิ้นภาระทุกประการแก่ราษฎร์ หญิงจะไปพบภัสดานะจ๊ะ 
เจ้าหญิงดาราพรรณพิลาศจูบเบาๆที่หน้าผากผู้เป็นภัสดา ก่อนหยัดพระวรกายตั้งตรง ทอดพระเนตรผู้เป็นที่รักครู่หนึ่งแล้วเสด็จฯ ออกมาช้า ๆ 
ยามรุ่งอรุณเบิกฟ้า พรุ่งนี้แล้วจะมีพิธีเผาศพ..ต่อไปจะมิได้ทอดพระเนตรเห็นร่างที่คุ้นเคย อ้อมกอดอันอบอุ่น คำพูดที่แสนหวาน ..บำราบอรินทร์จากไปนิรันดร์... 
วาโยหอบใหญ่พัดมาวูบหนึ่ง ส่งผลให้ดวงดอกสีขาวพิสุทธิ์จากต้นร่วงหล่นลงมาช้า ๆ ดอกสีขาวเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศ..ปลิวสยายก่อนทิ้งตัวอ้อยสร้อยลงบนร่างแน่นิ่งมิไหวติงแห่งบุรุษผู้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ 
พี่ชอบดอกลีลาวดีเพราะ มีความอ่อนหวานในตัวเอง ทว่าในความอ่อนหวานแฝงความแข็งแกร่ง...อ่อนหวานแต่ไม่อ่อนแอ ทุกครั้งที่พี่ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดนี้ พี่มักจะนึกถึงน้องหญิง ...น้องหญิงของพี่นั้นอ่อนหวานยิ่งนัก..แต่น้องหญิงไม่อ่อนแอ นั่นเป็นคุณสมบัติแห่งขัตติยนารีโดยแท้ 
....รวยระรินชื่นกลิ่นปาริชาติ 
จะขอวาดมติห้วงแห่งรวงฝัน 
กาลจักรหมุนเวียนเปลี่ยนวัน 
พุทธศกสองพันล่วงผ่านมา 
..โสมสะอาดสาดแสงแจรงแจ่ม 
อัจกลับแก้วแย้มกลางเวหา 
น้ำค้างหยาดหยดย้อยคอยสนธยา 
หลังตะวันนิทรามีตำนาน.... 
.............จบ.............
................ดื่มตะวันจิบจันทรา				
comments powered by Disqus
  • ทิกิ_tiki

    2 พฤษภาคม 2547 20:10 น. - comment id 73829

    ,มาอ่านคร่าวๆรอบหนึ่งนะคะ งานงามค่ะ
  • ชาติกานต์

    3 พฤษภาคม 2547 01:15 น. - comment id 73847

    ตอนแรกนึกว่าจะเขียนยาวกว่านี้ แต่แค่นี้ก็ไม่เป็นไร  ไว้เขียนอีกนะคะ
  • พุดพัดชา

    3 พฤษภาคม 2547 09:55 น. - comment id 73852

    พุดพัดชามาชื่นชมโสมนัสค่ะ
    หวังทุกถ้อยรสจะเป็นแรงฝันบันดาลใจ
    ให้
    เปลี่ยนแนวลองเพียรพยายามบ้างค่ะ
    แต่งามล้ำอย่างนี้คงต้องใช้เวลาและพรสวรรค์อย่างล้ำล้นเลยนะคะ
    พุดแค่ฝันแต่คงยากยิ่งนักนะคะ
    ขอมาประทับใจชื่นชมค่ะก็คงพอ
    รักมากกก
  • วสุนทรา...ศรีโสภาค

    3 พฤษภาคม 2547 10:46 น. - comment id 73854

    คุณทิกิขอบคุณจ้ะ
    
    คุณชาติกานท์   
    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะ   แล้วจะเขียนมาอีก แนว ๆนี้จ้ะ
    
    คุณพุด  ขอบคุณมากนะ  ยินดีมากมายจ้ะที่ได้เป็นเพื่อนกับคุณ   อ่านงานเขียนของคุณแล้ว เหมือนเข้าไปอยู่ในสมัยโบราณ  มีเสน่ห์มาก  ขนลุกเลย..ชื่นชมคุณด้วยใจจริง   ..เขียนต่อไปนะ  เป็นกำลังใจให้เสมอ..เชื่อว่าสักวันฝันคุณต้องเป็นจริง..
    
    
  • รัถยา

    3 พฤษภาคม 2547 21:40 น. - comment id 73873

    ..........วสุนทรา
    
    ..........เหมือนฝันไป.....
  • kiko

    22 กรกฎาคม 2551 15:14 น. - comment id 100673

    บริการ รับจ้างโพส โฆษณา ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ สินค้า ธุรกิจ และบริการต่างๆ
    
    หน้าที่คุณ คือรับโทรศัพท์ การโพสประชาสัมพันธ์ คือหน้าที่ของเรา 
    รับจ้างโพส งานโฆษณา ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ สินค้า ธุรกิจ และบริการต่างๆ ลงโฆษณา ให้ทุกวัน
    
    ให้บริการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ประกาศรับสมัครงาน โฆษณาสินค้า โฆษณาผลิตภัณฑ์ โฆษณาด้านธุรกิจฯ 
    ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ ผ่านสื่อออนไลน์ กระดานสนทนา เว็บบอร์ด ตลาดซื้อ-ขายออนไลน์
    
    - หากท่านมีเวลาไม่มากพอสำหรับการโปรโมทสินค้าและบริการ
    - ไม่ต้องจ่ายเงิน กับการจ้างพนักงาน มาโพสน์ให้ท่าน
    - ไม่ต้องจ่ายค่า ไฟ ค่า internet 
    - ไม่ต้องเสียเวลากับการมานั่งโพส ทุกวัน แทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่ได้ประโยชน์เพิ่มมากขึ้น
    - หากท่านต้องการสร้างตลาดใหม่ใน Internet
    - ให้เราบริการท่าน สินค้าของท่านจะโชว์ทุกวัน
    - สามารถเช็คหรือตรวจสอบได้ว่าได้โพส ให้ท่านจริงหรือเปล่า
    
    ด้วยทีมงานมืออาชีพมากมายไว้บริการท่าน ให้ท่านมั่นใจกับบริการของเรา
    ยังมีบริการโฆษณาอีกหลายรูปแบบไว้บริการท่าน เช่น 
    - Google Adwords (การจัดอันดับเว็บไซต์ใน Google)
    - SEO (Search Engine Optimization) 
    การวิเคราะห์และปรับปรุงเว็บไซต์ด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ติดอันดับต้นๆ ของ เว็บเสิร์ชเอนจิ้น ชั้นนำของโลก
    - SMS การส่งจดหมายข่าว SMS หาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย 
    
    สอบถามรายละเอียด
    02-934-8081
    E-mail: phonsiri@bosscorp.co.th

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน