ลูกเสือกับยุวกาชาด...(ตอนที่2)ช่วยติหน่อยนะคะเพิ่งหัดคะ

กล่องดนตรี

ฉันเดินตามสองคนนั้นไปอย่างเงียบๆ เมื่อขึ้นสะพานลอยที่เชื่อมกับทางขึ้นBTS เค้าก็เห็นฉันในทางเลี้ยงของบันได
	          อ่าว...มาแต่เมื่อไหร่เนี่ย เค้าเอ่ยเมื่อสบตากับฉัน
	          ก็นานแล้วละ...ติดคนเดินช้าอยู่ข้างหน้าเนี่ย ฉันตีหน้าโกรธ ทั้งๆที่ในใจอยากจะยิ้มแทบบ้า
             	          ก็เจ็บก้นอะ...แดดมันร้อนขนาดนั้นคิดดู เราเลยเดินช้าๆไม่ให้มันแสบไง เค้าทำท่าใส่อารมณ์อย่างไม่จริงจังเท่าไหร่ แล้วเพื่อนเค้าก็แยกไปอีกทางนึง ตอนนี้เราอยู่กันสองคนหรือนี้? ไม่อยากจะเชื่อ 
	          ทุเรศ...ไม่เห็นต้องมาบอกเลย ฉันตอบแล้วก้าวเท้าเร็วๆผ่านเค้าไปอย่างไม่อยากแสดงให้เห็นว่าฉันหยุดคุยกับเค้า
	เมื่อผ่านที่กันตรงชั้นล่างของรถไฟฟ้าฉันก็เดินอย่างช้าๆไปที่บันไดเลื่อน แล้วเค้าก็เดินตามมาอย่างช้าๆเช่นกัน ฉันเห็นน้องชายของเพื่อนอยู่ข้างหน้า
	          อ่าวนิว...พี่ทิ้งหรอ? ฉันทักน้องชายเพื่อนอย่างเป็นกันเอง
	          ป่าว..แต่ไม่ได้กลับกับมันเท่านั้นเอง เดินที่ยืนอยู่ข้างหน้าไปซักสองสามขั้นบันไดตอบอย่างใส่อารมณ์ ประมาณเกลียดพี่มันมาเป็นชาติ
	          จีบเด็กหรอ? เสียงคุ้นๆดังมาจากข้างล่างไปซักสิบขั้นได้ แล้วเค้าก็เดินขึ้นบันได้มายืนข้างฉันอย่างเร็วๆ
	          จะบ้าหรอ...น้องเพื่อนต่างหาก ฉันพูดอย่างเซ็งๆแล้วเดินเร็วไปยังบันไดเลื่อนอันถัดไป ในตอนนั้นน้องของเพื่อนฉันก็แยกไปอีกละ
	          กลับทางไหนอะ เค้าซึ้งขึ้นบันไดตามมาถามขึ้น
	          ก็ทางเดียวกะนายไง ฉันตอบอย่างเร็วแล้วมองไปข้างบน
	          รู้ได้ไงว่าเรากลับทางไหน เค้าถามอีกด้วยน้ำเสียงออกจะวอนโดนถีบลงบันได
	          ก็เคยถามไง ฉันตอบพร้อมกับวิ่งขึ้นบันไดไปเพราะรถไฟมาแล้ว ฉันวิ่งไปยังประตูที่ใกล้ที่สุด คนในนั้นแน่นมาก ฉันจึงยืนอยู่เกือบนอกสุด ฉันมองออกไปยังบันไดเลื่อนที่มีคนวิ่งลงเต็มไปหมดจนแทบจะไม่เห็นคนขึ้นเลย 
	          ติ๊ด...ติ๊ด เสียงเตือนดังขึ้นแล้วประตูก็ปิดไป ฉันยังคงมองออกไปยังบันได้เลื่อนที่ว่างเปล่า เค้าคงไม่ได้วิ่งขึ้นมาฉันคิด การได้กลับพร้อมเค้าอดอีกแล้ว
	          นี้ๆ ชลิตา เสียงคุ้นๆที่อยากได้ยินดังขึ้นจากข้างหลัง
	          โห...วิ่งไม่รอเลยนะ เกือบไม่ทันเลย เค้านั้นเองที่เดินแทรกฝูงชนมายังที่ๆฉันยืน อ้อเค้าขึ้นประตูหลังฉันนี้เอง
	          แล้วนี้เดินมาทำไมอะ ฉันหันไปแล้วช่วยจับกระเป๋าที่ไปเกี่ยวคนที่ยืนอยู่ของเค้าออกมา
	          ก็ทางนี้มันใกล้บันไดกว่านี้ เค้าตอบแล้วยืนตรงข้ามกันฉัน คนเยอะมากจนเราสองคนยืนห่างกันแค่ 3 นิ้วเอง ตอบคำถามได้ดีจริงๆแต่ไม่ได้อยากได้ยินแบบนี้นี่นา
	          นี้ลงทางไหนอะพอเดินออกไปแล้วอะ ฉันถามเค้าที่ถูกคนเบียดมาจนแทบจะติดหน้าฉัน เค้าสูงจนแทบจะบังทุกอย่างที่ฉันเห็น เสื้อของเค้ามีรอยเหงื่อที่เพิ่งแห้งหลังการทำโทษนั่งตากแดดหนึ่งชั่วโมงมาใหม่ๆ
	          ก็พอลงไปก็เลี้ยวขวาอะ... เค้าตอบแล้วมองมาที่ฉันตรงหน้าเค้า
	          เธอละ เค้าถามด้วยรอยยิ้มปกติของเค้า
	          ก็คนละทางกันอะ ฉันตอบแล้วหลบสายตาเค้าโดยมองออกไปนอกหน้าต่างตรงประตูที่ยืนอยู่ เค้าก็เลยหันไปมองคนข้างหลังที่ชนเค้าด้วยสีหน้าไม่พอใจนิดหน่อย พอเค้าหันมาฉันก็มองแว่นตาของเค้าแล้วค่อยๆจับมันอย่างช้าๆ
	          อะไรหรอ เค้าถามอย่างงงๆ เมื่อฉันถอดแว่นกรอบเหลี่ยมๆออกจากหน้าของเค้า(มือมันไปเอง)
	          เช็ดล้าสุดเมื่อไหร่เนี่ย ฉันถามเค้า แล้วเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดแว่นของเค้า
	          ก็อาทิตย์ที่แล้วมั่ง เค้าหัวเราะ แล้วหยุดชะงักเมื่อฉันใส่มันกลับเข้าไปที่เดิม ฉันจึงมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง แล้วทุกอย่างก็เงียบไป
                                                                             จบตอนสองคะ
				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน