ฅนสองเงา ( ตอน 3 )

สุชาดา โมรา

นี่เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?  อึบ  ตัวหนักไม่ใช่เล่น
แม่และน้องของจิรมลเห็นเข้าจึงวิ่งเข้าไปที่ด้านหลังของเวที
ใครมียาดมบ้าง  ผมขอได้ไหม  อาสาฬห์ตะโกนด้วยความตกใจ
ครับ  ครับ  นี่ครับ  กอล์ฟส่งยาดมให้กับอาสาฬห์  
คุณโรมิโอ  ช่วยผมหน่อยนะครับ  ช่วยเอาพัดมาพัดให้เธอที  อาสาฬห์ขอร้องกอล์ฟให้ช่วยประถมพยาบาลจิรมลจนกระทั่งเธอฟื้น
คุณคะคุณช่วยพาฉันไปพบคุณพ่อทีได้ไหม  คือฉันไม่คุ้นเคยกับกรุงเทพฯ
บรื้น
อาสาฬห์ขับรถพาจิรมล  ณัฐพรและกอล์ฟไปโรงพยาบาลทันที  ส่วนแม่กับน้องของเธอก็ขับรถตามคุณอาสาฬห์ไป
ฮัลโหล  อ๋อเข้าใจแล้ว  กำลังขับรถ  เดี๋ยวจะไปถึงอีกไม่กี่นาทีนี้แหละ อาสาฬห์คุยโทรศัพท์กับพล
คุณพ่อ  จิรมลร้องเสียงดังขึ้นเพราะภาพที่เธอเห็นนั้นคือคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นมีผ้าสีขาวคลุมหน้า
คุณ  คุณ  ผิดห้องครับ  นั่นมันเลขกลับหัวนะ  ห้อง 609 อยู่ทางนี้ครับ  อาสาฬห์พูดขึ้นถึงกับทำให้จิรมลขวยเขินทีเดียว
หนูตกใจแทบแย่เลยค่ะ  คุณพ่อเป็นอะไรหรือเปล่าคะ  หนูขอโทษนะคะที่รบเร้าให้คุณพ่อมา  จิรมลพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยและรู้สึกผิด
ไม่เป็นไรหรอกลูก พ่อตอบ เอ่อขอบคุณนะครับคุณ พ่อหันไปพูดกับคุณอาสาฬห์
อาสาฬห์ครับ  พลพูดขึ้น
เอ่อคุณเป็นเจ้าของบริษัทเดย์เดย์ดิเอกโปรโมชั่นหรือเปล่าเพราะผมรู้สึกคุ้น ๆ หน้าคุณเหมือนเคยเห็นในหนังสือพิมพ์เลย พ่อถามขึ้นอย่างสงสัย
ครับ  อาสาฬห์พูดด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ
ตู๊ดตู๊ดตู๊ด  เสียงโทรศัพท์ของอาสาฬห์ดังขึ้น  อาสาฬห์เดินออกไปนอกห้องเพื่อรับโทรศัพท์
ฮัลโหล  อืมผมเจอแล้วคนที่เหมาะจะมาเล่นละครของเรา  เดี๋ยวผมจะให้คุณช่วยจัดการให้ผมหน่อยนะ  ฝากเป็นธุระด้วยนะ  เออแล้วที่กำลังตามมานี่รู้แล้วเหรอว่าอยู่ที่ไหน  อืม  อืมเข้าใจ  อืมงั้นก็แค่นี้นะ  รีบ ๆ มาล่ะ 
เอ่อผมติดธุระต้องไปก่อนนะครับ  ขอตัวครับ  ถ้ามีโอกาสเราจะได้เจอกันอีกนะจิรมล  อาสาฬห์พูดและหันมามองจิรมลด้วยสีหน้าที่ยิ้มกริ่ม
แม่คะหนูขอโทษนะคะที่ทำให้เสียเรื่อง จิรมลพูดด้วยน้ำเสียงที่หงอย ๆ 
ไม่ใช่ความผิดของหนูนี่จ๊ะ  แม่พูดและเอื้อมมือไปลูบหัวจิรมลเบา ๆ
เราไปหาอะไรทานก่อนดีไหมคะหิวจะแย่อยู่แล้ว  จิรมลพูดด้วยน้ำเสียงที่สดใส
"สวัสดีครับ  มาทันเวลาพอดี  จะไปทานข้าวเหรอครับผมขอไปด้วยนะครับ  คือผมจะมาติดต่อคุณเรื่องการแสดงน่ะครับ  ผมมาจากบริษัทเดดิเอกโปรโมชั่นครับ  ถ้าจะกรุณาผมขออนุญาตินั่งโต๊ะตัวนี้ด้วยคนนะครับ
คนของคุณอาสาฬเดินไปพูดไปจนถึงโต๊ะที่จิรมลจะนั่ง  จิรมลกับแม่ไม่ทันได้ฟังสักนิดว่าเขาพูดว่าอะไร  ชายคนนั้นนั่งทันที  แม่และจิรมลทำหน้าเลิกลัก  งงที่ชายคนนี้เข้ามานั่งโดยที่ไม่ได้รับเชิญ  เมื่อทานอาหารกันจนเสร็จชายคนนี้ก็พูดขึ้นทันที
"ผมมีธุระจะต้องคุยกับผู้ปกครองของคุณจิรมลและคุณจิรมล"
"แล้วหนูฟังด้วยได้หรือเปล่าคะ..."  น้องเมย์ถามเสียงใส  ชายคนนั้นยิ้มและพูดต่อ
"ผมมาจากบริษัทเดดิเอกโปรโมชั่นครับ  ผมได้ชมการแสดงของคุณมันทำให้ผมประทับใจมาก  ผมจึงอยากให้คุณไปเรียนที่โรงเรียนการแสดงกับพวกเราที่บริษัท"
"ฉันก็อยากให้ลูกไปนะคะ  แต่ติดที่แกเรียนอยู่  และคุณพ่อเธอก็ป่วย..."
"เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ  คือที่ผมชวนนี่มันเป็นช่วงปิดเทอม  แล้วนี่นามบัตรผมครับ  เก็บไว้พิจารณาก่อนก็ยังดี"  ชายคนนั้นยิ้มละไมกับพวกเธอ  "น้อง ๆ เช็คบิลด้วย...!!!!"  ชายคนนั้นจ่ายเงินค่าอาหารจนทำให้จิรมลกับแม่งง
"เอ่อ...."  
"มื้อนี้ผมเลี้ยงครับ  หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกที่บริษัทนะครับคุณมล  ถ้าคุณดังเมื่อไรแล้วค่อยมาเลี้ยงผมนะ...บาย..."  ชายคนนั้นยกมือให้แล้วก็ไป  ท่าทางเขามุ่งมั่นมาก ๆ ใบหน้าเหมือนลูกครึ่ง  แต่จิรมลกลับทำท่าสงสัยและคิดในใจว่าเคยเจอผู้ชายคนนี้ที่ไหนกันแน่
                      ทุกคนโล่งใจกันหมดเพราะคุณพ่อไม่เป็นอะไรมากนัก  แต่สิ่งที่หนักใจก็คือคุณอาสาฬห์ส่งคนมาหาจิรมลเพื่อที่จะให้ไปเป็นนักแสดงในโรงละครด้วย  เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ  ผู้ชายคนนั้นจะพาจิรมลไปได้หรือไม่.......
                      ติดตามอ่านตอนต่อไป				
comments powered by Disqus
  • ถังแดง

    15 กรกฎาคม 2547 13:53 น. - comment id 75449

    อืม....เขียนได้ดี น่าจะเขียนเป็น นวนิยายนะ
    เพราะถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้น มันค่อนข้างจะยาวไป รายละเอียดแบบนี้ เป็นแบบนวนิยายนะ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะ ครับ แต่เขียนได้ดี
    ขแช่นชม พยายามต่อไปนะ....
  • สุชาดา โมรา

    15 กรกฎาคม 2547 15:57 น. - comment id 75454

    นี่ก็เป็นนวนิยายค่ะแต่อยากจะใส่หน้านี้เพราะ เว็บยังไม่เปิดให้มีนวนิยายค่ะ  ขอบคุณค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน