เชื่อมั่นในรักแท้ ( ตอนที่ 3 เป็นตอนจบแล้วนะคะ )

สุชาดา โมรา

นี่ใครกันคะพี่กอล์ฟ
นี่น้องชายของผมเอง  นายกฤษ
ไม่เห็นคุณเคยบอกเลยว่ามีน้องชาย
ผมอึ้งอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่ชวนทุกคนให้ทานอาหาร  พอทานเสร็จผมก็เดินไปหยิบการ์ดน่ารัก ๆ ใบหนึ่งมาให้เธออ่าน  เธอก็อ่านอย่างตั้งอกตั้งใจ  จากนั้นผมจึงหยิบเครื่องประดับออกมาช้า ๆ
หลับตาก่อนสิมีอะไรจะให้  ต้องหลับตาจริง ๆ นะ
พอเธอหลับตาผมก็เอาสร้อยมาใส่ให้  จากนั้นก็เอากำไลมาใส่ให้  ใส่ต่างหูให้เธอ  น้องชายของผมเดินไปหยิบกระจกมาให้ผม  จากนั้นผมจึงบอกให้เธอลืมตา
อะไรกันคะเนี่ย
เธอถามอย่างแปลกใจและก็ดีใจเป็นที่สุด  เธอกอดผมไว้แน่นทีเดียว  น้องชายกับคุณแม่ท่านก็ปรบมือให้จากนั้นท่านก็พานายกฤษเดินไปคุยในห้องรับแขก  เหลือเพียงผมและเธอเท่านั้น  ผมจึงพาเธอเดินออกไปที่สวนหลังบ้าน  พาเธอออกมาดูดาวและแสงจันทร์  ไม่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงกับเธอเหมือนกันแต่ด้วยความที่ผมค่อนข้างจะเป็นคนโรแมนติก  ผมจึงกอดเธอเอาไว้แน่น ๆ แล้วก็โยกตัวไปมาด้วยความรัก
สุขสันติ์วันเกิดนะคนดี
คืนนี้เป็นคืนที่ผมมีความสุขที่สุดอีกวันหนึ่ง  ผมรู้สึกว่าเหมือนโลกนี้มีเพียงเราเท่านั้น  จะมีใครบ้างนะที่มีความสุขแบบผม  ถึงแม้ว่าชีวิตของผมจะผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างทรหดเพียงใดแต่ผมก็สำเร็จได้ด้วยดี  ไม่ว่าจะเป็นชีวิตครอบครัวหรือหน้าที่การงาน  แต่ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ใจของผมยังคงต้องการอยู่เสมอก็คือลูก  ผมอยากมีลูกกับเธอจนใจจะขาด  แต่ผมก็ยังไม่สมหวังเสียที  เธอก็ไม่ยอมไปตรวจกับผมด้วยสิ  สิ่งนี้แหละที่ทำให้ผมต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องชวนเธอไปโรงพยาบาลอยู่เสมอ ๆ  ผมไม่เข้าใจเธอเลยจริง ๆ
ตั้งแต่มีน้องชายมาอยู่ด้วย  ผมก็ติดต่อกับพ่อมากขึ้น  เพราะดูท่าทางคุณพ่อคงเป็นห่วงหมอนี่มาก ๆ เพราะท่านเลี้ยงของท่านมา  ส่วนพวกผมมันโต ๆ กันหมดแล้วนี่ท่านจะต้องมาห่วงอะไร  ผมได้รู้จักกับภรรยาใหม่ของคุณพ่อ  ได้รู้จักกับครอบครัวนี้มากขึ้นจึงทำให้ผมรู้ว่านายกฤษต้องการอะไร  นายกฤษดูจะเกรงใจผมมากถึงได้ไม่ออกปากขอไปเรียนต่อปริญญาโท  ผมก็เลยต้องออกปากเอง  และก็ส่งน้องเรียนอีกคนหนึ่งด้วยความภาคภูมิใจ  ที่จริงผมอยากให้น้องบวชแต่น้องบอกว่าน้องบวชไปแล้ว  พอผมซักไซร้ไล่เรียงจนได้รู้ว่ายายกิ๊กเป็นแม่งานให้  แหมยายนี่ก็ไม่เคยบอกเราเลยน่าตีจริง ๆ นะ  มีอะไรก็ปิดกันเงียบไปหมด  แล้วนี่ก็ไม่รู้ว่ายายกิเขารู้เรื่องหรือยังว่ามีน้องชายเพราะดู ๆ แล้วยายนี่เขาขยันทำงานจนไม่คิดจะหาแฟนใหม่เลย
น้องชายของผมคอยสอดส่องดูแลบ้านช่องให้จนวันหนึ่งเขาก็มาเอ่ยปากพูดกับผม
พี่รู้จักคนชื่อต้นหรือเปล่า  พี่รู้ไหมเขามาที่บ้านเราบ่อยมาก ๆ มาหาพี่ลูกแก้วแล้วก็ชวนกันขึ้นไปข้างบน  ทะเลาะกันเป็นประจำราวกับเป็นคู่รักกันเลย  แล้วพี่รู้ไหมว่าพี่ลูกแก้วเขาเอาเงินให้หมอนี่อยู่เรื่อย ๆ แล้วยังมีอีกเรื่องก็คือพี่เขากินยาคุมด้วย
แล้วนายรู้ได้ไง
นี่ถังขยะพี่  พี่ลูกแก้ววานให้ผมเอาไปทิ้งให้ตอนผมขอไปทำความสะอาดในห้องของพี่
ผมอึ้งตั้งแต่คำแรกที่หมอนี่พูดถึงไอ้เพื่อนคนนั้น  สิ่งที่ผมสังหรใจมันก็กำลังจะเป็นความจริงแต่มันยังไม่มีหลักฐานเท่านั้นเอง  วันนี้ผมจึงไม่พูดอะไรกับใครพอทานข้าวเสร็จผมก็โทรจ้างแม่บ้านให้มาทำงานที่บ้านเพื่อให้น้องชายของผมเรียนได้อย่างเต็มที่  ไม่ต้องมาทำงานบ้าน  ทีแรกผมคิดว่าภรรยาผมจะทำอะไรเองไปหมด  แต่ที่ไหนได้ก็ใช้น้องชายผมให้ทำงาน  ผมรู้สึกแย่จริง ๆ  จากนั้นผมก็ไปหยิบกล้องดิจิตอลมาซ่อนไว้หลังหนังสือเล่มหนึ่งที่ชั้นวางหนังสือ  พอเช้าผมก็เปิดกล้องทิ้งไว้
วันนี้ทั้งวันผมทำอะไรไม่ได้เลย  ผมไปรับน้องชายจากมหาวิทยาลัย  จากนั้นก็ปรึกษาเรื่องของเธอ  แต่หมอนี่ก็ให้คำปรึกษาอะไรไม่ได้มากเพราะเขายังไม่มีประสบการณ์ดีพอ  ผมไม่รู้จะทำยังไง  รู้สึกเครียด ๆ ยังไงบอกไม่ถูก  ผมก็เลยพานายกฤษไปโชว์รูมรถ  แล้วก็เลือกรถให้คันนึงเพื่อที่จะขับไปเรียน  เพราะหมอนี่ก็ขับรถเป็นแล้วน่าจะมีรถได้แล้ว  ผมโทรบอกที่บ้านว่าผมกับน้องจะกลับดึก  ไม่ต้องให้พวกเขารอผม  ผมกลัวว่าแม่จะรอนานเดี๋ยวจะเสียสุขภาพ
ผมกลับบ้านมาอย่างคนที่ปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยเปื่อย  ผมไม่ได้เมานะเพราะผมไม่ได้ดื่มสักนิด  ภรรยาผมหลับสนิท  ผมจึงเดินไปหยิบกล้องออกมาเปิดดูกับน้องชาย  จะว่าผมรวมหัวกันก็ใช่นะเมื่อผมดูภาพที่เห็น  ผมถึงกับตกใจมาก ๆ เขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งเกินที่ผมจะคิดได้  เขาพูดถึงเรื่องเงิน  พูดถึงเรื่องข้าวของที่ผมซื้อให้  เพื่อนของผมตีท้ายครัวผมเต็มที่  ผมรู้สึกแค้นใจจริง ๆ ยิ่งได้เห็นไอ้เพื่อนคนนี้ตบหน้าเธอ  ผมก็ยิ่งปวดใจยิ่งนัก  ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลย  มันอะไรกันเนี่ย!!!  มันเกิดอะไรขึ้น  ผมทำไมถึงได้เจอเหตุการณ์อะไรเลวร้ายปานนี้  หมอนี่ทั้งข่มขู่และก็ปอกลอกเธอ  ผมส่ายหน้าแล้วก็นั่งกุมขมับอยู่นาน  น้องชายผมปลอบใจผม  และก็กอดผมไว้แน่น  ตั้งแต่เกิดมานี่เป็นครั้งแรกที่ผมต้องเสียน้ำตาให้กับความพ่ายแพ้แก่ตัวผมเอง  ดีนะที่ผมเป็นคนฟังหูไว้หูไม่งั้นผมคงเชื่อภรรยาเสียจนหัวปักหัวปำทีเดียว  ผมนี่มันโง่จริง ๆ โดนสวมเขามาตั้งนานแต่ก็ไม่เคยรู้เลย  ผมก็มีพร้อมทุกอย่างนี่แต่ทำไมเธอถึงทำแบบนี้กับผมคืนนี้ผมต้องมานอนห้องน้องชายเพราะผมทนไม่ได้  ผมรู้สึกแขยงผู้หญิงอย่างเธอจริง ๆ
หลาย ๆ คนที่เกิดมาต่างก็ต้องผ่านช่วงชีวิตและประสบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย และเหตุการณ์หนึ่งที่คนในวัยหนุ่มสาวมักจะต้องประสบคือการรู้สึกชอบ  หรือถึงกับรักใครคนหนึ่ง   และบางคนก็ไม่อาจสมหวังในความรักนั้นได้  ต้องเกิดอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับขึ้นมาทันที แต่สำหรับผมนี่มันอะไรกันแน่เนี่ย  ทีแรกก็ว่าสมหวังในความรักและชีวิตครอบครัว  แต่แท้ที่จริงแล้วก็เปล่าเลยสักนิด  ผมแก่เกินไปที่จะว่าเป็นหนุ่มสาว  แต่ผมก็มีหัวใจมีความรักเหมือนคนอื่น ๆ เขาแล้วทำไมผมถึงไม่ได้อะไรเลย  ทั้ง ๆ ที่ผมทุ่มเทไปให้เธอขนาดนี้
เมื่อหาทางออกในชีวิตไม่ได้ก็หันมาใช้วิธีการระบายปัญหาของคนสิ้นหวัง  ด้วยการหันไปหาเพื่อน   และของมึนเมาต่าง ๆ หรือสิ่งเสพติดเพื่อประชดตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ผมหมดอะไรตายอยากในชีวิต  แต่ผมโชคดีที่ไม่ได้ทำแบบนั้นเพราะผมมีน้องชายที่เป็นคู่คิดที่ดี  คอยปลอบใจผมทำให้ผมไม่ลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งที่จอมปลอม  ผมได้ดูรายการหนึ่งทางโทรทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับคนอกหักซึ่งจำลองถาพเหตุการณ์มาให้ชมมีความว่า
การที่หนุ่มสาวส่วนหนึ่งจะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลก็มักจะทำให้สูญเสียอนาคตไปได้ ผมอยากจะเล่าเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่อกหักจากความรัก  แต่เธอคนนั้นได้คิดและมีสติ เพราะเธอรู้ว่าผู้ชายที่รักเธอมากที่สุด โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนเป็นความรักที่บริสุทธิ์ 100% คือคนที่เธอควรไปปรึกษาปัญหาอกหักนี้  และคนๆ นั้นคือคุณพ่อของเธอ  เรามาฟังคำบอกเล่าของเธอกันนะครับ 
เมื่อสามวันก่อนฉันอกหัก..แยกทางกับผู้ชายที่ฉันรักมากที่สุด.....เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เอง ว่าอาการผิดหวังในความรัก มันทำให้เราเศร้า  แล้วก็หดหู่ขนาดนี้  โตมาจนป่านนี้เพิ่งจะรู้...... น้ำตามันเอ่อออกมาตลอดเวลา แค่นึกขึ้นมาว่าเค้าได้พูดอะไรกับเราก่อนทุกอย่างจะจบลง  มันก็ไหลออกมาเป็นทางหยุดไม่ได้ ฉันไม่อยากนอนเพราะกลัวฝัน  ขนาดฝันยังร้องไห้เลยมันเศร้าจริง ๆ   เมื่อคืนนี้.....พ่อมานั่งลงตรงเก้าอี้สนามข้างๆ ฉัน เอามือมาขยี้หัวฉัน  แล้วถามฉันว่า  ลูกจำได้รึเปล่าว่าลูกเคยเสียใจมากที่สุดเรื่องอะไร  ฉันกลั้นน้ำตาตอบพ่อโดยไม่ต้องคิดเลย  ครั้งนี้แหละค่ะ หนูเสียใจ แล้วก็ร้องไห้ มากที่สุดในชีวิตเลย หนูไม่มีทางลืมความเจ็บปวด ความเสียใจคราวนี้ง่ายๆ ค่ะพ่อ หนูรักเค้ามากเหรอลูก   พ่อยังคงถามฉันต่อ  พ่อคะ.....มีผู้ชายแค่สองคนที่หนูรักเท่าชีวิตของหนู คนแรกก็คือพ่อ คนที่สองก็คือ เค้า หนูไม่รู้จริงๆ ว่าวันข้างหน้า หนูจะรักใครได้เท่านี้อีกรึเปล่า  พ่อยิ้มแล้วดึงฉันเข้าไปนั่งใกล้ๆ คราวนี้ฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว พรั่งพรูความเจ็บช้ำ เสียใจทุกอย่าง พ่อโอบฉันไว้นิ่งๆ จนฉันหยุด พ่อก็ถามฉันว่า ลูกว่าตอนที่พ่อตีลูก เพราะจับได้ว่าลูกขโมยเงินพ่อน่ะ ลูกเจ็บมากรึเปล่า น่าจะเจ็บนะ ก็พ่อฟาดหนูด้วยเข็มขัดนี่นา ตีทีเดียวแต่น่องหนูแดงเป็นปื้นไปหลาย วันเลย หนูจำได้ว่าย่าต้องแอบเอายามาทาให้หนู แต่พ่อคะมันเจ็บไม่ถึงครึ่งของครั้งนี้ เลย หนูเจ็บมาก เจ็บจนบอกไม่ถูก ลูกจำไม่ได้หรอก พอพ่อตีลูกแล้ว ลูกก็ขึ้นไปนอนร้องไห้ พ่อตามไปถามว่าลูกจะ ทำอีกมั๊ย....ลูกบอกพ่อว่าลูกเข็ดแล้ว ลูกเสียใจมาก จะไม่ทำอีกแล้ว ครั้งนั้นลูกก็ เสียใจใช่มั๊ยล่ะ ฉันรับคำพ่อเบาๆ เพราะความเสียใจครั้งนั้นมันเลือนลางมากแล้ว แล้วตอนลูกเอ็นท์ไม่ติดล่ะ ลูกจำได้รึเปล่า ว่าลูกเสียใจขนาดไหน ครั้งนั้นหนูผิดหวัง โกรธตัวเองที่ทำไม่ได้ เสียใจที่ทำให้พ่อผิดหวัง ฉันจำได้ดีว่าฉัน เสียใจ ร้องไห้สะอึกสะอื้นที่สอบไม่ได้ ร้องไห้ พ่อแม่ต้องปลอบอยู่เป็นอาทิตย์กว่า ฉันจะทำใจได้ อืม...เทียบกับครั้งนี้....ตอนไหนเสียใจมากกว่ากันล่ะ ฉันยังคงยืนยันว่าครั้งนี้ฉัน เสียใจมากจริงๆ มันคงต้องอาศัยเวลานานกว่าทุกครั้งกว่าฉันจะทำใจได้ พ่อโอบฉันแน่นขึ้น แล้วพูดว่า นานแค่ไหน ลูกก็จะลืมมันได้ จะช้าหรือเร็วมันก็จะ ผ่านไป กลายเป็นแค่ความทรงจำเก่า ต่อไปพอลูกนึกถึง ลูกก็แค่จำได้ว่าลูกเสียใจ แต่ลูกจะไม่รู้สึกเสียใจอีกแล้ว เชื่อพ่อสิ....เหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา....อนาคตมัน ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกลูก วันข้างหน้าลูกก็อาจจะเจอเรื่องร้ายๆ กว่านี้ ลูกก็จะบอก พ่อว่าลูกเสียใจที่สุดในชีวิต ลูกทำใจไม่ได้อีก ฉันนิ่งฟังพ่อ เข้าใจดีถึงสิ่งที่ท่านพยายามจะบอกฉัน ฉะนั้นอะไรที่ลูกคิดว่า รักที่สุด เสียใจที่สุด มันไม่จริงหรอกลูก วันข้างหน้าลูกก็จะ เจอสิ่งที่เป็นที่สุดของที่สุด และทางที่ลูกยังต้องเดินมันอีกยาวไกล ลูกต้องแข็งแรง แล้วก็ตั้งสติดีๆ ฉันกอดพ่อนิ่ง ไม่รู้จะขอบคุณด้วยวิธีไหนได้ดีกว่านี้ เช้าวันนี้......ฉันยิ้มได้อีกครั้ง.........กลับเป็นฉันคนเดิม..... มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังค้างคาอยู่ในใจ คือสิ่งที่ฉันยังไม่ได้บอกพ่อ พ่อคะ จริงๆ ครั้งที่หนูเสียใจมากที่สุดในชีวิต ไม่ใช่ตอนที่พ่อตีหนู ไม่ใช่ตอนที่หนู เอ็นไม่ติด แล้วก็ไม่ใช่ตอนที่หนูเลิกกับเค้า.....แต่มันคือตอนที่พ่อจากหนูไปต่าง หาก หลับให้สบายนะคะพ่อ....อย่าเป็นห่วงหนูเลย.....หนูจะเข้มแข็งและดูแลตัวเองให้ดีที่ สุด..หนูรักพ่อที่สุดค่ะ พ่อคะ....ขอบพระคุณมากค่ะ 
โปรดจำไว้เถอะว่า หากหัวใจของคุณยังไม่ร้องไห้ออกมาดัง ๆ พร้อมกับพูดกับตัวเองว่า...ฉันเหนื่อยเหลือเกินแล้ว โปรดห้ามใจเถอะ ก่อนที่ฉันจะอ่อนล้าไปกว่านี้... การรักใครซักคน ไม่ต้องการความพยายาม  การตัดใจ  ต่างหาก ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากมาย ลองชั่งน้ำหนักในใจเราดูสิว่า ความสุขยามที่คุณได้สบตาเค้า กับความทุกข์ยามที่คุณต้องคอยหลบตาเค้า อันไหนมันหนักหนากว่ากัน ในขณะที่เราคิดถึงคน ๆ หนึ่งตลอดเวลา เค้าคนนั้นก็อาจคิดถึงคนอื่นอยู่ก็เป็นได้ จงจำไว้ว่าตลอดเวลา มีคนที่คิดถึงเรา โดยที่เราไม่สนใจเลยเช่นกัน คน ๆ นั้นคือคุณพ่อและคุณแม่ของเรานั่นเอง  รายการของเราต้องจบแต่เพียงเท่านี้  พบกันใหม่สัปดาห์หน้าเวลาเดียวกัน  สวัสดีครับ
เมื่อผมดูจบผมก็รู้สึกว่าผมโล่งใจเหมือนได้ระบายอะไรออกมาเลย  แต่ผมก็ยังไม่เลิกเครียดเพราะชีวิตของผมมันหนักกว่าเรื่องราวในรายการเสียอีก  วันนี้ผมทำฟอร์มว่าไปทำงานแต่จริง ๆ แล้วผมไม่ได้ไป  ผมพยายามจะจับชายชู้ให้ได้  เมื่อสบโอกาสผมกับน้องชายจึงเปิดประตูพรวดพราดเข้าไปทันที  ภาพที่ผมเห็นคือพวกเขากำลังจะทำอะไรต่อมิอะไรกันในนั้น  ผมหวั่นใจมาก  และทั้งคู่ก็ตกใจมาก ๆ ด้วย
ทำอะไรกันน่ะ!!!!
ทั้งคู่เงียบโดยเฉพาะเธอ  เธอทำหน้าซีดมาก ๆ จนผมใจอ่อน  แต่ผมก็ได้สติคืนมาเพราะน้องชายของผม
นึกแล้วเชียวว่าพี่ 2 คนเป็นอะไรกัน
ต้นทำไมนายทำแบบนี้  นายตีท้ายครัวเราเหรอ
เราไม่ได้ตีท้ายครัวนาย  นายนั่นแหละที่ทำร้ายเราก่อน
เราไปทำร้ายนายตรงไหน
นายแย่งเมียเรา  นายรู้ไหมว่าเราได้กันมาตั้งแต่เราเรียนด้วยกันเมื่อ ป.ตรี  แต่นายนั่นแหละที่มาแย่งเธอไป
นายนาย
ผมพูดไม่ออกเลย  ผมไม่คิดว่าคนที่เงียบ ๆ เคร่งขรึมที่จะเรียนกลับเป็นคนที่เร็วมาก ๆ คบกับเธอและยังได้ทั้งใจและตัวเธอไปอีก  ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี  ผมเครียดมากและแค้นใจที่สุด  รู้สึกเสียหน้ามาก ๆ
คุณทำเป็นไร้เดียงสา  ผมจำได้ดีว่าคืนแรกวันส่งตัวเป็นยังไงผมผิดหวังในตัวคุณมาก  ทำไมคุณไม่บอกผมตั้งแต่วันนั้น  ผมจะได้ไม่ดึงคุณดิ่งมาอยู่กับผมผมเสียใจเหลือเกิน
ฉัน
คุณไม่ต้องพูดแก้ตัวแล้ว  ผมถามคุณหน่อยเถอะ  คุณเคยรักผมบ้างไหม!!!!
ฉันรักคุณตลอด  ถึงตอนนี้ฉันก็ยังรักคุณอยู่
ยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอว่ารักผมคุณนี่มันนางวันทองสองใจจริง ๆ เลยเอางี้ดีกว่าผมว่าคุณเตรียมเก็บของกลับบ้านคุณไปได้เลย  ผมไม่อยากอยู่ร่วมกับคนหลอกลวงอย่างคุณ  ผมขยะแขยงคุณจริง ๆ  ผมอยากรู้นักว่าผู้หญิงอย่างคุณหัวใจมันทำด้วยอะไร
ผมเห็นเธอคุกเข่าร้องไห้ผมก็สงสารเธอ  แต่สิ่งที่เธอทำกับผมมันร้ายแรงเหลือเกินผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี  มันท้อแท้สิ้นหวังไปหมด  ยิ่งตอนเธอเดินถือกระเป๋าออกจากบ้านไปกับเขาผมยิ่งปวดใจมาก ๆ ผมพ่ายแพ้ให้กับชีวิตแล้ว
เวลาผ่านไปหลายเดือนผมไม่ได้ติดต่อกับเธอเลย  ผมไม่ได้หย่าเพราะผมยังอาลัยอาวรเธออยู่ผมเพียรทำงานโดยไม่สนใจอะไร  ชีวิตผมทุ่มเทให้กับงานมากมายจนแทบจะไม่รู้จักใครแล้วผมมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ยายกิน้องสาวของผมมาให้สติผม  ผมถึงได้มองโลกกว้างขึ้นและเห็นความสำคัญของตนเองมากขึ้น  ตอนนี้ผมใช้ชีวิตดูแลน้องชายต่างมารดาของผม  และดูแลแม่จนวาระสุดท้ายก่อนที่ท่านจะจากผมไปด้วยโรคชรา  คุณพ่อท่านเสียใจมากแต่ท่านก็ยังคงเก็บอารมณ์   ส่วนน้องสาวที่น่าเป็นห่วงอีกคนคือยายกิ๊กหลังจากที่แต่งงานได้เพียง 5 เดือนแม่ก็เสียดูเธอเสียใจที่สุดเพราะเธอผูกพันธ์กับแม่มาก  แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันในงานศพของคุณแม่ก็คืออดีตภรรยาผมเดินมาใส่ดอกไม้จันทร์  เธอร้องไห้เสียใจมากเพราะเธอก็ผูกพันธ์กับท่านเหมือนกัน  ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี  ใจหนึ่งก็ยังรักเธออยู่แต่ใจหนึ่งก็บอกกับตัวเองว่าอย่าเลยอย่าทำให้อะไร ๆ มันต้องเจ็บปวดอีก
เธอมองหน้าผมแล้วก็จากไป  คุณพ่อนี่แหละที่เป็นคนเรียกสติผมกลับมา
รักเขาจริงหรือเปล่าถ้ารักเขาจริงต้องให้อภัยเขาแล้วกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปสิไปตามหัวใจของตัวเอง  อย่าให้เธอต้องจากไปเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อย  มันไม่ร้ายแรงมากนักหรอกอภัยให้เธอแล้วกลับมาใช้ชีวิตให้มีความสุขเหมือนเดิมไปสิลูกไป
ผมวิ่งไปหาเธอ  ผมเห็นเธอนั่งร้องไห้ที่ท่าน้ำ  นั่งเหม่อลอยดูปลาและก็ทำสีหน้าอย่างคนสิ้นหวัง  ท้อแท้ในจิตใจ  ยิ่งผมใกล้เธอผมก็ยิ่งเห็นว่าเธอซูบผอมไปมาก  ผมสงสารเธอจริง ๆ ผมส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธอแล้วลงไปนั่งใกล้ ๆ ผมกอดเธอไว้และปลอบใจเธอ  ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันถูกต้องหรือเปล่า  แต่ผมเชื่อว่าพ่อต้องแนะนำในสิ่งที่ถูกต้อง  ถึงแม้ว่าเธอจะผิดพลาดแค่ไหนแต่ผมรักเธอ  ผมต้องให้อภัยเธอ  ผมมั่นใจว่าถ้าเธอกลับมาชีวิตของผมต้องมีความสุขที่สุดผมเชื่ออย่างนั้น
คุณมาหาฉันทำไม
ผมมาตาสิ่งที่ผมขาดหายไปตลอดระยะเวลา 5 เดือนกว่า ๆ ผมไม่มีความสุขเลย  ผมขาดคุณไม่ได้  คุณเป็นคนที่ผมรักที่สุดผมยังรักคุณอยู่นะกลับมาหาผมได้ไหม
คุณไม่โกรธ  ไม่เกลียดฉันเหรอ
ไม่แล้วละ  ผมให้อภัยคุณในทุก ๆ เรื่องมาอยู่กับผมเถอะนะคนดีลืมเรื่องในอดีตซะแล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ไหม
เธอยิ้มแล้วกอดผมไว้แน่น  ผมดีใจที่สุด  ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ตอบผมแต่ผมก็รู้ทันทีว่าใช่แน่ ๆ เธอกลับมาอยู่กับผมแน่ ๆ ต่อจากนี้ไปผมจะดูแลเธอให้ดีที่สุด  ผมจะเริ่มต้นใหม่กับเธอจะรักและอยู่กับเธอตลอดไป  ผมจะไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีก
บรื้น.
มีรถคันหนึ่งขับตามผมมา  เหมือนกับจะเอาชีวิตผม  มันขับไล่บี้ผมมาตลอดทาง  ผมใจคอไม่ดีเลย  ผมสังหรใจยังไงชอบกล  ผมหันไปมองกระจกข้าง  ผมก็เห็นทะเบียนรถคันนั้นผมจึงรู้ว่านายต้นหมายที่จะเอาชีวิตผม  ผมจึงให้ลูกแก้วโทรแจ้งความ  แต่ไม่ไหวแล้วเขาขับรถแรงเหลือเกิน  ชนท้ายรถผมหลายครั้งจนรถเสียหลักด้วยกันทั้งคู่  รถของต้นข้ามฝั่งไปถูกรถพ่วงชนประสานงานแรงมาก  ส่วนรถของผมหักหลบไปชนกับต้นไม้  แต่โชคดีที่กันชนดีรถจึงไม่เป็นอะไรมาก  ส่วนภรรยาผมปลอดภัย  เมื่อตำรวจมาเรื่องต่าง ๆ ก็คลี่คลายด้วยดี
ซ่า.ซ่าซ่า
เสียงคลื่นลมทะเลค่อนข้างสงบ  ผมเอากระดูกของแม่ไปลอยอังคารในทะเลจากนั้นก็ไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง  ผมมีความสุขมากที่ได้จูงมือผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง  ผมรู้สึกว่าชีวิตของผมเหมือนมันสดชื่นและดูอะไร ๆ ก็สวยงามไปหมด  ผมรักเธอมากจริง ๆ
อวกอวกอวก
ลูกแก้วคุณเป็นอะไรไปน่ะ
ฉันเวียนหัวอยากจะ
อวกอวกอวก 
ผมจะพาคุณไปห้องน้ำนะ  ถ้าคุณไม่ชอบอาหารที่นี่ก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปทานกันที่อื่นนะ
ไม่เป็นไรค่ะ
อวกอวกอวก
ผมถามหน่อยเถอะคุณเป็นอะไรกันแน่เนี่ย
ฉันกำลังจะมีเด็ก
หา
ผมดีใจที่สุด  ผมรู้แน่ ๆ ว่าเด็กคนนี้คือลูกของผม  ผมมั่นใจอย่างนั้น  แต่ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไรยัง ๆ ผมก็รับได้อยู่แล้วละ  เพราะผมรักเธอ  ผมกอดเธอแน่นมาก ๆ ไม่อยากให้หลุดมือไปเลย  ผมรอคอยสิ่งนี้มานานมาก  ผมผมตื้นตันใจจริง ๆ จะมีใครสักกี่คนนะที่มีความสุขได้ขนาดนี้ก็คงมีแต่คนที่กำลังจะเป็นพ่อคนอย่างผมเนี่ยแหละ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน