นิยามรักแห่งสายรุ้ง

สุชาดา โมรา

เขาว่ากันว่ากาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ในรัก  ฉันก็เชื่อว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น...  เพราะฉันมีความฝันในหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องทำให้สำเร็จ  ฉันเป็นคนที่ค่อนข้างหัวดื้อเกเร  แต่ก็เป็นคนที่เข้มแข็ง  กล้าและพร้อมที่จะลุยอยู่ทุกเมื่อ...
	ฉันสอบเอ็นท์ติดมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง  ฉันเรียนอยู่คณะมนุษย์ฯ  ที่นี่มีแต่คนสวย ๆ น่ารัก ๆ และดูท่าทางจะเป็นพวกลูกผู้ดีมีชาติตระกูล  ถ้าให้เทียบกับฉันแล้วฉันมันก็แค่คนเดินดินธรรมดาคนหนึ่งซึ่งไม่อาจจะไปเทียบอะไรกับใครได้เลย
	"สวัสดีครับ...ขอนั่งด้วยคนได้ไหม"
	ชายคนหนึ่งหน้าตาน่ารักเดินมาขอนั่งที่โต๊ะฉันจึงพยักหน้า  เขานั่งลงและก็หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน  ชายคนนี้แต่งตัวดี  ผิวขาวตาหวานดูมีเสน่ห์เหลือเกิน  ตั้งแต่แรกที่ฉันเห็นเขาก็ทำให้ฉันแอบมองเขาบ่อย ๆ จนเขารู้สึกเขิน
	"ไม่ทราบว่าอยู่ปีอะไรครับ"
	"ปีหนึ่งค่ะ"
	ฉันตอบด้วยเสียงที่นุ่มนวล  เขายิ้มด้วยสีหน้าที่เบิกบาน  รอยยิ้มของเขาบ่งบอกถึงความเป็นมิตร  ฉันรู้สึกได้ว่าฉันหลงเสน่ห์รอยยิ้มของเขาไปเสียแล้ว
	"...อืม...พี่อยู่ปีสามนะชื่อเบนซ์...แล้วน้องชื่ออะไรครับ"
	"ชื่อรุ้งค่ะ"
	ฉันตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน  พี่เขาชวนฉันคุยไม่หยุดปากแต่ฉันก็นั่งมองพี่เขาจนกระทั่งถึงเวลาเข้าเรียน  เราแลกเบอร์โทรกันเผื่อมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้
	ฉันได้รู้จักเพื่อนใหม่หลายคน  แต่คนที่ฉันถูกชะตาที่สุดก็คือวี  วีเป็นคนน่ารักอัธยาศัยดีคุยเก่งเธอจึงสนิทกับเพื่อนได้เร็ว  แต่สำหรับฉัน  ฉันชอบเป็นเอกเทศมากว่า  แต่วีก็มักจะเข้ามาคุยกับฉันบ่อย ๆ จนทำให้เราสนิทกันภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที...  พักเที่ยงแล้วฉันเดินไปที่โรงอาหารไปร้าน 13 เขาบอกว่าร้านนี้อร่อยมาก ๆ ฉันจึงต่อคิวยาวเพื่อรอซื้อข้าว  เมื่อถึงคิวของฉัน
	"เอาซุปเต้าหู้ใส่กุ้งถ้วยนึงค่ะ"
	"ของผมเหมือนเดิมนะ..."
	ชายคนหนึ่งเดินมาเบียดฉันและก็แย่งสั่งทันที  ฉันรู้สึกไม่ถูกชะตากับนายคนนี้เลย  เพราะนายคนนี้ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย  ไม่ยอมต่อคิวแถมยังมาเบียดผู้หญิงอีก  ฉันจึงจ้องหน้าด้วยความโมโห
	"ขอโทษครับ ๆ"
	เขาหันมาพยักหน้าขอโทษอยู่หลายครั้งแต่ฉันก็ยังคงรู้สึกฉุนอยู่ดี
	"อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะพี่เอิร์ท..."
	แม่ค้าส่งอาหารให้นายคนนั้น  ฉันรู้สึกหมั่นไส้ซะเต็มประดาอยากจะเตะก้นงาม ๆ สักทีแต่ก็ต้องเก็บอารมณ์  นายคนนั้นยังจะหันมายิ้มให้อีกและก็ค่อย ๆ เดินผ่านหน้าไป  ฉันรู้สึกหมั่นไส้มาก ๆ เข้าจึงแกล้งขัดขาซะเกือบล้ม
	"เอ๊ะ...!!!เธอนี่ยังไงกันมาขัดขาทำไม"
	"ไหน...ขัดขาตรงไหนคุณเดินมาสะดุดเองแล้วยังมาทำวางมาดอีก  อย่างนี้หาเรื่องกันนี่หว่า...จะเอาไงบอกมาเลย"
	ฉันถกแขนเสื้อขึ้นทำท่าแบบเอาเรื่อง
	"สวย ๆ ดุ ๆแบบนี้ระวังหา...อุ้ย...ไม่ได้นะ5555"
	"ฮื้อ...!!!"
	ฉันถึงกับฉุนทีเดียว  รู้สึกโมโหนายคนนี้จริง ๆ เกิดมาไม่เคยโกรธแบบนี้มาก่อนเลย  ฝากไว้ก่อนนะวันหลังจะเอาคืนให้ได้เลย...  ฉันหันไปมองหน้าแม่ค้าแล้วก็รับอาหารมา
	"นี่ทำไมทำกับพระเอกของมหาลัยอย่างนี้ล่ะ"
	"เนี่ยนะพระเอก...โถ่...เป็นคนนิสัยไม่ดีต่างหากล่ะ...อ่ะนี่เงินจะเอาไหม"
	ฉันส่งเงินให้แม่ค้าพร้อมกับทำท่าฉุน ๆ ฉันรู้สึกว่าแย่มาก ๆ ที่เจอคนแบบนี้ในเวลาเดียวกันถึง 2 คน  ทั้งแม่ค้านิสัยแย่กับนายคนนั้นที่นิสัยไม่ดี  ฉันนั่งลงที่โต๊ะแล้วก็ทำหน้าเครียด
	"รุ้ง...ไม่เอาน่าอย่าเก็บมาเป็นอารมณ์  เดี๋ยวแก่เร็วนะย๊ะ"
	"ไม่ต้องมาทำปลอบใจเลย  เนี่ยถ้าฉันรู้นะว่าบ้านอยู่ไหนฉันจะเอาระเบิดไปลงเลย"
	"จะบ้าเหรอ...ถ้าเธอทำแบบนั้นสาว ๆ ที่มหาลัยชักตายแน่ ๆ เลย"
	"ทำไมล่ะวี..."
	"ก็พี่เอิร์ทเขาเป็นดาวของที่นี่เธอไม่รู้เหรอ  สาว ๆ ทุกคนก็ยังต้องสยบให้กับเขาเลย  มีเธอเนี่ยแหละที่จงเกลียดจงชังเขา"
	"หล่อตายละนิสัยแย่ ๆ แบบนี้เป็นดาวได้ไงกัน...กิน ๆๆๆเถอะจะได้เข้าเรียน"
	พอฉันเดินออกจากโรงอาหารฉันก็ต้องสะดุดกับผู้ชายคนหนึ่งเขาท่าทางดี  ดูสุขุม  หน้าตาจัดว่าหล่อทีเดียว  ฉันคิดว่าน่าจะหล่อกว่านายเอิร์ทอะไรนั่นเสียอีก...
	"วี...เมื่อเช้าเธอลืมหนังสือพี่เอามาให้แล้วนี่..."
	"อ๋อ...เพื่อนของวีเองค่ะชื่อรุ้ง"
	"สวัสดีค่ะ"
	ฉันไหว้ผู้ชายคนนี้ด้วยท่าทางที่อ่อนน้อม  เขายิ้มอย่างคนที่ใจดี  แต่ดูท่าทางไม่ค่อยจะมีเพื่อนเพราะฉันไม่เห็นเขาเดินกับใครเลย...นายคนนี้คงเป็นพี่ชายของวีที่ชื่อวิทย์แน่ ๆ  เพราะวีพูดให้ฟังอยู่บ่อย ๆ ด้วยความภาคภูมิใจที่พี่ชายเป็นประธานนักศึกษาเรียนรัฐศาสตร์การปกครอง...  
	หลังจากที่เจอพี่ชายของวีแล้ววีก็ยังพูดไม่หยุดปากว่าพี่ของเขาเป็นคนดีช่วยเหลืองานมหาวิทยาลัยเสมอ ๆ จนฉันรู้สึกว่าวียกยอพี่ชายมากไปแล้ว
	หลังจากเลิกเรียนฉันเจอพี่เบนซ์อีกครั้ง  พี่เขายิ้มให้ด้วยสีหน้าที่เบิกบาน  พี่เขาชวนฉันขึ้นรถเขาเพราะเขาจะพาฉันไปส่งที่บ้าน  ที่จริงฉันก็อยากไปด้วยเหมือนกัน  แต่ทีนี้ฉันมันเด็กหอก็ต้องอยู่หอสิจะให้พี่เบนซ์ไปส่งฉันได้ยังไงกันในเมื่อเดินอีกแค่ 30 ก้าวก็จะถึงหอแล้ว
	"ไม่เป็นไรค่ะพี่เบนซ์  รุ้งขอบคุณมากนะคะแต่ว่ารุ้งอยู่หอค่ะ"
	พี่เบนซ์ก็เลยขับรถผ่านหน้าฉันไปช้า ๆ ฉันมองรถของพี่เบนซ์จนจำทะเบียนได้ดีแล้วก็เดินไปที่หอทันที...  อย่างว่าละเด็กปี 1 ต้องอยู่หอทุกคนเพื่อที่จะได้รับน้องกลางดึกคืนนี้พอฉันเข้ามาในหอฉันจึงอาบน้ำแต่งตัวและเข้านอนทันที
	"รุ้ง...ตื่นเร็วรุ่นพี่เรียกแล้ว"
	"อะไรกันวี..."
	"ไป ๆ ลงไปรับน้อง"
	ฉันเดินลงมาจากหอแล้วก็มาเข้าแถวเพื่อโดนรับน้องกลางดึก  ฉันรู้สึกไม่ค่อยพอใจพี่นิสิตคนนี้เลย  ดูท่าทางวางอำนาจพูดจาหยาบ ๆ แล้วก็ขู่รุ่นน้อง  ฉันว่าทำแบบนี้มันไม่น่ากลัวเลยสักนิดแต่มันกลับสร้างความรำคาญมากกว่า
	"เร็ว...!!!เดินเป็ดสิ  เต้นไก่สิ...เร็ว...!!!"
	เสียงที่ตะคอกดุดันทำให้ฉันเก็บอารมณ์ไม่อยู่
	"เฮ้ย...พูดกับน้องพูดให้มันดี ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง...วางก้ามอย่างกับพวกต่ำ ๆ ที่ไร้การศึกษา  ถามจริง ๆ เถอะตอนแม่ท้องให้กินอะไรเหรอถึงได้ต่ำขนาดนี้"
	"นี่แก...."
	รุ่นพี่คนนั้นถึงกับโกรธจัดให้คนไปตามใครคนหนึ่งมาทันที
	"ไหนใครแข็งข้อบอกพี่มาเลยพี่จัดการให้"
	รุ่นพี่ทอมเดินมากับนายเอิร์ทคนที่เจอเมื่อกลางวันนี้  พูดจาเหมือนกับจะเอาเรื่อง  ฉันจึงถกแขนเสื้อขึ้นทำท่าเอาเรื่องเหมือนกัน
	"เธออีกแล้วเหรอ...นี่อยากเรียนจบหรือเปล่าทำไมแข็งข้อกับรุ่นพี่"  นายเอิร์ทพูด
	"นี่นายรู้จักเด็กคนนี้ด้วยเหรอ  เอาเลยจัดการเลยฉันหมั่นไส้จริง ๆ"  พี่นิสิตคนนั้นพูด
	"เฮ้ย...อย่าพี่เองน้อง"
	พี่ทอมเดินตรงมาที่ฉันเอามือมาจับคาง  ฉันปัดมือเขาก็ทำท่าเหมือนกับจะลวนลาม  ทุกคนถึงกับหยุดดูว่าฉันจะทำยังไงต่อกับรุ่นพี่  เมื่อหนักเข้า ๆ ฉันก็เกิดความโมโหฉันจึงต่อยหน้าพี่ทอมทันที
	"สวย ๆ แล้วยังจะดุอีกเนี่ยเสป็กพี่เลย..."
	"อย่าเข้ามานะ...!!!"
	ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่กลัว  เมื่อพี่ทอมเข้ามาใกล้ ๆ ฉันจึงเตะก้านคอด้วยท่าจรเข้ฟาดหางทันทีถึงกับทำให้พี่ทอมสลบ
	"นี่เธอมันไม่แรงไปหน่อยเหรอ  นิสิตอย่างเธอเห็นทีจะเอาไว้ในมหาวิทยาลัยไม่ได้ใช่ไหมพร  ผมว่าส่งสภาให้เขาตัดสินดีกว่า  จะได้รู้ว่าการถูกว๊ากในสภามันเป็นอย่างไร..."
	นายเอิร์ทพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธ ๆ แล้วก็ชี้หน้าฉัน  ฉันก็มองด้วยท่าที่เย่อหยิ่งเพราะฉันยังไม่รู้ว่าการถูกว๊ากในสภามันเป็นยังไง...  พวกเราทั้งหมดกลับขึ้นหอ  ฉันล้มตัวลงนอนด้วยความสบายใจ
	"รุ้งเธอรู้ไหมเธอทำอะไรลงไป  การถูกว๊ากในสภามันถึงกับทำให้ประวัติเสียและโดนไล่ออกง่าย ๆ เชียวนะ  ฉันว่าเธอทน ๆ เอาหน่อยจะดีกว่านะอย่าให้เรื่องมันเลยเถิดไปมากกว่านี้เลย  ฉันขอร้องนะฉันยังอยากมีเพื่อนอย่างเธออยู่"
	"วี...ไปนอนได้แล้ว  ฉันรู้ว่าฉันไม่โดนไล่ออกหรอกเพราะขนาดเรียนเขายังเชิญ...."
	"เชิญอะไร"
	"นอน ๆ เถอะเดี๋ยวไม่มีแรงไปเรียนนะ"
	................................1.............................
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ  รับรองว่าเข้มข้นกว่าเดิมแน่นอนค่ะ...ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามผลงานมาโดยตลอดนะคะ...				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน