ผมไม่รู้นี่...(ตอนที่3)

สุชาดา โมรา

วันนี้ผมนั่งดูทีวีกับเธอ  จู่ ๆ ก็มีข่าวด่วนออกมาว่า  ดร.ตรีไตร  กับคุณหญิงพร้องเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุรถคว่ำ  ตำรวจสัณนิษฐานว่าน่าจะแย่งพวงมาลัยกันรถเลยเสียหลักพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิตทั้งคู่  เธอถึงกับตาแดงแล้วก็วิ่งไปร้องไห้ในห้องน้ำทีเดียว... ผมรู้สึกสงสารเธอมาก ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดีเลยละ  เพราะทั้งพ่อและแม่เลี้ยงของเธอตายเธอก็ไม่รู้จะอยู่กับใครแล้ว ...  ผมก็เลยเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วก็ประคองเธอออกมาให้เธอนั่งทำใจ  เธอกอดผมไว้แน่นทีเดียว  ผมไม่ได้ฉวยโอกาสนะแต่ผมก็คิดนิด ๆ เหมือนกัน  มันเหมือนโชคเข้าข้างให้ผมได้แตะต้องตัวเธอเป็นครั้งแรกในชีวิต  เพราะปกติเธอค่อนข้างวางตัวดีจนผมไม่กล้าเข้าใกล้
	ผมปลอบโยนเธอทั้งคืน  จนทำให้ผมไม่ได้หลับไม่ได้นอน  ตอนเช้าก็เลยไม่ได้ไปทำงาน  ผมพาเธอไปรับศพพ่อกับแม่เลี้ยงที่โรงพยาบาล  แล้วก็จัดแจงเรื่องงานศพ     ผมก็ช่วยเธอได้แค่นี้แหละ  แต่พอเสร็จจากงานศพแล้วเธอก็ดูหงอย ๆ บ้านช่องไม่กลับ  เธอมาอยู่กับผมทุกวันจนผมรู้สึกว่าผมไม่ได้แค่ชอบเธอแล้วละ  แต่ผมรักเธอเข้าแล้ว  เขาถึงบอกกันว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิดยังไงล่ะ...  ผมก็เพิ่งมาเชื่อเมื่อได้สัมผัสกับมันก็ตอนนี้เนี่ยแหละ
	วันนี้ผมไปทำงานอย่างคนอารมณ์ดี  ผมขายจิวเวอร์รี่ได้มากทีเดียวจนทำให้ผมได้โบนัสพิเศษ  และผมก็ได้เจอผู้ชายคนหนึ่ง
สวัสดีครับ  คุณต้องการเครื่องประดับแบบไหนครับ  และใช้ในงานอะไร
เขาจ้องมองผมแปลก ๆ แล้วก็ถามแปลก ๆ ด้วย  ผมรู้สึกได้ทันทีเลยว่านี่น่าจะใช่พี่ชายของผม  คนที่ผมอยากเจอมากที่สุดคนหนึ่ง
น้องครับ  น้องหน้าตาคุ้น ๆ มากเลยนะ  พี่ถามจริง ๆ เถอะนามสกุลนี้น้องเอามาใช้ได้ยังไง
โถ่พี่นี่ก็นามสกุลพ่อผมนี่จะให้ผมใช้นามสกุลใคร  พี่นี่ก็ถามแปลก ๆนะ
พ่อน้องชื่ออะไร
พี่จะถามไปทำไมกัน
ก็พี่อยากรู้  พี่เห็นเราใช้นามสกุลเดียวกันเผื่อจะเป็นญาติกัน
พี่อย่ามาอำเลย  ถึงพี่มีนามสกุลเดียวกับผมก็ใช่ว่าผมจะลดราคาให้พี่นะ  ผมน่ะเป็นแค่ลูกจ้างเขาเท่านั้นแหละ
	เขาซักไปซักมาจนผมต้องบอกเขาแล้วก็เล่าเรื่องของพี่กิ๊กให้ฟังด้วย  เขาทำท่าดีใจมาก ๆ เลย  เขากลัวว่าผมจะไม่เชื่อก็เลยเอาบัตรประชาชนออกมาให้ดู  ผมถึงกับยิ้มแก้มปลิทีเดียว  พี่เขามาซื้อเครื่องประดับให้ภรรยา  เพราะวันนี้วันเกิดพี่ลูกแก้ว  ผมก็เลยเลือกเครื่องประดับชุดใหญ่ให้  ทำให้ยอดขายกระฉูดทีเดียว  ผมได้ไปบ้านพี่เขา  พี่เขาชวนผมไปอยู่ด้วย  ผมได้คุยกับคุณแม่พิมพ์ใจ  ผมรู้สึกว่าคุณแม่คนนี้เป็นคนดีมาก ๆ เลย  ท่านไม่รังเกียจผม  แต่ท่านกลับรักผมเหมือนลูกคนหนึ่งด้วยซ้ำ ผมเห็นพี่ชายออกอาการโรมแมนติกต่อหน้าผมและคุณแม่พิมพ์ใจทำให้ผมยิ้มไม่หยุดทีเดียว  ผมแอบดูพี่เขาจู๋จี๋กัน...น่ารักดี  ผมคิดว่าผมน่าจะลองไปใช้กับว่าที่ภรรยาผมบ้าง...  คืนนี้ผมเลยนอนค้างที่บ้านพี่กอล์ฟทั้งคืนจนลืมคุณฬนนทีเดียว
	พอเช้าผมก็รีบมาหาเธอ  แต่เธอไม่อยู่แล้ว...  ผมเก็บข้าวของแล้วย้ายมาอยู่กับพี่ชาย  มาทำงานที่บริษัทของพี่ชาย  เพราะพี่เขาให้เงินเดือนเยอะมาก ๆ ได้ใช้วิชาความรู้ของตัวเองให้เป็นประโยชน์...  ผมโทรหาฬนนทุกวันแต่เขาก็ไม่เปิดเครื่องสักที  ผมรู้สึกใจคอไม่ดีเลย...
	พี่ชายส่งผมเรียนต่อโท  ผมดีใจเหมือนได้โล่เทียวละ  เมื่อผมมาเรียนโทผมก็เลยได้เจอเธออีกครั้ง  เธอเหมือนทำเป็นไม่รู้จักผม  ผมก็เลยไม่กล้าเข้าไปทักเธอ  แต่แล้วเธอก็เข้ามาทักผมแล้วก็คุยกับผม  เธอขอมาทำงานที่บริษัทของพี่ผม  เมื่อผมขออนุญาติพี่  พี่ก็ตกลงทันที...  ผมพาเธอมาให้พ่อแม่ดูตัวบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่ได้บอกหรอกว่ารับผมเป็นแฟน...
	วันหนึ่งผมรู้ว่าพี่ชายที่แสนดีของผมกำลังโดนสวมเขาผมก็เลยเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้พี่ฟัง  พี่ก็เลยรวมหัวกับผมจับชู้จนสำเร็จ  เพื่อนของพี่กับภรรยาของพี่ไม่น่าทำแบบนี้เลย  ผมรู้สึกเสียใจจริง ๆ เลยที่พี่ผมได้คนแย่ ๆ แบบนี้เลยทำให้พี่ไม่เป็นอันกินอันนอน  ทำงานก็ไม่รู้เรื่อง  คุณแม่พิมพ์ใจก็เป็นห่วงจนล้มป่วย  ผมต้องดูแลทั้งพี่และคุณแม่พิมพ์ใจ...  น่าสงสารครอบครัวนี้จริง ๆ  โดนมรสุมมาตลอดชีวิต  และนี่ยังมามรสุมทางใจอีก  เฮ้อ...!!!!...ผมต้องถอนหายใจหลายครั้งทีเดียว
	ผมส่งวิทยานิพนธ์เสร็จผมก็ได้รถจากพี่ชาย  คันนี้ทั้งใหม่และหรูหราจนผมไม่กล้าขับ  แต่พี่ก็ซื้อให้เพราะเห็นว่าผมต้องอาศัยคุณฬนนกลับบ้านมาทุกวัน  พอผมมีรถขับผมก็ไปส่งคุณฬนนทุกวันเหมือนกันเพราะเธอบอกกับผมว่าให้ผลัดกันบ้างจะได้รู้จักบ้านของกันและกัน
	หลังจากนั้นไม่นานคุณแม่พิมพ์ใจก็เสียชีวิตด้วยโรคชรา  คุณพ่อท่านเสียใจมากทีเดียว  คุณแม่กระจงก็มางานนี้ด้วย  ผมจึงได้เจอพี่กิเป็นครั้งแรก  ตอนแรกพี่ก็ทำหน้าไม่ค่อยพอใจผมเท่าไรนักแต่พอรู้ว่าผมดีกับคุณแม่พิมพ์ใจ  พี่เขาก็เลยดีกับผม  พี่เขาเป็นคนสวยทีเดียวถ้าเทียบกับพี่กิ๊กแล้วพี่กิเนี่ยแหละสวยที่สุด  พูดจาก็ดีกว่า  ดีกว่าตรงที่พี่กิไม่ค่อยใช้ศัพท์อังกฤษมากนักทั้ง ๆ ที่เป็นเจ้าของบริษัททัวร์น่าจะออกไทยคำอังกฤษคำแต่กลับไม่มีแม้แต่นิดเดียว  ผมชอบพี่เขาตรงนี้แหละ  
	งานศพของคุณแม่พิมพ์ใจทำให้พี่ลูกแก้วได้เข้ามามีบทบาทในครอบครัวอีกครั้ง  พี่กอล์ฟคืนดีกับพี่ลูกแก้ว  ผมก็ดีใจด้วยนะ  ทีแรกผมก็มีอัคติกับพี่เขาแต่พอผมมารู้ความจริงเรื่องคนชื่อต้นนั่นแล้วผมก็รู้ว่าพี่ลูกแก้วเขาไม่ได้ตั้งใจมีชู้เพียงแต่โดนข่มขู่เรื่องที่เขาจะบอกความจริงเท่านั้น หมอนี่เลยได้ใจเห็นเป็นจุดอ่อนเลยรีดไถเงินจากพี่ลูกแก้ว  ได้ทั้งเงินได้ทั้งตัว  ช่วงนั้นพี่ลูกแก้วเลยไม่ยอมมีลูกทั้ง ๆ ที่พี่กอล์ฟอยากมีจนใจจะขาด  แต่เป็นเพราะพี่เขากลัวว่าจะพลาดมีกับลูกคนพันนั้นก็เลยคุมกำเนิดซะ  ที่จริงพี่ลูกแก้วก็รักพี่กอล์ฟจนสุดหัวใจเหมือนกันนะ  ตั้งแต่พี่ลูกแก้วกลับมาพี่กอล์ฟก็ดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น  ส่วนผมก็ไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอพี่เขาหรอก  ผมเลยขอย้ายออกไปอยู่ที่บ้านของคุณฬนนเขา
	ผมมีความสุขที่สุดที่ได้มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเธออีกครั้ง  คุณฬนนเป็นคนดี  เป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมแต่เธอค่อนข้างขี้เหงาแล้วก็อยู่คนเดียวทั้ง ๆ ที่บ้านช่องใหญ่โตมาก ๆ จนผมต้องเอ่ยปากให้เธอจ้างใครมาอยู่ด้วย  แต่เธอก็ไม่ยอม  เธอค่อนข้างแสนงอน  พูดนิดพูดหน่อยไม่ถูกใจก็งอนแล้ว  ผมต้องตามตื้อเธอตลอด  
	วันนั้นเป็นวันหยุดผมได้เข้าไปทำความสะอาดในห้องของเธอผมมองไปรอบ ๆ ห้อง  ผมเห็นภาพแม่ของเธอแปะไว้เต็มห้องไปหมด  เธอคงคิดถึงแม่มากทีเดียว  ลูกคนรวยก็มักจะมีปัญหาแบบนี้แหละนะ...  พอเธอเห็นผมอยู่ในห้องของเธอ  เธอถึงออกปากไล่ผมออกจากบ้านวันนั้นทีเดียว  ผมพยายามอธิบายแต่เธอก็ไม่ฟัง
	"ฬนนคุณฟังผมก่อน...ฬนน"
	ปัง...เธอปิดประตูใส่หน้าผม  ผมเลยเดินออกไปหน้าบ้านแล้วตะโกนเข้ามาในบ้าน
	"ผมอธิบายได้.....!!!!!"
	เธอถึงกับขว้างกระเป๋าสตางค์ของผมออกมาจากหน้าต่างทันที  ผมรู้ตอนนั้นแหละว่าเธอไม่เคยมีใจให้ผมเลย...ผมมันเข้าข้างตัวเองมาโดยตลอด  ผมก็เลยเดินออกจากบ้านพร้อมข้าวของต่าง ๆ แต่ผมก็ไม่ได้เอาของอย่างนึงออกมาคือกล่องแหวนที่ผมวางไว้ให้เธอที่หน้าประตูห้องพร้อมกับการ์ดใบหนึ่งที่เขียนว่า "ผมรักฬนนมากที่สุด"  จากนั้นผมก็เลยไปอาศัยพี่กิอยู่เพราะบ้านพี่กิอยู่ใกล้ ๆ บ้านของเธอ
	"พักที่นี่ก่อนก็ได้นะกฤษ  พี่ไม่หวงหรอก"
	วันนี้ผมรู้สึกว่าผมอบอุ่นใจมากที่ได้มาอยู่กับพี่สาวของผม  ผมเลยรู้ว่าพี่คนนี้เป็นคนที่โรแมนติกมากทีเดียว  พอ ๆ กับพี่กอล์ฟเลยนะ  พี่เขารักแฟนมากถึงกับไม่ยอมแต่งงานใหม่  ถ้าผมรู้จักพี่เขาเร็วกว่านี้ผมคงรู้เรื่องราวของพี่มากว่านี้...ผมนี่มันก็ช่างสอดรู้สอดเห็นเหมือนกันนะเนี่ย...
	ผมไปทำงานที่บริษัท  ผมเจอเธอผมก็ไม่ทัก  เพราะผมรู้สึกว่าผมไม่ผิด  ผมไม่ต้องง้อเธอก็ได้  แต่แล้วใจผมกลับสั่นเมื่อผมเห็นเธอเอาแหวนของผมที่วางไว้หน้าประตูมาใส่ที่นิ้วนางข้างซ้าย  ผมว่าเธออาจจะมายั่วให้ผมหวั่นไหวเล่น ๆ แน่ ๆ เลย...  ผมเห็นเธอเดินควงคนนั้นทีคนนี้ทีจนผมปวดหัวไปหมด  ทำอะไรไม่ถูก  ผมงงไม่รู้จะทำอย่างไรดีเลยนะ
	"คุณดอมวันนี้ข้าวร้านนั้นอร่อยมากเลยนะคะ  ไปทานกันอีกไหม"
	ผมเริ่มรู้ตัวแล้วว่าอารมณ์ผมมันพุ้งพร่านออกมาจนผมทนไม่ไหวก็เลยระเบิดออกมาอย่างจังทีเดียว  ตอนนั้นใครได้เห็นผมในคราบของซาตานก็จะรู้ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน
	"นี่คุณ...งานไม่มีทำหรือไง  แฉลบซ้าบแฉลบขวา  นึกว่ามันว่างนักเหรอ..."
	ผมรู้สึกว่าผมเกรี้ยวกราดจนพนักงานต้องเดินหลบหน้าหลบตาไปนั่งทำงานต่อ  ส่วนผมก็ไปทานข้าว  ผมรู้ว่าต้องมีคนเอาผมไปนินทาแน่นอนแต่ผมก็ไม่สนใจหรอกนะเพราะผมถือว่าผมไม่ได้ขอเงินพวกนั้นใช้  ผมรู้สึกว่าผมตัวใจจากเธอไม่ขาดแต่ผมก็พยายามระงับอารมณ์อย่างถึงที่สุดแล้วละ  ผมกำลังจะลงลิฟเธอก็เข้ามาขวางไว้
	"ฉันไปด้วยนะ..."
	ผมไม่ได้ตอบอะไรแต่ผมก็ก็ไม่ได้ปฏิเสธ  เธอจึงลงมาพร้อมผม  ผมขึ้นรถ  เธอก็เปิดประตูรถแล้วก็เข้ามานั่งกับผม
	"คุณขึ้นมาทำไม..."
	เธอเงียบไม่ยอมตอบผมก็เลยลงจากรถ  เธอก็ลงจากรถ  ผมไปไหนเธอก็เดินตามจนผมรำคาญ  เดี๋ยวก็ไล่  เดี๋ยวก็ป่วนจนผมทำอะไรไม่ถูกแล้ว  เธอพยายามจะยั่วให้อกผมระเบิดอย่างนั้นเหรอไงกัน  ผมไม่เข้าใจผู้หญิงเลย  ถือว่าผมโง่ตามเกมส์ไม่ทันแล้วมาทำกันแบบนี้น่ะเหรอ  เธอมัน...ผู้หญิงอะไรกันนี่...  ผมนึกแล้วก็เดินกลับไปขึ้นรถ  เธอก็วิ่งตามมานั่งใกล้ ๆ ผมไม่พูดอะไรก็เลยขับรถออกมาดื้อ ๆ ผมเริ่มหมดฟิวตั้งแต่เธอเข้ามานั่งกวนใจในรถแล้วละ
	"เนี่ยเมื่อวานท็อปเอาดอกไม้มาให้ละ...แล้ววันก่อนเก่งก็เอาตุ๊กตาลูกหมามาให้น่ารักมากๆเลย  แล้วพจน์นะซื้อของมาให้บ่อย ๆ ด้วย  เธอว่าฉันจะเลือกใครดีนะ  หือ...?"
	ผมแกล้งไม่ตอบปล่อยให้เธอพูดไปเรื่อย ๆ มีแรงเท่าไรก็ให้เธอพูดไป  จนกระทั่ง สี่ทุ่มเธอจึงหยุดพูด  ผมก็เลยจอดรถข้างทาง
	"จอดทำไมล่ะ  อย่าบอกนะจะให้ฉันลงมืด ๆ แบบนี้..."
	"แล้วทีเธอล่ะ  ไม่ฟังกันแล้วก็ใช้แต่อารมณ์  เห็นผมเป็นตัวอะไร  วันนี้ฟิวมันขาดไปหมดแล้วนะ  ผมเริ่มจะหมดความอดทนกับคุณแล้วนะ  นี่เอามาถ้าไม่ชอบผมก็อย่าใส่มันเลยไอ้แหวนวงนี้เนี่ย  ผมเกลียดคุณจริง ๆ เลย..."
	ผมกระชากมือเธอแล้วถอดแหวนออกขว้างทิ้งในรถ  เธอก็ก้มลงเก็บแหวนขึ้นมาใส่อีก  ผมก็ทำแบบนั้นอีกอยู่หลายครั้ง  จนผมหมดความอดทนก็เลยขว้างแหวนออกไปนอกหน้าต่างรถจนหาไม่เจอแล้ว...  เธอก็ทำท่าจะเดินออกไปเก็บผมจึงดึงมือเธอไว้
	"เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน...แต่ต้องไปหาที่เติมน้ำมันก่อน"
	ผมนั่งเงียบไปพักหนึ่งแต่ยังไม่ได้ขับรถออกไป...แล้วจู่ ๆ เธอก็พูดขึ้นมา
	"ถ้าไม่รักแล้วฉันจะทำแบบนี้เหรอ...คุณนี่โง่จริง ๆ เลยนะกฤษ...ฉันให้ท่าขนาดนี้คุณยังไม่รู้อีกเหรอ  จะให้ฉันต้องพูดหรือไงว่าฉันรักคุณ...ฉันรักคุณ...คุณได้ยินไหม...พอใจหรือยัง"
	เธอตะโกนลั่นรถจนผมแสบแก้วหูไปหมด  ผมคิดอะไรไม่ออกทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งอึ้ง  ใจผมหวิว ๆ ไปหมดเหมือนกับว่ากำลังตื่นเต้นอะไรสักอย่าง  แต่พอผมนั่งคิด ๆ อะไรอยู่นั้นผมก็มารู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่อไฟฟ้ามันได้สปาร์กเข้าอย่างจังเลยละ  ไม่น่าเชื่อว่าผมจะถูกเธอจูบ  แทนที่ผมจะจูบเธอ...ผมนี่มันงี่เง่าจริง ๆ เลย  ผมผลักเธอออกแล้วก็เดินออกไปนอกรถเพื่อไปหาแหวนวงนั้น  ผมเดินหาแหวนจนรุ่งเช้าของอีกวัน  แล้วผมก็พบจนได้  ผมวิ่งเข้าไปในรถเอาแหวนสวมให้เธอ  แต่เธอกลับทำงอน  ผมไม่เข้าใจผู้หญิงจริง ๆ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน