ชิน(ตอนที่2)

สุชาดา โมรา

ปลายแดงวาบของบุหรี่ลามเลียเข้ามาใกล้ก้นกรองขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่อุสราคีบมันขึ้นสูบเป็นครั้งสุดท้าย หล่อนสัมผัสได้ถึงไอร้อนตรงปลายนิ้ว ก่อนขยี้มันลงกับที่เขี่ย ประกายสีแดงแตกตัวออกเป็นเสี่ยงๆ สว่างวูบอยู่ชั่วครู่ก่อนดับตัวไปกลายเป็นเถ้าสีเทาดำ... วันนี้ก็เฉกเช่นเช้าวันหยุดอื่นๆ อุสรานั่งอยู่ในสวน นิ่งและคิด ว่ากันตามจริงแล้วนิตยสารที่หล่อนเพิ่งพับปิดไปเมื่อครู่ หาใช่นิตยสารเล่มล่าสุด หากแต่เป็นฉบับเก่าย้อนหลังไปสองสามเดือนที่แล้ว มันเป็นนิตยสารฉบับเดียวในชีวิตที่หล่อนเคยบอกรับเป็นสมาชิก หล่อนชอบในความหนักหน่วงของเนื้อหาสาระและความไม่เหมือนใครของม ัน เดิมทีหล่อนไม่ได้หยิบมันติดมือมาด้วยในเช้านี้ เพิ่งเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วหยิบมันออกมาทีหลัง เรื่องมันมีอยู่ว่า
เมื่อเช้านี้ ขณะที่หล่อนกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตามปกตินั้น พลันความคิดหนึ่งวูบขึ้นมาในหัวสมอง หล่อนผละจากรายละเอียดของข่าวที่กำลังติดตามอยู่ พลิกกลับไปที่หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ อ่านทวนซ้ำอีกครั้ง หล่อนสำรวจดูพบว่าเป็นข่าวฆ่ากันตายสองข่าว ข่าวตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์หนึ่งข่าว อีกข่าวเป็นช้างที่ประสบอุบัติเหตุ ที่เหลือเป็นเรื่องของการเมือง จะว่าไปแล้วนี่ก็เป็นปรากฏการณ์ปกติธรรมดา ไม่ได้แปลกประหลาดพิสดารแต่อย่างใด กลยุทธ์การเลือกข่าวขึ้นพาดหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ก็เป็นกลยุทธ์ปกติธรรมดาตามแบบฉบับที่หนังสือพิมพ์เชิงปริมาณพึงยึดถือปฏิบัติต่อๆ กันมาช้านาน กล่าวคือเลือกนำเสนอข่าวที่อยู่ในความสนใจของคน ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมาก หรือข่าวที่มีความสะเทือนใจกระตุ้นต่อมความอ่อนไหวของผู้คนอย่า ง เช่น ข่าวฆ่ากันตาย ตำรวจวิสามัญผู้ร้ายค้ายาบ้า ข่าวฆ่าข่มขืน ผัวยิงชู้หรือเมียฆ่าผัว หรือไม่ก็พวกพบพืชหรือสัตว์พิสดาร อย่างวัวห้าขา เต่าสองหัว หรือต้นไม้ใบ้หวย อะไรทำนองนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามวิถีปกติธรรมดาเหมือนอย่างที่ม ันเคยเป็น คงมีอยู่เพียงสิ่งเดียวที่ไม่ธรรมดาในความรู้สึกของหล่อน สิ่งนั้นก็คือความรู้สึกของตัวหล่อนเอง...
อุสราพยายามนึกทบทวนถึงความรู้สึกของตัวเองยามได้อ่านข่าวหน้าห นึ่งของหนังสือพิมพ์เมื่อเช้านี้ หล่อนจำได้ว่าอ่านข่าวทั้งหมดผ่านไปอย่างแกนๆ ไม่ได้รู้สึกสะดุดใจกับข่าวใดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นข่าวอุ้มฆ่าเศรษฐีนี เจ้าของรีสอร์ตบนเกาะพะงันพร้อมลูกหญิงชายวัยกำลังน่ารักอีกสอง คน ข่าวข้าราชการซี 6 ถูกแก๊งค้ายาบ้าสังหารโหดคาม่านรูด หรือข่าวรถทัวร์สายเหนือประสานงาสิบล้อตายกว่า 40 ศพ ทั้งหมดนั้นหล่อนอ่านผ่านมันไปอย่างไร้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนก ับเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ต่างไปจากมดปลวกตัวหนึ่งตาย จะมีที่สะกิดความรู้สึกอยู่บ้างก็คือข่าวช้างถูกรถชน คงเป็นเพราะไม่ใช่ข่าวที่พบเห็นกันบ่อยนัก หล่อนเลือกที่จะอ่านข่าวนั้นก่อนเป็นอันดับแรก แต่ในขณะที่หล่อนกำลังพลิกอ่านอยู่นั้นเอง พลันประหวัดนึกไปถึงเนื้อหาของบทความหนึ่งในนิตยสารเล่มโปรด หล่อนจำได้ว่าบทความนั้นชื่อ เรื่องธรรมดาๆ กล่าวถึงเนื้อหาของข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่หล่อนไม่แน่ใจนักว่าพูดถึงประเด็นอะไร ตัดสินใจเดินกลับเข้าไปในบ้าน หยิบนิตยสารเล่มดังกล่าวออกมาอ่านเพื่อทบทวนความทรงจำอีกครั้ง...
ลมหนาวกรรโชกเบาๆ พัดเอาใบลั่นทมที่แห้งเหี่ยวติดต้น ปลิดใบหมุนคว้างทิ้งตัวลงเบื้องล่างตามกระแสของแรงดึงดูดโลก มันตกอยู่ห่างจากปลายเท้าของอุสราไปเล็กน้อย หล่อนเหม่อมองอากัปกิริยานั้นอย่างเลื่อนลอย ในหัวสมองครุ่นคำนึงถึงข้อความที่อ่านเจอในหน้านิตยสารเมื่อครู ่... อดสงสัยถามตนเองไม่ได้ว่า แล้วข่าวที่ผู้คนฆ่ากันตายอยู่เป็นประจำไม่ได้กระทบจิตใจผมเท่า กับข่าวช้างถูกรถชน... หรือว่าผมเป็นคนใจบาป เห็นสัตว์เดียรัจฉานดีกว่ามนุษย์ปุถุชนกระนั้นหรือ 
มันเป็นเรื่องเล็กๆ เล็กมากเสียจนหล่อนไม่เคยใส่ใจฉุกคิดสังเกตถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมทุนนิยมการค้าเสรีปัจจุบันที่กำลังเชี ่ยวกราก ดุจกระแสธารเงินตรากำลังบ้าคลั่ง ดูดกลืนผู้คนลงสู่วังวนแห่งความโลภโมโทสัน จมดิ่งสู่กองกิเลสของตนเอง ต่างคนต่างแก่งแย่งแข่งขัน ก้มหน้าก้มตาทำงาน เก็บเงิน สั่งสมวัตถุ ทั้งที่ไม่เคยรู้ถึงจุดหมายปลายทาง เราต่างเอารัดเอาเปรียบกัน เห็นแก่ตัวจนมันซึมซับเข้าไปกลายเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง คุณค่าทางนามธรรมกลายเป็นเรื่องที่ไม่มีตัวตน โลกหมุนเร็วเสียจนเรามองไม่ทันเห็นว่าปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่อ งธรรมดา การที่เราเห็นข่าว คน ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์เดียวกับเรา ฆ่ากันตายอย่างเลือดเย็นแล้วรู้สึกเฉยๆ แต่กลับสะเทือนใจไปกับข่าว ช้าง ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตต่างลำดับชั้นวิวัฒนาการกว่าเราไปอีกมากถูก รถชน สิ่งนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาเป็นแน่ในความคิดของหล่อน มันไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องเล็ก มันก็เป็นเรื่องเล็กที่ไม่ควรจะเล็ก สำหรับหล่อนแล้วมันเป็นดรรชนีที่บ่งชี้ถึงอะไรบางอย่าง
อุสราลองคิดหาเหตุผลต่างๆ นานามาอธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าว แน่นอน หล่อนรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่คนใจบาปหยาบช้ามาจากไหน แต่ทำไมหล่อนจึงรู้สึกเฉยเมยต่อเรื่องดังกล่าว...คงเป็นเพราะ ความเคยชิน หล่อนตอบตัวเองในใจ...เป็นความเคยชินแบบที่ผู้คนซึ่งอาศัยอยู่แ ถบขั้วโลก เคยชินกับการเห็นดาวตกจนมองเป็นเรื่องปกติธรรมดาไป ในขณะที่คนที่ไม่ค่อยจะได้เห็น รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งสวยงามที่สุดในชีวิต สิ่งใดที่เราได้ประสบพบเจอบ่อยๆ ในที่สุดมันก็จะกลายเป็นความเคยชินเข้าสักวัน แล้วทำไมหล่อนจึงรู้สึกชิน ?				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน