ฉันมิแลเห็นสิ่งใด เว้นแต่ความวิจิตรงดงาม ..

อัลมิตรา

 ผู้เขียนหยุดยืนที่ร้านผลไม้เล็ก ๆ ข้างทาง .. เมื่อวานนี้ผู้เขียนนำขนมโมจิ ที่ซื้อมาจากนครสวรรค์แบ่งให้แม่ค้า ๑ ชุด ฝากให้ลูกสาวตัวน้อย พลางนึกในใจว่าแม่หนูน้อยคนนั้นคงยิ้มแก้มปริ เมื่อรู้ว่ามีขนมรออยู่ หลังกลับจากโรงเรียนวันนี้ แม่หนูน้อยคงจะได้ทานขนมโมจิ  มีไม่กี่คนที่ผู้เขียนจะนึกถึงและหากมีโอกาสท่องเที่ยวไปไหน ก็มักจะซื้อของมาฝากเสมอ ๆ  ผู้เขียนจำไม่ค่อยจะได้ว่า  ความเป็นมิตรระหว่างผู้เขียนและแม่ค้าขายผลไม้นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อใด  และแน่นอนที่สุด คงเริ่มต้นจากสถานที่แห่งนี้ 
โดยปกติแล้วก่อนมาทำงาน ผู้เขียนจะทานอาหารเช้าจากบ้านมาเรียบร้อย และด้วยความที่ทำงานอยู่ไม่ไกลจากที่บ้านพักนัก ประมาณสองกิโลเมตร  จึงสามารถเดินมาทำงานได้ ทุก ๆ เช้าหากไม่เร่งรีบ ผู้เขียนก็จะใช้วิธีเดินมาทำงาน โดยผ่านถนนสายหลักของกรุงเทพ ฯ  ริมฟุตบาทมีต้นไม้ข้างทางปลูกร่มรื่น ด้านข้างมีคูเล็ก ๆ ระบายน้ำ และต้องเดินผ่านร้านผลไม้นี้ทุกวัน มิตรภาพที่เรียบง่าย รอยยิ้มที่มีให้กันเสมอ นั่นคือจุดเริ่มต้นของสายสัมพันธ์อันดีงาม  ร้านผลไม้นี้เป็นแบบตั้งโต๊ะพับสองตัว ผลไม้ที่นำมาขาย ถูกคัดเกรดมาในระดับหนึ่ง ส่วนราคาก็ไม่แพงจนเกินไป ดังนั้นผู้เขียนจึงเป็นลูกค้าประจำร้านนี้
วันนี้ก็เช่นกัน ตอนเดินมาทำงาน ในใจก็คิดว่า จะซื้อฝรั่งสักสองผล เมื่อเดินถึงร้านมองดูแล้วไม่มีฝรั่ง มีแต่ ลองกอง สละ ส้มเช้ง กล้วยไข่  แตงโม เมื่อวานก็ซื้อลองกองไปแล้ว วันนี้ตั้งใจจะซื้อฝรั่ง ทำอย่างไรดีหนอไม่มีฝรั่ง กำลังคิด กำลังตัดสินใจ แม่ค้าก็จัดการหั่นแตงโมที่แบ่งผ่าเป็นเสี้ยวไว้ก่อนแล้วใส่ถุงมาให้ 
คือว่า .. วันนี้ไม่มีฝรั่งหรือคะ   ผู้เขียนถามไปเบา ๆ
ไม่มีจ๊ะ แตงโมนี่หวานฉ่ำมากเลยนะจ๊ะ คุณผู้หญิงลองทานนะ ชิ้นนี้ให้ ไม่ต้องจ่ายเงินจ๊ะ   แม่ค้าตอบ
เมื่อเช้าทานข้าวที่บ้าน น้ำพริก ปลาทู ก็เลยว่าจะหาฝรั่งทานค่ะ ไม่มีไม่เป็นไรนะคะ ชิ้นนี้เท่าไรคะ  ผู้เขียนถามราคาแตงโมชิ้นนั้นจากแม่ค้า
 รับไว้เถอะจ๊ะ รู้ว่าคุณผู้หญิงไม่ค่อยชอบแตงโม เพราะที่ผ่านมาไม่เคยสั่งซื้อเลย แต่ชิ้นนี้หวานชุ่มคอจริงๆนะจ๊ะ เลยอยากให้ลองทานดู เผื่อว่าจะติดใจ แตงโมนี่ดีนะจ๊ะ ดับร้อนดีนะ  แม่ค้ามอบแตงโมชิ้นนั้นด้วยความเต็มใจ จนผู้เขียนต้องรับไว้ 
				
 ความจริงแล้วไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่ค้าฝากผลไม้มาให้ทาน และผู้เขียนเองก็มักจะมีของฝากให้แม่ค้านั้นเสมอ เมื่อมีโอกาสได้เดินทางไกล คำว่าคุณผู้หญิงนี่  เป็นคำที่ฟังแล้วรู้สึกเคอะเขินมาก เคยกล่าวกับแม่ค้าหลายหนว่า อย่าเรียกแบบนี้เลย รู้สึกอาย ๆ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ  คงเป็นวาทะศิลป์อย่างหนึ่งของแม่ค้าผู้นั้น ผู้เขียนก็เลยต้องปล่อยให้เลยตามเลย ซึ่งเท่ากับว่า มีแม่ค้าผลไม้นี้ และ รปภ.ที่บ้านพักก็เรียกเช่นนั้นเหมือนกัน  แต่ก็ยังดีกว่าคำว่าคุณหนู  คราวที่บิดาของผู้เขียนยังไม่ได้ออกบวช  คนขับรถของท่านเรียกผู้เขียนว่าคุณหนูด้วยซ้ำไป ทำเอาผู้เขียนเดินเข้าประตูรถผิดทางเลย แถมหัวโขกกับขอบหลังคารถอีก  ผู้เขียนรู้สึกกระดากชอบกล เหมือนเป็ดขี้เหร่ที่ใคร ๆ มองเป็นหงส์  บอกไม่ถูกว่าควรจะยินดีกับสิ่งที่คนอื่นชื่นชม หรือว่าสมเพชตัวเองดีหนอ ..

วกกลับมาอารมณ์เดิมดีกว่า ..  แตงโมหวาน ๆ ขณะนี้ชิ้นแรกยังชุ่มฉ่ำลิ้นผู้เขียนอยู่  หวานฉ่ำใจจริงๆเสียด้วย ผู้เขียนลอบยิ้มอยู่หลายหน เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า  ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแตงโมเพียงหนึ่งเสี้ยว ที่ดูแล้วไม่มีราคาค่างวดอะไรนัก  แต่นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด ที่แม่ค้าพอจะหยิบยื่นให้ผู้เขียน  ก็คงจะคล้าย ๆ กับสิ่งที่เคยประสบมา  เมื่อนึกทบทวนดู ครั้งนั้นที่เป็นเทศกาลตรุษสารท มารดาของผู้เขียนจัดแบ่งอาหารให้กับเพื่อนข้างบ้านที่ไม่ใช่คนเชื้อสายจีน ทุกอย่างเลือกของที่ดีที่สุด งามที่สุดใส่ตะกร้าและให้ผู้เขียนถือไปฝาก  แรกเริ่ม ผู้เขียนก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าด้วยเหตุใด เป็ดตัวโต ไก่ตัวโต หมูสามชั้นชิ้นงาม ผลไม้คัดเลือกอย่างดี จะต้องอยู่ในตะกร้า ตอนนี้ ผู้เขียนเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่เราควรมอบให้กับเพื่อน น่าจะเป็นสิ่งที่เราเลือกแล้วว่าดีที่สุด ไม่เพียงแต่มารดาของผู้เขียนที่กระทำ แม่ค้าผลไม้ผู้นั้น ก็กระทำเช่นเดียวกันด้วย

สิ่งที่ผู้เขียนเห็น  ถือได้ว่าเป็นบทเรียนที่ดี  ถ้าหากทุก ๆ คนบนโลกนี้ มอบสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน มีจิตที่ประสงค์ดีต่อกัน ถึงแม้ว่าโลกจะแร้นแค้นเพียงใด สภาพการณ์ของสังคมจะกระท่อนกระแท่นตามสภาพคล่องของค่าเงิน ถ้าเป็นอย่างที่ผู้เขียนปรารถนาให้บังเกิด คงจะวิเศษที่สุด  สายตาที่เหยียดหยาม กลับกลายเป็น สายตาที่ห่วงอาทรซึ่งกันและกัน  คำหยาบที่มาจากสภาวะจิตใจที่ตกต่ำ กลับกลายเป็น คำหวานไพเราะ ผู้ใดได้ยินได้ฟังก็ย่อมเกิดความรื่นรมย์ใจ  และอีกหลายต่อหลายอย่าง ที่อยู่ในแง่ลบในปัจจุบันนี้ .. จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี 

ผู้เขียนมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าใครก็ตามแต่  ย่อมอยากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีความสุข สิ่งเหล่านั้นกระทำได้ยาก หากเราจะคิดทุกอย่างเป็นไปตามสิ่งที่เราคาดหวัง  เนื่องจากทุก ๆ คน ย่อมมีอิสระในการดำเนินชีวิตของตน เป็นเจ้าของจิตวิญญาณของตนเอง การที่จะปรับเปลี่ยนใครสักคน ให้พลิกสภาพความเป็นไปนั้น คงเป็นการกระทำที่ยากยิ่งนัก

แต่กระนั้นเลย ผู้เขียนก็ยังมุ่งมั่นที่จะหวังต่อไป โดยที่ผู้เขียนขอเริ่มต้นที่ตนเองเสียก่อน  คงไม่ยากจนเกินไปนัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องงานเลยที่จะทำ  ด้วยเหตุที่ว่า ผู้เขียนยังคงสภาพปุถุชนเดินดิน ที่มีอารมณ์เป็นเหตุ  สิ่งต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้เขียนเองนั้น ย่อมก่อให้เกิดอารมณ์รับรู้ และการแสดงออก  ทว่าผู้เขียนคิดว่ามันขึ้นอยู่กับว่าผู้เขียนสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้หรือเปล่า ลำพังใจดวงเดียวของผู้เขียนใหญ่โตก็แค่กำปั้น ณ อกข้างซ้าย ผู้เขียนคิดว่า .. หากผู้เขียนรักษาใจของตนเองได้ดีแล้ว บนโลกนี้ก็จะมีแต่สิ่งสวยงาม จนผู้เขียนสามารถกล่าวได้เต็มปากเต็มคำเสียทีว่า..  ..ฉันมิแลเห็นสิ่งใด เว้นแต่ความวิจิตรงดงาม..  				
..				
comments powered by Disqus
  • space

    24 สิงหาคม 2547 17:19 น. - comment id 76348

    Space in the Space
    ช่องว่างในอากาศคืออะไร 
    ใครนิยามได้บ้าง
  • pigstation

    24 สิงหาคม 2547 17:25 น. - comment id 76349

    ขอชื่นชมครับที่เขียนออกมาได้ตรงต่อความเป็นจริงๆที่เราได้ประจักษ์
    
    หายใจทั่วท้องแล้วครับ
    สถานการณ์ถูกไกล่เกลี่ยแล้ว
    
    ความดีและมีน้ำใจยังมีอยู่
    ตื้นตันใจจริงๆเขียนอะไรไม่ออกแล้วน้ำตาคลอเบ้าเลยเรา  ไม่น่าไปหลงกลอะไรที่เล่นไม่ซื่อเลย
    เกือบไปแล้ว
    ความสมมุติที่เชื่อว่าจริงก็กลับมาเล่นงานเราที่ชอบทำเป็นรู้เท่าทัน
    
    เข็ดเหมือนกันแต่ก็จะอ่านจะเขียนต่อไปไม่เป็นเครื่องมือของใครอีกแล้ว
  • ใยไหม

    24 สิงหาคม 2547 17:45 น. - comment id 76350

    ในที่สุดความจริงก้อคือความจริง    ขอให้มิตรภาพดำเนินต่อไป...
    
    ขอให้ทุกคนมีสติ  มิตรภาพหาได้ยากนัก  เมื่อมีแล้ว  เจอแล้วควรรักษา  อย่าปล่อยให้อารมณ์พียงชั่ววูบมาปั่นทอน....
    
    ขอให้ดำเนินตนอยู่ด้วยสติน่ะค่ะทุกคน  และมิตรภาพจะสดใสงดงาม...
    
  • ฟ้าใหม่

    24 สิงหาคม 2547 19:05 น. - comment id 76351

    เพื่อนเก่า..ว่ายังกับแม่ชีเชียวนะ อย่าลืมขยันเดินตอนเช้าๆ ไม่ลืมหรอก อีก2ปี จะไปวิ่งแข่ง...
    
    เป็นห่วงคุณอัลมิตรานะ ขยันเดินบ่อยๆ แค่2 กิโล..ก็สารภาพซะจะได้หมดเรื่อง..ว่าเสียดายค่ารถ  จะขี่รถ..ก็น้ำมันแพง..
    
    เข้ามาทักทายนะ ต้องรีบไปทำธุระก่อน.คิดถึงเสมอ..ว่างๆมาปะทะ สำนวนกลอนกันสักหน่อยนะ  ต้องส่งเทียบเชิญสักหน่อย..สวัสดีครับ..
  • อัลมิตรา

    24 สิงหาคม 2547 22:31 น. - comment id 76354

    คุณspace .. ช่องว่างในอากาศ ..
    
    อืมม ! ค่อนข้างยากที่จะบอกว่า ณ ที่ๆมีมวลอากาศเบียดอนูกันอยู่ ยังจะเหลือหลืบช่องว่างให้เป็นช่องว่างอยู่อีก จุดที่เล็กที่สุดสำหรับสิ่งที่เกิดจะรับรู้ได้ด้วยสายตา และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ใด ๆ ทั้งมวล อัลมิตราให้คำจำกัดความไม่ถูกเลย กระทั่งรอบๆตัวของอัลมิตรา ไม่ว่าจะหันทิศทางไปยังที่ใด ก็ยังหาที่ๆซึ่งเป็น..Space in the Space.. ไม่พบเลย 
    
    คุณpigstation .. 
    
    อย่ากังวลถึงเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วเลยค่ะ 
    ในโลกสมมุตินี้ เราควรเลือกแต่สิ่งที่ดีๆมารับสัมผัสที่ใจ
    ยิ้มไว้นะคะ ยิ้มแล้วโลกนี้จะสดใสค่ะ
    
    ยัยไหม .. ขอบคุณมากค่ะ ที่เป็นห่วง อ่านข้อความที่ยัยไหมเขียนที่กระทู้ของคุณpigstation แล้ว รู้สึกดีใจ ที่ยัยไหมเข้าใจว่า ความจริงเป็นเช่นไร .. เรารู้ใจกันนะ
    
    คุณฟ้าใหม่ .. จะว่าเสียดายค่ารถ ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันค่ะ คือระหว่างการเดินทาง ผ่านตลาด ผ่านร้านค้าเล็กๆ อัลสิตราชอบที่จะเดินดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยค่ะ ยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงจุดหมายแล้ว ออกกำลังไปในตัวด้วยค่ะ .. ว่างๆ ส่งเทียบเชิญมานะคะ
    
    
  • ทิกิ_tiki ยังไม่ลงทะเบียน

    25 สิงหาคม 2547 00:22 น. - comment id 76357

    รูปนี้สวยดีค่ะ
  • Oracle

    25 สิงหาคม 2547 03:05 น. - comment id 76365

    นอกจากจะเขียนร้อยกรองแล้ว ยังเขียนร้อยแก้วด้วย เก่งจัง ;)
  • อัลมิตรา

    25 สิงหาคม 2547 08:14 น. - comment id 76367

    คุณทิกิ .. มีสามรูปค่ะ รูปไหนคะ อัลมิตราชอบรูปที่หนึ่งจัง ปุถุชน ให้มาค่ะ
    
    คุณOracle .. โอย !! เพิ่งหัดค่ะ เตาะแตะ เตาะแตะ พยายามบอกตัวเองว่าต้องเขียนบ่อยๆ เขียนไปเรื่อย ๆ จนจะกลายเป็น เขียนไปเรื่อยเปื่อย (เปื่อยจริงๆ ) แล้วล่ะค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้กำลังใจ .. สู้ๆๆๆ ตาย ค่ะ
    
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
    
    
  • อัศวายุ

    25 สิงหาคม 2547 10:35 น. - comment id 76368

    งดงามจริงๆเลยครับ
    รูปภาพสวยมาก
  • หมอกจาง

    25 สิงหาคม 2547 11:57 น. - comment id 76370

    อาจจะดูบังอาจไปที่จะขอ \"วิจารณ์\" งานของอัลมิตรา..
    
    ด้วยตัวเองก็สำนึกในภาษาที่งูๆปลาๆของตน จึงไม่เคยที่จะวิจารณ์งานของใครว่า ดี หรือ ไม่ดี.. นอกจากถามกับใจตัวเองว่าชอบ หรือ ไม่ชอบเท่านั้น..
    
    สิ่งที่อยากบอกคือหลังจากได้อ่านงานชิ้นนี้จบ รู้สึกได้ว่า ลงตัว ไหลลื่น กว่าชิ้นต้นๆมากมาย..
    
    ไม่ใช่งานชิ้นต้นๆจะไม่ดี แต่ด้วยเพราะชอบงานชิ้นนี้มากกว่านัก..
    
    .. ถ้ายังเป็นก้าวที่เรียกว่าเตาะแตะอยู่ ก็อยากเห็นยามที่เดินได้แข็ง วิ่งได้แล้วเหลือเกิน..
    
    .. ดูแล้ว น่าจะรออีกไม่นาน..
    
    :)
  • อัลมิตรา

    25 สิงหาคม 2547 13:21 น. - comment id 76373

    คุณอัศวายุ .. ขอบคุณมากค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ 
    
    คุณหมอกจาง .. แต่ละผลงานที่เขียนออกมา หลายหนที่อัลมิตรากลับไปย้อนอ่าน ก็ยังพบว่ามีจุดบกพร่องที่ต้องแก้ไข รวมถึงร้อยกรองด้วยค่ะ ยิ่งเริ่มหัดเขียนตอนแรก ๆ แทบจะรื้อซ่อมเขียนใหม่ทั้งหมดค่ะ หลายครั้งที่นั่งขำตัวเองว่า ตอนนั้นเขียนไปได้อย่างไร (หว่า)  .. 
    
    บทความก็เช่นกันค่ะ อัลมิตราเริ่มต้นหัดเขียนบทความ เนื่องจากสภาวะการณ์บังคับ ลุงราม ลิขิต มอบภาระกิจที่สำคัญมาให้ นอกเหนือจากงานประจำแล้ว อัลมิตราต้องแบ่งเวลาเพื่อที่จะศึกษาวิธีการเขียน ความจนแต้มของอัลมิตราก็คือ จะเขียนอย่างไร ให้ผู้อ่านเข้าใจเสมือนว่าอยู่ร่วมเหตุการณ์ด้วย ตรงนี้อัลมิตราได้คะแนนไม่สู้ดีเลย ความคิดของอัลมิตราโลดลิ่วไปไกลกว่าที่จะหาตัวอักษรมาแทนค่าได้ บางครา นั่งจ้องเสียตั้งนาน เพื่อที่จะสื่อว่า อย่างนั้น อย่างนี้ ..
    
    ขอบคุณมากค่ะ ที่ติดตามผลงานมาโดยตลอด อัลมิตราขอสัญญาว่า อัลมิตราจะพยายามอย่างยิ่งที่จะหัดเดิน แต่ไม่ใช่เพื่ออัลมิตราเท่านั้น อัลมิตราจะทำเพื่อ เพื่อนๆ ทุกคนด้วยค่ะ
    
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
    
  • กุ้งหนามแดง

    25 สิงหาคม 2547 16:28 น. - comment id 76376

    อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า ราบรื่นกว่าเรื่องที่แล้วมา (เรื่องที่มีพ่อค้ากับอาตี๋ส่งลูกเรียนสูงน่ะ อันนั้นมันมีหลายจุดนำเสนอมากเกินไป..ในความเห็นของผู้อ่านอย่างดิฉันนี่ ..น่ะค่ะคุณผู้หญิง..อิอิ..) 
    ..
    ส่วนเรื่องนี้เป็นธรรมชาติมากขึ้นจ๊ะ..พยายามเข้าน่ะ..
    ..
    เขียนมาก็อ่านไปจ๊ะ
    ..
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า...เดียวกัน
    ..
  • ศศิชนก.... Q 2:156

    25 สิงหาคม 2547 17:28 น. - comment id 76378

    "ทุก ๆ คน ย่อมมีอิสระในการดำเนินชีวิตของตน เป็นเจ้าของจิตวิญญาณของตนเอง\"
    
    เป็นเช่นนั้นหรือ?
    สิ่งที่เราคิดว่าเราเป็นเจ้าของมัน จะจัดการอย่างไรกับมันก็ได้ตามใจเรานั้น.... บางทีมันอาจไม่ใช่ของเราจริงๆก็ได้ แล้วเราจะทำตามใจตนเช่นนั้นได้หรือ?
    
    \"การที่จะปรับเปลี่ยนใครสักคน ให้พลิกสภาพความเป็นไปนั้น คงเป็นการกระทำที่ยากยิ่งนัก\"
    
    นั่นสินะ .... แม้ตัวเราเองยังจัดการไม่ได้  จะไปปรับเปลี่ยนใครอื่นได้อย่างไร แม้ว่าอยากจะทำ แต่เราก็คงไม่มีอำนาจอะไรไปเปลี่ยนแปลงเขาได้หรอก 
    
    แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นจริงอย่างทีสุดคือ....
    
    \"สิ่งที่เราควรมอบให้กับเพื่อน น่าจะเป็นสิ่งที่เราเลือกแล้วว่าดีที่สุด\"
    
    สิ่งที่เราเลือกเฟ้นแด่ผู้เป็นที่รักนั้นก็เช่นกัน..... มันคือสิ่งที่ดีสุดที่เราสามารถจะสรรหาให้เธอได้
    --------------------------------- 
    
  • อัลมิตรา

    16 ตุลาคม 2547 13:57 น. - comment id 78100

    ขอบคุณค่ะ คุณกุ้ง 
    
    ขอบคุณค่ะ ครู ..

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน