Feeling part 9 : รวมก๊วน เพื่อนเก่า

จากความฝันสู่ความจริง

ตอนที่ 9 : รวมก๊วน เพื่อนเก่า
   ห้าว!!! เช้านี้ผมตื่นเช้ามากว่าปกติซะอีก ถ้าวันอื่นๆผมคงจะนอนอยู่บนเตียงจนถึง 10 โมงหรือไม่ก็จนกว่าแม่จะเรียกไปทานข้าว แต่เมื่อคืนผมนอนแต่หัวค่ำทำให้อานิสงส์เลยส่งผลมาให้เช้านี้ ผมอาบน้ำแต่ตัวเพราะนัดเพื่อนไว้ที่สยามวันนี้ตอน 10 โมงผมอยากจะไปก่อนเวลานัดเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพ ผมจึงออกจากบ้าน เพื่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าพระโขนง
   อากาศยามเช้าของกรุงเทพก็ดีเหมือนกัน แหะ  ผมพูดกับตัวเองเบาๆแล้วสูดอากาศเข้าไปในปอดลึกๆและมองวิวกรุงเทพ ตอนนี้ผมรอรถไฟฟ้าอยู่บนชานชาลาข้างบนแล้ว สักพักรถไฟฟ้าขบวนแรกของวันนี้ก็มาถึง ผมเข้าไปนั่งในรถไฟฟ้า แล้วรถไฟฟ้าก็เคลื่อนตัวออกไป นั่งไปเรื่อยๆจนถึงสยาม
   สยามตอนเช้านี้ยังไม่ค่อยมีคนมาก ผมเดินเล่นอยู่แถว Center Point เพื่อรอเวลานัดผมเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรู้สึกเหนื่อยจึงนั่งพักที่หน้าร้าน annti ann ไปเรื่อยๆ พระอาทิตย์เริ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ผมมองดูคนที่เริ่มหน้าตาขึ้นก่อนจะเหลือบดูนาฬิกาข้อมือ ใกล้ 9 โมงแล้วผมตัดสินใจ เดินข้ามฝั่งเพื่อไปยัง McDonal ที่เพื่อนๆนัดไว้
   ในร้าน McDonal คนเริ่มเข้ามามากแล้ว บ้างก็เข้ามาเพื่อทานอาหารเช้า หรือไม่ก็รอใครบ้างคนอย่างผมไง ผมเดินไปสั่งน้ำมานั่งดื่มระหว่างรอ
   ไงเอกมานานแล้วหรอว่ะ เอเดินเข้ามาทัก
   อืม... มานานแล้ว ผมตอบกลับไป
   แล้วเพื่อนๆคนอื่นมาหันหรือยังล่ะ เอพูดพร้อมหันไปมองรอบ
   ยังเลย ผมตอบ
แล้วเจ้าเอ ก็ขอไปหาอะไรกินก่อน ผมยังนั่งอยู่ที่เดิม สักพักมือถือของผมก็ดังขึ้น
   ไง เล็กมาถึงยัง ผมถามไปยังปลายสาย
   มาถึงแล้วแต่รอยัยเก๋แล้วเจ้าเฮงอยู่บนสถานี 
   อืม...แล้วรีบมาแล้วกัน ผมวางสาย
   เฮ้ย! เอกใครโทรมาหรอ เอ ถาม
   เจ้าเล็กน่ะ มันบอกว่าเดี๋ยวก็มาถึงแล้วแต่รอเฮงและเก๋อยู่บน... ผมตอบไป
   บนไหนหรอ? เก๋เดินเข้ามาถามพร้อมกับเฮง
   อ้าว!!! ไม่ได้มาพร้อมกับเล็กหรอ ผมอุทาน
   เปล่านิ เฮงตอบ
ยัยเก๋เลยโทรไปบอกเล็กว่ามาถึงแล้ว สักพักเล็กก็เดินเข้ามาในร้าน เดินเข้ามาบ่น
   ไหง ไม่รอเราละ เล็กบ่น
   ก็เรามาแล้วแต่ไม่เจอเธอนิ เก๋ตอบกลับไป
   เฮ้อ!!! รอเก้อเลยเรา เล็กนั่งลงแต่ยังไม่เลิกบ่น
   แล้วเจ้าชิดยังไม่มาหรอ เฮงถามพวกเรา
   แล้วนายเห็นเจ้าชิดหรือไง เล็กตอบไปแบบกวนๆ
   เรานั่งคุยกันสักพักเจ้าชิดก็เข้ามาด้วยท่าทีกระหืดกระหอบ
   โทษที ที่มาสาย เจ้าชิดนั่งและหายใจแรงๆ
   ไม่เป็นไรหรอกชิดแค่ทุกคนรอนายคนเดียวเท่านั้นเอง เฮงบอก
   แล้วนี้เป็นไงกันบ้างละ หืม...??? เก๋เริ่มเปิดประเด็นเลย
   เดี๋ยวซิยัยเก๋ขอเราหายใจก่อน เจ้าชิดยกมือเหมือนจะห้ามและก็หอบต่อไป
   เรานั่งคุยกันไปพลางๆ จนกระทั่งเจ้าชิดหายเหนื่อย ทุกคนต่างก็เล่าเรื่องชีวิตตัวเองที่ผ่านมา เอ ตอนนี้เรียนอยู่ที่มหาลัยกรุงเทพเพิ่งเริ่มเรียนปี 1 เองเพราะย้ายมาจากที่อื่น ทั้งที่เรียนไม่ไหวแต่ก็ยังยืนยันว่าไม่อยากเรียนที่โน่น 
   ส่วน เฮง ออกมาทำงานช่วยพ่อที่ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ซึ่งพ่อเป็นเจ้าของอยู่บางทีงานก็มากจนไม่มีเวลากินข้าวเลย แต่วันนี้หนีงาน พูดไปก็ทำหน้าเสียสงสัยกลัวพ่อว่า
   เล็กเรียนที่มหาลัยศิลปากรเรียนอยู่ปี 3 บ่นว่าเรียนยากมาก เพราะอาจารย์แกเคี่ยวมากเลย จนโดดเรียนบ่อยๆ
   แล้วก็ เก๋ เรียนอยู่มหาลัยเชียงใหม่ เรียนปี 3 เหมือนนกัน มีแฟนแล้วด้วย ยัยเก๋อวดใหญ่เลยว่าแฟนเธอหล่อมาก เจอกันที่เชียงใหม่นะแหละ พูดไม่พูดเปล่ายังเอารูปแฟนในกระเป๋าตังค์มาอวดด้วย
   หน้าหล่อสู้เราก็ไม่ได้ เจ้าชิดบ่นเปรยๆอยู่ด้านหลังกลุ่มพวกเรา
   โห...เจ้าชิดโม้ไม่ดูหน้าตัวเองเลยนะ เล็กแซวกลับ
   ถึงหน้าตาไม่หล่อมากแต่ก็นิสัยดีนะ เก๋พยายามแย้ง
   จ๊ะๆ... เจ้าชิดทำเสียงเลียนแบบผู้หญิง
   เอาแต่แซวคนอื่นเถอะ มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาหรือยัง?
   มีแล้ว น่ารักด้วย พูดไปพร้อมยืด
   จริงหรือเปล่า เอก เก๋ทำหน้าไม่เชื่อ และหันมาถามเอก
   จริง... ผมพยักหน้า
   เฮ้ย....เจ้าเอกก็มีคนที่ชอบแล้วนะเว้ย!! เจ้าชิดแซว
   จริงง่ะ เพื่อนๆทุกคนถามพร้อมกันหมด
   หน้าตาน่ารัก หรือเปล่าว่ะ สวยไหม? เจ้าเล็กถาม
   ก็ใช้ได้ ผมตอบสั้นๆ  ในใจคิดว่าเจ้าชิดตัวแสบไม่น่าพูดเลย
   โห....ร้ายนะเนี่ย เฮงแซวบ้าง
   เออๆ ว่าแต่จะไปไหนกันต่อละ ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง
   ไปดูหนัง เก๋ออกความเห็น
   งั้นไปกันเลยดีกว่า ไป้ ชิดบอกชวนเราไป
   จากนั้นพวกเราก็ขึ้นลิฟต์ไปยังโรงหนังอีจีวี  ไปดูตารางหนังหน้าโรงหนัง พวกเราเถียงกันอยู่สักพักแล้วก็เลือกหนังสยองขวัญ ผมไม่ชอบดูแนวนี้ซักเท่าไหร่ ทั้งๆที่ไม่ได้กลัวผีมากมาย แต่ก็ไม่ชอบที่จะลุ้นในแต่ฉากของหนัง ก่อนเข้าโรงหนังผมเลยไปยืนดูซุ้มตัวอย่างหนังเพื่อทำการบ้านเตรียมตัวเข้าไปดูหนัง เพราะหากผมได้ดูในฉากที่น่ากลัวแล้วจะไม่ค่อยกลัวเมื่อตอนในโรงหนัง
   ได้เวลาเข้าไปดูแล้ว หนังสยองใช้ได้เลย เกี่ยวกับวิญญาณที่ยังวนเวียนอยู่ในบ้านร้าง ซึ่งมีคนหลงเข้าไปและเสียชีวิตทีละคนผมชินแล้วจากการทำการบ้านหน้าโรงหนัง แต่พวกที่เหลือนี้ซิ นั่งเกร็งดูอย่างกล้าๆกลัวๆ ยกเว้นยัยเก๋คนเดียวที่ดูไปหัวเราะไป ผมนั่งดูไปก็ขำไปเหมือนกันที่ขำเพราะดูอาการของเพื่อนที่เหลือ จนหนังจบก็เดินออกมากัน ผมกับยัยเก๋ขำกัน หลังจากดูหนังเสร็จพวกผมก็ไปหาไอติมกินกัน จนบ่ายโมง พวกเราเลยไปหาร้านถ่ายรูป ซึ่งเราเลือกร้านประจำของชิด 
   เฮ้ย! ชิดที่นี่ถ่ายรูปสวยได้สวยหรือว่ะ เฮงถาม
   เปล่า! พนักงานสวย เจ้าชิดตอบอย่างภูมิใจ
   เป็นงั้นไปพวกเรากว่าจะรู้เหตุผลนี้ก็หลวมตัวถ่ายรูปไปแล้ว ตอนถ่ายรูปพี่ๆก็ปวดหัวนิดหน่อย เพราะพวกเรามักจะแกล้งกันเช่นเอาหมอนขว้างกัน แต่จนแล้วจนรอดก็ถ่ายเสร็จ เราเลยไปเดินเล่นที่ Center Point เพื่อรอรับรูป ยัยเก๋เดินดูเสื้อผ้า ส่วนพวกเราก็เดินตามไปเรื่อยๆเหมือนลูกแก๊งยากูซ่ามาเดินและมีบอดี้การ์ดมาคุมข้างหลัง ยกเว้นเจ้าชิดที่เดินไปเหล่สาวไป
   จนบ่าย 3 พวกเราก็กลับไปรับรูป รูปที่ถ่ายออกมาสวยดีเหมือนกัน แต่แพงหายอยากเลย เจ้าชิดก็เลยไม่วายโดนบ่น แล้วพวกเราก็แบ่งรูปกัน เจ้าเฮงขอกลับก่อนเพราะ พ่อโทรมาเรียก เจ้าเล็กขอกลับด้วยเพราะกลับทางเดียวกัน ส่วนเจ้าชิดและเอ ขอเดินต่อ ส่วนผมกับเก๋กลับทางรถไฟฟ้าเหมือนกัน ผมและเก๋เลยแยกตัวจากกลุ่มไปขึ้นรถไฟฟ้า ระหว่างอยู่บนรถไฟฟ้าเก๋บอกว่า
   วันนี้สนุกจังเลยนะ เก๋พูดแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง
   อืม... ไม่ได้รวมกลุ่มอย่างนี้นานแล้วเหมือนกัน ผมตอบพร้อมมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนกัน
   เออ... เอกแล้วเรียนจบไปจะไปทำอะไรล่ะ เก๋หันมามองหน้า
   เราหรอ.... ไม่รู้ซิ อาจไปเป็นหมอก็ได้มั้ง จิตแพทย์น่ะ  ผมตอบไป
   หมอโรคจิตซิไม่ว่า เก๋หยอกผมเล่น ผมหัวเราะ
   แล้วเธอล่ะ ผมถามกลับ
   เราอาจจะเป็นนักร้องมั้ง เราอยากเป็นนักร้องมากเลย เธอพูดแล้วยิ้ม
   โห... ยังงี้เก๋คงได้เป็นนักร้องแน่ๆเลย เสียงเธอดีมากเลยนะ
   ขอบใจนะ
   พวกเรายืนมองออกไปหน้าตาอีกครั้ง ตอนนี้ก็เย็นแล้วในกรุงเทพมีเสน่ห์จากแสงไฟในตอนเย็นหรือค่ำนี้แหละ เรายืนคุยกันไปเรื่อยๆจนถึงสถานีอโศก
   เราคงต้องไปแล้วละน่ะ ยังไงก็โชคดี เก๋บอก
   อืม...เธอก็เหมือนกันละ แล้วเจอกัน  ผมพูดก่อนที่เก๋จะเดินออกไป แล้วเก๋ก็หันกลับมาหลังจากออกไปแล้วและตะโกนบอกว่า
   นี้! อย่าลืมหาแฟนสวยๆมาอวดเพื่อนๆบ้างนะ 
    ผมกำลังจะตอบกลับแต่ประตูก็ปิดลง ผมเลยพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม จนรถไฟฟ้าวิ่งออกไปจากสถานี
    ในรถไฟฟ้าคนไม่ค่อยเยอะแล้ว ผมเลยนั่งลงและหยิบรูปเพื่อนๆที่พึ่งถ่ายเมื่อกี้มาดู อยากให้มีวันอย่างนี้บ่อยๆเพื่อจะได้มีวันที่สนุกๆอย่างนี้อีกกับเพื่อนเก่าๆ
   มาถึงสถานีพระโขนงผมลงมาต่อรถประจำทางเพื่อให้ถึงบ้าน การจราจรตอนค่ำติดขัดมากเหมือนกัน ผมนั่งหลบไปตลอดทางจนถึงบ้าน ผมเกือบจะลงไม่ทันถ้าไม่ได้พี่กระเป๋ารถประจำทางมาปลุก 
    พอผมลงมาถึงหน้าปากซอยผมก็ต่อรถเข้าไปเพราะเหนื่อยจนไม่อยากจะเดิน มาถึงบ้านพ่อแม่กับน้องนั่งดูโทรทัศน์อยู่ ผมขอขึ้นไปนอนก่อนเพราะเหนื่อยและเพลียจากการเดินทาง
    หลังจากอาบน้ำเสร็จผมเดินไปหยิบอัลบัมรูปในลิ้นชักโต๊ะอ่านหนังสือและก็มานั่งที่เตียงก่อนจะหยิบเอารูปใหม่มาใส่อัลบัม ผมลองเปิดดูหน้าเก่ามีทั้งรูปสมัยมัธยม ตั้งแต่ตอนไปเข้าค่าย หรือ ตอนไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ผมยิ้มให้กับรูปเหล่านั้น และปิดมันลงพร้อมกับเอื้อมไปปิดไฟที่หัวเตียงแล้วล้มตัวลงนอนและดึงผ้าห่มมาคลุมตัวนอนและหลับไปด้วยความอุ่นสบาย
***********************************************				
comments powered by Disqus
  • หนอนน้ำคัาง

    31 มกราคม 2548 15:45 น. - comment id 82434

    โห..ยอด   เหมือนตามไปด้วยเลย
  • จากความฝันสู่ความจริง

    1 กุมภาพันธ์ 2548 22:31 น. - comment id 82483

    ขอบคุณมากครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน