ต้อนรับวาเลนไทน์

สุชาดา โมรา

เพื่อน ๆ ทราบไหมคะว่าวันที่  14  กุมภาพันธ์  ซึ่งทุกคนก็รู้กันดีว่าเป็นวันวาเลนไทน์นั้นมีความสำคัญอย่างไร  วาเลนไทน์ ( Valentine ) คือวันที่ระลึกถึง นักบุญเซนต์  วาเลนไทน์ ( Saint Valentine ) ผู้เปี่ยมไปด้วยความรักและความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริงแต่เขาต้องจบชีวิตลงด้วยการรับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หรือเมื่อประมาณ 1,728 ปีมาแล้วในจักรวรรดิโรมัน  ประวัติความเป็นมาของเรื่องนี้เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 3 มีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ "วาเลนตินัส" เขาเป็นคนที่มีความรักและความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์มากทุก ๆ วันเขาจะแอบนำอาหารและของใช้ที่จำเป็นไปวางไว้ประตูหน้าบ้านของคนยากจนโดยไม่ให้คนเหล่านั้นรู้ ซึ่งในสมัยนั้นนะคะศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับในจักรวรรดิโรมันและถือว่าใครที่นับถือศาสนาคริสต์จะมีความผิดร้ายแรงมาก  พวกคริสเตียนจึงถูกข่มเหงและทารุณกรรมอย่างหนัก   เพื่อบังคับให้เลิกเป็นคริสเตียน ใครที่ไม่ยอมเลิกนับถือคริสต์จะถูกทรมานและฆ่าทิ้ง วาเลนตินัส ก็รวมอยู่ในกลุ่มขบวนการถูกขู่เข็ญและทรมานบังคับให้เลิกนับถือศาสนาคริสต์ แต่เขาไม่ยอมจึงถูกจับเข้าคุก ในข้อหาเป็นคริสเตียน
ในขณะที่เขาถูกจับขังคุกนั้น ก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเธอเป็นลูกสาวของผู้คุมในนั้น และด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของคนรักของเขาซึ่งเธอตาบอด หายเป็นปกติ จากเหตุการณ์นี้เองจึงทำให้ผู้คุมและครอบครัวของเขาหันมานับถือศาสนาคริสต์ เมื่อความนี้นี้เองรู้ถึงจักพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ของโรม พระองค์ทรงกริ้วมาก สั่งให้ลงโทษวาเลนตินัส อย่างหนักด้วยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ
ในคืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกนำไปประหารนั้น เขาได้เขียนจดหมายสั้น ๆ เป็นการอำลาส่งไปให้หญิงคนรัก ของเขาและลงท้ายในจดหมายว่า "จากวาเลนไทน์ของเธอ" รุ่งขึ้นของเช้าวันที่  14  กุมภาพันธ์    ค.ศ. 270 วาเลนตินัสก็ถูกนำไปตัดศีรษะและเอาศพไปฝังไว้ที่เฟลมิเนี่ยนเวย์ซึ่งภายหลังมีการสร้างโบสถ์หลังใหญ่คร่อมสุสานของเขาไว้เพื่อเป็น อนุสรณ์รำลึกถึงชีวิตและความรักอันยิ่งใหญ่ของเขา คนทั่วไปประทับใจกับความรักของเขาจึงยึดถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น "วันวาเลนไทน์" ภาษาอังกฤษเรียกว่า Saint Valentine's Day หรือ Valentine's Day หรือวันแห่งความรัก ซึ่งต่อมาได้นิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรปและอเมริกา และเข้ามาในทวีปเอเชียด้วย
แล้วก็ยังมีอีกหลายคนที่สงสัยว่าทำไมความรักต้องแทนด้วยกุหลาบด้วยใช่ค่ะกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้ทราบว่าชายหรือหญิงคนนั้นมีความรักและความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อกัน  คุณรู้ไหมว่าตามวรรณคดีเรื่องหนึ่งของไทยนั้นก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับกุหลาบเหมือนกันเรื่องราวอันหอมหวานและความรักที่แสนจะโรแมนติคของนางฟ้ากับพระราชาในเรื่องมัทธนพาทา  ของรัชกาลที่ 6 ซึ่งพระองค์ทรงประพันธ์ขึ้นไว้อย่างจับใจเพื่อน ๆ ก็ลองไปหาอ่านดูนะคะเพราะถ้าดิฉันเล่าต่อเรื่องราวก็คงจะไม่สนุก  ว่าง ๆ ถ้าเพื่อน ๆ พอจะมีเวลาสักนิดก็ลองไปหาอ่านดูนะคะรับรองว่าจะต้องติดใจอย่างแน่นอนค่ะ
แล้วก็ต้องฝากไว้อีกเรื่องนะคะว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันที่ทุกคนแสดงความรักต่อกันไปทั่วทั้งโลก  เป็นวันที่เปิดโอกาสให้ชายหญิงแสดงความรักต่อกัน  แต่ตามสถิติที่เป็นข่าวกันอยู่ทุกวันนี้นั้นวันวาเลนไทน์ก็เป็นวันที่ทำให้คู่รักหลายคนปันหัวใจและร่างกายต่อกัน  ซึ่งนั่นเป็นวิธีการแสดงความรักแบบที่ผิดจารีตและประเพณีที่ดีของคนไทย  ดิฉันจึงขอฝากเพื่อน ๆ และกลุ่มวัยรุ่นทุกคนที่รักสนุกไว้ว่า  รักสนุกก็ทุกข์ถนัดนะคะ  คิดถึงพ่อแม่ไว้ให้มาก ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปอย่าปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งที่ขัดต่อวัฒนธรรม  จารีต  ประเพณี  ที่ดีของคนไทยซึ่งบรรพบุรุษไทยได้สร้างสมและสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านานให้สูญสลายไปเพราะค่านิยมที่ผิด ๆ ของพวกเราเลยนะคะเก็บนิ้วนางของเราเอาให้คนที่เรารักไว้สวมแหวนให้ดีกว่านะคะและก็ต้องรักนวลสงวนหญิงเอาไว้เพื่อให้ตัวเองมีค่ามากที่สุดจนกระทั่งถึงวันแต่งงาน  เพราะนั่นจะแสดงให้เห็นว่าตัวเราเองมีค่ามากแค่ไหนสำหรับคนที่เรารักและปรารถนาที่จะใช้ชีวิตร่วมกันไปจนแก่เฒ่า				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน