ลา... ๒

ขลุ่ยหลิบ

วันนี้ผมนั่งมองท้องฟ้า
ท้องฟ้าวันนี้ก็เหมือนกับทุก ๆ วัน
ในยามที่ผมได้มอง
ผิดแต่ว่าวันนี้ฟ้าดูไม่สดใสเท่ากับทุกวันที่ผ่านมา
จันทร์เพียงครึ่งดวงในวันนี้หรือเปล่านะ
ที่ทำให้ฟ้าดูเหงาหงอย
ดาวก็พลอยหรี่แสงคล้ายจะดับลับไปกระนั้น
รอบ ๆ ตัวมีเพียงความมืดมิด  ไม่มีเพื่อน  ไม่มีใคร
แม้หรีดหริ่งเรไรยังเงียบเสียง
หากจะพูดถึงความอ้างว้าง  
ดูเหมือนว่า  ผมจะเข้าใจความหมายของคำคำนี้
มากกว่าใคร ๆ
เพราะผมมีสิ่งนี้เป็นดังเงาตลอดมา
เสียงเพลงเพลงหนึ่งดังแว่วมาตามลม
...บินไปเดียวดาย..กลางสายลมแปรปรวน...
เพียงทะเลครวญ....ฟังคล้ายเป็นเพลงเศร้า...
ค่ำคืนนี้ฉันเพลีย..ฉันเหนื่อย..ฉันหนาว
และเหงาเหลือเกิน...
ไม่เคยมีใคร..มีรักแท้จริงใจ...
จ้องมองทางใด..ดูเคว้งคว้างว่างเปล่า...
ฝ่าลมฝนลำพัง...มากี่ร้อนหนาว....
จนล้า...สิ้นแรง...
* ไม่อยากเห็นภาพใด..แม้แต่ท้องฟ้า...
อยากจะพักดวงตา...ลงชั่วกาล....
จะไปซุกตัวนอนซ่อนกายในเงาจันทร์...
จะหลับฝันไม่ขอตื่น..ขึ้นมา.....
คงจะมีเพียง...ลมหายใจรวยริน....
เอนกายบนดิน...ยอมรับความแพ้พ่าย....
ปีกของฉันมันหนัก....บินต่อไม่ไหว....
จะขอพักกายชั่วกาล.....
เสียงเพลงจบแล้ว  ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
แต่สิ่งที่เพิ่มเติม  คือ  ความสะท้อนสะท้านใจ
เนื้อเพลงเพลงนี้ช่างเศร้านัก
คล้ายกับใจผม
ในความคิดของผมยามนี้  กระหวัดไปถึง
คนตัวเล็ก น้องน้อยที่ผมคอยปกป้อง
คอยงอนง้ออยู่ตลอดเวลา  
คนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสดใสเหลือเกิน
เมื่อผมได้เห็นรอยยิ้มของเธอ

นึกถึงวันนั้น
วันที่จากลา
ผมต้องแกล้งทำเป็นว่าไม่สนใจ
แสร้งทำเป็นห่างเหิน  เย็นชา
และหันหลังจากมาโดยไม่หันไปมอง
เพราะผมไม่อยากให้เธอได้เห็นน้ำตา...น้ำตาลูกผู้ชาย

เธอคงไม่รู้ว่า
ผมปวดใจเพียงใดเมื่อเธอบอกลาผมไปไกล
โดยไม่มีเหตุผลและมันก็ต่างจากทุกครั้งที่เธอเอ่ยคำลา
การกล่าวลาครั้งนี้  มีนัยว่าผมจะไม่ได้พบกับเธออีก
ความไม่เข้าใจดูจะเป็นเหมือนม่านบาง ๆ
ที่กั้นให้เราห่างกัน
ผมไม่สามารถจะเหนี่ยวรั้งเธอไว้ได้

ผมครวญคิดถึงเรื่องต่าง ๆ ของเรา
ทุกอย่างที่ผ่านมามันเป็นความทรงจำที่ดีเสมอ
เราต่างก็รู้ว่าเรามีกันและกัน
คอยเสริมสร้างกำลังใจให้แก่กันในยามที่ทุกข์ท้อ
คอยส่งยิ้มอย่างห่วงใยในยามสุข
แต่บัดนี้ทุก ๆ อย่างได้จางหายไป
สูญสลายราวสายลมที่พัดผ่าน

ผมอยากจะเรียกวันคืนเก่า ๆ เหล่านั้น
ให้ย้อนคืนมา
อยากจะขอให้ความสุขที่ผ่านไปราวสายน้ำ
ได้ไหลทวนกลับมา.........

ดวงจันทร์ได้ลาฟ้าไปแล้ว
แสงสีทองได้สาดส่องมาทางทิศตะวันออก
บอกสัญญาณแห่งวันใหม่
เช้าแล้วหรือ........
แต่ผมยังรู้สึกว่าผมยังนั่งอยู่ท่ามกลางความมีดมิด
เพราะแสงตะวันของผมได้ลาจากไปแล้ว........ชั่วนิรันดร์				
comments powered by Disqus
  • 29 มิถุนายน 2548 12:29 น. - comment id 76964

    66.gifงงว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอ เพิ่งโผล่มาจ้ะ5.gif
    
    นึกว่าใครจะลาไปไหนซะอีก อิอิ30.gif
  • ลอยไปในสายลม

    29 มิถุนายน 2548 11:34 น. - comment id 76979

    แสงสว่างจางหายไป
    พร้อมกับหัวใจของฉันในครานี้
  • ทำ มะ ชาด

    29 มิถุนายน 2548 08:34 น. - comment id 77023

    36.gif................@ ไม่จ๊ะ....ไม่นานนะ ....แสงตะวันต้องกลับมา....มืดมิดไม่นาน....พรุ่งนี้จะ...........รุ่งเช้า.....แสงสีทอง.............จะสาดส่องลงมานะ....ความรัก..... ความอบอุ่น......จะต้องกลับมาเหมือนเดิม....พี่จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
  • พี่กี้

    29 มิถุนายน 2548 09:08 น. - comment id 77024

    .. แสงตะวันส่องทางแห่งใจ ..
    .. หากแม้นวันใด .. สิ้นหวัง ..
    .. แสงสีทอง .. สาดทอ .. ก่อพลัง ..
    .. หากพลาดพลั้ง .. ยังอุ่นใจ .. เพราะมีเธอ 
    
    .. แสงตะวัน .. วันนี้ ..
    .. เจ้าริบหรี่ .. แล้วลาลับ .. กลับให้เพ้อ 
    .. ยังรอคอย .. สักวันหนึ่ง .. ได้พบเจอ 
    .. รอเสมอ .. แสงตะวันแห่งหัวใจ ..
  • คนเมืองลิง

    29 มิถุนายน 2548 12:32 น. - comment id 77110

    พี่เองจ้าน้องจิ๊ก ยังไม่มาวนะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน