พูดคุย : มีได้มีเสีย

..สายลมทะเล..

ช่วงนี้มีแต่คนถาม ว่าเมื่อไหร่ผมจะแต่งงาน  ผมได้แต่ยิ้ม นึกสงสัยอยู่ในใจ เอ๊ะ! แล้วคุณมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรด้วยล่ะครับ ถึงอยากจะรู้กันนักนี่ เดี๋ยวผมแต่งก็บอกเองแหล่ะ
ยิ่งถ้าคนถามเป็นผู้ชาย ในใบหน้ายิ้มๆ ผมก็จะครางแฮ่งๆ ใส่
แต่ถ้าคนถามเป็นผู้หญิง นอกจากผมจะสงสัยว่าเธอจะอยากรู้ไปทำไม ผมยังอยากถามต่อว่า
เอ่อ แล้วน้องอยากมีส่วน ได้เสีย กับพี่ด้วยเหรอ
แต่มักไม่ทันได้ถามหรอกครับ เพราะเสียงครางแฮ่งๆ จากคนข้างๆ ทำให้ยั้งไว้ทัน
ฝากไว้ก่อนเถอะ.. เผลอเมื่อไหร่เป็น ได้เสีย
ตั้งแต่เล็กจนโตเท่าที่จำได้ ผมเขียนหนังสือมาเป็นร้อยเล่ม
เล่มที่จำได้ไม่มีลืมนั้น ผมเขียนเมื่อตอนอายุประมาณสี่ขวบ.. ไม่เชื่อเหรอ ไม่เชื่อก็เชื่อซ่ะ
จำได้ หลังเขียนหนังสือเล่มนั้นผมโดนพ่อตีไปหลายที
เขียนที่ไหนไม่เขียน ไปเขียนตรงหน้ากลางหนังสือ นวลนาง ของพ่อ
แล้วตรงไหนรู้ไหมครับ
ก็ตรงนั้นแหล่ะ
ผมไม่รู้ว่าพ่อตีผมทำไม ตอนผมเขียนลง รุไบยาต หนังสือเล่มรักของพ่อ พ่อเห็นก็แค่ยิ้มๆ บ่นนิดหน่อย ไม่เห็นจะโกรธแบบนี้
และหลังจากโดนตีไปหลายที ผมจึงรู้ว่า
หนังสือที่อยู่ใต้เตียงนั้น..เขียนไม่ได้
โดยเฉพาะข้อความซื่อๆ กำกับตรงพื้นที่สำคัญ ..
รักแม่
ตอนผมเรียนปอหก ผมเคยได้สิบคะแนนเต็มในการเขียนเรียงความครั้งนึง
ผมภูมิใจกับเรียงความ ไก่ของผม มาก มันเป็นเรียงความที่เขียนจากเรื่องจริงของไก่ที่บ้าน 
ในวันต่อสู้กับ หมาหยอกไก่ พวกมันรวมพลังต่อสู้รักษาชีวิตลูกเจี๊ยบจนตายเกือบหมดเล้า 
ตอนที่ผมไปถึง เหลือแม่ไก่แค่ตัวเดียวกางปีกโอบบังลูกเจี๊ยบเล็กๆ อีกห้าตัว 
หกชีวิตที่รอด นั่นเพราะผมกลับไปทันไล่ขว้างเจ้าหมาชั่วด้วยก้อนหินและเพลิงแค้น
วันนั้นผมร้องไห้ ..ร้องไห้แบบไม่อายไก่..ร้องไห้ปิ่มๆ ใจจะขาด 
ความรู้สึกเวลานั้น..เหมือนหญ้ากำลังหมดไปจากโลก
อะไรนะ มันเกี่ยวกันตรงไหนนะเหรอ
อืม จริงด้วยซิ ผมเลิกกินหญ้าตั้งแต่เข้ากรุงเทพมาตั้งนานแล้วนี่
ผมเป็นคน..ผมเป็นคน..ผมบอกตัวเอง
ไม่เชื่อเหรอ ไม่เชื่อก็เชื่อซ่ะ
ตอนที่ผมเห็นตัวเลขสิบคะแนน ผมเดินน้ำตาไหลไปหาคุณครู
คุณครูบอกผมว่า
นี่เป็นเรียงความชิ้นสุดท้ายก่อนจบการศึกษา และเธอเป็นประธานนักเรียน ครูจึงอยากให้เธอได้คะแนนเต็มสักครั้ง
น้ำตาที่ไหลพอซึมๆ จึงแตกทะลักเป็นสาย
รางวัลซีไรท์ที่ได้..เหมือนโกงเขามา
หลังจบปอหกไปเรียนมัธยมจนจบมาทำงาน ผมไม่เคยได้คะแนนเต็มสิบในการเขียนเรียงความอีกเลย
ไม่ใช่ซิ ไม่เคยได้เกินเจ็ดคะแนนด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่ได้สมุดคืน จะมีปากกาแดงเขียนตัวโตๆ ว่า
อ่านไม่ออก
ผมได้แต่นึกสงสัย ครูเรียนจบมาได้ยังไง ภาษาไทยยังอ่านไม่ออก
แต่พอนึกถึง ซีไรท์สิบคะแนน ผมจึงยิ้มได้
ที่แท้ครูก็เป็นประธานนักเรียนเหมือนผม
บนบรรทัดฐานทางสังคม
ความถูกต้องมักยืนอยู่ข้างเดียวกับความรู้สึก ถึงไม่แนบชิดสนิทใกล้ แต่ก็ไม่ไกลจนโหยหา
อย่ามัวถามหาความยุติธรรมที่ตรงเผง เพราะทั้งชีวิต..อาจไม่มีโอกาสได้เจอเลย
ถ้าความยุติธรรมไม่ลำเอียงจนโหดร้าย สักวันมันคงเอียงมาทางเราบ้าง
และถ้าถึงวันนั้น..จงรับมันเข้ามาอย่างมีสติ
เพราะความยุติธรรมแบบเอียงๆ ที่มาช้า.. เมื่อมาแล้ว มักมาแบบถล่มทลายเสมอ				
comments powered by Disqus
  • นางสาวใบไม้

    17 ตุลาคม 2548 15:40 น. - comment id 87255

    ไม่ได้เข้ามาถามนะคะ
    
    แต่ไม่ใช่กลัวคำตอบ
    
    เพราะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยแน่ๆ46.gif
    
    แต่มาอ่านบทสรุป..ตอนท้าย
    
    เลยได้ข้อคิด..เตรียมใจไว้รับความยุติธรรมบ้าง
    
    ทั้งที่ไม่เคยอยากเป็นประธานนักเรียนและกวีซีไรท์เนี่ยแหละ65.gif 
    
    ชื่นชมค่ะ41.gif
  • ..สายลมทะเล..

    17 ตุลาคม 2548 16:12 น. - comment id 87256

    นางสาวใบไม้ก็ระวังความยุติธรรมที่เข้ามานะครับ..
    อ้อ เรื่องเขียนก็คือเรื่องเขียนนะครับ ไม่ใช่เรื่องจริง
  • หมอกจาง

    17 ตุลาคม 2548 16:23 น. - comment id 87257

    ก่อนอื่นต้องบอกว่าแอบตามอ่านเรื่องคุณมาตลอด.. เห็นเรื่องที่คุณทยอยเขียนออกมาดีขึ้นๆเรื่อยๆ
    
    เรื่องนี้เลยมาลงชื่อไว้สักหน่อย เพราะชอบมาก...
    
    40.gif
  • ..สายลมทะเล..

    17 ตุลาคม 2548 16:50 น. - comment id 87259

    ไม่ต้องแอบอ่านหรอกครับ ไม่ใช่หนังสือปกขาวที่ไหน อยากอ่านก็อ่านให้มันโจ๋งครึ่มกันไปเลย.. 
    อุตส่าห์มาลงชื่อ..แหม น่ารักจริง

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน