** น้ำตานางฟ้า **

แก้วประเสริฐ


                                    **  น้ำตานางฟ้า  **
     หยาดฝนโปรยปรายเป็นละอองเล็กๆถูกกระแสลมพัดสาดต้องหน้าต่าง
ที่เปิดแง้มๆไว้เข้ามาสู่ภายในห้องเล็กๆแคบๆพร้อมด้วยลมกรรโชกเป็นบางครั้ง
ทำให้ภายในห้องชื้นแฉะเปื้อนเปรอะ
      ภายในมุมห้องมีเตียงซึ่งห่างจากหน้าต่างเล็กน้อยถูกนอนไว้ด้วยหญิงสาว
ใบหน้าเธอแดงกร่ำ ผ้าห่มที่คลุมร่างเธอสั่นไหว ร่างนั้นสั่นสะท้านเป็นบางครั้ง
     เธอลืมตายกศีรษะเผยอขึ้นมองดูสายฝนที่กำลังโปรยปราย ท้องฟ้าที่เกือบจะมืด
ครึ้มแต่มีแสงสลัวๆของเช้าวันใหม่สาดเข้ามาเลือนรางนอกหน้าต่าง พลางถอนใจ
หากเป็นปกติแล้วเธอจะรีบกระวีกระวาดลุกขึ้นปิดหน้าต่างและจัดการภายในให้
สะอาด  แต่บัดนี้เธอทราบดีว่าร่างกายเธออ่อนเพลีย เรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหนหมด
ความหนาวสะท้านเข้าสู่ใจหล่อนด้วยอากาศค่อนข้างเย็น   
     หล่อนนึก...เราคงเป็นไข้ คงจะติดจากการที่ต้องคอยดูแลปฏิบัติชายคนหนึ่ง
                          ตลอดทั้งคืน และเดินกลับหอพักตากสายฝนที่กระหน่ำอย่างหนัก
                          เกือบทั้งคืน มาเว้นตอนใกล้ๆจะสว่างสายฝนจึงเพลาๆเป็นละออง
                    แต่ก็ไม่วายที่ต้องเปียกโชกอีกเมื่อฝนกระหน่ำมาอย่างมากมาย
                          ด้วยความรีบร้อนเพราะต้องไปเข้าเวรในตอนเที่ยง
                          จึงเพียงผลัดเปลี่ยน เครื่องแต่งกายแล้วเข้านอนพักผ่อนรอเวลา
                           ถึงแม้ว่าเธอจะทานยาป้องกันไว้ก็ไม่วายรู้สึกครั่นเนื้อตัวเป็นไข้ 
     หล่อนเหลือบสายตามองนาฬิกาที่วางไว้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง บ่งบอกเวลาจะเกือบ
เก้าโมงเช้า  โอ้..เหลือเวลาไม่เท่าไหร่แล้ว  เธอพยายามลุกขึ้นทั้งที่ร่างกายหนาว
สะท้านแต่ด้วยความสำนึกในหน้าที่รับผิดชอบที่ได้รับการมอบหมาย  จึงสู้อุตส่าห์
พยายามพยุงร่างกายลุกขึ้นเดินไปปิดหน้าต่างเพียงแง้มๆเพื่อให้อากาศได้ถ่ายทอด
เข้าสู่บ้างไม่มากนัก  พร้อมเปิดวิทยุเล็กๆหัวเตียงเพื่อฟังเหตุการณ์ต่างๆแล้วเดินไป
เสียบปลั๊กน้ำร้อนตรวจสอบน้ำให้มากพอที่จะนำมาชำระร่างกายตนเอง เพื่อบรรเทา
ความร้อนในร่างกาย
     ความสดชื่นเข้ามาหลังจากเธอได้ชำระล้างสิ่งต่างๆร่างกายด้วยน้ำอุ่นๆพร้อมทั้ง
ทานยาแก้ไข้ในเวลาต่อมา  แต่งตัวลำลองเพื่อคอยเวลาแม้ว่าอาการจะดีขึ้นเล็กน้อย
ก็ตาม  เธอย้อนความคิดถึงคนไข้ที่เธอได้คอยดูแลปฏิบัติซึ่งมีอาการเพ้อตลอดเวลา
เนื่องจากได้รับอุบัติเหตุจากรถยนต์ เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคาย
จะจัดว่าหล่อเหลาก็ไม่เชิง แต่ด้วยสาเหตุใดไม่ทราบทำให้เธอสนใจเป็นพิเศษต่างกับ
คนไข้อื่นๆที่เธอเคยดูแลรักษาพยาบาลมา หรือเพราะความสงสารประกอบกับจิตใจ
เธอที่อ่อนไหวก็ไม่เชิง
     ช่างเถอะ หน้าที่คือหน้าที่   หล่อนคิด
      อย่าให้สิ่งอื่นใดแทรกซ้อนกว่าหน้าที่เราน๊ะ หล่อนรำพึงกับตนเองพร้อมทั้ง
สะบัดศีรษะเบาๆ
  ถึงแม้ว่าใบหน้านั้นยังคงจะวนเวียนหลอกหลอนเธออีกก็ตาม ผิดแผกจากใบหน้า
คนไข้อื่นๆที่เธอประสบมาแล้วก็ลืมหายไป
       จะบ้าหรือเรา คิดมากไปได้  หล่อนพร่ำกับตัวเอง
     เธอรีบจัดการกับอาหารตอนเช้าจะเรียกว่าสายก็ได้เพื่อเตรียมตัวไปเข้าเวร
ทำหน้าที่ต่อที่เคยกระทำคือไปรับรายงานจากหัวหน้าที่จะสั่งงานให้เธอทำในแต่ละวัน
เมื่อเวลานาฬิกาตีบอกเวลา สิบเอ็ดโมง ทั้งๆที่ร่างนั้นยังซวนเซดุจคลื่นต้องลมก็ตาม
     เธอยิ้มให้กับตัวเองที่หน้ากระจกรีบแต่งใบหน้าด้วยความรีบร้อนหาได้สนใจต่อ
ใบหน้าของเธอว่าจะเป็นประการใดไม่ เพียงเพื่อความต้องการให้เรียบร้อย แล้วตรวจ
สอบการแต่งกายชุดพยาบาลที่ขาวให้แลดูขาวสะอาดเสมอๆ
 ชุดแต่งกายนี้มันเป็นความภาคภูมิใจต่อเธอยิ่งนัก กว่าจะได้ผ่านการทดสอบต่างๆนาๆ
ผ่านการศึกษาเล่าเรียนและการทดลองอีกนานจึงจะสามารถแต่งกายชุดนี้ได้
ด้วยความภาคภูมิ เธอเรียกชุดนี้ว่า  ชุดแห่งนางฟ้า แน่ล่ะนางฟ้าที่แสนสวยตลอดกาล
     ใช่แล้วชุดแห่งความสะอาดบริสุทธิ์ยิ่ง  ฉะนั้นเราต้องทำตัวเราให้เหมือนชุดที่เรา
ได้แต่ง เสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อผู้อื่นทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจไม่ว่าแม้จะเกิด
อะไรขึ้นแก่เราก็ตาม  หล่อนรำพึงด้วยความสุขที่ภาคภูมิใจเสมอมา
     นี่เธอแม่วิภาวดี...ทำไม..มาช้าไปเกือบ ห้านาทีละย๊ะ  เสียงพยาบาลอาวุโสกล่าว
     ฉันบอกเธอเมื่อวานว่าให้มาก่อนเวลาทำงานสัก สิบนาทีนะ สำเนียงกล่าวย้ำดังอีก
      ขอโทษค่ะ..แม่...สงสัยนาฬิกาของหนูเป็นเหตุ..ค่ะ   หล่อนกล่าวอ้าง ซึ่งอันที่
จริงอาจจะเป็นนาฬิกาก็ได้ มันช้าทำให้พลาดไปผิดเวลาไปเกือบห้านาที
     ไม่เป็นไรหรอก...ทีหลังให้เร็วกว่านี้อีกนะ  ปกติเธอเป็นคนตรงต่อเวลานี่นา
        ไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย...เออ...ทำไมหน้าตาเธอถึงแดงมากล่ะเป็นอะไรหรือ?
หญิงอาวุโสผู้เป็นหัวหน้าถามด้วยความสงสัย
       หนูไม่ค่อยสบายค่ะ...ตากฝนเมื่อคืนนี้  แต่ก็ทานยาแล้วค่ะแม่   หล่อนตอบ
     แล้วจะทำงานไหวหรือเธอ...ไปพักผ่อนก่อนดีไหมเดี๋ยวจะเป็นมากนา 
พยาบาลอาวุโสกล่าว พร้อมทั้งเอามือไปแตะหน้าผากหล่อน
       โอ้ว.?..เป็นมากเสียด้วยซิ  งั้นไปนอนพักผ่อนเถอะทางนี้ฉันจัดการเอง 
หัวหน้าพยาบาลกล่าว
     จริงซินะ...พยาบาลภายในการปกครองของท่านทุกๆคนต่างให้ความรักเคารพ
บูชาหัวหน้าพยาบาลคนนี้เทียบเท่า  แม่    เธอเป็นแม่พระประจำใจของทุกๆคน
เธอสอนในสิ่งที่เราไม่รู้ เธอปกป้องยามที่ทุกๆคนได้รับความเดือนร้อนโดยไม่คำนึง
ว่าการกระทำของเธอจะต้องทำให้หน้าที่การงานเธอต้องถูกตำหนิจากผู้บังคับบัญชา
แต่ก็พ้นผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ได้ทุกๆครั้ง  จนเป็นที่กล่าวขานทั่วๆไปของแผนกอื่น
และในการกลับกันก็ได้รับการสรรเสริญจากผู้บังคับบัญชาต่อหน้าเหล่าพยาบาล
ทั้งหลายให้ยึดแนวทางการปฏิบัติเยี่ยงอย่างเธอเป็นตัวอย่างที่ดีได้ เพราะงานของเธอ
ได้รับประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งจากความร่วมมือร่วมใจของผู้ใต้บังคับบัญชา
ของเธอทั้งหลายที่ทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้แก่เธอ  จนได้รับคำชมสรรเสริญจาก
รัฐมนตรีสาธารณสุขและผู้ใหญ่ในวงราชการให้ความไว้วางใจจะมาเป็นคนไข้ใน
แผนกของเธอ บางครั้งต้องสั่งจองล่วงหน้ากันเลยทีเดียว   เธอนึกย้อนหลัง
     ขอบคุณค่ะแม่..แต่ว่าหนูคิดว่าพอทำได้ค่ะ  หล่อนกล่าวพร้อมมองหน้าหัวหน้า
     จริงอีกซินะ  บางครั้งแม่ก็มีอารมณ์บ้างแต่ทุกๆอย่างแฝงไว้ด้วยเหตุผล แต่ภายใน
จิตใจทุกๆคนรู้ดีว่า แม่เป็นคนที่มีความเมตตา อารี โอบอ้อมเสมอๆ...ผิดเธอจะขอโทษ
ต่อหน้าทุกๆคนไม่คำนึงว่าจะเป็นหัวหน้าก็ตามที...เรียกว่าผิดว่ากล่าวตักเตือน..
ถูกจะชมและการกระทำของเธอแสดงต่อหน้าเสมอๆทันที..
ไม่มีการนินทาลับหลังเลยสักครั้งหรือใช้ตำแหน่งหน้าที่ของเธอกลั่นแกล้ง
ใครทั้งสิ้นโดยเด็ดขาด  หล่อนรำพึงพร้อมทั้งภูมิใจที่เธอเองเรียกหล่อนว่า   แม่  
ได้เต็มปากเต็มคำ  ในส่วนลึกเธอคิดว่าจะดำเนินตามรอยอย่างที่ดีนี้ตลอดไป
     ถ้าอย่างนั้นตามใจเธอนะ...เอาอย่างนี้เธอไปเฝ้าไข้ต่อจากเมื่อคืนนี้ก็แล้วกัน  หน้าที่
อื่นฉันจะให้คนอื่นเขาไปดูแลแทน อ้อ...แล้วก็พยายามพักผ่อนด้วยนะ อาการจะได้ดีขึ้น
เสียงผู้ที่ได้รับสมนายามว่า แม่ กล่าวขึ้นสั่งงานให้เธอทำในวันนี้ด้วยความห่วงใย
      ค่ะแม่ เธอกล่าวรับพร้อมจัดหาเครื่องมือจำเป็นบางอย่างก้มศีรษะออกเดินไป
พร้อมคำนึงคิดถึงใบหน้าอันคมคายของผู้ที่หล่อนต้องไปดูแลรักษา
      จะบ้าแล้วหรือเรา.. คิดอะไรบ้าๆไปได้  หล่อนสะบัดศีรษะเบาๆเพื่อผ่อนคลาย
อารมณ์ที่นอกลู่นอกทางของหล่อน พร้อมร่างที่ค่อนข้างจะเซเล็กน้อย
       ทุกๆสิ่งทุกอย่างย่อมเป็นไปตามลิขิตของเวรกรรมที่หมุนกระแสนำทางผ่านเข้ามา
ของทุกชีวิตหลายๆคนในโลกใบนี้  จะมีทั้งปวดร้าว  สุขสมพูนสุข   สิ้นหวังและผิดหวัง
วันคืนผ่านพ้นไปช้าบ้างเร็วบ้างตามสภาวะของบุคคลที่ได้รับผลจากการกระทำของผู้นั้น
หาใช่วาสนาที่บางคนไขว่คว้าเพื่อต้องการโดยไม่คำนึงผลแห่งการกระทำ   เพียงหวังแค่
มันจะต้องได้  มันจะต้องประสบความสำเร็จตามคาดหวังหรือตั้งใจโดยตั้งหน้าบูชาในสิ่ง
ที่ไม่ควรบูชาเพื่อเรียกร้อง ขอร้องต่อสิ่งนั้นๆ โดยตนเองไม่ช่วยเหลือตนเองคอยแต่หวัง
ลมๆแล้งๆว่า ต้องได้ในสิ่งที่สร้างสมไว้โดยไม่คำนึงว่าชีวิตนี้เคยทำอะไรบ้างถูกหรือ 
ผิดอย่างไรบ้างโดยไม่คำนึงว่าสิ่งนั้นๆเป็น ความดีหรือความชั่ว ที่ควรแยกแยกสิ่งนั้นออก
อย่างไหนจะมากกว่ากัน สิ่งนั้นจะเป็นไปได้หรือไม่ได้ก็ตาม  หาใช่เป็นแนวหนทางทางหนึ่ง
ที่จะต่อยอดทอดสู่การเดินทางของชีวิตนั้นๆก็หาไม่  เพียงหลงคิดผิดในตัวเราเองเสมอๆ 
     ความรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง ความเอาใจใส่ดูแล ความเมตตาปราณีที่หล่อนนำ
ลงสู่ช่วงชีวิตของการทำงานเลียนแบบแม่พระของหล่อนอย่างไม่ย่อท้อแม้จะลำบากยากเข็ญ
ก็ตามโดยไม่คำนึงว่าจะมีฐานะสูงต่ำอย่างไรของผู้ที่หล่อนเข้าทำการรักษาดูแล  เพียงปรารถนา
สิ่งเดียวคือการพ้นทุกข์ของผู้ป่วยไข้ที่หล่อนได้รับมอบหมายหรือแม้กระทั่งมิได้รับมอบหมาย
ก็ตามหล่อนพร้อมเสมอที่จะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ให้พ้นจากภัยพิบัติปลอดภัยทั้งนอกหน้าที่
หรือในหน้า มิคำนึงถึงการมีครอบครัวของหล่อน จนกระทั่งเวลาผ่านพ้นไปหลายๆปีก็ตาม
     หาใช่ว่าหล่อนจะปราศจากความรักก็หาไม่ เพียงแต่ความรักของหล่อนนั้นกลับทุ่มเทให้
กับผู้ที่กำลังรอการปลดปล่อยจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายจนลืมถึงความสุขส่วนตัวของตนเอง
จนกระทั่ง...ได้รับการกล่าวขวัญว่า...
     สงสัยยายคนนี้จะเป็นโสดแก่ไปจนตาย  จากเพื่อนพยาบาลรุ่นพี่และรุ่นน้องที่คอย
สดับเฝ้ามองหล่อน จะว่าหล่อนนั้นมีใบหน้าที่อัปลักษณ์หรือทรวดทรงที่ปราศจากคนสนใจ
หรือก็หาไม่  หล่อนกลับมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส สง่าราศีงามทรวดทรงที่ได้รับการดูแลเอาใจ
ใส่เป็นอย่างดีถนอมพละกำลังไว้เพื่ออุทิศให้แก่งานของหล่อนเท่านั้นอย่างงดงาม ทำให้หล่อน
แลดูเยาว์วัยกว่าวัยที่หล่อนควรได้รับ   ด้วยความดีหลายๆประการในการอุทิศตนสร้างความดี
ด้วยผลงานทั้งทางด้านกายและจิตใจ  สิ่งที่มิได้หวังคาดหมายใดๆทั้งสิ้นก็บังเกิดขึ้นกับหล่อน
     วันนั้นเป็นวันงานประจำปีที่ทางโรงพยาบาลจัดขึ้นเพื่อแสดงน้ำใจแก่เจ้าหน้าที่ภายใน
โรงพยาบาลที่สู้อุตสาหะวิริยะทำมาตลอดทั้งปี    ซึ่งนับว่าเป็นงานใหญ่ก็จะกล่าวได้
เพราะได้รับความเมตตาจากท่านรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขพร้อมคณะรัฐมนตรี
ต่างๆได้มาร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย
        ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้อ่านพิธีการต้อนรับคณะรัฐมนตรีที่มาเยือน
แถลงนโยบายต่างๆที่โรงพยาบาลได้จัดทำขึ้นเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในช่วง
ที่ผ่านมา และถือเป็นเกียรติสูงสุดที่จะมอบประกาศนียบัตรเกียรติคุณเพื่อมอบให้
แก่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล     ตลอดจนเลื่อนตำแหน่งต่างๆให้กับเจ้าหน้าที่
โดยท่านรัฐมนตรีประจำกระทรวง จะขอเป็นผู้แจกเองตามหมายกำหนดการและติด
ยศตำแหน่งนั้นๆด้วยตัวท่านเอง
        ทุกๆอย่างเป็นที่ทราบแล้วของผู้ที่จะได้รับเกียรติอันนี้ ถึงแม้จะเป็นความลับ
เพราะทางโรงพยาบาลต้องการเซอร์ไพร์ส แต่ก็ไม่วายที่จะแย้มออกมาให้ทราบจากหัวหน้า
เกือบทุกๆคนเพื่อความพร้อมเพรียง ยกเว้นคนบางคนเท่านั้น ทุกคนต่างพากันเตรียมตัวพร้อม
ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส  แต่ทว่าหล่อนหาได้ทราบร่วมกับเขาไม่แต่หล่อน ก็มีอารมณ์
ยิ้มแย้มเสมอ หล่อนคิดว่า
      ความดีนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเราเสมอไป  คนอื่นก็เพียบพร้อมดีกว่าเรา 
เราต้องพยายามต่อไปวันหนึ่งคงจะเป็นของเราบ้าง ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้ก็ตาม
         หลังจากที่ท่านรัฐมนตรีกล่าวรับทราบนโยบายต่างๆจากท่านผู้อำนวยการแล้ว ก็ยืนคอย
เพื่อแจกรางวัลและติดยศให้แก่ผู้ที่ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น   สิ่งที่ทุกๆคนแปลกใจอย่างยิ่ง
ก็คือทุกๆคนนึกว่าท่านรัฐมนตรีประจำกระทรวงนั้นคงจะมีอายุมากเลยวัยกลางคนไปแล้ว
กลับความคิดเหล่านี้ไปเสียสิ้น กลับเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามใบหน้าคมคาย จนเป็นที่แอบฮือฮา
ของเหล่าสาวๆพยาบาลตลอดจนเจ้าหน้าที่อื่นๆโดยคาดคิดมิถึง บางคนที่ติดตามผลงานของ
รัฐบาลก็ทราบบางคนก็ไม่ทราบ ซึ่งใบหน้านั้นผิดกับรูปที่ลงในหนังสือพิมพ์โดยสิ้นเชิง
         โดยเฉพาะหล่อนนั้นจำได้เพียงคลับคล้ายคลับคลาเท่านั้นอีกอย่างหนึ่งงานในหน้าที่
หล่อนทำให้ขาดการหมกมุ่นสนใจข่าวบ้านเมืองนอกจากได้รับฟังจากวิทยุเล็กๆที่หล่อนใช้
ฟังเหตุการณ์เท่านั้น
   หล่อนคิด   อืมมๆช่างคล้ายเสียจริงๆนะ  ความคิดย้อนกลับไปถึงชายหนุ่มใบหน้าคมคาย
ที่สร้างให้หล่อนต้องหวั่นไหวไปในขณะที่เข้าเฝ้าดูแลพยาบาลคนไข้รายหนึ่ง
 ช่างเถอะ...คนเราอาจจะคล้ายๆกันก็ได้...มีแยะไปที่ใบหน้ารูปร่างคล้ายๆกัน... หล่อนรำพึง
  แปลกจริงน๊ะ..ที่เราพยายามลืมไปแต่ทำไมใจเรากลับวุ่นวายกังวลไปก็ไม่รู้ แม้เขาผู้นั้นจะกลับ
ไปนานแล้วก็ตาม นี่ก็ผ่านมาหลายๆปีแล้วนา   หล่อนอุทานในใจ
           การเรียกขานรายชื่อเพื่อเข้ารับการติดยศและมอบใบประกาศนียบัตรเกียรติคุณ ค่อยๆผ่านไป
ทุกๆครั้งจะมีการปรบมือและถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอย่างเกรียวกราว ใบหน้าที่แสดงความดีใจทั้งผู้รับ
และผู้ที่ร่วมแสดงความยินดีด้วย  เวลาผ่านไปจนกระทั่งทุกๆอย่างใกล้จะเรียบร้อยแล้ว
    ท่านผู้อำนวยการท่านก็ประกาศต่อทุกๆคนว่า  ยังมีอีกผู้หนึ่งที่ทางท่านรัฐมนตรีของสงวนนาม
ไว้เป็นพิเศษจะมอบเครื่องหมายยศพร้อมทั้งเครื่องแต่งกายให้แก่ผู้นี้พร้อมทั้งจะกล่าวคำเป็นพิเศษด้วยตนเอง
  แล้วท่านก็เงียบไปพร้อมหันหน้าไปยิ้มกับท่านรัฐมนตรีฯซึ่งก็ยืนยิ้มตื่นเต้นยินดีเช่นกัน
     ทุกๆคนรอคอยวาระเหตุการณ์นี้ด้วยหัวใจระทึก ตื่นเต้น ใครหนอที่จะได้รับเกียรติอันยิ่ง
ใหญ่ครั้งนี้จากท่านผู้อำนวยการของโรงพยาบาลที่จะกล่าวขานถึงบุคคลผู้ได้รับให้ก้าวออกมา
    กลับผิดคาดของทุกๆคนเมื่อเห็นท่านผู้อำนวยการฯ ส่งหนังสือมอบให้แก่ท่านรัฐมนตรีประจำ
กระทรวงเป็นผู้กล่าวนามผู้ที่ได้รับเกียรตินี้เสียเอง
      ข้าพเจ้าในฐานะเป็นผู้เกี่ยวข้องดูแลโรงพยาบาลแห่งนี้ และเครือข่ายต่างๆที่ได้รับมอบหมาย
จากรัฐบาล  รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากทุกๆท่านที่มาร่วมในงานครั้งนี้โดยเฉพาะจาก
ท่านผู้อำนวยการ...ผู้บริหารและตลอดจนทุกๆคนในที่นี้ ที่ได้ช่วยร่วมแรงร่วมใจ อุตสาหะ
วิริยะ อดทนช่วยเหลือเกื้อกูนไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยด้วยความยากลำบาก รักษาดูแลผู้ป่วยทุกๆคน
ให้พ้นจากโรคาพิบัติทั้งปวง ซึ่งการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นถือได้ว่าเป็นทุกข์อย่างหนึ่งย่อมทำให้
ผู้ที่ได้รับเกิดความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส หากได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีก็จะบรรเทาทุกข์
สิ่งเหล่านั้นได้  จนพ้นความเจ็บปวดทุกข์ทั้งหลายตามแต่เวรานุสากรรมของแต่ละบุคคลนั้นๆ
จากโรงพยาบาลนี้  จนเป็นที่กล่าวขานของบุคคลทั่วๆไปความทราบไปจนถึงรัฐบาล
ลดทอนปัญหาต่างๆให้แก่รัฐบาลได้เป็นอย่างดี  จนมีรัฐมนตรีบางท่านและครอบครัวให้
ซึ่งความไว้วางใจมาเข้ารับการรักษาอย่างเนืองแน่น  นี่แหละคือคุณงามความดีที่ทุกๆท่าน
ได้อุตสาหะไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยสร้างไว้จนเป็นที่เลืองลือไปไกลแก่ประชาชนทั่วๆไปทั้งหลาย 
ซึ่งก็ทำให้งานของพวกท่านต้องเพิ่มภาระมากยิ่งขึ้น แต่ก็สำเร็จไปด้วยดียิ่ง และพร้อมทั้งการ
กล่าวขวัญชมเชยไว้มากมาย  เป็นที่น่ายินดียิ่ง
ถือได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของรัฐบาล ตลอดจนโรงพยาบาลต่างๆก็ว่าได้...
           ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยเข้าได้รับการรักษาดูแลเนื่องจากได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ในขณะ
ที่ไปปฏิบัติราชการและได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนฝูงนำมาที่โรงพยาบาลนี้ทั้งๆที่สติข้าพเจ้าลวนเลแต่
ยังดีอยู่ก่อนจะสลบไป 
    บอกตรงๆข้าพเจ้าไม่รู้จักโรงพยาบาลนี้ดีเท่าไหร่หรอก เพราะ
มิใช่ว่าเป็นแค่โรงพยาบาลเล็ก พอเข้ามาแล้วจึงซึ้งน้ำใจของทุกๆคนช่างยิ่งใหญ่ไพศาลจริงๆ
ซึ่งอาจจะเหนือกว่าโรงพยาบาลแห่งอื่นก็ว่าได้   ความซาบซึ้งครั้งนั้นซึมซาบแก่ข้าพเจ้ามาก  คิดว่า
สักวันหนึ่งคงจะได้มาเยี่ยมเยียนสถานที่แห่งนี้   บัดนี้ความคิดของข้าพเจ้าก็สัมฤทธิ์ผลทำให้
ข้าพเจ้าตื่นเต้นมาก สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าคอยเฝ้าติดตามโดยไม่แสดงตัวถึงการทำงานของบุคคลหนึ่ง
ซึ่งเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมทุกประการ ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีถึงแม้ว่าคุณเธอนั้นครั้งหนึ่ง
จะเจ็บไข้ได้ป่วยแต่ก็ยังเฝ้าดูแลข้าพเจ้าเปรียบเสมือนบุคคลที่ปกติธรรมดา 
ทั้งๆที่ร่างกายคุณเธอกำลังเจ็บป่วย อุตส่าห์ดูแลจนข้าพเจ้าหายปกติและ
ออกจากโรงพยาบาลไป แต่ข้าพเจ้าก็ยังให้คนสนิทข้าพเจ้าคอยสอดส่องดูแลการกระทำของเธอ
และรายงานต่อข้าพเจ้าอยู่เสมอมามิได้นิ่งนอนใจ  ที่ข้าพเจ้าไม่อาจมาเพราะจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้
เกิดความไม่สบายใจแก่หล่อนหรือทำให้ได้รับการครหานินทาต่างๆนาๆอันอาจจะทำให้เธอ
นั้นเกิดความไม่สบายใจในตำแหน่งหน้าที่ของข้าพเจ้า เพียงรอโอกาสที่เหมาะที่ควรเท่านั้น
โดยปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินไปตามครรลองขั้นตอน จนผู้นั้นได้รับความไว้วางใจจากท่านผู้อำนวยการ
เลื่อนตำแหน่งของคุณเธอขึ้น   นั่นแหละข้าพเจ้าจึงได้เวลาทดแทนคุณของเธอผู้ประเสริฐในสายตาของข้าพเจ้า
โดยทั้งนี้ข้าพเจ้าขอรับรองว่ามิได้ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ต่อคุณเธอใดๆทั้งสิ้น ได้กล่าวกับ
ท่านผู้อำนวยการซึ่งเชื้อเชิญข้าพเจ้ามาประกอบพิธีในงานนี้ จึงขอความกรุณาจากท่านว่าจะขอ
ความกรุณาจากท่านเป็นพิเศษอย่างหนึ่งคือ จะมอบเครื่องแต่งกายพร้อมหมวกและประดับยศเอง
และขอร้องท่านช่วยปกปิดเป็นความลับเฉพาะสำหรับคนๆนี้ไว้ด้วย ก็ได้รับความกรุณาจาก
ท่านผู้อำนวยการเป็นไปอย่างดีจนกระทั่งถึงบัดนี้ ด้วยความปลาบปลื้มยินดีหาที่สุดมิได้จึงขอ
เอ่ยประกาศนามต่อไปนี้เพื่อมอบสิ่งที่ข้าพเจ้าตั้งใจไว้ในชั่วชีวิตนี้ว่าจะต้องทำให้สำเร็จ ได้เวลาอันสมควรแล้ว
      ข้าพเจ้าขอเรียนเชิญ คุณ วิภาวดี  ภิศยโยธิน  โปรดกรุณาขึ้นมารับสิ่งของเล็กๆน้อยๆจาก
ข้าพเจ้าด้วยครับ   
       สิ้นสุดการฟังคำจากท่านรัฐมนตรีประจำกระทรวงกล่าวเรียนเชิญจบลง
 ทำให้ทุกๆคนในที่นี้ตลึงไปทั่วบริเวณงาน ต่างเงียบกริบหันหน้ามองหาบุคคลผู้ที่ได้รับกล่าวขานครั้งนี้
ทุกๆคนตื่นเต้น บางคนไม่รู้จัก บางคนรู้จัก สักครู่เสียงร้องเซ็งแซ่ดังไปตามๆกัน  แม้กระทั่งหัวหน้า
แผนกต่างๆก็พลอยตื่นเต้นยินดีไปทั่ว  ผู้ที่นั่งน้ำตาไหลเข้าสวมกอดหล่อนก็คือ คุณแม่ 
ซึ่งเป็นทั้งหัวหน้าและได้รับเกียรติด้วยในครั้งนี้ เปรียบเสมือนโคมทองส่องนำทางให้แก่เธอ
ในการใช้ชีวิตตามแนวทางนี้หลังจากที่ได้ทดลองงานและทำงานเต็มตัว โอ้แม่พระของหล่อน
ความสำเร็จของหล่อนนี้ส่วนใหญ่ได้มาจากคุณเธอทั้งสิ้น หล่อนเป็นแค่ตัวจักรเล็กๆที่หมุนไป
โดยมิย่อท้อ อดทน ขยันหมั่นเพียรเพราะได้ตัวจักรนำทางที่ดียิ่ง
              หล่อนหันมาจูบคุณเธอ พร้อมน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาด้วยความปลื้มปิติล้น 
ใช่แล้วเป็นน้ำตาของนางฟ้าทั้งสององค์ที่ร่วมประสานกันเพื่อแผ่กระจายให้ความชุ่มชื้น
แก่ผืนแผ่นดินที่ยังแห้งโหยรอการหลั่งเพื่อความสุขพ้นทุกข์อันยิ่งล้นของเหล่าประชาทั้งหลาย
             หล่อนค่อยๆก้าวขึ้นไปบนเวทีพร้อมด้วยน้ำตาที่พยายามจะกลั้นไว้แต่ก็อดที่จะ
หลั่งไหลเสียมิได้ เข้าน้อมรับ เสื้อผ้าชุดใหม่และถอดหมวกใบเก่าวางลงบนเสื้อผ้านั้น
และได้รับการประดับหมวกใบใหม่ขึ้นยังเหนือศีรษะของหล่อนพร้อมเสียงสะอึกสะอื้นเบาๆ
ที่เปี่ยมไปด้วยความปิติล้น   หูอื้อตาลายจนกระทั่งได้ยินเสียงของท่านรัฐมนตรีฯกล่าวขึ้น
       เมื่อหลังเสร็จพิธีนี้ผมขอเชิญคุณ วิภาวดี ร่วมรับประทานอาหารด้วยกันนะครับ
         เป็นน้ำเสียงที่แผ่ไปด้วยความเมตตาปราณี   หล่อนกล่าวขอบคุณ คิดที่จะปฏิเสธแต่
ท่านผู้อำนวยการเดินเข้ามาจับมือแล้วกล่าวด้วยประโยคเชิญด้วย ซึ่งทำให้หล่อนปฏิเสธมิได้
เพียงแค่รับคำเบาๆ
        ค่ะ    หล่อนพูดได้แค่นั้นไม่มีคำพูดใดจะดีไปกว่านี้ได้
เป็นคำพูดที่แสนจะปิติปลาบปลื้มออกมาจากแก่นแท้จากใจหล่อน จากนางฟ้าที่ได้รับการ
ยกย่องอย่างแท้จริง และจากห้วงจิตใจของผู้เขียนด้วยทุกประการ 
        นี่แหละคืออานุภาพของคุณงามความดีที่สร้างสมไว้ของหล่อนโดยมิหวังสิ่งตอบแทน
จึงถือเป็นคุณธรรมที่ดีงามยิ่ง  เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ยากที่ใครๆจะทำได้  เพียงแค่คิด
จึงสมควรเป็นตัวอย่างที่อนุชนรุ่นหลังควรจดจำจารึกไว้เป็นแบบอย่าง โดยไม่คำนึง
ถึงผลที่เธอกระทำว่าจะเป็นฉันท์ใด จะได้รับอย่างไร คิดว่าคุณเธอคงไม่คิดเช่นนั้นเช่นกัน
        นางฟ้าผู้ประกอบด้วยคุณงามความดีทั้งหลายเอย  เราเปรียบท่านเสมือนนางฟ้าในนิยาย
เพื่อเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงพืชพันธุ์ใจของมวลมนุษย์ที่ยังเวียนว่ายตายเกิดตามวัฏฏจักรของโลกเรา
 เพียงน้ำตาท่านนั้นซึ่งเป็นน้ำตาแห่งคุณงามความดีที่ประกอบด้วยจรรยาบรรณของท่าน
เสมอต้นเสมอปลาย  ก็เพียงพอแล้วต่อการประโลมโลกใบนี้ได้อย่างชั่วนิจนิรันดร์.  
                                         ***   แก้วประเสริฐ.  ***
				
comments powered by Disqus
  • ช้างน้อย....

    28 กรกฎาคม 2549 02:12 น. - comment id 91924

    ขอบคุณที่เข้าใจเรา........
    น้อยคนนักท่จะเข้าใจว่า อาชีพสีขาว
    เหน็ดเหนื่อยอดทนต่อทุกสรรพสิ่งรอบข้าง
    จากภาระงานที่สูงยิ่ง  กับคำว่าชีวิตมนุษย์
    มันยากนะที่จะสร้างให้เราทุกคนรับผิดชอบได้สูงตามที่สังคมคาดหวังยิ่งนัก  แต่จะขอเป็ยสีขาวที่ทรงพลังและเป่ยมคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ ไปนิรันดร์.............
       -จะมีใคร สักกี่คน ที่รับรู้
    ว่ามีผู้ เอื้ออาทร  วอนห่วงหา
    ให้ความรัก และเมตตา เสมอมา
    เป็นนางฟ้า เพียงในใจ ใครชื่นชม
      - สองมือนี้ ที่ สร้าง ทางสุดฝัน
    ยอมฝ่าฟัน  อุปสรรค  จักขื่นขม
    แม้ไม่มี สักคำ นำรื่นรมย์
    แต่ไม่ล้ม ความตั้งใจ ในบั้นปลาย
    - จะขอเป็น สีขาว พราวคุณค่า
    สร้างศรัทธา ต่อแผ่นดิน จนสิ้นสลาย
    จะทุ่มเท ทุกความคิด จิตใจกาย
    เพียงเป้าหมาย ผู้เจ็บไข้ ไม่ทรมา....
  • แก้วประเสริฐ

    28 กรกฎาคม 2549 10:20 น. - comment id 91925

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ช้างน้อย
    
             ครั้งหนึ่งผมเคยนั่งมองคุณเธอทั้งหลายไปมา
    และชื่นชมในอากัปกิริยาของเธอ ตลอดจนเคยได้
    รับน้ำใจอันงดงามของคุณเธอด้วยใบหน้ารอยยิ้ม
    ที่สร้างความประทับใจมาก  
             ผมเองศรัทธาคุณเธอจนจะเรียกว่าฝังใจก็ว่าได้
    ผมเคยเขียนเกี่ยวกับคุณเธอไว้ก่อนหน้านี้นัปเป็น
    ปีแล้ว
    ก็ว่าได้ในกลอนไว้ครับ
    แต่สิ่งฝังใจผมมันมีมากจึงได้เขียนถึง
    คุณเธออีกครั้งครับ ขอบคุณมาก
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แสงไร้เงาเจ้าเก่าคนเดิมจ้า

    28 กรกฎาคม 2549 13:00 น. - comment id 91930

    36.gif
    
    นับก่อนว่ากี่นาที่ใช้เวลาอ่าน อิอิ
    
    แวะป่วนกวนให้ยิ้ม...46.gif36.gif
  • รหัส 6104

    28 กรกฎาคม 2549 22:13 น. - comment id 91943

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แสงไร้เงา
    
             จ้าแม้แต่ผมเองก็ไม่เคยนับหรอกครับ
    เขียนเพลินๆก็จบแบบเพลินเหมือนกันนิ
    ขอบคุณครับ
    
                           16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ราชิกา

    16 สิงหาคม 2549 19:30 น. - comment id 92211

    ...ประทับใจ..ในเรื่องราวที่เรียงร้อย...เหมือนประสบการณ์จริง..ที่ราชิกา...เคยประสบมา..แต่ไม่เคยเขียนสักที..แต่แฝดเพื่อน..ได้เป็นผู้ถ่ายทอดได้อย่างดีเยี่ยม...
    
    ...จะมีใครสักกี่คน....ที่เห็นใจ..และเข้าใจ...ใน..เครื่องแบบสีขาว...บ้าง...ขอบคุณคุณแก้วมากค่ะ..ที่เข้าใจพวกเรา...29.gif36.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    17 สิงหาคม 2549 16:29 น. - comment id 92231

    36.gif16.gif36.gif
    
            ขอบคุณแฝดเพื่อนที่รักมากอันที่จริงก็เป็น
    ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมส่วนหนึ่งเหมือนกันครับ
    แม้จะนานแสนนานมาแล้วแต่ความประทับใจนั้น
    ยังเวียนเพียรรำลึกถึงเสมอๆ ผมเคยเขียนกลอน
    เกี่ยวแก่เครื่องแบบสีขาวไว้มานานเหมือนกัน
    แต่พอนึกถึงคุณทีไร เลยจึงได้พรรณาในเรื่องนี้
    ฝากไว้ครับ  ขอบคุณมาก
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน