มิติรัก...ใต้เงาจันทรา (ขอเสนอเป็นตอนแรกค่ะ)

สุชาดา โมรา

เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่อิงประวัติศาสตร์นะคะ  โปรดใช้วิจารญาณในการอ่านด้วยค่ะ  เพื่อสื่อสะท้อนสังคม  วัฒนธรรม  ประเพณี  และค่านิยมที่แตกต่างกันระหว่างอดีตและปัจจุบัน  นอกจากนี้  ยังให้แง่คิดในเรื่องของกฎแห่งกรรมอีกด้วย...
                  มิติรัก...ใต้เงาจันทรา
สุชาดา  โมรา
	เรือนไทยขุนนางหลังใหญ่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบชุบศรตรงส่วนท้ายของกำแพงซึ่งมีทางระบายน้ำที่ไหลผ่านออกมาจากพระที่นั่งไกรสรสีหราช  เรือใหญ่น้อยจอดเทียบท่ามากมาย  ผู้คนสัญจรกันขวักไขว่  บ้างก็ค้าขายบ้างก็จับจ่ายใช้สอยกันตามประสา  เด็กน้อยนั่งเล่นอยู่ที่ท่าน้ำคนเดียวแต่งกายดูมีราศีสมกับที่เป็นลูกของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์ราชนฤบาล  เจ้ากรมวัง
	เรือเก๋งคันหนึ่งจอดเทียบท่าน้ำหน้าบ้านของคุณท้าวเยาวลักษณ์  เด็กน้อยหันไปมองแล้วก็ลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินหนีไปเล่นที่อื่น
	จะไปไหนเล่าเจ้า  มาหาพี่หน่อยเป็นไร
	เสียงของชายหนุ่มรูปงาม  รูปร่างสูงใหญ่ท่าทางทะมัดทะแมนเดินมาจูงแขนเด็กน้อย  แต่หล่อนสะบัดมือแล้วก็เดินนำหน้าไปยังเรือนของเจ้าคุณย่าซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเรือนของคุณพ่อหล่อนไม่มากนัก
	เป็นกระไรไปเจ้าทุกทีพี่ก็จูงแขนเจ้าได้วันนี้เป็นอะไรไป
	มันไม่งามเจ้าค่ะอิฉันเดินเองได้
	แก่แดดนักนะเราคุณแม่ของพี่ก็มาด้วย
	เด็กน้อยหันไปไหว้คุณหญิงแล้วก็ไหว้ชายหนุ่ม  จากนั้นก็เดินขึ้นเรือนไปอย่างระมัดระวังกิริยา  หล่อนนั่งลงใกล้ ๆ เจ้าคุณย่าแล้วก็กระซิบกระซาบอะไรบางอย่างก่อนที่ชายหนุ่มและแม่ของเธอจะขึ้นเรือนมา
	เด็กน้อยคลานห่างออกไปจากนั้นก็ยกน้ำลอยดอกมะลิมายื่นให้ชายหนุ่มแล้วก็คลานห่างออกไปอีก  ผู้ใหญ่คุยกันจนออกรสเด็กน้อยนั่งพับเพียบทำหน้าเบ้เพราะไม่อยากจะนั่งอยู่ตรงนี้  หล่อนรู้สึกเบื่อมากที่ต้องมานั่งฟังผู้ใหญ่เขาคุยกัน
น้ำผึ้งแก้วเอ๊ยมานี่สิลูก
	เจ้าค่ะคุณย่า
	เสียงคุณย่าซึ่งเป็นคุณท้าวนางในตำหนักของสมเด็จฯ เรียกตัวหลานสาวให้คลานเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อรับหมากพลูตรงหน้าระเบียงจากคุณหลวงบดินทร์นฤนาถทหารราชองครักษ์ซึ่งมีหน้าที่ติดตามรับใข้ใกล้ชิดสมเด็จฯ
	อุ๊บ๊ะ!!!!  ไอ้หลานสาวคนนี้ของคุณท้าวช่างงามเหลือเกิน  เมื่อไรจะตัดจุกล่ะเจ้า
	นี่ลูกคุณหญิงท่านถามทำไมไม่ตอบเล่า
	คุณย่าทักท้วงน้ำผึ้งแก้วขึ้น  หล่อนจึงตอบด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ เพราะไม่อยากจะตอบเนื่องจากหล่อนไม่ค่อยชอบคุณหลวงกับแม่ของเธอเพราะทั้งคู่ชอบมาเยี่ยมเยียนบ่อย ๆ ซึ่งตามประสาเด็กแล้วก็ไม่อยากจะมาอยู่ตรงที่ผู้ใหญ่เขาคุยกันหรอกใคร ๆ ก็อยากจะไปวิ่งเล่นทั้งนั้น
	อีก 3 เดือนเจ้าค่ะ
	อืมโตไวจริงเจ้าเห็นทีพี่คงพาเจ้าขี่คอเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้วสิ
	เมื่อก่อนก็ไม่เห็นจะได้ขี่เลย
	น้ำผึ้งแก้วบ่นอุบอิบจนคุณย่าค้อนหล่อนจึงค่อย ๆ คลานออกมาห่าง ๆ ผู้ใหญ่  และนำหมากพลูที่คุณหลวงบดินทร์นฤนาถนำมาฝากนั้นวางไว้ใกล้ ๆ เจ้าคุณย่า
	กระผมขออนุญาตพาน้องไปเที่ยวตลาดได้ไหมขอรับ
	เอาสินี่คงเบื่อแย่เลยเพราะวันนี้เจ้าพวกเพื่อนเล่นก็ตัดจุกกันหมดแล้ว  ไม่มีใครจะเล่นด้วยป้าก็ฝากน้องด้วยก็แล้วกันนะพ่อเมธ
	น้ำผึ้งแก้วได้ยินแล้วก็ดีใจถึงกับแสดงสีหน้าที่เบิกบานทันที  หล่อนเดินลงจากเรือนของคุณย่าแล้วรีบวิ่งกลับเรือนของตัวเองทันที
	รอก่อนนะเจ้าคะคุณหลวง
	คุณหลวงรอน้ำผึ้งแก้วอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ต้องตกตะลึงที่เห็นหล่อนแต่งตัวราวกับสาวแรกรุ่น  หล่อนดูโตเร็วมากทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ตัดจุด  ถึงแม้ว่าหล่อนยังคงสวมใส่โจงกระเบนและเสื้อถักคอกระเช้าก็ตามเถอะ  แต่ก็ดูหล่อนเป็นสาวเหลือเกิน
	กลิ่นดอกมะลิและกลิ่นอบร่ำที่มากับน้ำมันจันทร์ที่ใส่ผมของหล่อนหอมกรุ่นไปหมด  หล่อนเดินมาจูงมือคุณหลวงแล้วก็ลงเรือไปด้วยกัน  คุณหลวงไม่ให้นายมิ่งบ่าวเชื้อสายบางขันหมากตามไปด้วย
	เดี๋ยวก็ให้จูงแขนเดี๋ยวก็ไม่ให้จูงแขน  หลายอารมณ์จริงเลยเจ้า
	ก็คนมันดีใจนี่เจ้าคะเบื่อจะตายอยู่กับเจ้าคุณย่าทั้งวัน  เพื่อนก็ไม่มีสักคน  ไม่รู้จะรีบตัดจุกไปถึงไหน  พอตัดจุกแล้วก็เข้าวังไปเป็นข้าสนองพระบาทท่านฯ  น่าเบื่อจะตายไป
	น้ำผึ้งแก้วตอบด้วยน้ำเสียงที่หดหู่  พร้อมกับแสดงท่าทางดีใจและเขินอายออกมาเป็นบางครั้งจนทำให้คุณหลวงที่นั่งพายเรืออยู่นั้นอมยิ้มอยู่บ่อย ๆ
	เจ้านี่ช่างพูดจังเลยนะ
	ไม่พูดก็ได้น้ำผึ้งแก้วนึก  ตลอดทางที่คุณหลวงพายเรือไปเขาได้ชี้ให้ดูนั่นดูนี่หลายอย่าง  แต่หล่อนไม่ปลิปากพูดเลยสักนิด
	อ้าวทำไมไม่พูดเล่าเจ้า
	ก็คุณหลวงว่าอิฉัน  หาว่าพูดมากไม่ใช่รึอิฉันก็เลยไม่พูดไงเจ้าคะ
	เหอะแก่แดดจริงนะเรา  รู้จักประชดประชันพี่
	คุณหลวงถึงกับหลุดขำขึ้นมาทันที  น้ำผึ้งแก้วก็เลยนั่งหันหน้าออกไปทางอื่นเพราะไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับคุณหลวงซึ่งชอบวางมาดขุนนางข่มขู่เด็ก
	อะไรอีกเล่าเจ้านี่ขี้งอนจริงเชียว
	คุณหลวงพายเรือไปอมยิ้มไป  แสงแดดที่แผดเผาอยู่ดี ๆ ฝนฟ้าก็ตกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งตัว  คุณหลวงรีบพายเรือพาน้ำผึ้งแก้วเข้ามาหลบฝนที่เพิงหาปลาของชาวบ้านที่อยู่ระแวกนั้น
	หนาวไหมเจ้าเนื้อตัวเปียกหมดแล้ว
	หนาวสิถามได้
	น้ำผึ้งแก้วยืนกอดอกเนื้อตัวสั่น  คุณหลวงไม่รู้จะทำอย่างไรดีก็เลยดึงผ้าคาดเอวออกมาแล้วบิดน้ำจนเกือบจะแห้งยื่นให้หล่อนทันที
	เปียก ๆ แบบนี้ให้มาทำไมเจ้าคะ
	เอาไปเช็ดตัวก่อนเถอะเจ้า  ดูสิยืนสั่นเป็นลูกหมาเลย
	น้ำผึ้งแก้วหยิบผ้าคาดเอวไปเช็ดตัวจนแห้ง  จากนั้นก็พยายามบิดผ้าแต่ก็ทำไม่สำเร็จคุณหลวงจึงบิดให้แล้วก็ส่งให้หล่อน  หล่อนจึงเอาผ้าคาดเอวนั้นไปเช็ดที่หน้าของคุณหลวงทันที
	คุณหลวงก็เปียกเหมือนกันนะเจ้าคะ
	คุณหลวงยิ้มแล้วก็นั่งลง  น้ำผึ้งแก้วจึงต้องนั่งลงบ้าง  ทั้งคู่รอจนฝนหยุดตกจากนั้นจึงกลับบ้าน  หล่อนจามตลอดทางคุณหลวงก็เช่นกัน  เมื่อมาถึงเรือนเจ้าคุณย่าหล่อนจึงขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกมานั่งกับเจ้าคุณย่าทันที
	พ่อทิวไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือเจ้า  เดี๋ยวป้าให้บ่าวจัดเสื้อผ้าให้
	คุณหลวงเดินตามแม่อิ่มบ่าวในบ้านไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเก่าของเจ้าคุณพ่อ  น้ำผึ้งแก้วนั่งจามอยู่หลายครั้งเจ้าคุณย่าจึงให้บ่าวไปหยิบยาฝรั่งที่ได้มาจากคนติดตามขิงเชอวาเลียร์  เดอ  โชมองค์  ผู้ที่ถวายพระราชสารให้กับองค์สมเด็จฯ ที่กรุงศรี  ซึ่งเขาได้มาแวะผ่านมาที่ละโว้  เจ้าคุณย่าจึงได้ขอยาดี ๆ จากเขามาหลายอย่างจึงทำให้ที่เรือนของเจ้าคุณย่ามีแต่ยาวิเศษของฝรั่งเต็มไปหมด
	ไปเล่นน้ำฝนที่ไหนกันมาเจ้าคราวหน้าต้องให้นั่งเรือเก๋งไปแล้วมั้งจะได้ไม่เปียกมอมแมมเป็นลูกหมาตกน้ำมาแบบนี้อีก
	เจ้าคุณย่าพูดแล้วก็ยิ้ม ๆ จนกระทั่งคุณหลวงเดินออกมาจากห้อง  เขาเข้ามานั่งใกล้ ๆ กับน้ำผึ้งแก้วแล้วก็หยิบปิ่นปักผมออกมาส่งให้หล่อน
	นี่คงยังไม่สายไปดอกนะเจ้า  อีกแค่สามเดือนก็จะตัดจุก  นี่พี่ให้นะ
	น้ำผึ้งแก้วก้มลงกราบที่ตักของคุณหลวงจากนั้นก็ยื่นมือไปรับปิ่นปักผมทันที
	อย่างอนพี่อีกล่ะ
	คุณหลวงพูดเบา ๆ จากนั้นก็ลาเจ้าคุณย่ากลับไป
                                                ..1
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ  ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามผลงานมาโดยตลอดค่ะ  อ้อ! ช่วยติติงเรื่องราวสักนิดนะคะ  ฉันพร้อมรับคำชี้แนะค่ะ
อืม...ลืมบอกเพื่อน ๆ ไปว่า  เรื่องราวในนามปากกา  ของสุชาดา  โมรา  นั้น  ไม่ได้มีเพียงดิฉันแค่คนเดียวนะคะที่แต่ง  แต่เราทำงานเป็นทีมค่ะ...				
comments powered by Disqus
  • สุชาดา โมรา

    2 พฤศจิกายน 2549 07:38 น. - comment id 93277

    เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่อิงประวัติศาสตร์นะคะ  โปรดใช้วิจารญาณในการอ่านด้วยค่ะ  เพื่อสื่อสะท้อนสังคม  วัฒนธรรม  ประเพณี  และค่านิยมที่แตกต่างกันระหว่างอดีตและปัจจุบัน  นอกจากนี้  ยังให้แง่คิดในเรื่องของกฎแห่งกรรมอีกด้วย...
  • ยายแม่มด

    2 พฤศจิกายน 2549 07:58 น. - comment id 93278

    ข้ามาอ่านงานน่ะคะ.....36.gif
    
    ..............ขอบคุณนะคะ..........
  • แก้วประเสริฐ

    3 พฤศจิกายน 2549 19:44 น. - comment id 93322

    36.gif16.gif36.gif
    
           ติดตามผลงานของคุณเสมอแต่มิได้คอมเม้นท์
    ตอนนี้ขอคอมเม้นท์หน่อย งานงามครับงามตลอด
    ทุกเรื่องเลย ขอชมครับ
    
                       16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน