นิธิรำพึง

nidhi

นิธิรำพึง  เป็นความรู้สึกชองผู้เขียนที่เขียนขึ้นเป็นบทกลอนสั้นๆในแต่ละวัน ตลอดระยะเวลาหลายปีตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๔๔  จนถึงปัจจุบัน
เนื้อหาของบทกลอนดังกล่าวเป็นการบันทึกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจริงของผู้เขึยน ซึ่งมีทั้งความสุข ความทุกข์ สมหวังและผิดหวังคละเคล้ากันไป
การเขียนบทกลอนก็ดำเนินมาโดยตลอดระหว่างเส้นทางที่ขี่จักรยานบรรทุกลังใส่ขนมที่ทำเองในครอบครัวไปจำหน่ายเพื่อเป็นการประทังชีพและจุนเจือ
ใช้จ่ายในครอบครัวระหว่างที่บุตรทั้งสองยังเรียนไม่จบ  จนกระทั่งปัจจุบันบุตรทั้งสองได้เรียนจบการศึกษาขั้นอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐและบุตรคนโต
มีอาชีพการงานที่มั่นคงสำหรับเลี้ยงชีวิตได้อย่างดีแล้ว  บางบทกลอนก็เป็นเรื่องพรรณนาเรื่องราวที่พบเห็นระหว่างการเดินทาง  หรือได้ยินได้ฟังมาแล้วเกิดความ
รู้สึกเห็นใจอยากช่วยเหลือปลอบประโลมผู้ที่ประสบทุกข์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีธรณีพิบัตสึนามิซึ่งเกิดเมื่อปลายเดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗  
ในโอกาสที่เป็นการรำลึกถึงวันวิปโยคจากภัยพิบัติดังกล่าวครบกำหนด ๓ ปี ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๐ นี้  ผู้เขียนจึงรวบรวมบทกลอนดังกล่าวมารวมไว้ในบทความเดียวนี้
เพื่อเป็นการจดจำเหตุการณ์น่าเศร้าใจนี้  และขณะเดียวกันก็ประสงค์ให้บทกลอนที่เขียนทั้งหมดนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งแห่งการแนะแนวชีวิตของเด็กและเยาวชนไทยให้ดำเนินชีวิต
ได้ตลอดปลอดภัยราบรื่นมีความสุขและสมหวังอย่างเพียงพอ ก็จะเป็นที่น่าดีใจของผู้ขึยนเป็นอย่างยิ่ง  
ความดีความงามของบทกลอนนี้ถ้าจะมีอยู่บ้าง  ผู้ขึยนขอมอบให้แด่บิดามารดา ครูบาอาจารย์ เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งภรรยาและบุตรธิดา
แต่หากจะมีข้อผิดพลาดประการใดที่ไม่เหมาะสม  ผู้จึยนขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว
	นิธิ  ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๐
นิธิรำพึง ภาค ๑ 	
    จากวันนั้นถึงวันนี้รวมสามปีที่ขื่นขม
หมดสิ้นหวังหมดสิ้นยศอดสูตรม
ได้แต่ก้มหน้าซมซานหนีจากที่เดิม
ก่อนเคยรุ่งสูงยศเกียรติสดใส
พร้อมพรั่งไปด้วยมิตรสนิทหลาย
เมื่อเกิดเหตุอัปยศหมดกระจาย
เพื่อนหนีหายพี่หนีหมดสลดใจ
หวนรำลึกตรึกตรองถึงผองเหตุ
เพราะอาเพศเหตุใดใครทำหรือ
จึงก่อเหตุการณ์ทุเรศกลับหลังมือ
ที่เคยถือคุณธรรมดิ่งต่ำลง
		๒๕๔๔
	ถ้าหากเลือกเกิดได้ดั่งใจหวัง
ขอเลือกไปเกิดยังแดนสุขา
ที่สุขสมดังที่หวังตั้งใจมา
สุขอุราพาชื่นจิตรื่นรมย์
		๒๕๔๕
	วันนี้…ที่คิดแล้วผิดหวัง
วันนี้…ที่หวังจะไม่ผิด
วันนี้… หมดสิทธิที่จะหวัง
วันนี้…ขอหวังอย่าทำผิด
	พรุ่งนี้…ที่หวังอย่าทำผิด
พรุ่งนี้…ที่ผิดอย่าคิดหวัง
พรุ่งนี้…จะไม่ผิดถ้าคิดทัน
พรุ่งนี้…ตื่นจากฝันมั่นทำดี
	วันนี้…อย่าสิ้นหวังถ้าเคยผิด
วันนี้…ที่ยังติดอยู่ในฝัน
วันนี้…เริ่มได้คิดอย่าติดพัน
วันนี้…เลิกเพ้อฝันกันเสียที
      พรุ่งนี้…อาจผิดหวังถ้ายังผิด
พรุ่งนี้…ยังมีสิทธิต้องผิดหวัง
พรุ่งนี้…ถ้าได้คิดวิจิตรพลัน
พรุ่งนี้…คือสวรรค์หมั่นทำดี
	๒๕๔๔
คบกับหมาข้างถนนนั้นดีเลิศ
เพราะประเสริฐกว่าพวกคนที่ปนผี
คบกับหมานั้นประเสริฐและเลิศดี
คนปนผีไม่น่าคบพบแต่ลวง
	๒๕๔๕
	คบกับหมาข้างถนนยังดีกว่า
คบพวกห่าลากไส้หัวใจขม
เป็นเพื่อนหมาดีกว่าไม่เศร้าตรม
คนโสมมสับปลับลับหลังลวง
	๒๕๔๕
	สามปีที่ผ่านมากลืนน้ำตาไว้ในอก
ไม่หยิบยกเหตุผลใดไปแถลง
ด้วยมิอาจคาดหวังจะแสดง
กระจ่างแจ้งแห่งต้นเหตุเลศมายา
หลังจากเหตุอัปยศปรากฏขึ้น
ต้องทนฝืนใจยิ้มประหนึ่งว่า
มิได้มีเหตุรุมเร้าเผาอุรา
อนิจจากรรมที่ก่อพอมองเห็น
นับแต่วันเกิดเหตุทุเรศนัก
ผองเพื่อนรักหนีหน้าราวดับดิ้น
น่าทุเรศน่าสังเวชเหมือนเศษดิน
น้ำตารินท่วมในอกฟกช้ำใจ
	๒๕๔๕
    In the darkness of a summer day
I still feel bad as that day
That was the worst day of my life
It suddenly happened and broke my whole life
	Nidhi 2002  
ด้วยรักและผูกพัน
ด้วยใจมั่นฝ่าฟันทุกข์
ด้วยหวังให้มีสุข
ด้วยหวังให้ปราศทุกข์
เพื่อมีสุขตลอดไป
	๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕
ขอให้หวังที่ตั้งไว้ได้ดังจิต
ขอชีวิตรุ่งโรจน์ไปข้างหน้า
ขอให้ทรัพย์เรืองรองที่ได้มา
ส่งคุณค่าให้ปรากฏนิรันดร์เทอญ
	๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕
	เก็บความจำดีดีอันมีค่า
เก็บเวลาชื่นใจอย่าให้หาย
เก็บความรู้จักรักมิให้คลาย
เก็บจนตายอย่าหน่ายสู้เพื่อรู้ตน
	กรกฎาคม ๒๕๔๕
	ถ้าหากรู้ว่าผิดแล้วคิดถอย
อย่าได้พลอยถลำผิดจิตสลาย
รู้ยับยั้งรู้ผิดรู้ผ่อนคลาย
แม้นว่าตายวันนี้ยังดีใจ
	๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๕
	สิบหกพฤษภาเวียนมาครบจบอีกรอบ
ได้รอบคอบแก้ไขอย่างถ้วนถี่
แต่ปัญหาค้างคายังมากมี
ต่อแต่นี้ต้องเริ่มเพิ่มความเพียร
หลายบทเรียนที่ผ่านพบประสบเข้า
ทำให้เราต้องจากลาก่อนเกษียณ
ทุกสิ่งรู้รู้อยู่เป็นบทเรียน
กงกำเกวียนเวียนว่ายเกิดตายจริง
	๒๒พฤษภาคม๒๕๔๖
    จะทนสู้เพื่อลูกผู้อยู่ที่บ้าน
ตรากตรำงานผ่านร้อนฝนก็ทนไหว
ขอให้ลูกรับรู้จะสู้ไป
จงอย่าได้กังวลต้องพ้นภัย
	๒๔มิถุนายน๒๕๔๖
    ห่อละสิบหยิบให้จากใจป้า
แต่มืดมาจากบ้านตั้งร้านขาย
ข้าวเหนียวหมูข้าวเหนียวเนื้อเพื่อเลี้ยงกาย
หนุ่มสาวอายบ้างหรือเปล่าเราขอถาม
	๑๐มิถุนายน๒๕๔๖
Try the best
	Among the fierce fighting outside
In the sufficient society today like
Let the world moves forward as it likes
And I will try the best for the rest of my life.
	August19, 2003
     Trying hard, trying hard, trying hard 
Searching the ways we were in the past  
Learning how to solve the problems passed
Start to do it with all your heart.
	August22, 2003
	จะเก็บความทรงจำในครั้งนี้
เก็บไว้ที่ใต้หมอนเผื่อนอนฝัน
เก็บดวงดาวพร่างพราวเก็บตะวัน
เก็บความฝันดีดีที่มีไว้
	๑๗กันยานย๒๕๔๖
	ลมหนาวเริ่มโชยพัดสงัดดึก
นั่งตรองตรึกนึกขึ้นมาน้ำตาไหล
อดีตเคยเรืองรุ่งเฟื่องฟุ้งไกล
ไม่ทันไรต้องมาดับนับแต่นั้น
ถ้าไหวทันกลับตัวตั้งแต่แรก
คงไม่แตกแหลกอย่างนี้ไม่มีหวัง
นึกขึ้นมาคราใดใจแทบพัง
ภาพความหลังครั้งก่อนยังหลอนใจ
	๒๖กันยายน๒๕๔๖
    เก็บความรักความใส่ใจไว้ในหมอน
เผื่อว่านอนฝันร้ายได้หายฝัน
ที่ปริ่มทุกข์กลับเป็นสุขทุกคืนวัน
มีแต่ฝันดีดีทั้งปีเทอญ
	๒๙กันยายน๒๕๔๖
	หากแม้นพี่เลือกทำได้ดั่งใจพี่
ชีวิตนี้คงไม่หมองอย่างต้องหา
คงพากเพียรเรียนให้จบครบตำรา
แล้วตั้งหน้าหาอาชีพที่ดีทำ
ถ้าเพียงแต่รู้ว่าผิดยั้งคิดได้
เรื่องร้ายร้ายคงไม่มีอย่างที่หา
ใจเป็นสุขไม่ทุกข์ร้อนซ่อนกายา
ไม่ต้องหาเรื่องเป็นทุกข์มีสุขใจ	
	๖ ตุลาคม๒๕๔๖
        มองดาวเดือนเกลื่อนฟ้าคราหน้าหนาว
ใต้แสงดาวแห่งศรัทธามองน่าฝัน
ไล่ความมืดที่ครอบคลุมกระจ่างพลัน
สวยเหมือนฝันพลันมั่นใจในครั้งนี้
ณ ดินแดนที่ห่างไปในอดีต
ใต้เงาซีดมืดมัวสลัวนั่น
ภาพความสุขสดใสที่ตัดกัน
แม้จะสั้นใจเปี่ยมสุขคลายทุกข์ตรม
	๗ตุลาคม๒๕๔๖
	ขอประกาศความตั้งใจไว้ตรงนี้
จะทำดีลบล้างที่มัวหมอง
จะมุ่งมั่นรักษาความดีครอง
ให้เราสองครองคู่อย่างรู้ใจ
ขอความดีที่ทำในอดีต
ดุจคมมีดที่หมอใช้รักษา
ผ่าที่ชั่วแรงร้ายในกายา
ให้ปัญหาที่ปรากฏหายหมดเทอญ
	๘ตุลาคม๒๕๔๖
	ฝนสั่งฟ้าโปรยลงมาลาหน้าฝน
บอกผู้คนถึงเวลาออกพรรษา
พระสงฆ์เตรียมบิณฑบาตตามเวลา
ออกพรรษาเข้าหน้าหนาวชาวบุรินทร์
ก่อนสิ้นฝนฝนสั่งฟ้าเหมือนว่าบอก
ที่ช้ำชอกชุ่มน้ำตาคราหน้าฝน
ฝนสั่งฟ้าลาสั่งหมดที่อดทน
หมดหน้าฝนหมดน้ำตาขอลาที
เมื่อหน้าหนาวก้าวเข้ามาสิ้นหน้าฝน
จงอดทนตั้งหน้ารักษาศีล
เริ่มต้นใหม่ใช้วิชาช่วยหากิน
ลืมให้สิ้นอดีตขมตรมพอแล้ว
	๙ตุลาคม๒๕๔๖
               พระจันทร์เพ็ญลอยเด่นอยู่บนฟ้า
ดวงดาราพราวพริบระยิบแสง
ประจำฟ้าอยู่ไกลลิบคลายร้อนแรง
แสงเหลืองแดงแฝงสีเรื่อเรืองส่องมา
         ๒๕๔๖          
	แดดแรกเริ่มออกพรรษามาถึงแล้ว
ตั้งใจแน่วแน่แก้ไขที่มัวหมอง
หมั่นถือศีลรักษาสัตย์มั่นถือครอง
อย่าไปลองเสพยาคร่าชีวี
สร้างความดีมีเมตตาอย่าฆ่าสัตว์
เร่งขจัดกรรมชั่วที่มัวหมอง
เพียรสั่งสมกรรมดีมีค่าครอง
เพื่อเราสองได้ครองรักนิรันดร์ไป
		๑๐ตุลาคม๒๕๔๖
	ฟ้าหลังฝนโปรยลงมาฝ้าลงหนัก
ไม่นานนักฝ้ากระจายหายกับฝน
แต่เปรียบทุกข์ที่หมองไหม้ในใจคน
ไม่เหมือนฝนที่กระจายหายไปหมด
ทำอย่างไรให้ทุกข์หายง่ายอย่างฝน
กระจายจนหมดไปไม่มีเหลือ
ปลดเปลื้องทุกข์ออกไปได้อย่างปลดเรือ
ใจที่เหลือต้องเติมสุขทุกทุกวัน
		๑๓ตุลาคม๒๕๔๖
     ถึงวันนี้อับจนดิ้นรนหนัก
ยังต้องหักห้ามใจไม่ไปหา
แม้เดือดร้อนไม่วอนใครให้เมตตา
จะรักษาให้บรรเทาด้วยเราเอง
		๓ตุลาคม๒๕๔๖
	ถึงอับจนหนทางไม่สร่างโศก
ถึงไร้โชคดวงชะตาเศร้าราศี
ก็จะพากเพียรศึกษาหาวิธี
ทำให้ดีที่สุดรุดเป้าหมาย
		๑๔ตุลาคม๒๕๔๖
	ขอให้มีชีวิตที่สมหวัง
ขอพลังที่ดีช่วยส่งเสริม
ขอความหวังตั้งไว้แต่ดั้งเดิม
จงช่วยเสริมให้สำเร็จอย่างตั้งใจ
		๑๕ตุลาคม๒๕๔๖
	ขอให้สุขสมหวังอย่างตั้งจิต
ขอชีวิตก้าวไปอย่างมีหวัง
ขอเมตตาที่มีเป็นพลัง
ให้สมหวังอย่างที่คิดตั้งจิตไว้
		๑๖ตุลาคม๒๕๔๖
	อย่าท้อแท้หมดหวังชีพยังอยู่
อย่าหดหู่หัวใจไฟหมดแสง
อย่าทนนิ่งเฉยอยู่อย่างหมดแรง
จงสำแดงพลังเร้นเค้นออกมา
		๑๕ตุลาคม๒๕๔๖
	ฟ้าสีทองส่องมาแล้วแพรวสวยสด
ถึงกำหนดต้องลาเพื่อหน้าที่
ได้เวลาตามเรียกหาต้องลาที
ต่อแต่นี้ไม่มีแล้ว…
		๑๖ตุลาคม๒๕๔๖
     เก็บความทุกข์เอาไว้ข้างในอก
เก็บนรกออกไปให้ไกลแสน
เก็บความดีใส่ไว้ให้ทดแทน
เก็บความแค้นหมดไปให้ไกลตัว
เก็บความชั่วออกไปให้หมดจด
เก็บให้หมดสิ้นไปอย่าได้ฝัน
เก็บความดีมีคุณค่าทุกทุกวัน
เก็บไว้ฝันให้เป็นสุขทุกทุกคืน
		๑๖ตุลาคม๒๕๔๖
ขอแต่เพียงอย่าท้อนั่งรอฝัน
ขอแต่หมั่นพากเพียรเรียนให้จบ
สิ่งที่หวังวาดไว้จึงได้พบ
พึงประสบการงานผ่านด้วยดี
	๑๖ตุลาคม๒๕๔๖
จะสอยดาวสาวเดือนที่เกลื่อนฟ้า
เอาลงมาเสกเป็นทองเหมือนที่ฝัน
แล้วนำของที่ซื้อได้ออกมาปัน
เลือกจัดสรรอย่างเหมาะสมกับคนไทย
		๑๗ตุลาคม๒๕๔๖
	 วันไหนไหนไม่สำคัญเท่าวันนี้
เพราะเป็นวันที่สำคัญกว่าวันไหน
พรุ่งนี้มะรืนนี้จะเป็นอย่างไร
ก็เพราะสิ่งที่เราทำไปในวันนี้
	วันพรุ่งนี้ ยังไม่มาอย่าไปคิด
จะมีสิทธิหรือไม่อย่าไปหวัง
เมื่อวานนี้ข้อบ่งชี้ที่ดีจัง
จะสมหวังนั้นหรือไม่เพราะวันนี้
		๑๗ตุลาคม๒๕๔๖
     วันพรุ่งนี้เป็นอย่างไรรู้ไม่ยาก
ไม่ต้องตากหน้าเราไปหาหมอ(ดู)
ทุกทุกอย่างรู้กระจ่างไม่ต้องรอ
เพียงแต่ขอให้ดูเรา(เอง)ในวันนี้
		๒๗ตุลาคม๒๕๔๖
	ผ่านไปแล้วคือตัวเราในอดีต
ดุจคมมีดกรีดใจให้เป็นแผล
ทุกทุกอย่างกระจ่างแล้วไม่ต้องแปล
ทุกทุกแผลบาดลึกรู้สึกปวด
		๒๘ตุลาคม๒๕๔๖
	ความผิดหวังยังมีอยู่รู้แน่แน่
อย่าท้อแท้สู้ต่อไปยังมีหวัง
เมื่อแปรเปลี่ยนความคับแค้นเป็นพลัง
จะได้ตั้งใจสู้กู้ฐานะ
		๒๘ตุลาคม๒๕๔๖
	แม้ผิดหวังเพียงใดอย่าได้ท้อ
จงสู้ต่อเพื่อรอให้ถึงหวัง
เมื่อแปรเปลี่ยนความคับแค้นเป็นพลัง
ความสิ้นหวังจะหายหมดกำหนดได้
		๒๙ตุลาคม๒๕๔๖
อยู่ตัวเดียวโดดเดี่ยวเปลี่ยวหรือไม่
ต้องจากไพรมาสู่เมืองเฟื่องไหมหนอ
เกาะสายไฟมองไปทั่วอย่างกับรอ
นานแล้วหนอขอถามเจ้าเหงาหรือไม่
		๒๙ตุลาคม๒๕๔๖
	ถึงบัดนี้ลำบากไม่อยากคิด
ถึงมีสิทธิก็ยังยากจะสมหวัง
อยากพากเพียรเรียนให้จบเร็วเร็วจัง
แล้วจะตั้งใจ(สู้)ต่อไม่ท้อเลย
		๒๙ตุลาคม๒๕๔๖
ในความมืดอย่างนี้ยังมีแสง
แม้ไม่แรงเท่ากับแสงสุรีย์ศรี
แต่พลังน้อยนิดยังพอมี
ปฐพีได้สว่างกระจ่างนวล
ความอับจนอย่างนี้เมื่อสิ้นหวัง
ทุกข์ประดังท่วมถมล่มจมสวน
แต่ถ้าไม่ย่อท้อก่อน(เวลา)อันควร
ทุกอย่างล้วนแก้ได้ใช้เวลา
		๓๐ตุลาคม๒๕๔๖
	ในความแห้งแล้งอย่างนี้ยังมีน้ำ
คอยให้ความชุ่มชื่นกับพฤกษา
ในความขุ่นข้นขมเหมือนกับยา
ตัวรักษาให้รอดสอดมาด้วย
		๓๐ตุลาคม๒๕๔๖
	ในความมืดมืดมืดมืดมืดมืด
ในความฝันฝันฝันฝันฝันฝัน
ในกลางวันวันวันวันวันวัน
ในวันนี้เธอยังฝันกลางวันไหม
		๓๐ตุลาคม๒๕๔๖
	นี่ก็คือเหตุผลของการจาก
มันคงยากที่จะอยู่แล้วดูเขลา
สิ่งที่แย่ที่สุดในใจเรา
ก็คือเศร้าเคล้าสุขอยู่ลึกลึก
		๓๑ตุลาคม๒๕๔๖
	ขอส่งใจรำลึกนึกถึงพี่
คุณความดีเคยก่อขอสุขศรี
สู่สัมปรายภพจบด้วยดี
ต่อแต่นี้สิ้นทุกข์สุขสงบ
		๓๑ตุลาคม๒๕๔๖
     ฤาพระพุทธองค์เสด็จลงสู่หล้า
จากชาวฟ้าสู่ชาวดินถิ่นอาศัย
รัศมีเรืองรองผ่องอำไพ
ประชาไทยใจชื่นรื่นปีติ
	๓พฤศจิกายน๒๕๔๖
	ถ้าหากแม้นพี่เลือกได้ตามใจพี่
คงจะดีกว่านี้มิหม่นหมอง
ถ้าเลือกเป็นเลือกเกิดได้อย่างใจปอง
จะไม่ร้องเรียกสงสารรำคาญใคร
	๓พฤศจิกายน๒๕๔๖
	แม้ลำบากยากเพียงไหนใจจะสู้
เพื่อเชิดชูกู้ฐานะชนะผอง
สู้ขาดใจสู้ให้ได้สิ่งที่ปอง
สู้เพื่อน้องสู้เพื่อลูกที่ผูกพัน
	๓ตุลาคม ๒๕๔๖
	เริ่มต้นใหม่อย่าไปท้อนั่งรอฝัน	
คงสักวันบรรลุจุดประสงค์
เริ่มต้นใหม่อย่าไปรอขอผู้คน
จะหลุดพ้นได้ต้องสู้อย่าดูดาย
	๓ตุลาคม๒๕๔๖
	ดาวระยิบกระพริบตาฟ้ามืดแล้ว
ยินเสียงแว่วแผ่วมาน้ำตาไหล
นึกถึงเรื่องผ่านมาต้องลาไกล
จะไปไหนใครไปรู้ดูไม่เห็น
จากวันนั้นถึงวันนี้เกือบไม่ต่าง
ถูกถากถางยิ้มเยาะอยู่ก็รู้เห็น
ต้องช้ำชอกพูดไม่ออกบอกไม่เป็น
เอาซ่อนเร้นเก็บลึกไว้ในใจเรา
	๖พฤศจิกายน๒๕๔๖
     อย่าท้อถอยมัวแต่คอยนั่งรอโชค
อย่ามัวโศกเศร้าไปไร้ความหวัง
ลุกขึ้นสู้ยืนหยัดด้วยพลัง
จะมีหวังก็เพราะสู้สู่จุดหมาย
	๗พฤศจิกายน๒๕๔๖
  พระจันทร์เด่นล่องลอยฟ้านภากว้าง
ขาวเป็นทางคือช้างเผือกเชือกมโห
ละอองดาวพราวสุกใสกว้างใหญ่โต
ท่องนะโมพุทธายะชนะมาร
	๑๑พฤศจิกายน๒๕๔๖
	เย็นลมหนาวคราวนี้ไม่มีเจ้า
อกพี่ร้าวเศร้าลึกนึกหม่นหมอง
น้ำตารินไหลอาบหน้าเนืองนอง
ความดีผองผ่านมาไยไม่คิด
ที่แล้วมาพี่ก็รู้ว่าทำผิด
แต่ไม่คิดว่านวลน้องต้องหมองศรี
จะกลับตัวไม่ทำชั่วมุ่งแต่ดี
ต่อแต่นี้อย่าหม่นหมองร้องไห้ไป
	๑๗พฤศจิกายน๒๕๔๖
	ป๋าบอกว่า “ล้มอีกไม่ได้แล้ว” 
 เพราะถ้าคราวนี้ล้มอีก
ก็หมายความว่าจะไม่มีวันลุกขึ้นมาได้อีกแล้ว
	๑๘พฤศจิกายน๒๕๔๖
	แล้วเมื่อใดจึงจะได้ทัดเทียมเขา
ถ้าหากเรายังไม่เรียนเพียรศึกษา
ตั้งหน้าคิดค้นใหม่ไล่อวิชชา
พากเพียรหาทางสู้รู้ให้จริง
	๑๙พฤศจิกายน๒๕๔๖
	แสงเรืองรองส่องสว่างทางโน้นนั่น
เหมือนความฝันอันบังเกิดในใจพี่
เมื่อมั่นใจไขว่คว้าสิ่งดีดี
ดวงใจนี้มอบให้ได้ทั้งหมด
	๒๕พฤศจิกายน๒๕๔๖
    เก็บความสุขเอาไว้ไปนอนฝัน
เก็บตะวันไว้ส่องไล่ความหมอง
เก็บความทุกข์ออกไกลอย่าไปมอง
เก็บเอาของดีดีที่มีไว้
	๒๕พฤศจิกายน๒๕๔๖
	เก็บความทุกข์ทิ้งไปให้ไกลบ้าน
อย่าให้เผาผลาญใจต้องไหม้ขม
สร้างความสุขขึ้นมาใหม่ให้รื่นรมย์
อย่าระทมขมขื่นร้องไห้ไป
	๒๖พฤศจิกายน๒๕๔๖
	เมื่อวันวานผ่านพ้นยังขื่นขม
ทุกข์ระทมเพราะผิดยังติดฝัง
ลุกขึ้นใหม่สร้างสิ่งหวังเต็มกำลัง
แม้ผิดหวังตั้งใจต่ออย่าท้อมัน
	๒๖พฤศจิกายน๒๕๔๖
	ค่ำคืนนี้แม้มืดหนาวจงก้าวต่อ
อย่าไปรอหวังสัมฤทธิ์จะผิดหวัง
จงแปรเปลี่ยนความคับแค้นเป็นพลัง
แล้วจงตั้งใจสู้กู้ฐานะ
	๒๒ธันวาคม๒๕๔๖
	เกาะสายไฟเส้นเดียวเปลี่ยวไหมนี่
สูงอย่างนี้จะโดดเดี่ยวเปลี่ยวแค่ไหน
อยู่ตัวเดียวเที่ยวไปทั่วทุกถิ่นไกล
นานเท่าใดแล้วเจ้านกวิหคเหลือง
	๒๘มกราคม๒๕๔๗
	สามสิบมกราเวียนมาครบ
จงประสบแต่ความสุขความเจริญเดินก้าวหน้า
ให้ได้เรียนสำเร็จทุกวิชา
ให้ก้าวหน้าต่อไปอย่าได้หยุด
	๓๐มกราคม๒๕๔๗
    ฟ้าสีทองผ่องใสไม่ไกลนั่น
มะลิวัลย์หอมกรุ่นครุ่นคิดถึง
อดีตหวานนานมาแล้วยังติดตรึง
เมื่อนึกถึงคราใดใจเปี่ยมสุข
	๓๐มกราคม๒๕๔๗
	ตะวันสายสาดส่องเรืองรองทั่ว
ฟ้าที่มัวกลับสว่างกระจ่างใส
เหลือแต่เพียงร่องรอยค่อยลบไป
เช่นกับใจที่หมองไหม้ในวันนี้
	๓๑มกราคม๒๕๔๗
	ขอพระวิษณุกรรมประสิทธิ์
ผู้ทรงฤทธิ์วิทยาเลิศประเสริฐศรี
ได้โปรดดลใจด้วยช่วยลูกที
ต่อแต่นี้ให้มีสุขสำเร็จหวัง
	๖กุมภาพันธ์๒๕๔๗
	มาฆะบูชาครานี้วันที่ห้า
พุทธบูชากำหนดมาอย่าสงสัย
สวดมนต์เช้าเข้านอนค่ำดื่มด่ำใจ
เกิดเป็นไทยใจเราพุทธหยุดทำชั่ว
	๘มีนาคม๒๕๔๗
	In God we trust must be good
In truth we trust ยังสงสัย
ก็พวกTrustที่เห็นยังเป็นไป
สาอะไรสิ่งที่เห็นจะเป็นจริง
	๑๒มีนาคม๒๕๔๗
ที่เคลือบแคลงแสร้งรักยังหนักจิต
ที่ดวงจิตเศร้าหมองข้องใจไหม
ที่ยังรักนั้นรักอยู่หรืออย่างไร
เป็นไฉนไยไม่แจ้งแกล้งให้รอ
	๑๘มีนาคม๒๕๔๗
	ละอองฝนโปรยปรายเกือบสายแล้ว
ยินนกแจ้วแว่วเสียงสำเนียงหวาน
นกตัวนั้นมันยืนเกาะสายไฟนาน
ชวนสงสารวานไปบอกให้มันรู้
	๒๐มีนาคม๒๕๔๗
จากวันนั้นถึงวันนี้ยังดีอยู่
เพราะใจสู้ไม่ท้อไม่รอฝัน
สู้อย่างนี้สู้ทุกทีสู้ทุกวัน
สู้ไม่หวั่นกลั้นใจสู้สู่จุดหมาย
	๒๖มีนาคม๒๕๔๗
	ก่อนฟ้ารุ่งเรืองรองที่หมองมืด
ก่อนความมืดจางหายเพราะพ่ายแสง
ก่อนชีพรุ่งเรืองรองก้องสำแดง
ก่อนสิ้นแสงปฐพีทำดีไว้
	๓๐มีนาคม๒๕๔๗
	จากก้อนดินเป็นสินทรัพย์นับไม่ถ้วน
ลำบากล้วนจวนจะดับอยู่หลายหน
บางครั้งทุกข์บางครั้งเศร้าเคล้าปะปน
ชื่อว่าคนปนกันอยู่รู้รู้กัน
	๒๑เมษายน๒๕๔๗	
เช้าวันนี้มีเมฆครึ้มลอยล่องทั่ว
ดูมืดมัวชั่วประเดี๋ยวแล้วก็หาย
แสงแดดส่องเรืองรองต้องผิวกาย
ความมืดหายไปหมดสดใสพลัน
	๒๒เมษายน๒๕๔๗
ไม้ในเมืองวันนี้ยังมีบ้าง
แต่ก็บางไปหมดเพราะหดหาย
ที่เหลืออยู่สู้ต่อเพื่อหยั่งกาย
ไม่สลายฝังกายหล่นปนเป็นดิน
	๒๒เมษายน๒๕๔๗
	เมฆขาวใสสว่างกระจ่างแล้ว
พระสงฆ์แจวเรือกลับคล้อยลับหลัง
นกกาบินร่อนร้องก้องเสียงดัง
นกเอี้ยงยังเริงร่าเกาะหลังทุย
	๒๓เมษายน๒๕๔๗
	ในโลกจริงวันนี้แม้มีเพื่อน
แต่ดูเหมือนอยู่คนเดียวเลยเชียวหนา
เพื่อนที่เคยใกล้ชิดเกื้อหนุนมา
ไม่นำพาอีกแล้วน้องแก้วเอ๋ย
	เมษายน๒๕๔๗
	จากเมืองไทยไปอยู่เมืองญี่ปุ่น
พ่อคุณยุ่นเป็นยังไงขอไต่ถาม
อยู่ทางนี้ยังอยู่สุขเกือบทุกยาม
เพียงแต่อ้างว้างบ้างบางเวลา
	๒๕๔๗
	วันไหนไหนไม่สำคัญเท่าวันนี้
เพราะเป็นวันที่สำคัญกว่าวันไหน
พรุ่งนี้มะรืนนี้เป็นอย่างไร
สุดแต่สิ่งที่ทำไปในวันนี้
	๑๔ พฤษภาคม๒๕๔๗
	ถึงวันนี้ยังมีที่ไม่ดีบ้าง
แต่ก็ห่างไกลจากทุกข์ที่เคยหลอน
ถ้ายังอดทนอยู่ได้ไม่อาทร
ที่ทุกข์ร้อนก่อนวันนี้ย่อมคลี่คลาย
	๒๒กรกฎาคม๒๕๔๗
	ต้องลำบากยากทุกข์สุขไม่เห็น
กว่าจะเป็นสุขได้อย่างใจหมาย
ทนคับข้องของวันนี้จนคลี่คลาย
ยังไม่สายถ้าใจสู้อย่าไปถอย
	๓สิงหาคม๒๕๔๗
      หยาดฝนหล่นปนน้ำตาเวลาเศร้า
นั้นคลุกเคล้าความรู้สึกลึกลึกขม
แต่เมื่อฝนปนน้ำตาสร่างซาจม
ความขื่นขมระทมเศร้าเบาลงไป
	๕สิงหาคม๒๕๔๗
	ถึงวันนี้ชีพที่เหลือนั้นเพื่อลูก
แม้จะถูกหยามเหยียดทำเดียดฉันท์
อดทนสู้ต่อไปไม่นานวัน
ความสุขสันต์วันที่เหลือคงดีขึ้น
	๙สิงหาคม๒๕๔๗
	ในเวลาอับโชคอย่าโศกศัลย์
ตราบตะวันยังอยู่โลกสดใส
ชีพต้องอยู่อดทนสู้ต่อไป
ท้าโลกให้ได้รู้ยังสู้ต่อ
	๑๗สิงหาคม๒๕๔๗
	In God we trust
In such this time
To find myself
To help the family.
	August17, 2004
           เมื่อรู้สึกอับจนอย่าก่นว่า
เที่ยวโทษด่าโชคชะตาฟ้าราศี
หมั่นอดทนไปจนกว่าจะได้ดี
กู้ศักดิ์ศรีคืนกลับประดับสกุล
	๑๗สิงหาคม๒๕๔๗
	เมื่อตกลงแก้ไขต้องใจมั่น
อย่าไปหวั่นมันสุดยากลำบากแสน
ต้องศึกษาอย่าไปท้อข้อดูแคลน
จะคับแค้นแค่ไหนต้องอดทน
	๑๗สิงหาคม๒๕๔๗
    ถึงวันนี้ที่หวังยังไม่เสร็จ
เกือบจะเจ็ดปีแล้วแน่วแน่สรรค์
ที่แก้ไขใกล้จะดีขึ้นทุกวัน
ที่ใฝ่ฝันจะแก้ไขใกล้เสร็จแล้ว
	๑๘สิงหาคม๒๕๔๗
	จากวันนั้นถึงวันนี้หลายปีแล้ว
แต่ยังแน่วแน่ใจต้องแก้ไข
หวังพรุ่งนี้มะรืนนี้ดีอย่างใจ
ที่แก้ไขไปแล้วช่างน้อยนัก
	๑๘สิงหาคม๒๕๔๗
	สิ่งที่หวังตั้งใจในวันนี้
หมั่นทำดีคิดดีละที่ชั่ว
หากนอนหลับพับไปไม่ต้องกลัว
ทำดีทั่วกลัวอะไรใครติฉิน
	๒๔สิงหาคม๒๕๔๗
	ความวุ่นวายสายวันนี้มากมียิ่ง
เกือบทุกสิ่งล้วนต้นตอก่อปัญหา
ความยุ่งยากค่อยสะสมตามติดมา
ถึงเวลารับความจริงในวันนี้
	๓๑สิงหาคม๒๕๔๗
	สุดสายรุ้งมุ่งไปหาให้เจอะ
ทองคำเยอะหรือไรใคร่ไปถึง
จากคำบอกต่อต่อมาคำนึง
ถ้าไปถึงคงมีทองส่องประกาย
สายรุ้งโค้งลงมาหลังคาครอบ
คือคำตอบสุดท้ายมุ่งหมายหา
ดินแดนที่งดงามสุดสายตา
หมดเวลาบนกองทุกข์สุขซะมั่ง
	๑๔กันยายน๒๕๔๗
	    สุดสายป่านคือว่าวน้อยที่ลอยลิบ
กว่าห้าสิบไล่ตามหวังยังตามหา
ชีวิตเศร้าเคล้าสุขทุกข์นานา
ต้องฟันฝ่าอีกเท่าไรใครรู้บ้าง
	๑๕กันยายน๒๕๔๗
	ต่อไปนี้ที่ยังเหลือนั้นเพื่อลูก
เรื่องผิดถูกหรือไม่ไว้ทีหลัง
ก่อนเคยคิดติดเอาไว้ยังไม่ทำ
เดี๋ยวนี้จำเป็นต้องเร่งเซ็งซะแล้ว
	๑๕กันยายน๒๕๔๗
	คือความหวังที่ตั้งไว้ไม่แปรเปลี่ยน
คือความเพียรประพฤติชอบเพื่อตอบสนอง
คือการเลี่ยงประพฤติผิดทำนอง
คือยุคทองส่องสว่างกระจ่างแล้ว
	๒๓กันยายน๒๕๔๗
	แสงแดดส่องเรืองรองอย่างทองอาบ
จิตกำซาบปลาบปลื้มลืมทุกข์ขม
ที่ผ่านมาทุกข์หนักมักระทม
เมื่อใดสมเกือบจะล่มจมอยู่แล้ว
	๒๔กันยายน๒๕๔๗
	ลอยดวงเด่นบนฟ้านภากว้าง
ไม่อ้างว้างบ้างหรือพระจันทร์จ๋า
แสงเดือนผ่องส่องแสงงามจับตา
รู้ไหมว่าคนรักข้าอยู่ไหน
	๒๗กันยายน๒๕๔๗
	จำใจต้องบอกลาอย่าเศร้าโศก
ที่อับโชคคงไม่นานอย่าท้อถอย
หากบุญมาวาสนาที่รอคอย
ไม่ต้องสอยก็ลอยร่วงมาให้ครอง
	๒๘กันยายน๒๕๔๗
	มืดสลัวมัวหม่นบนท้องฟ้า
ทั่วนภาเกลื่อนกล่นเมฆหม่นหนาว
นกการ้องบ่นว่าจวนถึงคราว
เริ่มจะหนาวแล้วนะพระคุณเอ๋ย
	๓๐กันยายน๒๕๔๗
	สัญญาไว้วันนั้นยังจำมั่น
ไม่ทิ้งกันและกันนั่นใช่ไหม
แต่ขอถาม ณ วันนี้เป็นอย่างไร
เหตุไฉนลืมจำคำวันนั้น
	๒๘ตุลาคม๒๕๔๗
	สุดสายรุ้งมุ่งไปหาให้พบ
ก่อนจะจบสิ้นแสงชีวิตฉาย
ภารกิจติดรออยู่จะได้คลาย
จุดมุ่งหมายคือได้พบอยู่ครบคน
	๙พฤศจิกายน๒๕๔๗
	สุดแดนนี้ที่เคยหวังจะมาพบ
กว่าดินกลบร่างฝังยังสุสาน
เพื่อสืบทอดเจตนปณิธาน
และสืบสานความใฝ่ฝันอันดีนั้น
	๑๑พฤศจิกายน๒๕๔๗
	อย่าสิ้นหวังตั้งจิตให้มุ่งมั่น
รู้ให้ทันปัญหาที่มาขวาง
ตั้งสติตรองนึกหาหนทาง
หัดปล่อยวางอย่างสุขุมหายกลุ้มพลัน
	๑๗พฤศจิกายน๒๕๔๗
	สุดปัญญาจัดหาคืนให้ได้
สุดสิ้นใจไขว่คว้าหาชื่อเสียง
สุดหนทางเดินไปให้ใกล้เคียง
สุดจะเถียงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
	๑๗พฤศจิกายน๒๕๔๗
	ผลประโยชน์อะไรนักชักให้ฆ่า
กรรมบังตาพาไปทำให้หลง
อวิชชามากไปจิตต่ำลง
เมื่อใดปลงลงได้ถ้าไม่รู้จักพอ
	๒๒พฤศจิกายน๒๕๔๗
สุดสายรุ้งตรงไหนไม่เคยพบ
จุดบรรจบที่ไหนใคร่ขอถาม
บ่อกำเนิดอยู่ที่น้ำตัดแสงตาม
แล้วสร้างความสดใสบนท้องฟ้า
	๒๕พฤศจิกายน๒๕๔๗
	กระทงน้อยลอยทุกข์ได้หมดหรือ
ผู้คนถือกันว่าถ้าอธิษฐาน
กระทงทุกข์ปลิดทุกข์สุขสราญ
แรงอธิษฐานบันดาลสุขหมดทุกข์เอย
	๑ธันวาคม๒๕๔๗
	ลุธันวาคมพร้อมใจก้มบังคมกราบ
ไทยทั้งชาติสดุดีไม่มีสอง
เปี่ยมพระกรุณาธิคุณทั่วแผ่นดินทอง
ชนแซ่ซร้องถวายพระพรมหาราชา
	๑ธันวาคม๒๕๔๗
ขอพระองค์สุขเกษมเปรมปรีดิ์ตลอด
ให้ทรงปลอดจากทุกข์ที่รุมหา
ให้สมบูรณ์พูนสุขเปี่ยมพลา
พระกายาปลอดโรคอย่าโศกเทอญ
	๑ธันวาคม๒๕๔๗
	ด้วยเดชะพระบารมีที่ปกเกล้า
ผองพวกเราร่มเย็นเป็นสุขศรี
ขอคุณพระส่งเสริมพระบารมี
จงอยู่ดีมีสุขเกษมเปรมสำราญ
	๒ธันวาคม๒๕๔๗
	หกปีกว่าที่ฝ่าฟันมั่นใจนัก
ทำงานหนักให้มากพากเพียรขยัน
แก้ไขสิ่งบกพร่องแต่ละวัน
ถึงวันนั้นคงสำเร็จเสร็จอย่างใจ
	๗ธันวาคม๒๕๔๗
	แม้ลำบากทุกข์หนักสักเพียงไหน
ถ้าตั้งใจแน่วแน่มุ่งแก้ไข
ทุกข์รุมเร้าทั้งหลายมลายไป
สุขสดใสนั้นรออยู่เรารู้ดี
แต่ถ้านิ่งนอนใจไม่แก้ไข
วันล่วงไปทุกนาทีเอาแต่ฝัน
ปล่อยเอาไว้สะสมเนิ่นนานวัน
ทุกข์อันนั้นพูนเพิ่มเติมทุกที
	๗ธันวาคม๒๕๔๗
   ลมเรื่อยเรื่อยเฉื่อยฉิวต้องผิวเนื้อ
จากทางเหนือพัดผ่านม่านไหวไหว
บ่งบอกว่าหน้าหนาวนี้ยังไกล
เธออยู่ไหนเวลานี้พี่อยากรู้
	๘ธันวาคม๒๕๔๗
	สู้ต่อไปด้วยใจมั่นอย่าหวั่นไหว
หมั่นฝึกใจให้ตรงฝ่าพงหนาม
สู้อุปสรรคขจัดสิ้นด้วยพยายาม
อย่าเกรงขามพยายามต่ออย่ารออะไร
	๑๓ธันวาคม๒๕๔๗
	เรื่องที่หวังตั้งใจไว้อย่าไปเลิก
ถึงชื่อเกริกสูญสลายละลายหลอม
จิตตั้งมั่นเลิกหวั่นไหวใจอย่ายอม
จงเตรียมพร้อมไว้ต่อสู้กู้ฐานะ
	๑๓ธันวาคม๒๕๔๗
จวนจะสิ้นปีเก่าเฝ้ารอใหม่
จัดเตรียมใจอย่าไปรอข้อที่ฝัน
เก็บบันทึกข้อผิดพลาดแต่ละวัน
แล้วจงหมั่นตรองตรึกนึกแก้ไข
	๑๓ธันวาคม๒๕๔๗
	ขอเพียงแต่แน่วแน่หมั่นแก้ไข
ค่อยหมดไปทุกปัญหาที่รุมสุม
หมั่นพิจารณาตรึกตรองไปให้รัดกุม
ที่เคยกลุ้มต้องแก้ไขได้สักวัน
	๑๓ธันวาคม๒๕๔๗
	จากวันนั้นถึงวันนี้หกปีกว่า
ก่อนจะมาถึงจุดที่หักเห
ผ่านงานหนักทุกวันอย่างทุ่มเท
เพื่อจะเหหนทางสร้างชีวิต
ทุกทุกวันตื่นแต่เช้าออกจากบ้าน
เริ่มทำงานสานที่ก่อขอแก้ไข
ทุกวันนี้ปรี่ล้นกำลังใจ
ค่อยทำไปปัญหาร้ายคงกลายดี
	๑๔ธันวาคม๒๕๔๗
	แม้นมืดหนาวราวถูกขังอยู่ใต้โลก
อย่าไปโศกเศร้าอยู่สู้แก้ไข
ลบอดีตมัวหม่นขว้างทิ้งไป
เพียรตั้งใจหยัดสู้กู้ฐานะ
	๑๔ธันวาคม๒๕๔๗
	แสงแดดอุ่นส่องทั่วสลัวหาย
ลมพัดคลายหายกลุ้มที่รุมสุม
แสงแดดส่องวาววับจับทุกมุม
สลัวคลุมก็หายคลายจากมืด
	๑๖ธันวาคม๒๕๔๗
	แสงทองสาดส่องลงมาฟ้าสวยสด
ช่างงามงดจับตานภาสวย
สายลมอุ่นพัดมาพาระรวย
ดอกไม้สวยร่วมด้วยช่วยส่งกลิ่น
	๑๗ธันวาคม๒๕๔๗
	 ปีสองพันห้าร้อยสี่สิบแปด
ให้จงแวดด้วยสุขทุกข์อย่าเห็น
ให้รื่นรมย์มีสติอย่างควรเป็น
โรคขุกเข็ญมอดมลายอย่ากรายใกล้
	๑๗ธันวาคม๒๕๔๗
	สวัสดีปีระกาให้สร่างโศก
สมบูรณ์โชคโรคไม่มีดีอย่างหวัง
ใจเปี่ยมสุขชีพสดใสไม่ผุพัง
ทุกสิ่งหวังดีดีจงสำเร็จ
	๒๐ธันวาคม๒๕๔๗
	ให้มีสุขสวัสดีมั่งมีโชค
ที่เคยโศกโรครุมเร้าเศร้าทุกข์หมอง
ให้ปราศโศกสิ้นโรคร้ายอย่างใจปอง
ที่เคยหมองให้คลายหมดปรากฏนาน
	๒๐ธันวาคม๒๕๔๗
เย็นลมหนาวพัดโบกโบยโชยมาแล้ว
ยังยินแว่วแผ่วแผ่วแจ้วแจ้วเสียง
สกุณาผกผินบินเคียงเรียง
ขอเธอเคียงอยู่ใกล้ใจคงสุข
	๒๑ธันวาคม๒๕๔๗
	ถึงจนยากลำบากสักเพียงไหน
ถ้าหากใจยังมั่นหมั่นขยัน
พากเพียรสู้ทนไปคงสักวัน
ตั้งใจนั้นฝันบรรเจิดเกิดขึ้นจริง
	๒๒ ธันวาคม๒๕๔๗
	ตะวันร้อนแรงฉายประกายส่อง
สาดแสงทองส่องลงมาฟ้าสดใส
ข้าวตั้งท้องโอนอ่อนปลิวแกว่งไกว
น้ำเย็นใสปลาแหวกว่ายไม่หน่ายมอง
	๒๒ธันวาคม๒๕๔๗
	เย็นลมหนาวพัดมาฟ้าสลัว
ดูมืดมัวชั่วประเดี๋ยวฟ้ากลับใส
อาทิตย์ส่องแรงแสงผ่องอำไพ
มืดหมดไปใสกระจ่างสว่างแล้ว
	๒๒ธันวาคม๒๕๔๗
	สีสดสวยระรวยกลิ่นซ่อนกลิ่นป่า
ลมโชยมาเรื่อยเรื่อยที่เหนื่อยหาย
แสงแดดส่องเรืองรองต้องผิวกาย
เย็นพระพายสายลมอุ่นพูนเพิ่มสุข
	๒๒ธันวาคม๒๕๔๗
	ตั้งใจมั่นจงอย่าหวั่นหมั่นแก้ไข
จัดเตรียมใจไว้ก่อนเพื่อผ่อนผัน
ตรึกตรองนึกหาหนทางสว่างพลัน
แก้ที่ฝันร้ายร้ายให้กลายดี
	๒๓ธันวาคม๒๕๔๗
	สวัสดีปีใหม่ขอให้สุข
ที่เคยทุกข์แค่ไหนให้สลาย
ขอให้สุขสดชื่นทั้งใจกาย
เรื่องร้ายร้ายให้หายหดหมดสิ้นเทอญ
	๒๔ธันวาคม๒๕๔๗
     ขอพระองค์ทรงพระเกษมเปรมปรีดิ์ตลอด
ให้ทรงปลอดภัยพาลสำราญสม
ให้ห่างทุกข์หม่นหมองที่ตรอมตรม
เรื่องระทมขมเศร้าสูญสิ้นไป
	๒๔ธันวาคม๒๕๔๗
	     ด้วยความรักความเข้าใจที่มีให้
หลอมดวงใจให้เป็นหนึ่งซึ้งทราบไหม
ถึงทุกข์อยู่ก็คลายทุกข์ค่อยหมดไป
สองดวงใจหยัดเคียงคู่สู้ฝ่าฟัน
	๒๔ธันวาคม๒๕๔๗
	วันเดือนปีที่ผ่านวานอย่าถาม
เรื่องติดตามยามนี้ยังมีหวัง
ขอให้เพียรแก้ไขเต็มกำลัง
สิ่งที่หวังตั้งใจไว้ย่อมสำเร็จ
	๒๗ธันวาคม๒๕๔๗
	แผ่นดินเลื่อนเคลื่อนคลื่นมหาสมุทร
ม้วนไม่หยุดฉุดน้ำเข้าหาฝั่ง
คลื่นยักษ์ม้วนตัวกระแทกบ้านเรือนพัง
ชีวิตฝังร่างกลบจบวิญญาณ
	๒๗ธันวาคม๒๕๔๗
	คลื่นยักษ์โถมกระแทกหินแตกอ้า
น้ำพัดพาบ้านเรือนเลื่อนจมหาย
คนที่อยู่นับพันพากันตาย
แตกสลายดวงจิตเศร้าเฝ้าระทม
	๒๗ธันวาคม๒๕๔๗
	มหาคลื่นโถมซัดดังสนั่น
อันดามันสั่นสะเทือนดินเคลื่อนไหว
สูงราวตึกสามชั้นน่าหวั่นใจ
แหลกบรรลัยคนตายเกลื่อนเหมือนฝันร้าย
คลื่นยักษ์เกิดจากดินใต้ทะเลเคลื่อน
กระจายเกลื่อนเลื่อนหินทรุดมุดไม่ไหว
แรงดันโลกใต้ทะเลผุดขึ้นไว
ชักนำให้น้ำหมุนดุนขึ้นมา
แรงดันคลื่นใต้น้ำหนุนนำส่ง
คลื่นยักษ์ตรงเข้าฝั่งดังหวั่นไหว
กลืนแผ่นดินจมมิดปิดลงไป
แล้วจึงไหลผ่านเรื่อยเอื่อยลงดิน
	๒๘ธันวาคม๒๕๔๗
	ทะเลใต้ดินถล่มคลื่นลมป่วน
คลื่นยักษ์กวนน้ำทะเลเหเข้าหา
แผ่นดินล่มจมน้ำที่หลากมา
ทะเลบ้าคร่าชีวิตให้ปลิดปลง
หกจังหวัดภาคใต้ล้มตายเกลื่อน
ยังไม่เลือนภาพสุดร้ายยากจางหาย
ชีวิตคนและทรัพย์สินถูกทำลาย
เป็นฝันร้ายคลายไม่หมดสลดใจ
	๒๘ธันวาคม๒๕๔๗
	Not only was the lost of my situation, but also the lost of my friends.
	                                                         2002
นิธิรำพึง ภาค ๒
	ขอน้อมก้มถวายบังคมพระบรมบาท
ไทยทั้งชาติรุ่งเรืองเฟื่องราศี
พสกนิกรร่มเย็นทั่วด้วยพระบารมี
ทรงเป็นที่เทิดทูนศูนย์รวมไทย
		๑๘มกราคม๒๕๔๘
	อากาศทึบอบอับถูกจับขัง
ที่นอนนั่งสูบบุหรี่มีให้เห็น
ที่นั่งทุกข์กอดเข่าเช้าถึงเย็น
เพิ่งได้เห็นครานี้น้องพี่เอ๋ย
บรรยากาศรอบตัวดูซึมเศร้า
ทั้งเขาเราเจ่าจุกลุกยากเข็ญ
ลำบากกายบวกใจตายทั้งเป็น
ที่เล็งเห็นแตกต่างที่เป็นจริง
	๒๗ มกราคม๒๕๔๘
	ต่อแต่นี้ขอใช้หนี้ที่ก่อ
เพียงแต่ขอโอกาสตามคาดหวัง
จะพากเพียรต่อสู้เต็มกำลัง
เพื่อคนหลังปลอดทุกข์สุขซะที
	๒๘ มกราคม๒๕๔๘
	ยืนขายขนมริมถนนบนฟุตบาท
นั่นประกาศให้คนรู้สู้ไม่ถอย
นับแต่นี้ไม่เอาแล้วที่เฝ้าคอย
นี่อย่างน้อยพลอยได้รู้อยู่หรือไป
	๒๘มกราคม๒๕๔๘
	ชีวิตพ่อตลอดมามีแต่ให้
นับแต่ไหนให้ตลอดยอดแค่ไหน
แต่เพราะกรรมทำผิดคิดพลาดไป
ส่งผลให้ต้องรับโทษ โปรดเห็นใจ
	๒กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	ขอคุณพระช่วยด้วยให้รวยโชค
ให้สร่างโศกโรครุมเร้าเศร้าสลาย
ให้ทุกข์สุมรุมอยู่ได้คลี่คลาย
ให้เรื่องร้ายหายหมดปรากฏนาน
	๓กุมภาพันธ์๒๕๔๘
ถึงวันนี้ที่เคยหวังยังไม่เสร็จ
อย่าสมเพชเวทนาอย่างหมาหมู
ยังสู้ต่อไม่ย่อหยุดให้สุดดู
ให้โลกรู้ถ้ายังสู้ต้องชนะ
	๓กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	เพียรหาทางต่อสู้กู้ฐานะ
ไปไหว้พระละกิเลสที่พอกหนา
ไปไหว้สงฆ์องคเจ้าเสาหลักมา
แล้วไหว้สาองค์พระบาทพระศาสดา
	๗กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	เก็บความทุกข์เอาไว้ข้างในอก
แล้วหยิบยกความสุขมาอย่าไปหวง
เก็บน้ำตาเอาไว้อยู่ในทรวง
เก็บคำลวงทิ้งไปให้ไกลตา
ถึงวันนี้ทุกข์แค่ไหนใจยังมั่น
จะฝ่าฟันอุปสรรคหนักทั้งหลาย
จะยึดมั่นความดีนั้นจนวันตาย
ไม่เสียดายไม่อายเขาเรายังสู้
	๘กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	เก็บความรักความใส่ใจที่ดีไว้
เก็บเอาไปนอนฝันวันคิดถึง
เก็บความฝันวันวานมาคะนึง
เก็บจนถึงวันที่หวังตั้งใจนั้น
	๘กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	ภายนอกหน้าสดชื่นรื่นเริงสนุก
ข้างในทุกข์หม่นหมองมองไม่เห็น
ข้างนอกสุขข้างในเศร้าเหงาอย่างเป็น
ตลกเล่นเห็นเห็นอยู่รู้บ้างไหม
	๑๗กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	เรื่องราวที่แสดงออกบอกให้รู้
ใจยังสู้แค่ไหนไม่มีผล
แต่ถ้ายังมุ่งมั่นสู้อดทน
สัมฤทธิ์ผลจนได้อย่าไปท้อ
	๑๗กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	จงอดทนไปก่อนค่อยผ่อนผัน
เมื่อถึงวันที่เหมาะจึงเสาะหา
โอกาสเหมาะเมื่อใดค่อยษมา
แล้วจึงหาทางพูดตกลงกัน
	๑๗กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	สู้ต่อไปสู้ให้ได้ถึงที่สุด
อย่าไปหยุดเพราะท้อรอไม่ไหว
ถ้าใจสู้กายสู้กูแน่ใจ
ความจัญไรไล่ต้องหมดอดใจรอ
	๑๘กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	มีปัญหาหนักใจให้รีบบอก
หาทางออกเอาไว้ให้เหมาะสม
อย่าเก็บบ่มจมไว้ให้ทุกข์ตรม
อย่าไปก้มหน้าหมองแอบร้องไห้
	๑๘กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	ที่เคยรักก็ยังรักหักไม่หมด
ที่ปรากฏให้เห็นยังสงสัย
ที่ซุกซ่อนหลบไว้อย่าใส่ใจ
ที่ตรงไหนยังข้องใจให้ไต่ถาม
	๒๑กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	จะลองหัดหาทางไต่บันได
ปีนลงไปตามกระดูกไขสันหลัง
ดิ่งลงไปให้ถึงกึ่งกลางอัน
ถิ่นสวรรค์บรรจบพิภพนี้
	๒๑กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	อิสรภาพคืนมารักษาไว้
อย่าให้ใจตกต่ำดำมืดหมอง
บำเพ็ญศีลบริสุทธิ์หยุดลำพอง
เพื่อเราผองครองอิสระนับแต่นี้
	๒๑กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	ต่อแต่นี้ขอจงมีความดีตั้ง
สิ่งที่หวังมรรคและผลด้นค้นหา
หาทางดับอกุศลอวิชชา
ตั้งใจฝ่าอุปสรรคหนักทั้งหลาย
	๒๑กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	ดวงตะวันสีแดงแสงยังนิด
เปรียบเหมือนจิตโรยแรงแจ้งปัญหา
ต้องรอพ้นขอบโพ้นอวิชชา
จึงเจิดจ้าปัญญาโรจน์โชติช่วงพลัน
	๒๒กุมภาพันธ์๒๕๔๘
	เมื่ออับจนหนทางทุกอย่างมืด
รักจางจืดห่างไกลหน่ายหนีหาย
ต้องอดทนอดกลั้นรู้ผ่อนคลาย
ก่อนสบายต้องลำบากยากไปก่อน
	๑ มีนาคม ๒๕๔๘
	จันทร์เจ้าเอ๋ยเคยรักสมัครมั่น
เดี๋ยวนี้จันทร์เป็นอะไรใคร่ไต่ถาม
ยังอยู่ดีมีสุขเลื่องลือนาม?
ขอย้ำถามตามอัธยาศัยใจรักกัน
	๒มีนาคม๒๕๔๘
	จะยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่
จำต้องมีความรอบคอบกอปรรู้เขา
ต้องเตรียมการผ่อนหนักให้เป็นเบา
เกี่ยวกับเขาเท่าไหร่ต้องให้รู้
	๓มีนาคม๒๕๔๘
	จะอยู่ไหนไม่สำคัญถ้าใจมั่น
อย่าไปหวั่นมั่นอุรารักษาศีล
ใจสงบพบพระลดละคลีน(clean)
พวกทุศีลอย่าไปคบไม่จบเศร้า
	๓มีนาคม๒๕๔๘
	ความผิดหวังเป็นยารักษาจิต
ช่วยชีวิตไม่หมองกรองให้ใส
ละลายทุกข์หม่นเหงาเศร้าข้างใน
ให้รินไหลไปหมดกับหยดน้ำตา
	๓มีนาคม๒๕๔๘
	ห่วงแค่ไหนอย่าไปคิดจิตห่วงหา
ไม่นำพาฝ่าชีวิตที่ติดขม
หัดปล่อยวางสร้างชีวิตอย่าติดตม
เรื่องใจขมซมทุกข์ลุกทิ้งไกล
	๓มีนาคม๒๕๔๘
ตื่นแต่เช้าเอาขนมไปตั้งขาย
เหน็ดเหนื่อยกายแต่ก็ทนเพื่อเราผอง
บางครั้งนึกขึ้นมาน้ำตานอง
กี่ครั้งต้องร้องในอกฟกช้ำใจ
	๔มีนาคม๒๕๔๘
	เก็บความรักความเข้าใจไว้ในหมอน
เวลานอนจะได้ฝันคะนึงหา
เก็บความขุ่นคับข้องใจให้ไกลตา
เก็บรักษาความดีที่มีไว้
	๔มีนาคม๒๕๔๘
เก็บความหมองทิ้งไปให้ไกลบ้าน
เก็บความหวานอบอุ่นไว้หนุนหมอน
เก็บความสุขและห่วงหาเอื้ออาทร
อย่าซุกซ่อนเอาไว้ห่างไกลเรา
	๔มีนาคม๒๕๔๘
	หมอกเบาบางข้างหน้าฝ่าไปเถิด
ถ้าจะเกิดอันตรายอย่าพ่ายหนี
กุมสติไว้ให้มั่นทำให้ดี
ยึดศักดิ์ศรีความเป็นคนด้นสู้ไป
	๘มีนาคม๒๕๔๘
	จากก้อนดินปลุกปั้นทุกวันเปลี่ยน
ที่โล่งเตียนกลายเป็นตึกอย่างนึกสรรค์
ค่อยพูนเพิ่มเติมก่ออย่าท้อมัน
ถึงวันนั้นสวรรค์รอขอบอกท่าน
	๑๔มีนาคม๒๕๔๘
	อย่าอับจนหนทางจะสร้างสุข
อย่าดูถูกกำลังน้อยค่อยสะสม
อย่าพันผูกอวิชชาพาเศร้าตรม
อย่าเลิกล้มความตั้งใจมั่นทำดี
	๑๕มีนาคม๒๕๔๘
	เทพเจ้าองค์ใดไม่ทรงโปรด
จึงพิโรธโกรธพี่ไมตรีหมอง
พี่ทำผิดแค่ไหนไยไม่ตรอง
ต้องขอร้องถึงเมื่อไหร่เห็นใจเถอะ
	๑๗มีนาคม๒๕๔๘
เมฆครึ้มฝนบนฟ้ามาอีกแล้ว
ลมที่แผ่วแล้วเกือบหยุดเร่งรุดฉลอง
ใบไม้ปลิวผิวเย็นเยือกฝนหลั่งนอง
แต่เราสองครองคู่เคียงเลี่ยงหลบฝน
	๑๗มีนาคม๒๕๔๘
	หยาดฝนหล่นปนน้ำตาที่มาร่วง
ช้ำเจ็บทรวงเรื่องอันใดใจเศร้าหมอง
ประสบเคราะห์กรรมทุกข์เศร้าน้ำตานอง
จะเรียกร้องความเป็นธรรมจากที่ไหน
	๒๑มีนาคม ๒๕๔๘
	อดทนรอเหมือนจักจั่นรอวันโผล่
ค่อยค่อยโตทีละนิดอย่าคิดโหม
กำหนดทิศคิดรอบคอบก่อนนะโยม
จึงไม่ล้มจมละลายสลายกับดิน
	๒๒มีนาคม๒๕๔๘
	รัศมีเรืองรองส่องไกลทั่ว
ที่มืดมัวได้สว่างกระจ่างเห็น
ที่เคยปล่อยวางทุกอย่างก็ร่มเย็น
เหลือยกเว้นบัวใต้น้ำดำดิ่งจม
	๒๒มีนาคม๒๕๔๘
	อย่ามัวนั่งกินบุญเก่าเปล่าประโยชน์
จะรุ่งโรจน์อย่างไรถ้าไม่หา
บุญเสบียงสะสมพูนเพิ่มมา
เพื่อวันหน้าผาสุกตลอดไป
	๒๓มีนาคม๒๕๔๘
	ถ้าผิดแล้วรู้ผิดคิดทำชอบ
ทำดีตอบมอบให้ความดีสนอง
หมั่นแก้ไขในที่ผิดคิดตรึกตรอง
ไม่ต้องหมองใจหม่นทนไปอีก
	๒๓มีนาคม๒๕๔๘
คนจนยากตากหน้ามาขายของ
คนรวยร้องจ้องไล่ไม่ให้ขาย
คนจนแย่ไม่ยอมแพ้แม้ตัวตาย
ไม่ให้ขายแล้วจะให้ทำยังไง
	๒๘มีนาคม๒๕๔๘
	คนรวยร้องก้องว่าอย่าบังตึก
อุตส่าห์นึกสร้างขึ้นมาสง่าสวย
มาวางตั้งของเกะกะดูแล้วซวย
โปรดจงช่วยย้ายของที่มาบัง
	๒๘มีนาคม๒๕๔๘
	ลึกลงไปใต้พระปรางค์วางเรียงรอบ
ข้างในกรอบห้องเหลี่ยมกรุทะลุหิน
ทองของสูงรุ้งประกายฉายลงดิน
รอวันดิ้นกว่าจะโผล่อีกนานโข
	๕เมษายน๒๕๔๘
	บรรยากาศซึมเศร้าเหงาคิดถึง
ยังสุดซึ้งถึงพระคุณอันช่วยเหลือ
ที่เคยช่วยเกื้อหนุนช่วยจุนเจือ
บัดนี้เหลือเพียงฝันยามนึกถึง
	๕เมษายน๒๕๔๘
	ยังโหยหาอิสระกระทั่งหลับ
ถูกบังคับโดยสังคมจมท่วมหนา
อิสรภาพที่ยังเหลือสมสร้างมา
มันเหนื่อยล้าหายหดแทบไม่เหลือ
	๗เมษายน๒๕๔๘
	เป็นพระเมืองเรื่องวุ่นคุ้นคุ้นนัก
เรื่องหลักหลักมักไม่พ้นชอบด้นหา
เกียรติประวัติอัตตาตูเจ้ากูนา
วันวันหาได้สืบค้นด้นหาธรรม
	๑๑เมษายน๒๕๔๘
	เป็นพระป่ามุ่งด้นหาธรรมชาติ
ช่วยประกาศสัจจธรรมคำพุทธสอน
หลุดอบายคลายทุกข์หยุดนิวรณ์
ยึดคำสอนผ่อนคลายทุกข์สุขสำรวม
	๒๐เมษายน๒๕๔๘
	หยาดเหงื่อหยดกี่หยาดไม่อาจหยุด
เป็นชาวพุทธที่ดีมีอัธยาศัย
ตั้งที่หวังมรรคและผลค้นกันไป
รู้อภัยรู้ดีชอบตอบแทนคุณ
	๒๒เมษายน๒๕๔๘
	ยืนขายของริมถนนบนฟุตบาท
มั่นประกาศเจตนาอย่าสงสัย
หมั่นสวดมนต์เข้าวัดจัดจิตใจ
นานนานไปใจสงบพบดวงธรรม
	๒๒เมษายน๒๕๔๘
	ถึงวันนี้ยังมีเหลือเผื่อไว้อยู่
คือทนสู้อยู่ให้รอดตลอดปัญหา
มั่นในศีลพิสุทธิ์หยุดอวิชชา
รู้รักษาตัวรอดให้ปลอดภัย
	๒๒เมษายน๒๕๔๘
	สานรวมใจไทยไว้สมัครสมาน
ถิ่นกันดารเพียงไหนทรงไปถึง
บารมีพระองค์เปี่ยมล้นสุดคะนึง
ชนซาบซึ้งพระกรุณาพระบารมี
	๒๕เมษายน๒๕๔๘
	ขอไหว้วอนเทวดาโปรดมาช่วย
จวนจะม้วยหมดแล้วสิ้นวงศา
ขอพรเทพโปรดจงฉุดช่วยชีวา
ได้รักษาตัวรอดตลอดไป
	๒๖เมษายน๒๕๔๘
	จรรโลงพระศาสนาอย่าได้หยุด
เป็นชาวพุทธสุดเลิศประเสริฐศรี
ตั้งความเพียรเรียนให้รู้สิ่งดีดี
ต่อแต่นี้ตั้งใจรู้สติครอง
	๒๖เมษายน๒๕๔๘
	ต่อไปนี้ตั้งใจสู้เพื่ออยู่ต่อ
ไม่ย่อท้อต่อลำบากมากขวากหนาม
สำรวมจิตคิดต่อขอทำตาม
พยายามทำแต่ดีมีสุขใจ
	๒๖เมษายน๒๕๔๘
            ตั้งใจมั่นหมั่นทำดีมีศีลสัตย์
เพียรขจัดความโลภและโกรธหลง
อวิชชาทิ้งให้ไกลใจซื่อตรง
บุญเสริมส่งคงรักษาตัวรอดได้
	๒๖เมษายน๒๕๔๘
	แสงเรืองรองส่องลงมาตรงหน้านั่น
บ่งบอกวันเวลาฟ้าเริ่มใส
ค่อยตรองตรึกนึกวิธีแก้กันไป
ความตั้งใจในวันนี้คือแก้ไข
	๒๐พฤษภาคม๒๕๔๘
	ความวุ่นวายวันนี้ยังมีต่อ
อย่าเพิ่งท้อถอดใจแม้ยากแสน
ค่อยแก้ไขปัดเป่าเข้าทดแทน
ติดตามแผนกลยุทธ์ขุดให้ถึง
	๒๖พฤษภาคม๒๕๔๘
	จากวันนั้นถึงวันนี้หกปีกว่า
ก่อนจะมารู้คำสั่งยังสงสัย
ธรณีสาปสิ้นสุดหยุดหายใจ
ที่ทำไปใช่ไม่รู้ก้มหน้ารับ
	๒  มิถุนายน  ๒๕๔๘
นิธิรำพึง ภาค ๓
  ตั้งแต่วันที่  ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๘
     ตื่นแต่เช้าทำธุระให้สำเร็จ
อย่าหมกเม็ดเก็บไว้ก่อปัญหา
หมั่นสำรวจตรวจที่ผิดคิดที่มา
จึงรักษาตัวรอดได้ปลอดภัย
	๒๘กรกฎ๒๕๔๘
When you’re feeling blue
Let the world goes through
Then you can do it true
And let the peace come along their ways.
Aug15,2005
      เมื่อรู้สึกหม่นหมองจงร้องไห้
อย่าปล่อยไว้ให้ใจต้องกลัดหนอง
ร้องออกมาให้จงหมดทุกข์ที่กอง
ขอจงร้องให้น้ำตาพาทุกข์ไกล
	๑๖สิงห์๒๕๔๘ 
 จำเรียงถ้อยร้อยคำหวานวานบอกแม่
ฝากดวงแขแพร่ออกไปทุกถิ่นฐาน
ด้วยจิตปลื้มปีติสุดสำราญ
แม้จากบ้านไกลห่างแม่แต่คิดถึง
	๑๖สิงห์๒๕๔๘
     รำลึกอดีตที่ผ่านนานมาแล้ว
เคยกล้าแกล้วต่อสู้ริปูผอง
เคยปกป้องรักษ์อธิปไตยครอง
บัดนี้ต้องมัวหมองน้องพี่เอ๋ย
	๑๗สิงห์๒๕๔๘
             วันนี้พ่อยังอยู่ได้ดูโลก
นับเป็นโชคหรือเคราะห์ยังสงสัย
ถึงบัดนี้ไม่โทษเคราะห์เราะร้ายก็กระไร
แต่ไหนไหนใจมั่นอยู่สู้ต่อไป    
       ๒๓สิงห์๔๘
     ในโลกจริงวันนี้ผิดหรือถูก
คิดว่าลูกคงรู้ได้ไม่สับสน
ดีคือดีเลวคือเลวอย่ามาปน
ชื่อว่าคนปนกันอยู่รู้รู้กัน
	๒๓สิงห์๔๘
    เริ่มวันนี้ดีกว่ารอประเดี๋ยว
จะกี่เที่ยวกี่หนทนให้ถึง
รอพรุ่งนี้ยิ่งมากเรื่องรุมกันดึง
อย่างแร้งทึ้งดึงกินเหยื่อจะเหลืออะไร
	๒๔สิงห์๔๘
แสงเหลืองทองส่องลงมาอย่างท้าโลก
วันนี้โศกพรุ่งนี้สุขยังลุกไหว
ทุกข์หม่นหมองครองสุขเห็นเป็นที่ใจ
ทุกข์แค่ไหนทำใจสุขทุกข์หยุดพลัน
	๒๔สิงห์๔๘
          ทุกวันนี้ที่ได้เห็นเป็นพ่อลูก
สัมพันธ์ผูกแน่นแฟ้นเหมือนแผ่นผา
เพราะบุญคุณเกื้อหนุนจุนเจือมา
ถึงชาติหน้าชาติไหนใช้ไม่หมด
	๒๕สิงห์๒๕๔๘
   ทุกทุกอย่างบนทางนี้ที่สร้างโลกย์
อย่าไปโศกเศร้าเสียใจอาลัยหา
ทุกทุกสิ่งทิ้งให้หมดหยดน้ำตา
อย่าห่วงหาพาหมองกรองทิ้งไป
         ๒๕สิงหาคม๒๕๔๘
โลกธรรมค้ำจุนอยู่ดูเอาเถิด
ย่อมมีเกิดแก่เจ็บตายตามวิถี
สังคมทรามเสื่อมลงบ้างมากน้อยมี
อยู่กับที่ใจคนกำหนดวัด
         ๕กันยายน๒๕๔๘
   ฟังเสียงฝนตกลงมาหลังคารั่ว
หนูไม่กลัวบ้างหรือไรใคร่ขอถาม
ฟ้าฝนร้องกึกก้องดังคุกคาม
ตอนตีสามยามมืดมิดจิตใจสั่น
         ๑๔ กันย์ ๒๕๔๘
     ฟ้าครึ้มฝนหม่นมัวน่ากลัวนัก
มองเสาหลักเมืองกรุงเทพน่าผิดหวัง
สรรพสิ่งในโลกล้วนอนิจจัง
อย่าไปหวังสิ่งดีเลิศจะเกิดนัก
         ๑๕กันย์๒๕๔๘
     มานั่งนึกตรึกตรองผองปัญหา
ได้พบว่าหวังที่คิดยังผิดหวัง
แต่ไม่ถอนความคิดวิจิตรอัน
จะสร้างสรรค์วันที่เหลือเพื่อมวลชน
	๑๕กันย์๒๕๔๘
         ฟ้าฉ่ำดาวค่ำวันนี้ยังมีอยู่
มืดมืดดูดวงดาวพร่างพราวสวย
ส่องระยิบประจำฟ้าน่างงงวย
พระจันทร์สวยเย็นลมพัดนัดชมดาว
	๒๖กันย์๒๕๔๘
        เช้าวันนี้มีเมฆบางกระจ่างแจ้ง
อาทิตย์แดงแสงเรืองเรื่อเจือเหลืองสวย
จันทร์เพิ่งดับลับเหลี่ยมฟ้ากลับถิ่นทวย
ฟ้าใสสวยช่วยกันรักษ์อยู่คู่โลก
	๒๗กันย์๒๕๔๘
     เที่ยวเกาะเกร็ดเตร็ดเตร่ไปเที่ยวชมสวน
ดอกไม้ล้วนงามตาช่างน่าฝัน
ชมชิมชอบขนมหวานตลอดทั้งวัน
แดนสวรรค์บนดินถิ่นชาวมอญ
	๓๐กันย์๒๕๔๘
รวิแรงแสงฉายประกายส่อง
สีเหลืองทองรองเรืองเมืองในฝัน
จากวันนี้ที่เห็นเป็นนิรันดร์
โลกที่ฝันมันแตกต่างห่างที่จริง
	๑๓ตุลย์๒๕๔๘
	ที่เคยเห็นเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเล่า
อย่ามัวเขลาเบาปัญญาถ้าสงสัย
ตรึกตรองคิดหาคำตอบที่ค้างใจ
จารนัยให้หมดสิ้นยินดีไหม
	๑๓ตุลย์๒๕๔๘
	ดินแดนนี้ที่ต่างไปในอดีต
บนจารีตติดฝังเวียงวังเขมร
บันทึกเรื่องกัมพุชจุดเบี่ยงเบน
เหลือกากเดนเขมรล่มจมธรณินทร์
	๑๗ตุลย์๒๕๔๘
	ฟ้าฉ่ำดาวคราวนี้มีให้เห็น
อย่างที่เป็นแหล่งดาวสกาวแสง
อาทิตย์ดับลับนานแล้วคลายร้อนแรง
จันทร์เหลืองแดงสีทรงกลดงดงามจริง
	๑๗ตุลย์๒๕๔๘
	จากวันนี้ที่เห็นที่เป็นอยู่
ยอกย้อนดูรอยอดีตยังติดฝัน
ที่เคยเพียรเวียนต่อสู้อยู่ทุกวัน
มันพลิกผันวันสุขสมล่มจมแล้ว
	๑๗ตุลย์๒๕๔๘
      ตะวันฉายสายวันนี้ยังสาดส่อง
ทุกวันมองตะวันฉายจากท้ายหนอง
เย็นลมพัดชายทุ่งใต้ยูงทอง
ช่วยคลายหมองน้องพี่ดีจริงจริง
	๑๗ตุลย์๒๕๔๘
	ออกพรรษาปีนี้ดีหลายอย่าง
บนหนทางก้าวไปไม่เพ้อฝัน
กำลังใจเปี่ยมล้นขึ้นทุกวัน
ตั้งใจมั่นหมั่นสืบค้นด้นพระธรรม
	๒๐ตุลย์๒๕๔๘
	สายสัมพันธ์มั่นคงนักหักได้หรือ
สร้างกับมือจวบสัมฤทธิ์วิจิตรสรรค์
ผ่านฟูมฟักถักทอฝันหมั่นจำนรรจ์
แม้จะสั้นมันก็สุขหยุดทุกข์ตรม
	๒๘ตุลย์๔๘
	ฝากคำวอนสอนใจน้องอีกผองเพื่อน
เมื่อทุกข์เยือนหมั่นเตือนจิตอย่าติดฝัน
เฝ้าสำรวจตรวจที่ผิดคิดแก้พลัน
ทำอย่างนั้นดั้นด้นคลายให้หายทุกข์
	๒๘ตุลย์๔๘
เมื่อยังสุขทุกข์ก็ห่างจางจากเจ้า
จงอย่าเขลาเต่าตุ่นหมกมุ่นฝัน
เมื่อเกิดทุกข์ขึ้นมาสุขห่างครัน
ล่มสวรรค์ฝันกระจายสลายหมด
เพราะฉะนั้นในวันที่ยังมีสุข
จะปลดทุกข์ห่างไกลได้อย่าเพ้อฝัน
จงหมั่นสร้างทางสุขขึ้นทุกวัน
เร่งสร้างสรรค์สิ่งที่ดีเพื่อชีวิต	
๒พิจิก๔๘
	แดดเรืองรองส่องหน้าท้องฟ้าใส
อดทนไปจนกว่าได้มรรคผล
เสียสละมานะก่อขอสู้จน
ได้หลุดพ้นสนตะพายหายจากทุกข์
	๓พิจิก๔๘
	เมื่อแรกรักน้ำผักขมชมว่าหวาน
อย่างอ้อยตาลหวานลิ้นสิ้นความขม
เมื่อรักนานผ่านอุปสรรคตรม
ความขื่นขมระทมทุกข์รุกเข้ามา
	๔พิจิก๔๘
	จากดินแดนที่ห่างไปในอดีต
ผ่านคมมีดคมหอกยังหลอกหลอน
ภาพการบุกรุกรานผ่านดงดอน
เมื่อเก่าก่อนสอนเราให้เข้าใจ
ผลประโยชน์โภชผลปนความโลภ
จึงเฉี่ยวโฉบทึ้งเหยื่อไม่เหลือโฉม
ซากหลงเหลือเจือด้วยความทรุดโทรม
ผ่านไฟโหมลมพัดพิบัตินั้น
	๑๑พิจิก๔๘
	แสงเรืองรองส่องลงมาอย่างท้าโลก
ทุกข์เศร้าโศกมอดมลายหายกับฝน
หมั่นทำดีสักวันพระเบื้องบน
ช่วยหลุดพ้นจนได้คลายห่างทุกข์
	๑๑พิจิก๔๘
	ลอยกระทงวันนี้ไม่มีพี่
ดวงฤดีเศร้าสร้อยนั่งคอยหาย
ป่านฉะนี้ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
สุขสบายเมื่อไหร่อยากจะรู้
	๑๗พิจิก๔๘
	สวัสดีพี่น้องผองชาวเน็ต
ทั่วประเทศเขตแดนแผ่นดินสยาม
กระผมชื่อว่าพลเรียกขานนาม
ตอบคำถามเรื่องที่ทุกข์โปรดปรึกษา
	๒๐พิจิก๔๘
    เย็นลมหนาวพัดโบกโบยโชยกลิ่นหอม
พวงพะยอมหอมเย็นเพ็ญส่องแสง
ดอกราตรีสีขาวตัดดาวแดง
พุดจีบแซงแทรกอยู่ด้วยลมช่วยพัด
	๒๑พิจิก๔๘
      เย็นลมพัดสะบัดโบกโยกไม้ไหว
ที่ห่างไกลทางโพ้นโน่นคงหนาว
ลมแรงพัดใบไม้ร่วงหล่นดังกราว
นี่ถึงคราวหน้าหนาวเริ่มมาแทนแล้ว
	๒๒พิจิก๔๘
	หนาวลมเย็นบนเขายังเศร้านัก
ที่เคยรักกลับแปรเปลี่ยนชังหนีหาย
จากวันนั้นถึงวันนี้พี่แทบตาย
ผลสุดท้ายที่ยังเหลือคือเยื่อบาง
	๒๔พิจิก๔๘
	ร้อนแดดแรงแสงกล้าเริ่มหน้าหนาว
เม็ดเหงื่อพราวหยาดหยดอุ่นรดไหล
พอแดดร่มสายลมพัดกิ่งไม้ไกว
เย็นชื่นใจหายเหนื่อยที่เมื่อยล้า
	๒๙พิจิก๔๘
	สายลมแรงแสงแดดอ่อนก่อนจะสาย
ความเหนื่อยหน่ายยังอยู่รู้และเห็น
อดีตช้ำผ่านมาอย่างยากเย็น
เก็บซ่อนเร้นเอาไว้ไม่ให้รู้
	๒๙พิจิก๔๘
	อดีตรุ่งเรืองรองหมองเสียแล้ว
อย่างดวงแก้วร้าวทั่วดูมัวหมอง
ผ่านมาแล้วภาพอดีตที่เรืองรอง
ไม่ต้องร้องเรียกสงสารรำคาญใคร
	๒๙พิจิก๔๘
	จากหัวใจคนขายขนมผมขอมอบ
เป็นการตอบแทนขอบคุณที่อุดหนุน
พรล้ำเลิศที่ประเสริฐแด่คุณคุณ
ดีเพิ่มพูนสิ่งดีหวังได้ดั่งใจ
	๒๙พิจิก๔๘
	ขอขอบคุณฯทุกท่านก่อนลาจาก
คนจนยากอย่างผมประณมขอ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลดลจงพอ
ให้ท่านขอสิ่งดีหวังได้อย่างใจ
	๓๐พิจิก๔๘
Sweet and sour, sweet and sour
Like a non funny little clown
Sip a little drinking water
And let’s walking through the town
	November2005
	สี่ร้อยห้าสิบหกปีพอดีนับ
จึงยอมรับสดับทั่วบุรีศรี
สมญานามรู้ทั่ว นนทบุรี
ชื่อเมืองนี้เมืองคนดีศรีเมืองนนท์
	๓๐พิจิก๔๘
   ก่อนจะนอนคืนนี้ทำดีก่อน
แล้วจะนอนฝันดีฟังพี่สอน
ไม่ต้องห่วงเรื่องร้ายร้ายคลายอาทร
ทุกข์เร่าร้อนผ่อนลงหมดปรากฏชัด
	๓๐พิจิก๔๘
	สีเหลืองทองส่องสว่างบนทางโค้ง
จุดเชื่อมโยงหนทางสว่างไสว
ลมเย็นพัดใบไม้ปลิวแกว่งไกว
หนทางไกลได้พิสูจน์จิตใจคน
	๑ธนู๔๘
	ฟ้ามืดมิดปิดแสงสีแดงอ่อน
ตะวันรอนลับแล้วหลังภูผา
มวลวิหคบินลับกลับท้องนา
นกบินหลาคาบเหยื่อเผื่อลูกน้อย
	๑ธนู๔๘
ผ่านคืนวันเหนื่อยหนักทรงพักบ้าง
ทรงแผ้วถางทางเลือกไทยไว้ทุกหน
ประชาราษฎร์ปราศทุกข์สุขพอตน
ภูมิพลอดุลยเดชวิเศษกษัตริย์
	๔ธันวาคม๒๕๔๘
	 สูงเสียดฟ้านภาสวยนี่หรือโลก
ที่เคยโศกเศร้าหมองร้องไห้ฝัน
คลื่นความสุขสดใสที่ต่างกัน
เพียงสั้นสั้นมันเพิ่มสุขทุกข์ห่างไกล
	๑๔ธนู๔๘
	เมฆหมอกมืดมัวหม่นบนท้องฟ้า
เหมือนชะตาผู้คนบนโลกสวย
มืดแค่ไหนอยู่ไม่นานเกิดแล้วม้วย
สว่างแล้วฉวยโอกาสแก้อย่าแชเชือน
	๑๔ธนู๔๘
	อรุณรุ่งแห่งความสุขปลุกให้ตื่น
ที่เคยขื่นขมเศร้าเป่าจางหาย
เย็นลมพัดไอกรุ่นอุ่นสบาย
พอตกสายหายเครียดนอนเบียดน้อง
	๑๖ธนู๔๘
	แดดเรืองรองส่องมาแล้ววับแววนั่น
ตื่นจากฝันหันสู้ศัตรูผอง
พายุพัดซัดคลื่นสาดหาดเนืองนอง
เสียงกู่ก้องร้องออกไปให้คนรู้
	๑๖ธนู๔๘
ล่วงไปแล้วห้าสี่แปดเข้าสี่เก้า
อย่ามัวเขลาเศร้าซึมมืดครึ้มหมอง
ผ่านไปแล้วอดีตขมล้มลุกลอง
ด้วยมือสองของเราเข้าแก้ไข
จากวันนี้ต่อไปอย่าได้ผิด
อย่างใกล้ชิดพยายามตามแก้ไข
สิ่งผิดพลาดที่เกิดเพราะพลั้งไป
จงตั้งใจสานก่อสู้ต่อไป
	๗มกร๒๕๔๙
    ความหนาวเหน็บเจ็บปวดใจยังไม่หมด
แต่ก็ลดลงไปมากจากซากฝัง
ความสุขุมต้องมีเพิ่มเป็นพลัง
จึงจะหวังสำเร็จเกิดได้อย่างคิด
	๑๙มกร๒๕๔๙
	อย่าไหวหวั่นพรั่นใจไปมากนัก
เรื่องจะหนักแค่ไหนยังไม่ถึง
ปล่อยวางคิดจิตหมั่นปั้นเกลากลึง
ขุดให้ถึงจึงรักษาสติมั่น
	๑๙มกร๒๕๔๙
	สุดขอบฟ้ากว้างใหญ่ไปให้ทั่ว
อย่าไปกลัวความลำบากมากขวากหนาม
อุปสรรคจะหมดสิ้นถ้าพยายาม
หมั่นสอบถามตามแก้ไขไม่ผิดหวัง
	๑๙มกร๒๕๔๙
     ข้างนอกอากาศเย็นแต่ข้างในใจร้อนรุ่ม
ปัญหารุมรุกเร้าเศร้าเห็นเห็น
มันกลัดกลุ้มสุมอยู่อย่างกับเป็น
นรกเต้นเข็ญขุกทุกทุกวัน
	๒๐มกร๒๕๔๙
     ซุกเก็บไว้ในใจไม่ให้เห็น
อย่างที่เป็นเห็นอยู่ไม่รู้หรือ
ทุกวันนี้จากหน้าเป็นหลังมือ
ที่เคยถือคุณธรรมดิ่งต่ำลง
	๒๐มกร๒๕๔๙
	มีแต่เรื่องร้อนใจใครก็รู้
ที่เป็นอยู่อย่างนี้ตกยากเข็ญ
เคราะห์กรรมซัดพลัดพรากจากที่เป็น
หลบซ่อนเร้นความเป็นอยู่ใครรู้บ้าง
	๒๓มกร๒๕๔๙
	ให้ครองคู่อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า
ให้คนเขาชื่นชมก้มสรรเสริญ
ให้เปี่ยมลาภเปี่ยมยศปรากฏเจริญ
ให้จำเริญตลอดไปนับแต่นี้
	๒๓มกร๒๕๔๙
	แต่ก่อนนี้ยังเคยรักสมัครมั่น
เดี๋ยวนี้ผันเปลี่ยนไปหน้าเป็นหลัง
ถึงวันนี้รู้หมดสิ้นดิ้นดับพัง
ภาพความหลังลบเลือนหมดสลดใจ
	๒๓มกร๒๕๔๙
	ด้วยปีกนี้ที่หวังไว้จะโรจน์รุ่ง
เพื่อให้วันพรุ่งนี้มีความหวัง
เติมวันนี้ให้เปี่ยมล้นด้วยพลัง
เพื่อสร้างหวังให้สำเร็จในพรุ่งนี้
	๑๗กุมภ์๒๕๔๙
ให้รุ่งเรืองก้าวไกลในหน้าที่
ให้จงมีสุขสำเร็จอย่างที่หวัง
ให้เปี่ยมยศเปี่ยมลาภเปี่ยมพลัง
ให้พร้อมทั้งสุขสมบัตินิรันดร์เทอญ
	๑๗กุมภ์๒๕๔๙
	ประกาศก้องร้องให้รู้ยังสู้อยู่
ไม่ทนดูความพินาศชาติถูกผลาญ
รวมใจนิดคิดสู้คงไม่นาน
ชนะผ่านม่านหมอกมัวสลัวคลุม
	๑๗กุมภ์๒๕๔๙
นิธิรำพึง  ภาค ๔
การแบ่งปันเป็นกฎหรือมิใช่กฎ
ใครกำหนดแบ่งเอาไว้ยังสงสัย
ที่แหกกฎดังว่านั้นฉันใด
ยังข้องใจจึงถามขอวานตอบ
นิธิ
ปราณรวีสุรีย์ชีพอย่ารีบนัก
วานหยุดพักสักครู่ไปดูหนัง
ค่อยค่อยคิดค่อยค่อยผ่อนปัญหามัน
แล้วถึงหันมาสู้ต่อไม่ขอถอย
นิธิ
ผ่านไปแล้ววัยหนุ่มสาวถึงคราวแก่
สังขารแย่หย่อนหยุดจุดเสื่อมถอย
ที่หลงเหลือดีอยู่บ้างทุกอย่างคอย
เวลาน้อยเหลือกระจ้อยคอยวันดับ
นิธิ
สูงอายุสูงวัยใช่ใจสูง
ถ้ายังยุ่งมุ่งกิเลสให้พอกหนา
ปล่อยเสียบ้างวางเสียบ้างห่างห่างมา
ตัวชรากายชราอย่าไปติด
นิธิ
จะตอบแทนพระคุณอย่างไรหมด
จะกำหนดการตอบแทนได้เพียงไหน
จะทำดีทดแทนได้เพียงใด
ทำไฉนดีตลอดปลอดภัยพาล
แผ่นดินนี้ที่เราอยู่ไม่เป็นทาส
ไม่โดนกวาดโดนต้อนรองบ่อนเขา
แผ่นดินที่ได้อยู่นี้แผ่นดินเรา
อย่าไปเผาเข้ารุกไล่ไทยด้วยกัน
สามัคคีรวมพลังตั้งดวงจิต
ตั้งใจคิดสิ่งดีดีทั้งปีสรรค์
เลือกทำดีคิดดีมีแบ่งปัน
สร้างสวรรค์เมืองไทยมุ่งทำแต่ดี
นิธิ ๒๖เมษ๒๕๕๐
กาชาดไทยในวันนี้ได้อุบัติ
ทางเด่นชัดภาระไทยทุกสถาน
ประกาศทั่วทุกทิศไปในโครงการ
ทุกถิ่นฐานสานต่อข้อปณิธาน
ช่วยคนไทยช่วยเมืองไทยช่วยชาวโลก
ให้พ้นโศกพ้นทุกข์เป็นสุขศานติ์
ช่วยคนเจ็บช่วยคนเฒ่าเข้าพยาบาล
ช่วยประสานเป็นคันฉ่องส่องเมืองไทย
นับแต่นี้กาชาดไทยรุดสู่โลกกว้าง
ไม่อ้างว้างโดดเดี่ยวคนเดียวแน่
เพราะสมาชิกอยู่ทั่วแม้เรือนแพ
ตั้งใจแผ่ส่วนกุศลแล้วทำต่อ
นิธิ ๒๖เมษ๒๕๕๐
ลำบากเป็นยาขมไว้รักษา
ทรมาน์ช่วยเสริมให้ได้คลายหมอง
วิญญาณอน่วแน่คิดตั้งจิตตรอง
ปัญหาผองในชีวิตได้ปลิดปลง
นิธิ ๒๗เมษ๒๕๕๐
ถวายบังคมประณมมือไหว้ถวายสัตย์
วิเศษกษัตริย์ภูมิพลของคนไทยผอง
ข้าพระบาทอาจเอื้อมชุลีกร
ยึดคำสอนของพระองค์เทิดทูนไว้
ในมหามงคลราชาภิเษก
ประดุจเอกบรมกษัตริย์ครองฉัตรหลวง
พระบารมีปกคลุมเกล้าข้าเจ้าทั้งปวง
องค์ในหลวงของปวงข้าพระบาทจงทรงพระเจริญ
นิธิ ๒๗เมษ๒๕๕๐
มหามงคลสมัยในวันราชาภิเษก
ขอทรงเฉกเช่นภูมิพลบนภูหลวง
ให้ทรงคิดทรงเจริญด้วยสรรเสริญมิมีลวง
องค์ในหลวงราฃินีจักรีวงศ์
นิธิ  ๒๘เมษ๒๕๕๐
รำลึกถึงวันมหามงคลราชาภิเษก
ทรงอภิเษกสมรสตามกฎหมาย
มั่นในคู่ครองสิริกิติ์จวบชีพวาย
ครองคู่หมายข้างพระกายอยู่คู่ประเทศไทย
สองพระองค์คือในหลวงของปวงข้าพระบาท
ร่วมผงาดหยัดสู้คือองค์ราชินีศรีสยาม
ทุกวันนี้ไทยยังอยู่ดีทุกยาม
บารมีพระสยามเทวาธิราชชาติร่มเย็น
ห้าสิบเจ็ดพระพรรษาราชาภิเษก
เหมือนมนต์เสกเป่าเอาไว้ให้แดนสยาม
อยู่มารอดปลอดโปร่งในทุกยาม
สมัญญานามพระมหาราชภูมิพล
นิธิ  ๒๘เมษ๕๐
สองมือถืออาวุธสองเท้ารุดเดินหน้าไป
หนทางอีกยาวไกลหัวใจสู้มิรู้เหนื่อย
เพื่อนพ้องเดินตามหลังวะแวววับดาบฝักเปลือย
ไปเรื่อยเรื่อยอย่างนี้ก่อนแล้วจึงย้อนเข้าประชิด
นิธิ ๒๙เมษ๒๕๕๐
แผ่นดินนี้ถิ่นกูอยู่ที่กูเกิด
จะระเบิดเปิดสงครามทำหยามหยัน
ทำหินแตกแยกแผ่นดินทำไมกัน
พวกกูนั้นถึงรักสงบรบไม่ถอย
นิธิ  ๓๐เมษ๒๕๕๐
เพื่อผู้กินผู้ใช้สบายจิต
ใช้ชีวิตประจำวันมั่นใจของ
ที่ต้องกินต้องใช้ถูกทำนอง
จึงคุ้มครองผู้บริโภคให้โชคดี
ไม่ต้องถูกหลอกลวงอย่างที่ผ่าน
ไม่ต้องวานคนคอยบอกตอนซื้อของ
ได้สินค้าโภชนาหารผ่านกลั่นกรอง
กรมคุ้มครองผู้บริโภคจึงกำเนิด
นิธิ ๓๐เมษ๒๕๕๐
ชื่อเก่าก่อนกรรมกรตอนแรกเรียก
เพื่อสำเหนียกไม่ใช่ทาสของใครเขา
ต่อเมื่อทาสเลืกไปแล้วไม่นานเรา
เปลี่ยนแปลงเอาเราเรียกใหม่วันแรงงาน
นิธิ ๑พฤษภ๒๕๕๐
เมื่อร่วมแรงร่วมใจไม่ทำผิด
ใช้ชีวิตที่พอเพียงในทุกหน
บาปเคราะห์ผิดในใจใครหลายคน
คงหลุดพ้นแล้วเริ่มใหม่ใฝ่ทำดี
นิธิ ๑พฤษภ๒๕๕๐
ขอย้อนหลังรำลึกวันตั้งกรุงเทพ
ลงเสาเอกยี่สิบเอ็ดเดือนเมษา
พุทธศักราช๒๓๒๕กำหนดมา
ณ เวลา ๖.๕๔ น. ของปีขาลโบราณกำหนด
ถึงบัดนี้เมืองธานีศรีกรุงเทพ
ต้องบาดเจ็บหลายหนแทบทนไม่ไหว
เคราะห์ยังดีที่กรุงเทพเมืองหลวงไทย
ร่มเย็นได้เพราะพระบารมีหาที่สุดมิได้
นิธิ ๑ พฤษภ๒๕๕๐
ถึงวันนี้วันเวลาสื่อสารโลก
ไทยเปี่ยมโชคก้าวไกลในสื่อสาร
ทุกถิ่นทั่วทิศเมืองไทยในวันวาน
ได้ประสานการติดต่อเพียงพอแล้ว
แต่ยังมีที่ห่วงอีกหลายข้อ
ยุค พ.ศ.วันนี้คนดีสูญ
หมดที่หวังไปมากยากเพิ่มพูน
เหลือเพียงศูนย์กลางเทิดหวังพระองค์นี้
พระบิดาการสื่อสารในยุคใหม่
ของเมืองไทยแต่เดิมเฉลิมสมัย
ทรงริเริ่มเปิดมิติสื่อสารไทย
ให้กว้างไกลไปข้ามโลกอภิวัตน์
นิธิ  ๑ พฤษภ๒๕๕๐
วันฉัตรมงคลรำลึกนึกถึงก่อน
ทรงรับวอนทวยราษฎร์ประกาศก้อง
ครองแผ่นดินใต้ร่มฉัตรตามครรลอง
คนไทยผองในแผ่นดินถิ่นคลองธรรม
บัดนี้ล่วงหกสิบปีที่ครองราชย์
ทรงประกาศพระบารมีแผ่ไพศาล
พระองค์ทรงตรากตรำกรำในงาน
หวังจะสานก่องานต่อให้พอเพียง
ทุกวันนี้คนไทยอยู่เป็นสุขได้
เราทั้งหลายตระหนักอยู่มิรู้หาย
เทิดทูนไว้สถาบันนี้จวบชีพวาย
ขอถวายความจงรักภักดีตลอด
นิธิ  ๓พฤษภ๒๕๕๐
ฟังเขาลือชื่อสื่อสารปานไม้รวก
ชื่อกรมกร๊วกให้เขาจวกทุกสมัย
ประกาศทั่วนี่ประชาสัมพันธ์ไทย
ลุสมัยได้ก่อตั้งมานานแล้ว
ถึงวันนี้ยุคนี้มีดีตั้ง
ยังรวมทั้งไอทีวีเสรีใส
ชื่อตั้งใหม่ทีไอทีวีสื่อสารไทย
จะรู้ไหมถ้าเขาหลอกย้อนยอกไว้
สื่อสารไทยอธิปไตยอยู่ตรงไหน
เข้าข้างใครเป็นพวกใครไม่ต้องเถียง
จิตสำนึกลึกลึกอยู่รู้ว่าเอียง
ทุ่มเทเสียงเตียงรับใช้มวลประชา
นิธิ  ๓พฤษภ๒๕๕๐
ฝนมืดมาฟ้าปิดทำฤทธิ์เดช
ใช่อาเพศของอะไรใครที่ไหน
พายุฝนปนฟ้าร้องดังก้องไป
ทำคนไทยหลายภาคลำบากนัก
นิธิ  ๓พฤษภ๒๕๕๐
แก้ตัวเราไม่ว่าอย่าแก้ผ้าเอาหน้ารอด
เพื่อให้สังคมปลอดจากกดขี่ที่มีเสมอ
ยุติก่อนอย่าให้บ่อนทำลายนะเออ
มั่นคงเสมออย่าหลบเลี่ยงความรับผิด
นิธิ  ๓พฤษภ๒๕๕๐
มีปัญหายุ่งใจแก้ไม่หมด
อย่าเก็บกดเอาไว้ไอ้ปัญหา
จงแถลงแจ้งให้หมดปลดออกมา
เพื่อที่ว่าใครได้ช่วยให้คลายทุกข์
นิธิ ๓พฤษภ๒๕๕๐
บ้านเมืองไทยวันนี้ยังดีหรือเปล่า
ถ้ายังเอาเรื่องส่วนตัวพันพัวเสมอ
ลดละเลิกหมดหมดอย่าโป้ปดนะเธอ
มีทางเลือกเสมออย่าไปเผลอเข้าทำผิด
นิธิ  ๓พฤษภ๒๕๕๐
กาชาดโลกก่อตั้งหวังดับทุกข์
สร้างผาสุกคนด้อยโอกาสที่ทุกข์เข็ญ
ช่วยต่อเติมเสริมทางรอดอย่างควรเป็น
ช่วยบำเพ็ญประโยชน์ด้วยช่วยมวลชน
นิธิ  ๓ พฤษภ๒๕๕๐
ฝนตกหนักทีไรหัวใจหม่น
สงสารคนที่ลำบากเพราะมากฝน
สารพัดต้องทนทุกข์ลำบากปน
ฝนนะฝนไม่เห็นใจเขาบ้างเลย
นิธิ  ๔พฤษภ๒๕๕๐
พืชมงคลบนพิธีวิถีเกษตร
ทั้งไทยเทศตื่นตาแรกนาขวัญ
พระยาแรกนาจรดพระนังคัล
ทำนาขวัญปันข้าวแจกเป็นมงคล
นิธิ ๕ พฤษภ๒๕๕๐
ประชาธิปกรำลึกนึกถึงกษัตริย์
กำเนิดรัฐธรรมนูญจำรูญสมัย
มอบการปกครองแผนใหม่ให้คนไทย
ยุคสมัยปฏิวัติกษัตริย์เปลี่ยน
นิธิ๖พฤษภ๒๕๕๐
สิ้นยุคของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
คณะราษฎร์เปลี่ยนปกครองตามครรลองสมัย
เข้าสู่ยุคสร้างใหม่เรียกประชาธิปไตย
แต่คงไว้พระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข
นิธิ ๖พฤษภ๒๕๕๐
ทรงประกาศพระเจตนาโดยแจ้งชัด
ไม่ทรงฃัดที่จะเปลี่ยนการปกครองตามครรลองสมัย
แต่ให้รำลึกนึกเหตุผลทุกครั้งไป
ที่เปลี่ยนไปนั้นแน่ไซร้เพื่อมวลชน
นิธิ ๖พฤษภาคม ๒๕๕ๆ
เมื่อความผิดหวังผ่านเข้ามาจงอย่าเสียใจ
สร้างความหวังใหม่อย่าท้อใจไปหมดหวัง
จงมุ่งสร้างกำลังใจเป็นพลัง
เติมต่อฝันให้คงมั่นได้อย่างคิด
หากมีวันได้สร้างสรรค์สานฝันต่อ
อย่าไปรอโชคชะตาฟ้าลิขิต
ทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านวันละนิด
ว่าถูกผิดดีหรือร้ายเป็นอย่างไหน
อุทาหรณ์ตอนไหนในอดีต
ดุจคมมีดของหมอใช้รักษา
ผ่าที่ชั่วแรงร้ายคลายออกมา
เพื่อรักษาตัวรอดอย่างปลอดภัย
กำลังใจพูนเพิ่มเติมอย่าพร่อง
อย่าไปร้องไห้เสียใจทำไมหนา
รู้หลบหลีกห่างออกไปให้ไกลตา
แก้ปัญหาให้ถูกวิธีทันที่คิด
นิธิ  ๗พฤษภ๒๕๕๐
ฟังฝนตกเปาะเปาะเสนาะหู
ถามฝนดูเผื่อรู้คำตอบที่สอบถาม
ฝนตกอยู่พรำพรำฉ่ำใจตาม
ที่ทวงถามยังไม่บอกตอบเมื่อไหร่
นิธิ ๘พฤษภ๒๕๕๐
ใส่เสื้อเหลืองสดใสใจอบอุ่น
ทักทอขึ้นสวมใส่ให้ในหลวง
ครบแปดสิบพรรษาชะตาดวง
โอ้พ่อหลวงที่ห่วงนี้ของปวงชน
นิธิ  ๘พฤษภ๒๕๕๐
ประชาชนพร้อมใจใส่เสื้อเหลือง
ช่วยประเทืองเมืองไทยสวยด้วยสีใส
สีสัญลักษณ์วันพระกำเนิดใส่ลงไป
ประชาไทยเฉลิมฉลองก้องทุกทิศ
นิธิ ๘พฤษภ๒๕๕๐
ด้วยพระบารมีที่ปรากฎ
ขอทรงยศยิ่งสราญ
เทพไท้โปรดบันดาล
ทรงสุขศานติ์สำราญตลอด
นิธิ๘พฤษภ๒๕๕๐
พ่อสอนไว้จดจำไปใช้ประโยชน์
ไม่ต้องโทษว่าใครให้เกิดผล
สิ่งผิดพลาดสอนใจเราทุกคน
จงตั้งต้นแก้ไขในสิ่งผิด
นิธิ  ๘พฤษภ๒๕๕๐
ทุกปัญหามีปัญญาแก้ได้หมด
อย่ารันทดท้อใจในปัญหา
หาทางออกฉับไวในทุกครา
ตัวปัญหาฆ่าให้หมดจดจำไว้
นิธิ ๘ พฤษภ๒๕๕๐
บุญคุณมอบให้ไว้ยังซึมซาบ
เกิดความปลาบปลื้มใจมิรู้หาย
บุญคุณนี้ที่ได้รับจวบชีพวาย
คงไม่หายจางไปหมดจดจำตลอด
นิธิ ๘พฤษภ๒๕๕๐
สงครามบนแผ่นกระดานหมากรุก
เดินเบี้ยบุกรุกไปในก้าวแรก
ก่อนจะแยกบุกเข้าไปด้วยม้าหาญ
ตามด้วยเรือรุกติดประชิดตาม
เบี้ยหนุนหามตามไปด้วยช่วยทะลวง
จนถึงนายฝ่ายตรงข้ามทะลวงบุก
กองหน้ารุกเปิดทางให้ทัพหลวง
เบี้ยบุกหงายได้หนุนทัพบุกทะลวง
ยึดวังหลวงขุนถูกไล่ให้รุกจน
นิธิ  ๘พฤษภ๒๕๕๐
ก่อการร้ายคือที่หมายของคนขลาด
เรื่องผิดพลาดเก่าก่อนเป็นไฉน
ทุกวันนี้คงกระจ่างซึ้งความนัย
แล้วทำไมยังดึงดื้อถือว่าถูก
นิธิ  ๘พฤษภ๒๕๕๐
พระวินัยเป็นอย่างไรจึงฟั่นเฝือ
ดูให้ทั่วจึงได้รู้สองสถาน
หนึ่งเพราะไม่เคร่งไม่ปฎิบัติการ
สองเพราะเคร่งเกินไปจนลุ่มหลง
นิธิ ๘พฤษภ๒๕๕๐
สติคือความระลึกได้ใช่หรือเปล่า
ช่วยให้เราไม่ประมาทบังอาจเผลอ
สติช่วยทุกทุกอย่างได้นะเธอ
อย่าไปเผลอเลินเล่อขาดสติ
นิธิ  ๙พฤษภ๒๕๕๐
เจตสิกธรรมคืออารมณ์ที่เกิดกับใจ
ระคนไปทั้งดีชั่วกลั้วทุกหน
ดีกุศลชั่วอกุศลอย่าปะปน
เรื่องตัวตนสังขารวิญญาณเอย
นิธิ ๙พฤษภ๒๕๕๐
วิญญาณ๖ตกกระทบหกรูปแบบ
คือนัยน์ตาหูจมูกลิ้นกายใจใช่หรือไม่
วิญญาณ๖กระทบตกไปที่ใด
เกิดความรู้หกอย่างตามมาครบ
นิธิ ๙พฤษภ ๒๕๕๐
โอ้เอ็มเจหนูน้อยยังคอยหวัง
สงสารจังกับพ่อแม่ที่ห่วงแสน
หนูน้อยพบคนใจร้ายทุบแทบแบน
ศูนย์ฯตอบแทนมิใช่กิจต้องรับผิดชอบ
อาการเจ็บของหนูน้อยยังน่าห่วง
แต่ที่ทวงถามมาเพราะห่วงแสน
ศูนย์ฯอย่างนี้มีกันเกลื่อนไปทั้งแดน
รัฐฯมีแผนควบคุมไปไว้หรือยัง
นิธิ ๙พฤษภ๒๕๕๐
ห้าสิบสี่ปีนี้ยังไม่หยุด
ไม่ถึงจุดที่ตั้งไว้ในใจหวัง
ต้องขอรอเอาไว้ก่อนผ่อนกำลัง
ภาพความหลังยังหลอกยากบอกใคร
นิธิ ๑๐พฤษภ๒๕๕๐
แสงริบหรี่วูบไหวเทียนไขส่อง
แววตามองของทหารผ่านม่านใส
ในสงครามนอกบ้านไกลแสนไกล
ไม่ถอดใจไนติงเกลทุ่มเทรักษ์
เหมือนที่ผ่านเพิ่งเมื่อวานไม่นานนี้
คุณความดีที่เคยทำกรรมดีสนอง
งานพยาบาลสาธารณสุขเข้ายุคทอง
คนทั้งผองของทั่วโลกยินยอมรับ
นิธิ ๑๒พฤษภ๒๕๕๐
สัตบุรุษเปี่ยมด้วยธรรมทั้งเจ็ดอย่าง
เป็นหนทางห่างโรคโลภโกรธหลง
ทำให้มีปัญญาและสติที่มั่นคง
ไม่เดินหลงไปในทางอบายมุข
นิธิ ๑๓พฤษภ๒๕๕๐
นัยน์ตาเห็นที่ผ่านมามีปัญหาตลอด
เพื่อให้รอดปลอดภัยอยู่เป็นสุขศานติ์
จำต้องใช้ยาเข้าแก้ให้ถูกการณ์
อย่าไปวานให้คนอื่นแก้ปัญหา
นิธิ ๑๓พฤษภ๒๕๕๐
นับจากนี้ขอลาอย่าร้องไห้
จำต้องไปชดใช้กรรมคำสั่งศาล
พูดไม่ออกบอกไม่ถูกไม่ต้องตาม
ขอพยายามแก้ไขต่อด้วยตัวของพ่อเอง
นิธิ ๑๓พฤษภ๒๕๕๐
เดี๋ยวนี้คนเข้าวัดเพื่อศึกษา
ช่างบางตาเสียจริงขอติงบ้าง
เข้าวัดไปเพื่ออย่างอื่นไม่ถูกทาง
ต้องถากถางความคิดที่ผิดออก
วัดเดี๋ยวนี้มีอะไรให้ดาดดื่น
อย่าไปตื่นวัตถุมงคลตามคนเขลา
วัดไม่ดีเลือกดีดีอย่าไปเอา
เลือกที่เข้าใจชีวิตศิษย์พระพุทธ
วัดที่ดีต้องมีไว้ใช้ศึกษา
ธรรมภาษาโมคคัลลาสารีบุตร
คิดให้ดีรู้เข้าใจอย่างชาวพุทธ
วอนช่วยหยุดเดียรถีย์ที่ชี้นำ
นิธิ ๑๓พฤษ๓๒๕๕๐
คำว่าแม่รู้แน่แท้ใจเปี่ยมรัก
คนอื่นสักหมื่นแสนไม่แม้นเหมือน
เฝ้าฟูมฟักตั้งแต่เกิดเลิศกว่าเดือน
มิแชเชือนเลือนลบรักกราบตักแม่
นิธิ ๑๓พฤษภ๒๕๕๐
ฝนโปรยปรายสายแล้วรถเริ่มติด
คือชีวิตฤดูฝนคนเมืองหลวง
เสียงบ่นด่าว่าฝนตกฟกช้ำทรวง
อย่าไปทวงถามหาฝนที่บนฟ้า
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
ใต้ร่มพระศรีมหาโพธิโรจน์เรืองรอง
รัศมีของพระพุทธองค์ทรงสดใส
ผ่องพิสุทธิ์หยุดกิเลสดับสิ้นไป
กระจ่างในใจบริสุทธิ์ผุดความดี
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
ประสูติตรัสรู้ปรินิพพานนานมาแล้ว
ดุจดวงแก้วมีค่ามหาศาล
พุทธองค์สอนสั่งมานมนาน
บัดนี้ลุวารวันวิสาข์บูชาโลก
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
วันที่ห้าธันวาปีห้าสิบ
ไม่ไกลลิบเกินไปอย่างใจหวัง
แปดสิบพรรษามหากษัตริย์หยัดพลัง
ประชาทั้งสิบทัศจัดถวายพระพร
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
บัญญัติสุขทุกอย่างให้กว้างอีก
เพื่อหลบหลีกหนีทุกข์ให้สุขศรี
สุขบัญญัติจัดตั้งมาได้อยู่ดี
ต่อแต่นี้ให้มีสุขทุกข์อย่ากราย
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
สุขอย่างนี้มีที่ไหนให้ได้พบ
จวบดินกลบฝังร่างตามวิถื
สุขอย่างนี้พออย่างนี้ที่ไหนมี
สุขพอดีตามวิธีของในหลวง
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
ไม่จางหายคลายคิดถึงคนึงหา
ได้เวลาจากจรก่อนนอนฝัน
แล้วจะคิดถึงเธอบ้างอย่างทุกวัน
เธอเท่านั้นที่ฉันฝันคิดถึง
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
ฝนโปรยปรายสายแล้วรถเริ่มติด
คือชีวิตฤดูฝนคนเมืองหลวง
เสียงบ่นด่าว่าฝนตกฟกช้ำทรวง
อย่าไปทวงถามหาฝนที่บนฟ้า
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
ใต้ร่มพระศรีมหาโพธิโรจน์เรืองรอง
รัศมีของพระพุทธองค์ทรงสดใส
ผ่องพิสุทธิ์หยุดกิเลสดับสิ้นไป
กระจ่างในใจบริสุทธิ์ผุดความดี
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
ประสูติตรัสรู้ปรินิพพานนานมาแล้ว
ดุจดวงแก้วมีค่ามหาศาล
พุทธองค์สอนสั่งมานมนาน
บัดนี้ลุวารวันวิสาข์บูชาโลก
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
วันที่ห้าธันวาปีห้าสิบ
ไม่ไกลลิบเกินไปอย่างใจหวัง
แปดสิบพรรษามหากษัตริย์หยัดพลัง
ประชาทั้งสิบทัศจัดถวายพระพร
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
บัญญัติสุขทุกอย่างให้กว้างอีก
เพื่อหลบหลีกหนีทุกข์ให้สุขศรี
สุขบัญญัติจัดตั้งมาได้อยู่ดี
ต่อแต่นี้ให้มีสุขทุกข์อย่ากราย
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
สุขอย่างนี้มีที่ไหนให้ได้พบ
จวบดินกลบฝังร่างตามวิถื
สุขอย่างนี้พออย่างนี้ที่ไหนมี
สุขพอดีตามวิธีของในหลวง
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
ไม่จางหายคลายคิดถึงคนึงหา
ได้เวลาจากจรก่อนนอนฝัน
แล้วจะคิดถึงเธอบ้างอย่างทุกวัน
เธอเท่านั้นที่ฉันฝันคิดถึง
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
ให้นอนหลับฝันดีมีความสุข
เรื่องที่ทุกข์เลือนหายง่ายอย่างฝัน
ให้โชคดีทำดีคิดดีพลัน
ให้สุขสันต์วันนี้มั่งมีสุข
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
ให้สุขกายสุขใจไปตลอด
ให้จงปลอดภัยพาลสำราญสม
ให้สบายหายเศร้าเคล้าอกตรม
ให้สุขสมปมทุกข์หายสบายตลอด
๑๘พฤษภ๒๕๕๐
ห้าสิบเจ็ดพระพรรษาราชาภิเษก
ธทรงเสกสมรสปรากฎสรรค์
เจ้าแผ่นดินผ่านพิภพองค์ราชันย์
ทรงสร้างสรรค์ขวัญจิตสนิทประชา
พระราชาภูมิพลคนทูนเทิด
พระทรงเปิดโอกาสทุกศาสนา
ครองพิภพจบด้าวสืบสาวมา
ศาสดาชื่นชมสมเป็นไทย
เป็นชาวพุทธมุสลิมหรือว่าคริสต์
เป็นชีวิตอิสระหรืออย่างไหน
สำคัญอยู่ต้องรู้ว่าเราคนไทย
รู้อภัยรู้จักสู้รู้จักตน
เป็นคนไทยใต้ร่มบรมเมศร์
ใต้เศวตฉัตรทองเรืองรองสวรรค์
อยู่ใต้ฟ้าในแผ่นดินไทยด้วยกัน
องค์เดียวนั้นมั่นทูนเทิดพระภูมิพล
๒๐พฤษภ๒๕๕๐
จันทร์ไร้มุมคุมเข้มเรื่องใช้จ่าย
ปลาหมอตายเพราะปากมากปัญหา
จะตกลงปลงใจทำสัญญา
ต้องรักษาคำพูดสุดระวัง
จะทำการสิ่งใดให้รอบคอบ
จะจนกรอบชักหน้าไม่ถึงหลัง
อย่าวิตกจริตคิดมากเกินกำลัง
จงประทังชีพให้อยู่รู้จักพอ
ถึงวันผ่านพ้นไปอย่างหดหู่
อย่าลบหลู่ดูหมิ่นตนทนด้านขอ
ทำทุกสิ่งทุกอย่างหลักเพียงพอ
ไม่ต้องรอขอโชคช่วยจะม้วยเอา
ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนสังคมเปลี่ยน
ถ้าไม่เพียรปรับปรุงเราจะอายเขา
เปลี่ยนให้หมดทุกอย่างได้ดั่งใจเรา
อย่ามัวเขลาเศร้าอกตรมไม่แปรเปลี่ยน
นิธิ ๒๐พฤษภาคม๒๕๕๐
จันทร์ไร้มุมคุมเข้มเรื่องใช้จ่าย
ปลาหมอตายเพราะปากมากปัญหา
จะตกลงปลงใจทำสัญญา
ต้องรักษาคำพูดสุดระวัง
จะทำการสิ่งใดต้องรอบคอบ
จะจนกรอบชักหน้าไม่ถึงหลัง
อย่าวิตกจริตคิดมากเกินกำลัง
จงประทังชีพให้อยู่รู้จักพอ
ถึงวันผ่านพ้นไปอย่างหดหู่
อย่าลบหลู่ตูจนยากบากหน้าขอ
ทำทุกสิ่งทุกอย่างหลักเพียงพอ
ไม่ต้องรอขอโชคช่วยจะม้วยเอา
ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนสังคมเปลี่ยน
ถ้าไม่เปลี่ยนตัวเราบ้างจะอายเขา
เปลี่ยนให้หมดทุกทุกอย่างดั่งใจเรา
อย่ามัวเขลาเศร้าอยู่เดียวเปล่าเปลี่ยวนะ
นิธิ ๒๐พฤษภ๒๕๕๐
ฤกษ์ริเริ่มจันทร์ทำมุมกับอาทิตย์
รุกประชิดการงานผ่านสมหวัง
คุมอารมณ์ให้ดีเยี่ยมเปี่ยมพลัง
ไม่ผิดหวังด้านเจรจาโฆษณาดี
ช่วงวันนี้ทำอะไรจะได้เปรียบ
ถ้าจะเทียบด้านสังคมดีมีสุขศรี
เดินทางไกลก็จะได้รับผลดี
ทุกอย่างนี้อยู่ที่อารมณ์ตนกำหนด
นิธิ ๒๑พฤษภ๒๕๕๐
ระวังเรื่องโกหกพกลมหลอก
พวกปอกลอกต้องระวังตั้งสงสัย
ข้อตกลงสัญญาเรื่องอันใด
ตัดสินใจให้ดีมีสติ
นิธิ ๒๑พฤษภ๒๕๕๐
สะสางงานเก่าเก่าให้เรียบร้อย
ไว้รอคอยสิ่งใหม่ใหม่ในใจหวัง
พากเพียรสู้ให้บรรลุเต็มกำลัง
อย่างที่หวังตั้งไว้ให้สำเร็จ
นิธิ ๒๒พฤษภ๒๕๕๐
แต่งตัวให้ดีมีเสน่ห์
แต่อย่าเขวใช้จ่ายสุร่ายสุรุ่ย
จัดการงานที่คั่งค้างลงไปลุย
พบพูดคุยกับผู้ใหญ่ให้ได้ประโยชน์
ดาวจันทร์เก้าสิบองศาดาวพฤหัส
ใช้จ่ายประหยัดอย่าฟุ้งเฟ้อละเมอหลง
สร้างฐานะตัวเองให้มั่นคง
จะเสริมส่งปลงชีวิตติดดินบ้าง
นิธิs ๒๓พฤษภ๒๕๕๐
สักวาคนกรุงเทพช่างเสพย์สุข
บนกองทุกข์คนทั้งเมืองเรื่องของฉัน
ฝนจะตกฟ้าจะร้องพี่น้องจะฆ่าฟัน
เรื่องของมันกูไม่เกี่ยวเดี๋ยวจะตาย
ทุกวันนี้พอกันทีเรื่องยุ่งยุ่ง
คนจะมุงกันมาทำข้าสาย
กูแก่แล้วยังไม่แคล้วไม่สบาย
ก่อนจะตายขอกูสุขทุกวันเอย
นิธิs ๒๓พฤษภ๒๕๕๐
อย่ามัวสุขสำราญเบิกบานจิต
มันจะผิดครรลองเคยปองฝัน
ตื่นกันเถิดเปิดโลกนี้ร่วมแบ่งปัน
เมืองสวรรค์ทั้งประเทศเขตเดียวกัน	
พอกันทีเรื่องแบ่งแยกแตกต่างพวก
ผลัดกันจวกคนละทีนี่น่าชัน
คิดให้ดีตรองให้ดีพี่น้องกัน
พวกเรานั้นลูกพ่อหลวงของปวงชน
นิธิ ๒๓พฤษภ๒๕๕๐
จุลศักราช๑๓๖๙ฤาถึงคราวปะทะ
เต็มด้วยขยะสังคมอาจมเหม็น
พ่อกับลูกแตกกันคนละประเด็น
พี่น้องเห็นคนละอย่างแตกต่างกัน
การเมืองยุ่งมุ่งแย่งแบ่งประโยชน์
ผู้คนโกรธกันอย่างห่างเหตุผล
ศาสดาชิงแบ่งแยกจำแนกคน
ที่เหลือก่นบ่นว่าด่าฟ้าดิน
ในความมืดมิดมัวรั้วประเทศ
ปกป้องเขตธิปไตยไทยทั้งผอง
ช่วยกันรักษ์ช่วยกันกู้แผ่นดินทอง
ใครไหนมองยังไม่เห็นเป็นอะไร
รวมกันเถิดสามัคคีอย่าแบ่งแยก
ต้องไทยแตกเป็นสองเสี้ยวหรือไฉน
ทั่วโลกรู้ที่ไทยอยู่อย่างเป็นไท
เพราะรวมใจร่วมรู้รักษ์สามัคคี
ต่อแต่นี้เลิกกันทีดีกันเถิด
ต่างร่วมเกิดในแผ่นดินถิ่นสุขี
ช่วยกอบกู้ช่วยเชิดชูกู้ธานี
เพื่อศักดิ์ศรีมนุษย์ชนเราคนไทย
นิธิ ๒๔พฤษภ๒๕๕๐
ลืมเสียเถิดลืมไปไม่คิดถึง
อดีตขึ้งเคืองขัดตัดติดต่อ
เริ่มกันทีตามวิถีที่เพียงพอ
อย่าไปรอชาติหน้าหรือชาติไหน
เพียงตั้งใจแก้ไขวันละนิด
คงเติมติดชีวิตหมองกรองให้ใส
จากวันนี้เดี๋ยวนี้แต่นี้ไป
เอาใจใส่กันและกันมากกว่านี้
นิธิ ๒๖พฤษภ๒๕๕๐
จับมือกันฉันมิตรอย่าคิดร้าย
เลิกอุบายขายชีวิตจิตเศร้าหมอง
จับมือกันสร้างชาติไทยที่ปรองดอง
อดีตผองทิ้งไว้อย่าไปคิด
รวมให้ติดช่วยคิดสร้างหนทางใหม่
มองให้ไกลไปช้างหน้าอย่างสร้างสรรค์
ก่อแนวคิดอันวิจิตรบังเกิดพลัน
เมืองไทยนั้นมั่นคงแน่ไม่แปรเปลี่ยน
นิธิ ๒๖พฤษภ๒๕๕๐
นี่คือหวังครั้งสุดท้ายก่อนตายจาก
บนทุกข์ยากแค่ไหนห่างไกลฝัน
ความเจ็บปวดทุกข์หนักแทบจาบัลย์
อดีตผันเปลี่ยนไปเจ็บใจนัก
นี่หรือคนที่เราเฝ้าเจ็บปวด
จวนจะชวดเจียนตายอยู่หลายหน
นี่คือภาพบาดลึกในใจตน
ภาพของคนสิ้นหวังในวันนี้
นิธิ ๒๖พฤษภ๒๕๕๐
หอมละมุนหนุนนอนหมอนใบชา
อบแห้งมากรุหมอนไว้นอนหนุน
ดูดกลิ่นอับดับชื้นช่วยคุณคุณ
ได้นอนหนุนอุ่นสบายดับคลายเครียด
นิธิ ๒๙พฤษภ๒๕๕๐
เดินเรียงเคียงเวียนเทียนรอบอุโบสถ
ตามกำหนดทำกันมาแต่ครั้งไหน
เวียนเทียนด้วยจิตระลึกของชาวไทย
เข้าถึงในพระศาสนาตถาคต
กลางทางเวียนเทียนสามรอบมีลมพัด
เทียนสะบัดไหววูบรูปกายไหว
พุทโธท่องกำหนดอยู่ในใจ
รัตนตรัยสว่างรูปเหลืองเรืองรอง
ตักบาตรเช้าเข้าสะสางงานในบ้าน
เย็นทำทานการกุศลด้นช่วยเหลือ
เสร็จการงานเช้าเย็นเตรียมลงเรือ
ไปวัดเพื่อรวมร่วมงานเวียนเทียนค่ำ
นิธิ ๓๑พฤษภาคม๒๕๕๐
แวดล้อมเราวันนี้เสื่อมโทรมทรุด
ผู้คนขุดต้นไม้ทำลายป่า
ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเรื่อยๆมา
ปรารถนาเพียงประโยชน์โคตรของตน
ธรรมชาติดั้งเดิมเริ่มจะหมด
เคยสวยสดพันธุ์ไม้หลายหลากผล
ประดับโลกสถิตไว้ในใจคน
บันดาลดลผลลัพท์สลับเปลี่ยน
ต่อแต่นี้วอนช่วยรักษ์ธรรมชาติ
ร่วมประกาศแนวคิดวิจิตรเขียน
ปากต่อปากคนต่อคนหนุนวนเวียน
ช่วยกันเพียรเรียนรักษ์โลกให้ยืนยาว
นิธิ ๑เมถุน๒๕๕๐
สุขกายสบายใจที่ไหนๆก็ปลอดบุหรี่
บุหรี่ร้ายเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ตัวสันดาปคาร์บอนมอนอกไซด์ตายผ่อนส่ง
โรคหัวใจโรคปอดรุมมาลง
แล้วยังส่งผลร้ายทำลายทรัพย์
สูบบุหรี่เป็นภัยร้ายทำลายทั่ว
คนใกล้ตัวถูกควันรมซมไข้จับ
เด็กเด็กถูกบุหรี่ร้ายทำลายยับ
เพราะไปรับควันบุหรี่สูบมือสอง
เริ่มต้นใหม่เลิกบุหรี่หนีให้ห่าง
หัดปล่อยวางห่างบุหรี่หนีควันผง
สร้างภูมิต้านค้านบุหรี่ให้หมดลง
คงสุขกายสบายสมที่ไหนๆก็ปลอดบุหรี่
นิธิ ๒ มิถุน๒๕๕๐
หกสิบเอ็ดปีที่ราชาภิเษกเป็นกษัตริย์
สยามรัฐร่มรื่นชื่นสุขศรี
ไทยทั่วหน้าซึ้งใจในพระบารมี
ต่อแต่นี้มีพ่อแห่งแผ่นดิน
หนทางไกลพระราชหฤทัยมั่นพระดำรัส
ปกครองรัฐทั่วแผ่นดินถิ่นสยาม
เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรมทรงทำตาม
ทั่วเขตคามไทยสงบจบดินทั่ว
นิธิ ๙มิถุน๒๕๕๐
กูไม่รู้ นิธิ 
เป็นคนไทยเหมือนกันนั่นใช่ไหม
หรือว่าใจยังเป็นทาสอนาถหนอ
ผลของการไม่รู้คำว่าพอ
ทำสอพลอขอแต่กูอยู่สบาย
ที่แล้วมาไม่ว่าใครผิดถูก
ต่างรักลูกรักตัวมัวขวนขวาย
เพื่อได้อยู่ต่อไปอย่างสบาย
ใครจะตายใครจะอยู่กูไม่รู้
อย่าริลอง นิธิ
เสพแล้วตายขายติดคุกสุขนักหรือ
เสื่อมเสียชื่อยื้อไม่หยุดฉุดไม่ไหว
สารเสพติดอย่าคิดลองให้ต้องภัย
ทำใจไว้มีสติอย่าริลอง
อย่าไปคบ นิธิ 
เมื่อพูดด้วยดีดีไม่มีท่า
คงต้องหาทางอื่นที่เหมาะสม
อันการพูดนอกตำราจะพาจม
ไม่เหมาะสมก้มหน้าหลีกให้สุดไกล
เป็นคนดีทำความดีมีสติ
หมั่นตรองตริพิจารณาอย่าเฉไฉ
ทำดีแล้วขอให้ดีต่อต่อไป
คนจัญไรอย่าไปคบไม่จบเศร้า
จากลั่นทมเป็นลีลาวดี นิธิ
ชื่อลั่นทมระทมลั่นวันอดีต
ผ่านจารีตนครบาลวันวารผัน
อดีตขมอมทุกข์ทุกคืนวัน
ที่กีดกันกั้นขวางยังค้างอยู่
นานมาแล้วที่ห่างไกลในอดีต
ก้องเสียงกรีดร้องไห้เต็มรูหู
ลั่นทมร้องเสียใจน้ำตาพรู
หยัดยืนสู้ต่อไปทำไงดี
ใช้สมองตรองตรึกนึกถึงเหตุ
จะผิดเพศผู้หญิงไม่วิ่งหนี
หันมาสู้กู้ชื่ออิสตรี
ต่อไปนี้สู้ไม่หนีอีลั่นทม
ผ่านอดีตนานโขโบราณเปลี่ยน
จากแสงเทียนเป็นแสงไฟตามเหมาะสม
คือจุดเปลี่ยนแปลงไปของสังคม
อีลั่นทมเดี๋ยวนี้ลีลาวดี
ลายสือไทย นิธิ
ลายสือไทยกำเนิดเกิดนานแล้ว
ยังเพริศแพร้วแจ้วแจ้วแว่วยินเสียง
พัฒนาแยกไปมากหลากสำเนียง
ต่างกันเพียงการส่งเสียงสื่อภาษา
โฆษณาวันนี้ นิธิ
โฆษณาหาลูกค้าอย่างบ้าคลั่ง
ไม่อินังขังขอบกรอบกฎหมาย
ทำสงครามแย่งชิงด้วยอุบาย
ปิดการขายหลายร้อยเล่ห์เทกันหมด
หมูในอวย นิธิ 
วันหยุดภาคครึ่งปีมีอีกหน
จากที่ทนตรำงานผ่านใจหาย
เศรษฐกิจพ่นพิษใส่ไม่สบาย
ก่อการร้ายยังประทุยุกันทั่ว
เหนื่อยมานักพักซะบ้างหยุดสางก่อน
ได้พักผ่อนสักวันหันยิ้มหัว
สบายอกสบายใจสบายตัว
ไม่ต้องกลัวใครเขม่นเล่นงานเอา
วันหยุดนี้มีความหมายหลายหลายอย่าง
เป็นหนทางก้าวเดินเกินคาดหมาย
วันหยุดนี้มีสุขแสนสบาย
ลุจุดหมายคลายเครียดนอนเบียดน้อง
ได้ผ่อนคลายหายเบื่องานที่จุก
ฉุกละหุกฉุกเฉินเดินขวักไขว่
สารพัดเงินตราพากลุ้มใจ
หนี้บัตรเสียเพลียกลุ้มรุมมาด้วย
หยุดพักผ่อนตอนนี้ดีที่สุด
ไม่ต้องขุดคุ้ยไปไกลเกินฉวย
กว่าจะเสร็จสิ้นได้คงใกล้ม้วย
หมูในอวยที่เขาว่าไม่น่าจริง
เด็กหลอดแก้ว นิธิ 
สามใบเถาเยาว์วัยใสน่ารัก
รู้จักกันเด็กหลอดแก้วแถวหน้าบ้าน
เด็กหลอดแก้วหน้าใสใจเบิกบาน
ฟ้าประทานหรือมิใช่คนสร้างสรรค์
แต่ละวันเด็กหลอดแก้วแนวโน้มเพิ่ม
จะต่อเติมสร้างสุขให้ทุกข์หาย
เด็กหลอดแก้วแนวนี้มีมากมาย
ช่วยสลายฝันร้ายได้คลายเศร้า
เด็กหลอดแก้ววันนี้ไม่แตกต่าง
บนเส้นทางกว้างไกลจากใจหมอ
ไม่ต้องขอร้องใครให้พะนอ
ตั้งใจต่อคิดประดิษฐ์วิจิตรสรรค์
ใช้ปัญญา นิธิ 
ด้วยเหตุนี้จึงหวังไว้จะโรจน์รุ่ง
เผื่อวันยุ่งพรุ่งนี้จะมีหวัง
เติมวันนี้เปี่ยมล้นด้วยพลัง
สร้างกำลังใจสู้สู่จุดหมาย
    ด้วยมั่นใจไม่ท้อต่อปัญหา
ใช้ปัญญาตรึกตรองอย่างหลากหลาย
อุปสรรคทั้งหมดต้องคลี่คลาย
คงสบายขึ้นบ้างในบางเรื่อง
   ถึงวันนี้ถึงนาทีที่ตัดสิน
หวังได้ยินคำตอบมอบอย่างหวัง
อยากได้ยินคำตอบที่ชอบฟัง
ไม่อยากพังตอนนี้มีภาระ
   จะบอกใครทำไมให้รับรู้
อยู่อย่างกูดีแล้วไม่เกะกะ
ไม่คาดหวังว่าตัวกูต้องชนะ
อย่าด่วนผละหนีไปไกลไกลก่อน
   ตั้งสติให้มากฝากไว้ด้วย
รวมกันช่วยแก้ไขไฟสุมขอน
ทำทุกสิ่งทุกอย่างตามขั้นตอน
หยุดเดือดร้อนให้จงได้ใช้ปัญญา
อย่าเผลอนะ นิธิ 
เมื่อตั้งใจแก้ไขใจต้องสู้
ต้องมองดูรอบข้างกระจ่างใส
สำรวจเขาสำรวจเราให้เข้าใจ
แล้วพึงใช้ปัญญาชนะมาร
   เมื่อมองดูรู้รอบค่อยกอบกู้
มาตรองดูอีกหนบวกคูณหาร
คิดรอบคอบตอบโต้ตามสถานการณ์
พระอังคารเล็งกรอบรอบคอบไว้
   จะกระทำการใดใช้สติ
จะเริ่มริสิ่งใดที่ตรงไหน
จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ใจ
จะร้องไห้ทำไมใครรับรู้
   ใช้ปัญญาบนสติที่รอบคอบ
อยู่ในกรอบศีลธรรมจำไว้หนู
ใช้สติเท่าที่มีลองคิดดู
จงฟังหูไว้หูตูขอเตือน
   เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ที่ปรากฏ
ใครกำหนดเอาไว้ไม่มีเหมือน
ทุกทุกอย่างเกิดขึ้นได้ไม่ต้องเตือน
อย่าลืมเลือนเพื่อนเกลออย่าเผลอนะ
มีสติ นิธิ
พระธาตุอะไรก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์
อยู่ที่จิตใจเราเข้าใจไหม
ถูกหรือผิดคิดไปแล้วอยู่ที่ใจ
ทำอะไรคิดให้ดีมีสติ
สั่งลา นิธิ 
ฝนพรำพรำตั้งแต่เช้าหนาวไหมนี่
หน้าฝนนี้จะหนีฝนไปที่ไหน
ฝนตกมาจากฟากฟ้าสุราลัย
คนอยู่ไกลยินเสียงฝนปนสั่งลา
เหลืองเรืองรอง นิธิ
เหลืองใสสดหมดจดน่ารักยิ่ง
ดอกบัวจริงสิ่งยังเหลือเผื่อคนหลัง
งานวิจัยพืชเมืองหนาวสืบสาวยัง
อยู่ยืนยั้งรั้งให้อยู่คู่เมืองไทย
บัวเมืองหนาวเหมือนสาวที่พลัดถิ่น
ผลัดเปลี่ยนดินถิ่นอากาศเคยอาศัย
บัวแล้งน้ำก็ไม่ใช่ยังใส่ใจ
ปรับปรุงใหม่ในรูปลักษณ์เหลืองเรืองรอง
อย่าท้อ นิธิ 
จากดวงใจดวงนี้ที่เป็นห่วง
ไฟสุมทรวงห่วงหนักยากรักษา
ป่วยการคิดผิดแค่ไหนดิ้นรนมา
เหมือนเป็นบ้าน่าเป็นห่วงบ่วงติดคอ
อย่าไปขอความเป็นธรรมจากคนบ้า
อย่าหลงค่าความเป็นคนดิ้นรนขอ
อย่าหลบเลี่ยงเกี่ยงกันเรื่องไม่รู้พอ
อย่าไปท้อต่อสู้เพื่อเอาชนะ
จำเถิดคุณ นิธิ 
กับต่างชาติประกาศทั่วตัวอยู่ไหน
ไม่ทันไรคายพิษคิดกัดเจ้าของ
สัญชาติงูพิษร้ายเป็นก่ายกอง
จะสนองต้องการผลาญอีกเท่าไร
จะหอบเงินหมื่นล้านหรือแสนล้าน
เอาไปผลาญกว้านสุขอยู่ที่ไหน
ตัวของตัวย่อมรู้อยู่เต็มหัวใจ
ไม่ว่าใครพูดบอกอย่าหลอกตัวเอง
ขอให้รู้โดยทั่วถ้าตัวผิด
อย่ากระบิดกระบวนชวนกันหนี
มิฉะนั้นที่ฝันร้ายจะกลายดี
คงไม่มีวันเกืดจำเถิดคุณ
ยุติธรรม นิธิ 
ยุติธรรมคือธรรมที่ยุติ
ตามคติธรรมเก่าที่เล่าขาน
ยุติธรรมคือที่สุดหยุดทำการ
ยุติธรรมบางครั้งขนานความเป็นจริง
แต่กระนั้นยุติธรรมยังดีกว่า
อยุติธรรมาอยู่เห็นเห็น
ยุติธรรมยุติได้อย่างน่าจะเป็น
ยุติธรรมคือทางเลือกเด่นที่เห็นพ้อง
ยุติธรรมนำมาซึ่งสงบ
กว่าจะครบพบยุติทิษฐิก่อน
ยุติธรรมยุติกรรมทีจำจร
อุทาหรณ์ก่อนลาอย่าอยุติธรรม
ขอลาก่อน นิธิ 
จะจากจรจำใจขอลาก่อน
อย่าถอดถอนดวงใจจากไปไหน
จะพลัดพรากจากกันก็ไม่ไกล
ถึงอย่างไรใจยังอยู่คู่เคียงขวัญ
มีไว้ในฝัน นิธิ 
จะจากเธอไกลเพื่อไปลอนดอน
ไปตะลอนสอนเด็กรุ่นใหม่
จะไปฝึกวิชาของการเอาใจ
จะไปไหนไหนที่อิสระเสรี
จะห่วงทำไมถ้าไม่ผูกมัด
จะสลัดแอกใจไปสู่เสรีย์
อาจจะสุขใจกว่าทุกวันนี้
เหลือเพียงสิ่งดีมีไว้ในฝัน
ความสุขใจในวันนี้ นิธิ 
ความสุขใจในวันนี้พี่จำได้
อยู่ในใจตลอดไปไม่ถอดถอน
สุขอย่างนี้ต่อไปนี้นิรันดร
อย่าทอดถอนหายใจให้หนักอก
น่าเวทนา นิธิ 
จตุคามรามเทพชักเสพย์ติด
เชิงพาณิชย์ติดลมบนคนลุ่มหลง
เกาะกุมจิตพิชิตใจไปหลายคน
ไม่ยอมพ้นกองกิเลสน่าเวทนา
หมายังเมิน นิธิ 
ทำยังไงใครต่อใครยังดูหมิ่น
ขอเขากินหรือก็เปล่าเขายังว่า
รวยหรือจนไม่หลุดพ้นคนนินทา
อย่างเขาว่าคนดูชาหมาดูถูก
จะทำการสิ่งใดล้วนถูกค่า
จะทำดีอย่างไรไม่รู้สา
ถ้าทำชั่วผิดไปยิ่งนินทา
ดีก็ว่าชั่วก็ด่าหมายังเมิน
ให้สมหวัง นิธิ
ปณิธานตั้งไว้ใจแน่แน่ว
อย่าไปแผ่วปลงผ่อนก่อนถึงหวัง
อธิษฐานจิตให้มีพลัง
ให้สมหวังดั่งตั้งจิตอธิษฐาน
หลงผิด นิธิ 
แค่หนึ่งเสียงไม่ต้องเถียงให้วุ่นวาย
ขออย่าหน่ายอย่าหลงลืมไปใช้สิทธิ์
ถ้าหลงทางเสียเวลาเพียงน้อยนิด
แต่หลงผิดทั้งชีวิตต้องมืดมัว
ก่อนจากไกล นิธิ 
ขอเพียงแค่กำหนดสติความรับรู้
ถี่ถ้วนดูให้รอบคอบจึงตอบสนอง
ทำการงานทุกทุกสิ่งอย่างกลั่นกรอง
หมั่นตรึกตรองด้วยปัญญาอย่าใจร้อน
ปัญหาใดเร่งด่วนสมควรขจัด
ให้แน่ชัดตัดสินใจอย่าผัดผ่อน
แก้ปัญหาลุล่วงไปทุกขั้นตอน
เรื่องเก่าก่อนตอนผิดพลาดกวาดทิ้งไป
เริ่มต้นใหม่ใจเข้มแข็งสุขสงบ
ค่อยทวนทบจบปัญหาฟ้าคงใส
ยุติกรรมที่ทำชั่วให้หมดไป
ก่อนจากไกลดวงใจนี้ที่หวงหวง
ร้ายจริงจริง นิธิ 
เข้าพรรษาสิบห้าค่ำเดือนแปดแปด
ลือกันแซ่ดเรื่องช่วงชิงขึ้นเป็นใหญ่
นปก.รุ่นแรกถูกแยกไป
เยี่ยมไม่ได้เพราะถูกขังในวันหยุด
ฝูงชนรอต้องยอมรับรุ่นที่สอง
ไม่อาจกรองเลือกเฟ้นเด่นอยากหา
สถานการณ์ไม่เปิดช่องห้องเวลา
เดี๋ยวจะพากันเข้าคุกนอนจุกอก
ประชาชนคนไปฟังเขามาพูด
ขอจงหยุดไตร่ตรองคิดก่อนหนา
ฟังดีดีมีข้อมูลถูกต้องมา
อย่าไปด่วนชมยาหอมที่มอมเมา
ตั้งสติตริตรองกรองให้ถูก
เป็นพ่อลูกร่วมแผ่นดินทั้งเราเขา
ทะเลาะทั่วไม่มีกลัวน้องพี่เรา
มันน่าเศร้าหรือตลกสามก๊กใหม่
ยุติเถิดข้อขัดแย้งแย่งกันถูก
ล้วงถึงลูกถึงคนปล้นศักดิ์ศรี
นั่นก็ลูกหรือไม่ใช่ไม่ไยดี
ทำซั้วซี้ไม่มีอายร้ายจริงจริง
เมื่อไร นิธิ 
หวานเอยหวานใจหาใครเทียมเทียบ
ถูกระเบียบทุกขั้นตอนวอนสงสาร
สุดน่ารักคนถามทักคุณพยาบาล
ตำรวจทหารวานมาบอกอย่าหลอกกัน
เมื่อวันวานหวานคำฉ่ำชื่นอก
แต่พอตกข้ามคืนลื่นไปไหน
คำพูดที่ว่ามาจากใจ
ถึงเมื่อไรจะได้รู้อย่างชัดชัด
จากเรือนจำ นิธิ 
จากเรือนจำถึงเรือนใจไทยทุกหมู่
การต่อสู้ที่ผ่านวานศึกษา
รู้เขาบ้างเลือกเดินจำเริญตา
ถูกนินทาหรือครหาอย่าถอดใจ
จากเมืองไทยส่งใจถึงเมืองนอก
จากบางกอกเมืองวิไลถึงไพรสณฑ์
จำต้องห่างร้างลาจากผู้คน
เสือกกระสนให้พ้นตาอย่าสังเวช
นับแต่นี้จะมอบกายถวายจิต
เข้าพิชิตปัญหาฝ่าสงสัย
คิดรอบคอบตอบตัวเองหายข้องใจ
อยู่ตรงไหนให้อยู่ได้สบายตลอด
ถ้าพยายาม นิธิ 
ด้วยปีกนี้ที่หวังไว้จะโรจน์รุ่ง
เพื่อในวันพรุ่งนี้มีความหวัง
เติมวันนี้เปี่ยมไว้ด้วยพลัง
สร้างกำลังใจสู้สู่จุดหมาย
ด้วยกำลังใจเปี่ยมเตรียมไว้สู้
เพื่อชีวิตคงอยู่อย่างมีความหมาย
ดำรงชีพอยู่ได้จวบวันตาย
หมั่นสลายความคิดทำผิดอีก
ด้วยความคิดดีดีมีคุณค่า
มุ่งรักษาเยียวยาพาหลบหลีก
เปลี่ยนอุปสรรคไม้ซุงเป็นไม้ซึก
ฟาดฟันฉีกจุยกระจายพ่ายความคิด
เก็บอดีตผ่านมาอย่าไปหมอง
นึกตรึกตรองแก้ไขจุดที่ผิด
ค่อยค่อยทำลุไปวันละนิด
ตั้งดวงจิตยึดมั่นหมั่นทำดี
ชีพที่เหลือเจือจานสานทำต่อ
รู้เพียงพออยู่ดีดีมีศักดิ์ศรี
รู้อภัยรู้ผิดชอบรู้ชั่วดี
รู้จักหนีกิเลสหนาถ้าพยายาม
พระคุณแม่ นิธิ
พระคุณแม่สุดกล่าวคราวเดียวหมด
จะแทนทดหมดไหมข้องใจถาม
แม่มีคุณพูนเพิ่มทุกโมงยาม
ชีพงดงามตามครรลองผองคนดี
จากวัยเด็กเล็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ได้เพราะใครอุ้มชูเลี้ยงดูนี่
เจริญกายเจริญสุขสมบูรณ์ดี
พระคุณนี้มีใครเปรียบเทียมเทียบแม่
แม่จ๋าแม่คนดีเป็นที่สุด
คอยช่วยฉุดยุดลูกไว้จากกระแส
การทำชั่วหลงผิดไม่คิดแล
สมเป็นแม่ดีแท้แม่ของลูก
แม่คนดีคนเดียวที่เคี่ยวเข็ญ
ทุกสิ่งเน้นทำเพื่อลูกได้อยู่สุข
เพื่อปัดเป่าโพยภัยลูกหมดทุกข์
แม่จึงสุขใจได้คลายหมดห่วง
อย่าบุ่มบ่าม นิธิ 
ความคิดล่องลอยกลับไปในอดีต
สีจางซีดเลือนลางเกือบจางหาย
อดีตขมตรมทุกข์ไม่สุขกาย
ใจสลายบ่ายหน้าหนีพี่ขอลา
เรื่องมันเศร้าเอาแต่คิดจิตหมกมุ่น
ต้องผลันผลุนลาจากลากผ้าหนี
นับแต่นี้ไม่รู้ว่าอีกกี่ปี
ดวงใจนี้แสนห่วงทรวงหมองไหม้
ต้องทำใจอยู่นานหวานอยู่นอก
ในถูกตอกชอกช้ำสุดทนไหว
ยังดีอยู่สู้ต่อได้กำลังใจ
อยากบอกไปให้โลกรู้กูยังสู้
ที่เป็นอยู่ในวันนี้ดีขึ้นมาก
ไม่ลำบากอย่างก่อนตะลอนหนี
กำลังใจที่มีอยู่มั่นคงดี
ต่อไปนี้ดีตลอดถ้าใจสู้
ตรองให้ดีมีปัญหาอย่าใจร้อน
นึกไว้ก่อนให้รอบคอบก่อนนะสู
มองหาทางแก้ปัญหาหลายทางดู
ยังไม่รู้อย่าบุ่มบ่ามทำตามใจ
นาม เจริญพร รำลึก นิธิ
รำลึกนามเจริญพรตอนอดีต
ผ่านจารีตคิดวิธีอย่างมีผล
สู้ชะตาฟ้ากำหนดด้วยแรงตน
ไม่เคยบ่นก่นว่าชะตาชีวิต
ทำทุกงานผ่านมาอย่างท้าโลก
ไม่รอโชคกำหนดมาฟ้าลิขิต
ทำเต็มที่ทุกทุกอย่างตลอดชีวิต
เพียงหวังคิดให้โลกสวยและสดใส
เชื่อหมดใจต้องทำได้จนตายสู้
เพื่อเชิดชูเกียรติประวัติปรากฏได้
หวังอย่างยิ่งชีวิตเหลือดีขึ้นไป
ฝากหัวใจดวงนี้ผ่านวานลมบอก
ถึงวันนี้อาจารย์นามเจริญพรจรลาโลก
หมดทุกข์โศกโรคภัยร้ายบ่ายหน้าหนี
สิ้นสุดกรรมทำตลอดไว้ดีดี
ต่อแต่นี้สุขสงบพบโลกธรรม
อยุธยาในวันนี้ นิธิ 
ลพบุรีป่าสักเจ้าพระยา
รวมกันมาตกตะกอนเป็นเกาะใหญ่
เป็นที่รวมก่อสร้างเมืองเก่าไทย
ลือลั่นไกลในชื่อแคว้นอโยธยา
เดิมอยู่ใต้การปกครองของละโว้
เมื่อเติบโตสถาปนาเป็นกรุงศรีฯ
ได้นามว่ากรุงเทพราชธานี
ชื่อกรุงศรีฯนี้กำจายขยายอาณาเขต
อยู่ได้ถึงปีพ.ศ.สามหนึ่งศูนย์(๒๓๑๐)
เจ้าตากสินกู้อิสรภาพได้สำเร็จ
เปลี่ยนไปอยู่ธนบุรีเพื่อเอาเคล็ด
ย้ายไปเสร็จอยู่ไม่นานย้ายอีกหน
ย้ายหนหลังตั้งธายีเมืองกรุงเทพ
ย้อนไปเก็บอิฐเก่าเผาอีกหน
สร้างเมืองใหม่อพยพเอาผู้คน
จากเมืองบนโก่นสร้างธานีใหม่
ด้วยแรงใจทั่วทิศไทยกำหนด
จึงปรากฏอยุธยาฟื้นมาใหม่
ภาพอดีตเรืองรุ่งบันดาลใจ
เมืองสร้างใหม่ไม่ทิ้งเก่าเข้าปฏิสังขรณ์
ถึงวันนี้อยุธยาไม่เคยสิ้น
สร้างแผ่นดินประวัติศาสตร์เอาไว้สอน
ผองชาวไทยชาวโลกยกทุกตอน
อุทาหรณ์สอนคติธรรมจดจำคิด
รักสุดใจ นิธิ ๙ตุลย์๒๕๕๐
อัญมณีล้ำค่าหามาได้
เจียรนัยใส่เรือนเตือนคิดถึง
สายสร้อยทองสองบาทขาดตำลึง
สองสลึงกลึงแหวนแสนน่ารัก
เอาไปหมั้นนงรามที่สามโคก
อย่าเพิ่งโศกเสียใจเป็นไข้หนัก
ด้วยใจจริงขอบอกไม่หลอกรัก
จงประจักษ์พี่ภักดิ์รักสุดใจ
ให้เป็นสุข นิธิ 
กว่าจะปั้นดินเป็นดาวยาวนานนัก
กว่าประจักษ์รักแท้นั้นยิ่งใหญ่
กว่าจะเปลี่ยนความหวังตั้งเอาไว้
กว่าจะได้ประสบพบรักเธอ
ถึงวันนี้ที่หวังได้ดังหวัง
แต่ก็ยังผิดพลาดอยู่เสมอ
ที่เคยคิดเคยหวังไม่เจอะเจอ
พบเสมอที่ไม่คิดไม่คาดหวัง
ต่อไปนี้ที่ผิดคิดทำใหม่
เร่งแก้ไขอัตตาอย่ามัวเผลอ
ไม่ยอมคิดแก้ไขไฉนจะเจอ
มัวคอยเก้อเพ้อฝันวันที่สุข
แปรความทุกข์ลำบากยากวันนี้
ให้เป็นที่ก้าวต่อพอเป็นสุข
ให้ผ่อนคลายสลายวันที่เคยทุกข์
ให้เป็นสุขสมหวังอย่างตั้งใจ
เหตุไฉนไยไม่นึก นิธิ 
จากกันไปแสนไกลใจคิดถึง
ติดตาตรึงซึ้งเสน่ห์เล่ห์ผู้หญิง
ทำใจอ่อนจะจรจากช่างยากจริง
จะทอดทิ้งกันง่ายง่ายหน่ายแล้วหรือ
ไม่เสียดายก่อนเก่าเราเคยรัก
เคยรู้จักมักจี่นี่ใช่ไหม
มาตัดรอนถอนรักภักดีไป
เหตุไฉนไยไม่นึกระลึกก่อน
เพราะการกระทำเก่าเราทำผิด นิธิ 
อดีตขมตรมเศร้าเหงาสุดสุด
เศษมนุษย์ที่เขามองกองข้างฝา
เหยียดหยามเล่นเป็นเรื่องมานินทา
ปานพวกหมาข้างถนนคนรังเกียจ
อาชีพงานเก่าก่อนห่อนคิดถึง
ทำมึนตึงเข้าใส่ไม่สงสาร
ก้มหน้านิ่งมานึกตรีกตรองนาน
นี่เพราะการกระทำเก่าเราทำผิด
สะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโกลก นิธิ 
ไทยมาเลย์อินโดสุไหงโกลก
กว่าจะตกลงร่วมสร้างทางติดต่อ
เป็นสะพานผ่านได้ก็ต้องรอ
แล้วเพิ่งก่อตอม่อคอสะพาน
สุไหงโกลกไหลผ่านสามประเทศ
ก่อนเป็นเขตกั้นผ่านปานลวดหนาม
แม่น้ำนี้ยิ่งใหญ่มาทุกยาม
ชื่อลือนามสุไหงโกลกกั้นบกเขต
เพ็ญสิบห้า nidhi 
เพ็ญสิบห้าฟ้าสวยพระจันทร์แจ่ม
ดวงดาวแซมประดับฟ้างามอย่างฝัน
กระทงน้อยลอยล่องฝากคำจำนรรจ์
เตียงคู่กันจันทร์บนฟ้าเป็นสักขี
กระทงน้อยลอยทิ้งทุกช์สุขซะมั่ง
เรื่องที่หวังสิ่งที่ดีจงมีหวัง
ตั้งจิตน้อมรำลึกนึกดังดัง
จงสมหวังอย่างที่คิดตั้งจิตไว้
ลอยกระทงปลงทุกข์ให้สุขบ้าง
สร้างหนทางอย่างหวังให้ทุกข์สลาย
สร้างกำลังใจสู้กว่าตัวจะตาย
หวังสุดท้ายไว้ลายสู้ศัตรูผอง
ไปเลือกตั้ง nidhi 
ไปเลือกตั้งใช้สิทธิทำหน้าที่
เลือกคนดีมีคุณธรรมนำสุขศานติ์
เฟ้นคนดีที่ชื่นชอบเข้าทำงาน
บริหารบ้านเมืองนี้ให้รุ่งเรือง				
comments powered by Disqus
  • โคลอน

    31 ธันวาคม 2550 11:40 น. - comment id 98789

    NewYearJanelle25C225A9122805.gif
    
    สวัสดีปีใหม่ค่ะ มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงนะคะ...ชีวิตคือการเดินทางเนาะ...คงมีบ้างที่อาจสะดุด...กำลังใจเท่านั้นที่ทำให้หยัดยืนได้...36.gif11.gif
  • ปราณรวี

    1 มกราคม 2551 00:40 น. - comment id 98791

    flower9_1.jpg
    โหหหหหหหห สุดยอดเลยค่ะคุณลุงนิธิ
    
    .....ป อ่านได้ไม่จบค่ะ ตาลายซะก่อน
    
    .........อย่างไรก็ตาม ปีใหม่นี้ขอให้
    
    คุณลุงนิธิและครอบครัวมีแต่ความสุข
    
    นะคะ  36.gif11.gif16.gif
  nidhi

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน