ตำนานรักดอกเหมย

ปติ ตันขุนทด

ส่วนตัวนาย เหวย เซี๊ย กัง พ่อค้ายาเสพติดที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลกคนนี้  ต่อมาได้ถูกทางการไทยจับตัวได้ที่จังหวัดเชียงใหม่  ในขณะที่หลบมาอยู่ที่บ้านเมียน้อย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2531  เขาถูกสายข่าวดัดหลัง แจ้งตำรวจ กก.7 กองปราบปราม  และ เจ้าหน้าที่ ปปส. จับกุมตัวได้ขณะแฝงตัวเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน โชตนานิเวศน์ ตรงข้ามสนามกอล์ฟล้านนาเชียงใหม่  ตามหมายจับที่1000/263 คดีครอบครองเฮโรอีน

ระหว่างคดี ทนายได้ยื่นขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปขึ้นศาลสหรัฐ  ในชั้นอุทธรณ์ แต่ก่อนที่ทางการไทยจะส่งตัวไป เหวย เซี๊ย กัง ก็ ได้รับการช่วยเหลือจากนายพลทหารผู้หนึ่ง จนแหวย เซี๊ย กัง หายตัวไป จากเรือนจำ ต่อมาอีกหลายปี ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง รองนายกฯ  รับผิดชอบงานยาเสพติด กล่าวไว้เมื่อ เดือนกันยายน 2554 ว่า  "ทราบจากหลานของ เหว่ย เซียะ กัง ว่า การหลุดพ้นจากโซ่ตรวนครั้งนี้  เหว่ย เซียะ กัง ซื้ออิสรภาพไปด้วยเงินจำนวน 30 ล้านบาท  แต่ไม่ระบุว่าจ่ายให้กับใคร"

"ส่วนนายสุรชัย เงินทองฟู หรือบังรอน ได้หลบหนีการจับกุม ไปอยู่กับ เหวย เซี๊ย กัง และนาย ภาพ 70 ไร่ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ของไทย ก็เหมือนกับ เหวย เซี๊ยกัง คือทั้งที่ตำรวจจับตัวได้แล้ว  แต่ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน

และเรื่องนี้ไม่มีนักข่าวของไทยคนไหนกล้าที่จะขุดคุ้ยข่าว  ทั้งที่คนพวกนี้เป็นนักค้ายาระดับโลก เพราะวงการนักข่าวไทยรู้กันดีว่า คนพวกนี้ ได้รับการปกป้องจากในวัง และมีข่าวว่าทั้งบังรอน  และภาพ 70 ไร่ ก็ได้หลบหนีไปอยู่ในคฤหาสน์หรูของเหวย เซี๊ย กัง  ในอิทธิพลของพวกว้าแดงในเขตเมืองยอนของพม่า  ซึ่งต่อมา เหวย เซี๊ย กัง ก็ให้คนมาสร้างข่าวว่าได้ขายคฤหาสน์หรู ไปในราคา 1,500ล้านบาท

ดยส่วนใหญ่จะถูกส่งไปยังอเมริกาและยุโรป  และการเดินทางไปต่างประเทศของคนในครอบครัวนี้ ก็จะนำยาไปส่งด้วย โดยทำควบคู่ไปกับกรณียกิจที่ใช้เอามาเป็นข้ออ้าง  และการส่งยาของพวกก็จะทำได้ง่าย เพราะจะได้รับเอกสิทธิ์ ในการที่ไม่ต้องถูกตรวจค้นทั้งสนามบินภายในประเทศและสนามบิน ในต่างประเทศ

กิจในกรุงลอนดอน

และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่การส่งยาเสพติดของพวกไทยที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษต้องผิดพลาด เพราะเกิดจากเมียของเขา   การส่งยาในครั้งนั้น เมียเขาด้ร่วมมือกับ ลูกสาวเจ้าของบริษัท ไทยแพง  ที่ตั้งอยู่ใน อ.สันกำแพงจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ส่งออก เครื่องทองเหลือง โดยยัดยาเสพติดไปในเครื่องทองเหลือง  โดยในครั้งนั้น ตู้ที่เก็บเครื่องทองเหลืองที่ถูกส่งมาจากเมืองไทย  จะได้รับเอกสิทธิ์ยกเว้นในการตรวจค้น เมียเขาจึงนำลูกๆทั้งหมด 5คนไปรับของที่สนามบินฮีทโธรว์ ด้วย

พลาดเพราะสุนัข

แต่บังเอิญมีสุนัขตำรวจ ตัวหนึ่งภายในบริเวนสนามบินที่ถูกฝึกมา ให้ตรวจดมยาเสพติดโดยเฉพาะ ตำรวจผู้ดูแลเกิดผูกไว้ไม่แน่น  เดินหลุดออกมายัง Termenal ภายในสนามบินที่มีตู้เก็บเครื่องทองเหลือง นี้ตั้งอยู่ ทำให้สุนัขเห่าและไม่ยอมไปไหน จนตำรวจผู้ดูแลตามมาเจอ  ก็รู้ว่าต้องมียาเสพติดแน่ แต่ก็ไม่กล้าเปิดเพราะมีเอกสิทธิ์ และตำรวจคนนั้นก็ตัดสินใจโทรแจ้งไปยังหน่วยตำรวจพิเศษ สก๊อตแลนด์ยาร์ด และทำการตรวจอย่างละเอียด ก็เจอยาเสพติด สมเด็จพระราชินีอลิซาเบทจึงต้องสายตรงมา จนทางการไทยต้องส่งคนมาเคลียร์กับทางอังกฤษเพื่อปกปิดข่าว  ต่อมาทางการอังกฤษที่จับตัวลูกสาวเจ้าของบริษัทไทยแพงไว้  ได้ถูกทางการไทยขอให้ส่งตัวกลับมาเข้าเรือนจำในประเทศไทย พอมาอยู่ได้ไม่กีวัน ก็มีรถของสำนักมารับตัว  และหายไปจนกระทั่งทุกวันนี้ (คาดว่าถูกนำไปฆ่าปิดปาก)  และด้วยสาเหตุนี้เองที่ทำให้เมียเขากระป๋อง  และบรรดาลูกชายสี่คนก็ถูกถอดยศไปด้วย จนทุกวันนี้

กิจในอิตาลีและฝรั่งเศษ

ต่อมาเรื่องการค้ายาของครอบครัวเป็นข่าวขึ้นมาอีก  ในครั้งนั้นหลี่สิงได้ถือหุ้นลมของบริษัทขายตรงขนาดใหญ่  ที่ชื่อซูเลียน (Zhulian) ซึ่งมีสาขาทั่วโลก หลี่สิงก็ต้องไปเปิดงาน แจกโล่ มอบรางวัล ทำกิจกรรมร่วมกับบริษัทนี้เป็นประจำ  จนครั้งหนึ่งหลี่สิงดินทางไปประเทศอิตาลี และทีมงานถูกจับยาเสพติดได้  นักข่าวอิตาลี่จึงนำเสนอจนเป็นข่าวใหญ่มากในอิตาลีว่า  พ่อ แม่ของหลี่สิงเป็นเจ้าของยาเสพติดล๊อตนี้  ทำให้สำนักต้องส่งคนมารีบปิดข่าวกันอุตลุด และมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่าสำนักต้องเสียเงินให้กับทางการ อิตาลีในการที่ไม่ต้องดำเนินคดีกับหลี่สิง และปิดปากสำนักข่าวอิตาลี รวมแล้วเป็นเงินนับร้อยล้านบาท

ต่อมาในสมัยรัฐบาลนายสิทธิ์ อาชีวะ ในปี 2553  โดยหลี่สิงและทีมงานไปพลาดท่าถูกจับได้ที่ฝรั่งเศสอีกครั้ง ที่สนามบิน ทำให้หลี่สิงต้องถูกทางการฝรั่งเศสกักตัวไว้สอบสวนภายในสถานทูต  ทางราชสำนักไทยจึงส่งนาย ษิต ภิรมยา รมต.ต่างประเทศไปแก้ตัว กับทางการฝรั่งเศสว่า เป็นเพราะเด็กติดต้นขั้วกระเป๋าผิดใบ  พร้อมทั้งสั่งให้ทีมงานของหวิน ชอบชิด  และการบินไทย  จัดการแก้ไขข้อมูลทั้งทางคอมพิวเตอร์และต้นฉบับพร้อมสำเนาผู้โดยสาร  และสัมภาระให้เรียบร้อย อย่าให้โยงถึงครอบครัวของเขาเป็นอันขาด  โดยโยนความผิดไปให้พนักงานลำเลียงกระเป๋าขึ้นเครื่อง อ้างว่าต้นขั้วที่ติดกระเป๋าหลุด ก็เลยหยิบมาแปะ ไม่ได้ตรวจให้ดีก่อน  ทั้งๆที่เป็นผู้โดยสารเครื่องบินชั้นหนึ่ง ซึ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ  จึงไม่ค่อยมีใครเชื่อข้ออ้างนี้ เลยให้ธิ ทองกุล ไปปล่อยข่าวว่า  เป็นกระเป๋าของษิณ เพราะดูไบกำลังมีปัญหาขาดเงิน  ทำให้ษิณสินต้องการใช้เงิน จึงต้องค้าแป้ง

แต่ยาเสพติดในล๊อตที่ถูกจับได้นี้ เป็นล๊อตที่ใหญ่มาก ทางการฝรั่งเศสจึงให้ประกันตัวกลับเมืองไทยได้เพียงสองคนรวมทั้ง หลี่สิงด้วย แต่ผู้ติดตามหลี่สิงทั้ง 28 คน ยังถูกทางการฝรั่งเศสจับตัวไว้ และยังติดคุกอยู่ที่ฝรั่งเศสจนกระทั่งบัดนี้ และการนำตัวหลี่สิงกลับไทย และการปิดข่าวที่ฝรั่งเศสในครั้งนี้อีกเช่นกัน ที่ทางสำนักไทย ต้องสูญเสียเงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับทางฝรั่งเศษอีกครั้งเป็นจำนวนมหาศาล

และนี่เป็นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ที่ลูกหลานถูกจับได้ จนตกเป็นข่าว แต่คงมีอีกหลายครั้งที่สามารถเล็ดรอดการตรวจค้นไปได้  เพราะคนตระกูลนี้ มีเอกสิทธิ์ โดยการใช้ข้ออ้างกิจป่วย ในการเดินทางออกต่างประเทศ

comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน