20 มิถุนายน 2551 15:33 น.

พันธมิตร (แท้หรือเทียม)

เอื้องอังกูร

<  พันธมิตร   มิตรแท้  หรือมิตรหลอก
ปากพร่ำบอก  ว่ารักชาติ  เป็นหนักหนา
การกระทำ  เหมือนขัดแย้ง  ตีนกับตา
ดูซิว่า  ใครจะแน่  แย่กว่ากัน>
>(คัดมาจากหนังสือ ครบเครื่องเรื่องวิทยากร โดย สุวิทย์  มูลคำ )
    ตีนกับตาอยู่กันมาแสนผาสุก
จะนั่งลุกยืนเดินเพลินหนักหนา
มาวันหนึ่งตีนทะลึ่งเอ่ยปรัชญา
ว่ามีคุณแก่ตาเสียจริงจริง
     ตีนช่วยพาตาไปที่ต่างต่าง
ตาจึงได้ชมนางและสรรพสิ่ง
เพราะฉะนั้นดวงตาจงประวิง
ว่าตีนนี้เป็นสิ่งควรบูชา
    ตาได้ฟังตีนคุยโม้ก็หมั่นไส้
 จึงร้องบอกออกไปด้วยโทสา
ว่าที่ตีนเดินเหินได้ก็พราะตา
ดูมรรคาเศษแก้วหนามไม่ตำตีน
   เพราะฉะนั้นตาจึงสำคัญกว่า
ตีนไม่ควรจะมาคิดดูหมิ่น
สรุปว่าตามีค่าสูงกว่าตีน
ทั่วธานินทร์ตีนไปได้ก็เพราะตา
    ตีนได้ฟังให้คลั่งแค้นแสนจะโกรธ
เร่งกระโดดออกไปใกล้หน้าผา
เพราะอวดดีคุยเบ่งเก่งกว่าตา
ดวงชีวาจะดับไปไม่รู้เลย
     ตาเห็นตีนทำเก่งเร่งกระโดด
ก็พิโรธเร่งระงับหลับตาเฉย
ตีนพาตาถลาล้มทั้งก้มเงย
				
12 มกราคม 2551 14:02 น.

ให้รอ...แล้วใยลืม

เอื้องอังกูร

ลมหนาวพัดสบัดร่าคราหน้าแล้ง
ใบหญ้าแห้งเฉาตายอย่างหน่ายแหนง
ผะผ่าวร้อนลมแดดที่แผดแรง
พอสิ้นแสงทิวาก็ลาไกล
     หนาวลมมาราตรีที่แสนหนาว
ฟ้าห่มดาวจรัสแสง ณ แห่งไหน
คิดถึงคนอยู่ห่างอย่างเศร้าใจ
เธอทำไมจากลาไม่มาเลย
     ลู่ลมหนาวพัดมาอีกคราครั้ง
เธอก็ยังลืมสัญญาหน้าตาเฉย
เคยสัญญาว่าจะมาเหมือนอย่างเคย
เธอลืมเลยลืมสิ้นไม่ยินดี
     ปล่อยให้คอยทำไมให้ใจล้า
ทั้งน้ำตาสะอื้นไห้ใจหมองศรี
ปลอยให้รักแล้วทำไมไม่ใยดี
หรือรอปีคืนถิ่น.....พี่สิ้นใจ				
11 มกราคม 2551 11:19 น.

ถวิลหา..อาลัย..ในสมเด็จพระพี่นางฯ

เอื้องอังกูร

ลมหนาวโบกลมโศกมาอีกคราแล้ว
ไร้วี่แววเสียงนกกาคราฟ้าสาง
สายหมอกโปรยโรยราดูเลือนราง
แสนอ้างว้างหมองหม่นจนเศร้าใจ
     เคยสดชื่นกลับสลดแสนทดท้อ
เคยหยอกล้อกลับหมางเมินเกินขานไข
ชาวประชาอาดรูทั่วถิ่นไทย
สะอื้นไห้ใจปวดแปลบแทบพังภินท์
     สิ้นพระชนม์สิ้นสมเด็จสิ้นเจ้าฟ้า
คนึงหาอาวรณ์ไหว้ใจถวิล
กราบบังคมอาลัยหาน้ำตาริน
ทั่วแผ่นดินร่ำไห้ใจมลาย
     ส่งเสด็จสู่สวรรค์วิมานแก้ว
พริ้งเพลิดแพร้วแวววับลอยลับหาย
พระคุณท่านสถิตย์อยู่มิรู้คลาย
ถวิลถวาย...สมเด็จพระพี่นางกัลยาฯ
    
    ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม				
21 ธันวาคม 2550 11:15 น.

อมก๋อย...แห่งตวามทรงจำ

เอื้องอังกูร

โอ้ว่าดาว  ไม่เคยลืม บนผืนดอย
กลิ่นดาวลอย  ไม่เคยจาง  ห่างหนีหาย
วันที่ผ่าน  เดือนพาไป  ไม่กลับกลาย
ดาวกระจาย  ดนตรีไพร  ได้ยลยิน
    คิดถึงกลิ่น  ถิ่นพงไพร  ที่ใหญ่กว้าง
คิดถึงทาง  ที่แสนโหด  เนินโขดหิน
คิดถึงสาย  นที  ที่ไหลริน
คิดถึงถิ่น  คนไกล  ในพนา
     ยังจำวัน  คืนสุข  ทุกทุกที่
ยังจำคำ  พร่ำวจี  ที่ห่วงหา
เสียงหรีดหริ่ง  เรไร  ใต้หญ้าคา
ดนตรีป่า  บรรเลงไพร  ในลานดอย
     จากป่าดง  พงป่า  มานานแล้ว
ดวงใจแป้ว  คิดถึงนา  ป่าอมก๋อย
อยากรู้นัก  คนอยู่ไกล  ในดงดอย
เจ้าเด็กน้อย  ยังสบาย  ดีหรือไร
     คลี่ผ้าห่ม  ห่มกาย  ไม่วายนึก
โอ้ว่าดึก  คืนนี้  ที่ดอยไหน
จะอบอุ่น  เหน็บหนาว  หรืออย่างไร
ขอฝากใจ  มาห่มป่า  พนาวัลย์
     ยังคิดถึง  คนไกล  ใต้หมอกขาว
อีกเรื่องราว มากมาย  คล้ายกับฝัน
ฝากดวงใจ  แนบชิด  จิตสัมพันธ์
เฝ้ารอวัน  วันฟ้าใหม่  จะไปเยือน				
30 พฤศจิกายน 2550 15:59 น.

ซากศพ....ที่ยังมีลมหายใจ

เอื้องอังกูร

จากวันเก่า  คืนก่อน  ย้อนอดีต
เหมือนเธอขีด  เส้นทาง  ข้างหุบเหว
สารพัด  ดุด่า  ว่าฉันเลว
เคยล้มเหลว  ใช่ว่า  จะน่าชัง
     ก็เราเคย  รักกัน  นั้นมาก่อน
ใยตัดรอน  จำคุกใจ  ให้คุมขัง
ใครก็รู้  คู่เรา  รักกันจัง
แล้วภินท์พัง  หมางเมิน  เร็วเกินไป
     มีใครบ้าง  จะไม่ช้ำ  ระกำจิต
มีใครบ้าง  จะไม่คิด  จิตหวั่นไหว
มีใครบ้าง  จะไม่เศร้า  รักร้าวใจ
แล้วฉันหล่ะ  จะทนได้  อย่างไรกัน
     จำใจอยู่  อย่างคน  ที่พ่ายแพ้
แม้จะแย่  เพียงใด  หัวใจฉัน
จะขออยู่  ให้โลกรู้  ชายฉกรรจ์
เสียไปแล้ว  คู่หมายหมั้น  ฉันยินยอม
     ทุกวันนี้  มีชีวิต  ที่ไร้ค่า
ไร้ชีวา  คุมกาย  จนผ่ายผอม
อยู่อย่างคน  ระทม  จนตรมตรอม
ฉันก็ยอม  ทุกข์เข็ญ  เพราะเป็นเธอ
     มีชีวิต  เหมือนคน  ไร้ชีวิต
เธอลิขิต  ขีดให้ฉัน  นั้นเสมอ
ซากศพนี้  ยังหายใจ  ได้นะเธอ
ใยต้องเจอ  เธอตอกย้ำ...ช้ำเจียนตาย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเอื้องอังกูร
Lovings  เอื้องอังกูร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเอื้องอังกูร
Lovings  เอื้องอังกูร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเอื้องอังกูร
Lovings  เอื้องอังกูร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเอื้องอังกูร