17 ธันวาคม 2548 12:44 น.

ฉั น จ ะ ก ลั บ ม า . . . เ มื่ อ ป่ า ร่ ม เ ย็ น

แดนไกล ไลบีเรีย

    ยิ้มระรื่นชื่นใจคลายทุกขัง
สดับฟังเสียงเพรียกที่เรียกหา
มวลวิหค  นกกางเขน  ช่างเจรจา
ดังคะขา สุดสนั่นลั่นทั่วดง
กวางย่างเยื้องอ้อนแอ้นอรชร
พลวานรสิงหราชอีกชาดหงส์
ทั้งเลียงผาเล้นล้อคล้อละอง
ปะรอนรอนเจ้ากระจงกลางพงไพร
ผลิความสุขเมื่อได้อยู่กับฝูงสัตว์
ใบไม้ผลัดเปลี่ยนสีที่สดใส
ใบเก่าเก่าร่วงถลาชลาลัย
พัดพาไปกับสายชลธร
เย็นสบายเมื่ออยู่ใต้เงาไม้ร่ม
หลั่งอารมณ์เขียนภาพลักษณ์เป็นอักษร
บรรยายความงดงามตามบทกลอน
เมื่อจะจรจากป่ามาสู่เมือง
                ..............................
                 +++แล้วไม่นาน...ฉันจะกลับมา+++				
13 ธันวาคม 2548 20:02 น.

เมื่อนั้นเล่า โลกของฉันก็บรรลัย

แดนไกล ไลบีเรีย

     เมื่อโลกนี้ถูกไฟคอยไหม้เผา
เมื่อโลกเราสีสันนั้นหม่นหมอง
เมื่อโลกเราถูกความทรามครอบครอง
เมื่อสีทองถูกป้ายกลายเป็นดำ

     เมื่อใบไม้สีเขียวเริ่มเหี่ยวเฉา
เมื่อหนองน้ำเริ่มเน่าสีเคล้าคล้ำ
เมื่อมนุษย์ไม่คิดเค้นถึงเวรกรรม
เมื่อโลกช้ำเพราะมนุษย์หยุดทำดี

     เมื่อสมุทรรวนเรผันเผเพิ่ม
เมื่อท้องฟ้าจากเดิมเริ่มเปลี่ยนสี
เมื่อมนุษย์ใจช้ำถูกย่ำยี
เมื่อกาลีแผ่กระจายไปทั่วเรา

     เมื่อโรคภัยเริ่มก่อพอล้างโลก
เมื่อความโศกแทรกซึมซาบคราบความเหงา
เมื่อทุกอย่างสูญสิ้นแผ่นดินเทา
เมื่อนั้นเล่าโลกของฉันก็บรรลัย				
12 ธันวาคม 2548 21:26 น.

ป รั ช ญ า ชี วิ ต ฉ บั บ แ ด น ไ ก ล ไ ล บี เ รี ย ฮ่าๆๆ เมื่อข้ามาถึงโอเอซิส

แดนไกล ไลบีเรีย

    คนเรามีเกิดมาสักคราหน
ต้องแก่ตน เจ็บ ดับ ลับเลือนหาย
เป็นวงจรอย่างนี้ไซร้ไร้ต้นปลาย
วนเวียนไปหลากหลายเส้นรายเรียง

     "เกิด  ก็เกิดมาสักทีมีหนึ่งครั้ง
เกิด  แล้วยั้งยื้อยุดฉุดชื่อเสียง
เกิด  มาแล้วนับเป็นบุญคุณพอเพียง
เกิด  มาแล้วจักต้องเลี้ยงชีพของตน"

    "แก่  เริ่มแก่เมื่อชีวิตที่พลิกผัน
แก่  จากวันหนุ่มสาวคราวสับสน
แก่  จากนี้แก่นานผ่านบัดดล
แก่  จากนี้ต้องอดทนดูแลกาย"

    "เจ็บ  เริ่มเจ็บเจ็บใจโรคภัยเข้า
เจ็บ  แล้วเราขอพรวอนให้หาย
เจ็บ  จากนี้ชีวันถึงบั้นปลาย
เจ็บ  จากนี้เริ่มคลายใกล้นิพพาน"

    "ตาย  ถึงตายกายดับลับเลือนเข้า
ตาย  แล้วเศร้าโศรกลงปลงสังขาร
ตาย  ไปแล้วจักไว้ในสันดาน
ตาย  ไปแล้ววิญญาณสวัสดี"

 
  เกิด พ้นท้นหนึ่งครั้ง                  ชีพอยู่
แก่ ร่างกายเริ่มรู้                         สถานแล้ว
เจ็บ ปวดยิ่งยวดสู                        ดับร่าง  สังขารา
ตาย สู่นิพพานแคล้ว                   ร่างม้วยดับสลาย
				
12 ธันวาคม 2548 02:18 น.

บ้างก็ หลีกจากเพราะ (ความเป็นจริง)(ลองเข้ามาอ่านดูแล้วช่วยวิจารณ์กันนะคราบผม)

แดนไกล ไลบีเรีย

     ผันชีวิตหลีกห่างจากสับสน
ของผู้คนที่จิตคิดไม่เหมือน
บ้างก็คิดแต่งานตนจนฟั่นเฟือน
บ้างก็เคลื่อนอำนาจอิทธิพล
     บ้างก็หาแต่เงินประทังชีวิต
บ้างก็คิดได้แต่ประโยชน์ผล
บ้างก็ทำทำแต่งานของตน
บ้างก็ค้นหากำไรให้ตัวเอง
     บ้างก็เฉยทำตัวไม่มั่วคนอื่น
บ้างก็ยืนเบ่งอกชกข่มเหง
บ้างก็ทำเป็นใหญ่ไม่กลัวเกรง
บ้างก็เป็นนักเลงที่ท้ายซอย

     หลีกจากชีวิตที่ไม่มีสุข
หลีกจากทุกข์ที่ทำน้ำตาฝรอย
หลีกจากฝันกลางวันอันเลื่อนลอย
หลีกจากรอยขีดแบ่งแห่งสังคม
     หลีกจากความสุขใจเพียงภายนอก
หลีกจากซอกอับช้ำคล้ำหมักหมม
หลีกจากทางทุกข์เวททุกข์ระทม
หลีกจากฝั่งโคลนตมที่ถมใจ

     เพราะความจริงโลกนี้นั้นว่างเปล่า
เพราะพวกเราไม่มีค่าจะหาไหน
เพราะสันดานของคนยังรั้งต่อไป
เพราะในใจของมนุษย์ผุดความทราม
     เพราะเรายังมีเราในเค้าจิต
เพราะเรายังมีความคิดที่เกรงขาม
เพราะยังมีสมองไว้ให้ช่วยตาม
คิดให้ทันความเลวทรามของคนเรา				
11 ธันวาคม 2548 22:19 น.

มีเรื่องเล่าของเด็ก 14 ขวบคนนี้จะมาบอก ลองอ่นดูจิ ยังไม่ได้ตั้งชื่อกลอนเลย 555

แดนไกล ไลบีเรีย

    จินตกวีมีเรื่องหนึ่งซึ่งเคยเล่า
เรื่องเบาเบาสบายใจไม่ต้องกลุ้ม
นกแร้งปะทะนกตะกรุม
เพื่อแย้งซุ้มที่พักหลักแหล่งกิน
    เพียงเพื่อเอาชีวิตให้อยู่รอด
ต้องคอยกอดรัดสู้เพื่อทรัพย์สิน
มันเป็นสัตว์มันยังหวงปวงแผ่นดิน
แต่คนสิ้นไฉนคิดไม่เป็น
    ไม่ห่วงหล้าห่วงแดนไทยแลนด์นี้
ปล่อยให้คนย่ำยีกลีทุกข์เข็ญ
รักแผ่นดินไทยเรานี้ที่ร่มเย็น
แล้วจะเห็นว่าไทยสดใสพราว
    เบื้องหน้าคือดวงดาวที่พราวฟ้า
ก้าวข้างหน้าเปล่งแรงแสงสีขาว
ประเทศไทยอยู่ใต้สายดวงดาว
ที่สกาวสุกใสนำไทยเจริญ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแดนไกล ไลบีเรีย
Lovings  แดนไกล ไลบีเรีย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแดนไกล ไลบีเรีย