31 สิงหาคม 2550 20:17 น.

คนในฝัน

แตม

วันนี้ช่างเป็นวันที่อากาศสดใส  ท้องฟ้ายอมเช้ามีแสงแดดอ่อนๆ  สายลมเบาๆ  พัดมากระทบกับผิวของฉัน  ดอกไม้นานาพันธุ์ที่ฉันยืนอยู่ท่ามกลางกลิ่นที่ชวนหลงใหล  พร้อมกับสีสันที่ดึงดูดทำให้ฉันอยากจะล้มตัวลงนอนไปกับทุ่มดอกไม้ซะตอนนั้น  เมื่อหันหน้าไปด้านข้างพบกับดอกไม้ที่ฉันโปรดปรานมากที่สุด  คือดอกทิวลิปสีเขียว ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล  ฉันเริ่มเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อที่จะชมความงดงามของดอกทิวลิปท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ  แต่ เอ๊ะ นั่นใครกันนะ  ขณะที่ฉันกำลังเดินเข้าไปนั่นเอง ฉันมองเห็นเงาของใครบางคนยืนอยู่  เมื่อเข้าไปใกล้ๆเงาก็เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ  เป็นเงาของผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่  กำลังยืนหันหลังให้ฉัน มือทั้งสองของเขาล้วงกระเป๋าอยู่ ทำให้ฉันค่อนข้างไม่แน่ใจว่า ในกระเป๋าของเขาจะมีของที่เป็นอันตรายต่อฉันหรือเปล่า ทันใดนั้นเอง
	สวัสดีครับ  ฉันหูแว่วไปรึเปล่านะ ฉันจึงเงียบรอดูทีท่าของเขา แต่ทำไมเสียงของเขาถึงคุ้นหูได้มากขนาดนี้ แต่ฉันนึกไม่ออกเท่านั้นเองว่าเป็นเสียงของใคร
	สวัสดีครับ เขาสวัสดีฉัน??
	เอ่อ........สวัสดีค่ะ  คุณรู้จักฉันหรอคะ
	รู้จักดี ดีมากซะด้วย  เราคุยกันได้ซักพัก ฉันเริ่มรู้สึกแปลกใจในคำพูดของเขา ฉันแอบคิดในใจว่า เข้าชอบฉันหรือเปล่านะ ทำไมถึงได้รู้จักฉันดีขนาดนี้ แต่ในขณะเดียวกันฉันก็กลับรู้สึกว่าฉันเองก็ชอบเขาอยู่เหมือนกัน ในใจของฉันรู้สึกลึกๆว่าฉันคุ้นเคยกับเขามาก และฉันก็พูดได้เลยว่าฉันรักเขา แต่ฉันก็ยังคงงงๆกับความรู้สึกที่เรียกว่ารักในครั้งนี้      ระหว่างที่ฉันคิดอยู่นั่นเองก็มีลมพายุพัดอย่างรุนแรง รักนะ  ดูแลตัวเองดีๆด้วย  ร่างของชายผู้นั้นหายไปแล้ว ฉันสัมผัสได้ แต่ตัวฉันเองก็โดนลมพายุพัดไปอยู่ที่ไหนสักที่หนึ่ง ลมพายุพัดฉันออกมาไกลมากๆ จนไกลจากทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์เป็นอันมาก ทั้งๆที่ในใจของฉันยังคงมีปริศนาและความรู้สึกแปลกๆที่ต้องการคำตอบและที่มาว่ามันคืออะไร และเขาคือใครกันแน่ 
              ฉันเริ่มรู้สึกตัว ในใจคิดว่า เมื่อกี้นี้ เขาพูดว่า รักนะ  ดูแลตัวเองดีๆด้วย  หรอเนี่ย นี่มันอะไรกัน
	ตาของฉันค่อยๆลืมขึ้นทีละนิดพร้อมกับเสียงที่คุ้นเคยเสียงนั้น เขานี่นา ไปอาบน้ำได้แล้ว ไม่งั้นจะไปโรงเรียนสายนะลูก  ฉันตอบกลับไปทันใดว่า รู้แล้วค่ะพ่อ แต่หนูขออีกห้านาทีนะคะ ^ ^ !!   ปัดโธ่ ผู้ชายคนนั้นคือพ่อของฉันเองหรอเนี่ย 
	คนส่วนใหญ่เมื่อเติบโตขึ้นก็มีความรักแบบต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบเพื่นอ ความรักแบบเพื่อน ฯลฯ แต่สุดท้ายเราก็ค่อยๆลืมเลือนความรักของพ่อแม่ไปทุกทีๆ เพราะเราไม่เคยรู้เลยว่าความจริงแล้ว เพื่อนที่ดีที่สุด แฟนที่ดีที่สุด และคนที่รักเรามากที่สุด ก็คือ คุณพ่อคุณแม่ของเรานั่นเอง				
31 สิงหาคม 2550 20:08 น.

อีกนิยามรัก

แตม

สายลมโชยแผ่วๆกระทบหน้าต่าง ผ่านห้องที่ตัวผมนั่งพิมพ์ดีดอยู่  ทำให้ผมนั่งคิดถึงเรื่องราวของชีวิตที่ผ่านมาอยู่คนเดียวด้วยความรู้สึกที่รำลึกถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น  ตั้งแต่สมัยเด็กๆ จนถึงปัจจุบัน...ซึ่งเป็นเวลาที่ผมเป็นผู้ใหญ่  
	สายลมที่แผ่วๆได้ปัดเป่าความรู้สึกทุกข์ใจของผม ณ เวลานี้ไปอย่างหมดสิ้น ในทางตรงกันข้ามมันกลับทำให้ผมได้นึกถึงเรื่องดีๆที่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตและได้ผ่านไป ครั้งหนึ่งในเวลาที่ผมท้อแท้หมดหนทางที่จะต่อสู้....กับร่างกายและหัวใจที่มันบอบช้ำ ซ้ำเติมความรู้สึกที่เจ็บปวดรวดร้าวในเรื่องต่างๆ  จนความรู้สึกที่โหดร้ายเหล่านี้ได้เข้ามาทำลายจิตสำนึกของความเป็นตัวผม มันมักถามผมเสมอว่า เราเกิดมาบนโลกใบนี้ทำไม เกิดมาเพื่อใคร  และอยู่ไปเพื่ออะไร  การจะหาคำตอบนั้นอาจจะดูเหมือนเรื่องง่ายดาย แต่แท้จริงแล้วนั้นมันคือเรื่องที่เปรียบได้กับปัญหาโลกแตกสำหรับผมในตอนนั้น จนทำให้ผมเกิดความท้อแท้ที่จะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกเล็กๆที่โหดร้ายใบนี้   แต่แล้วก็ได้มีผู้หญิงใจดี น่ารัก สวย ผิวผ่องเป็นเป็นประกาย ดั่งนางฟ้าก็มิปานได้ก้าวเข้ามาในชีวิตอันแสนจะอดสูของผม  เธอคือบุคคลที่จุดประกายให้กับชีวิตผมอีกครั้งหนึ่ง....เธอคือดวงตะวันที่สาดแสงแรงกล้า คือร่มโพธิ์ร่มไทรที่ให้ผมได้พักพิง คือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล คือดวงจันทร์ที่ถักทอด้วยแสงดาวระยิบระยับเป็นประกาย   คือพลังอันยิ่งใหญ่ ก่อเกิดเป็นกำลังใจที่แข็งกล้าที่ทำให้ผมสามารถดำรงชีวิตที่เต็มไปด้วยคำถามและความโศกเศร้าอันมากมายได้ต่อไป ทุกครั้งที่ผมคุยกับเธอผมมักจะได้ทัศนคติในการดำรงชีวิตและข้อคิดต่างๆมากมาย  รวมถึงได้เรียนรู้ในหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่บางทีผมก็คิดว่าผมไม่อาจจะเรียนรู้ด้วยตัวผมเองได้ด้วยซ้ำไป  เราสองคนได้ร่วมแบ่งปันกันมานานแสนนานถึง ๖ ปี  ซึ่งเป็นปีที่มีความสุข สนุกสนาน เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ร้องไห้ด้วยความซึ้งใจ และสิ่งที่สำคัญที่สุดจนขาดไม่ได้ ก็คือความรักอันยิ่งใหญ่ที่เธอได้มอบให้กับผมจนเปี่ยมล้น  แต่แล้ววันหนึ่งผม.....ก็ต้องเดินจากเธอไป เพราะผมจะต้องเดินไปตามทางที่ผมได้เลือก ทางที่ผมใฝ่ฝัน ทางที่ผมค้นหา ทาง.....สู่ความฝันอันสูงสุด 
 ขอโทษนะครับที่เราต้องจากกัน ผมพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลรินด้วยความเศร้า แต่ในหัวใจดวงน้อยๆของผมก็ยังคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า ผู้ชายคนนี้จะไม่มีวันลืมผู้หญิงคนนี้เลยตลอดไป
	ก่อนที่เราจะจากกันในวันนี้มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกกับเธอให้รู้และเข้าใจในความรู้สึกของผมที่มันเก็บไว้ลึกๆข้างในตลอด ๖ ปีที่ผ่านมาให้เธอฟัง ก่อนที่มันจะสายเกินไป  ผมจึงก้าวเท้าเข้าไปหาเธอด้วยความเชื่อมั่นเต็มร้อย พร้อมกับเรียกเธอด้วยเสียงที่แหบซ่านเพราะความโศกเศร้าแห่งการจากลาว่า ขอบคุณนะครับ ที่รักผม ดูแลผม ให้อะไรต่ออะไรผมมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ลาก่อนครับ คุณแม่.....พิมพ์ของชาติ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแตม
Lovings  แตม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแตม
Lovings  แตม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแตม
Lovings  แตม เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแตม