17 กุมภาพันธ์ 2549 18:11 น.

วิทิตะสดายุตาฉันท์ ๑๔

โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน

วิทิตะสดายุตาฉันท์ ๑๔

001010.....11101012
001012.....11101013

๐ ฉายฉานสุรียะแสง
   ทิวะ ณ แจ้งก็แรงก็เริง
   ร้อนรุมประชุม ก็เติม
   พละสิเหิมบ่แล้งบ่ลา

๐ กัดทึ้งณ ชีพ ณ ชนม์
   ฤติกระมล จะค้างจะคา
   ดิ้นด้น ฤ ชนม์ ฤ กา-
   ละสุขะชีพ สละสลาย

๐ กลางแจ้งประภัสประไพ
    ดนุหทัย สิ ห่วง สิ หาย
    ยังย้ำระกำไฉน
    ฤรติกล้ำกระทำกระเทือน

๐ กราวเกรียว ณ เคียว กระกวัด
   วยุสบัดจะพัด จะเบือน
   สมเพช ฤ ข้าจะเหมือน
   กะจุณะเศษขยะขยาย

๐ เหม่อมอง ณ ท้อง พนา
   ชยุติกล้า จะท้าจะทาย
   แสนสรรค์ ฤ พรรณ อุไร
   ดนุจะไป สิไหว้ และ หวัง

๐ เพราะพรหม ฤ กรรม ฤ กาฬ
    ทมิฬะปาน จะกลบจะฝัง
    ต่ำต้อย และ น้อย พลัง
    ฤจะตะโกน ก็ กลัว ก็เกรง				
16 กุมภาพันธ์ 2549 19:32 น.

นิรมิต ของสดายุ

โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน

๑.เมื่อเมฆพราวขาวข้อง ณ ท้องฟ้า
    เสนาะเสียงเพียงอุรุเวลา
    ละอองหมอกเพิ่งบอกลา ณ สายันณ์

๒ สว่างไสวใต้เวหาคณากว้าง
   พิสิฐสร้างดั่งสวนสมพรหมสวรรค์
   ศิลปีกวีวาดประกาศกัณฑ์
   แสนสุคันธ์ ฤา เทียมได้ไม่มีทาง

๓ ธัญญะชาติกระจัดพรมด้วยลมโบก
    จะเกรียวโยกโกรกฟุ้งเมื่อรุ่งสาง
    ดุจเอนอายส่ายต้องละอองวาง
    ณ ทุ่งทองก็ร้องอ้างอยู่เกรียวเกรียว

๔ เคยจิกทิ้งดึงดื้อถือเหตุผล
    เชษฐ์ก็ทนเนื้อกล้ำจนช้ำเขียว
    ด้วยนุชงอนค้อนขึ้งขมึงเเกลียว
    แต่ใจเจียวสิจะยั้งลองหยั่งชาย

๕ แต่ล่วงลามข้ามกอดมาสอดช่วง
   มาดอมดมชมดวงให้ทรวงหาย
   อุ่นอ้อมแอบแนบนิดสนิทกาย
   ละมุนอายไม่คลายจิตสนิทใจ

๖ เพราะขุ่นข้องน้องช้ำจึงกำหมัด
   หมิ่นรีสัตย์สตรีไซร้น่าใจหาย
   จึงพ้อว่าอ้าพิเชษฐ์เพราะเหตุใด
   จึงชมนวล ให้หวลไซร้ต้องช้ำเกิน

๗ แต่ยังกล้าบ่หยุดยั้งระวังจิต
   ยังแอบลอบมาจุมพิศไม่คิดเขิน
   ฤา ไม่ข่มอารมณ์ไว้ปล่อยใจเพลิน
   จึงล่วงเกินกล้ากล้ำให้ช้ำนวล				
15 กุมภาพันธ์ 2549 22:33 น.

ความรัก ของสดายุ

โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน

ก็เมื่อใหม่พี่ก็งามด้วยความรัก
ชื่นจิตภักดิ์เรียงภิรมย์เป็นสมสอง
เอ่ยอ่อนหวานซ่านอารมณ์นิยมปอง
ถึงว้าเหว่จะเห่ก้องให้ต้องใจ

ไม่เห็นหน้าเคยพิศจริตป่วน
สักยามยวนเจียนบ้าน้ำตาไหล
ครวญพิร่ำพร่ำเนาให้เบาใจ
ก็หงอยเหงาเศ้ราหทัยไม่เว้นวาย

เอ่ยว่ามาตรปราถนิยมจะชมน้อง
จะอุ่นสองเคียงสู่ไม่รู้หาย
กล้ำเกินเพลินใจชอบอยู่รอบกาย
นี่ก็ชายฉวยได้ ก็ฉวยเอา

เชษฐ์เอ่ยความทรามสงวนว่าอ่วนอก
ยิ่งนานหนักอกไหม้ดั่งไฟเผา
อุปมาจม ณ สุขที่รุกเอา
ฤา ระทมตรมเศ้ราในโศกา

บอกกับนุชว่าอกข้ายังอาเพศ
แสนประเทศผ่านไปไม่ใฝ่หา
มาจุดจบสงบสมกรมอุรา
พจนาหลั่งได้ชายจำนรรจ์

ดุจน้ำหอมย้อมยลสุคนธรส
แสนพิร่ำคำจรดให้สดหวาน
ไม่นานนักหักสวาทมิปราถปราน
ฤา จะซ่านเสพย์กรุ่นเช่นคุ้นเคย

เกรงจะเหงาเฝ้าเคหาที่อาศัย
ณ คืนจันทร์ อันอำไพไกลเขนย
ดุจธาราบ่าไกลลับไม่กลับเลย
โอ้ดาวเอยหยาดจากชู้ที่คู่เคียง

เช่นศรศักดิ์ปักปวดกร้าวร้าวดวงจิต
ดำเนินทางร้างมิตรใกล้ไร้สรรพเสียง
จะวาดหวังตั้งหทัยเช่นเคยเคียง
ก็รุ่มร้อนอุทรเพียงเช่นเพลิงไกร

ที่เคยหวานปานหยาดสรวงทั้งปวงหอม
ก็ชืดรสหมดพร้อมจะดอมได้
หลับตาเห็นผวาหวาดอนาถใน
เพราะเห็นเชษฐ์ร้างไกลไม่คืนมา

ช่างหนักหนาสาสักกระอักอ่วน
หทัยกวนรวนเรจะเห่หา
เมื่อเหม่อมองปองพี่ชายไม่เห็นมา
คงจะพาแปรใจไปเสียแล้ว

สะดุ้งตื่นฟื้นตามาอีกครั้ง
รอบกายยังไร้รอยเฝ้าคอยแคล้ว
เมื่อแรกรักหักใจไม่ตรงแนว
ก็เผลอแผ่วเผยใจให้ชายชม

เขาว่างามก็งามใจนุชนารถ
เขาว่าชาติยูงให้สูงสม
เขาว่าซาบซึ้งหทัยในคารม
เมื่อเขาชมป่านนี้ไกลไม่เห็นมา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
Lovings  โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
Lovings  โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
Lovings  โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงโอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน