28 สิงหาคม 2551 08:16 น.

นักรบคนกล้า

โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน

แกร่งกล้าคลุมหน้าผ้าดำ.........ยืนค้ำเชิงชุมกลุ่มใหญ่
ออกหน้าดาหน้ากล้าไกร.........นักรับศรีวิชัยยรรยง
ทัพธรรมล้ำเลิศจำรัส..............เศกสัตย์สมมุติสงฆ์
ห่มกรักปักกลดปลดปลง..........ถือธงทัพธรรมอำไพ

วารหนึ่งสัตว์ป่าอาธรรม์...........สังวาสรวมกันหมู่ใหญ
ห้อยโหรโจรป่า ฉไกร..............ระรานร่านไปในนาคร
ปิดหน้าคลุมหน้าผ้าดำ.............ดาบเปลวเลวทำสลอน
มั่วเมาเคล้าเสพย์กินนอน.......ปล้นทรัพย์อับอ่อนจรรยา
มันเอาเจ้านายเป็นเกราะ.......แสนเสาะเสกสรรค์สรรหา
อ้างทำเพราะองค์จักรา............แต่กระทำจัณฑาล์กาลี
จารึกไว้ในจดหมายเหตุ.........วารหนึ่งประเทศบัดสี
โจรป่าคลุมหน้าอารี.................เข้าตีเข้าต่อยประชา
ณ สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง......ฉุดดึงดั่งเป็นเมืองป่า
ทุบทำลายสลายทัรพย์อัปรา......ให้ศาสดาท่านได้สมใจ
จีนกบฏสุดอดชมชื่น................สมคืนสมวันฝันใฝ่
จะมล้างประชาธิปไตย..............ด้วยอัตตาแหละข้าไทของกู
ร่วมกับมหาทุศีล......................อยากกินไก่วัดอยู่อักขู
ยิ้มร่าเริงราน่าดู......................เจ้ากูแสนภิรมย์สมจินต์
ยืนรอคอยโบกมือหยับๆ...........ให้เแมงเม่าอาภัพพลัดถิ่น
บินกรูไล้เริงเพลิงภิณฑ์............อาตมาทั้งสิ้นยินดี
สามจังหวัดชายแดนภาคใต้.....ร้อนภัยร้อนไฟอึงมี่
รักรบศรีวิชัยทำไมมี................จึงหนีพวกพ้องตนมา
แทนจะช่วยด้วยชาติปกป้อง.....ดีกว่ากู้ร้องกลั่นกล้า
เป็นทาสจีนคดโฉดช้า..............กระทำกรรมกล้าเกินการณ์
พิศแล้วเร่งตรองเอาเถิด..........จักเชิดจักชูว่าหาญ
ศรีวิชัยนักรบคนพาล...............แล้วบ้านเมืองอยู่อย่างไร
ฤา ยังเห็นดีเห็นประเสริฐ........จะละเมิดของสูงก็ย่อมได้
จะระรานหาญหักผู้ใด..............ก็ยังพร้อมจะยอมให้อยู่เหมือนเดิม				
26 กรกฎาคม 2551 22:03 น.

สยามเซ็นเตอร์

โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน

พิศเพศก็เพศไทย.........กลใดจึงฟาดฟัน
ผลาญเผ่าพิพงษ์พันธุ์......ดุจหน่อ ณ ไพรี

เผ่นผาดประหารหัต........สละอรรถไมตรี
สยามชาติจะกลี...............ยุคบทแหลกลาญ

เอาชาติปราบชาติ...........จะประกาศประวัติหาญ
สยามโรธอุโฆษการณ์.......พลล้างผไทไทย

สง่างาม ฤ น้ำหน้า...........บรรพข้าชนม์ถวาย
เศกกรุงทิเวศไท............จะมลายก็น้ำมือ

อนาคตประวัติ................จะวิวัฒนาหรือ
เด่นช่วงสถิตย์ถือ............ฤา จะล่ม ถล่มลง

ขอพรพระพุทธา..............นุสภาพพิยรรยงค์
ไทยสบอุตมง...................คลสุขสยามเทอญ				
30 มีนาคม 2549 18:21 น.

ฤ ฟ้าจะอาเพศ

โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน

ลมกระโชกพายุโบกโบยซัดสาด
ชุติวาบปลาบแรงแสงฟ้าฟาด
ให้หวั่นหวาดขาดกลัวในหัวใจ

ฤ ดาวเดือนเคลื่อนขับกลับอาเพศ
ถ้วนขอบเขตชัณฑ์คร้ามอกหวามไหว
ร้องระเริงเพลิงรุมดั่งสุมไฟ
ฤา เพลงยาวทำนายไว้จะกลับจริง

ภริยาจะฆ่าเสียซึ่งคุณผัว
คนชั่วจะกลับเจริญยิ่ง
พระเสื้อเมืองจะเล็งแลนิ่ง
พระกาฬสิงสู่เร้าเข้ามาผลาญ

เพราะบังอาจ กราดกล้าท้าเทเวศน์
หมิ่นภูเมศวร์จอมไทยมไหสวรรค์
พึ่งบรมบุญญา อ้ายอาธรรม์
ยังสาปสรรค์ศัพท์ได้ประไรมี

เกณฑ์กบฏ คดขัดจัดทรุยศ
ฉิบหายหมดสยามใยไร้ศักดิ์ศรี
ให้"จีนตรอก"ออกมาหยามทำกลี
หมิ่น ภูมี จอมประเทศเหนือเกศได้

ไหว้พระกาฬจงราญมันให้สรรสาป
พระเสือ้เมืองกระทำย้ำฉิบหาย
พระทรงเมืองจงอุบัติภัย
ให้สมกับที่หมิ่นไท้ ทรงศักดิ์

เทพยุตาอารักประจักษ์เถิด
อ้ายจีน มันละเมิดลุโทษหนัก
ให้ฉิบหายกลายลับดับพรรค
ให้สมศักดิ์ที่ทำไว้ในแผ่นดิน
 
เทวดารักษาเศวตฉัตร
โปรดกำจัดมารภัยลงไปสิ้น
บารมีพระแสงขรรค์ผลาญชีวิน
สาปสิ้นเสี้ยนสัตว์ อุบัติร้าย

อะไรก็ยอมได้ แต่กับพระเจ้าอยู่หัว ผมยอมไม่ได้..........				
17 กุมภาพันธ์ 2549 18:11 น.

วิทิตะสดายุตาฉันท์ ๑๔

โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน

วิทิตะสดายุตาฉันท์ ๑๔

001010.....11101012
001012.....11101013

๐ ฉายฉานสุรียะแสง
   ทิวะ ณ แจ้งก็แรงก็เริง
   ร้อนรุมประชุม ก็เติม
   พละสิเหิมบ่แล้งบ่ลา

๐ กัดทึ้งณ ชีพ ณ ชนม์
   ฤติกระมล จะค้างจะคา
   ดิ้นด้น ฤ ชนม์ ฤ กา-
   ละสุขะชีพ สละสลาย

๐ กลางแจ้งประภัสประไพ
    ดนุหทัย สิ ห่วง สิ หาย
    ยังย้ำระกำไฉน
    ฤรติกล้ำกระทำกระเทือน

๐ กราวเกรียว ณ เคียว กระกวัด
   วยุสบัดจะพัด จะเบือน
   สมเพช ฤ ข้าจะเหมือน
   กะจุณะเศษขยะขยาย

๐ เหม่อมอง ณ ท้อง พนา
   ชยุติกล้า จะท้าจะทาย
   แสนสรรค์ ฤ พรรณ อุไร
   ดนุจะไป สิไหว้ และ หวัง

๐ เพราะพรหม ฤ กรรม ฤ กาฬ
    ทมิฬะปาน จะกลบจะฝัง
    ต่ำต้อย และ น้อย พลัง
    ฤจะตะโกน ก็ กลัว ก็เกรง				
16 กุมภาพันธ์ 2549 19:32 น.

นิรมิต ของสดายุ

โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน

๑.เมื่อเมฆพราวขาวข้อง ณ ท้องฟ้า
    เสนาะเสียงเพียงอุรุเวลา
    ละอองหมอกเพิ่งบอกลา ณ สายันณ์

๒ สว่างไสวใต้เวหาคณากว้าง
   พิสิฐสร้างดั่งสวนสมพรหมสวรรค์
   ศิลปีกวีวาดประกาศกัณฑ์
   แสนสุคันธ์ ฤา เทียมได้ไม่มีทาง

๓ ธัญญะชาติกระจัดพรมด้วยลมโบก
    จะเกรียวโยกโกรกฟุ้งเมื่อรุ่งสาง
    ดุจเอนอายส่ายต้องละอองวาง
    ณ ทุ่งทองก็ร้องอ้างอยู่เกรียวเกรียว

๔ เคยจิกทิ้งดึงดื้อถือเหตุผล
    เชษฐ์ก็ทนเนื้อกล้ำจนช้ำเขียว
    ด้วยนุชงอนค้อนขึ้งขมึงเเกลียว
    แต่ใจเจียวสิจะยั้งลองหยั่งชาย

๕ แต่ล่วงลามข้ามกอดมาสอดช่วง
   มาดอมดมชมดวงให้ทรวงหาย
   อุ่นอ้อมแอบแนบนิดสนิทกาย
   ละมุนอายไม่คลายจิตสนิทใจ

๖ เพราะขุ่นข้องน้องช้ำจึงกำหมัด
   หมิ่นรีสัตย์สตรีไซร้น่าใจหาย
   จึงพ้อว่าอ้าพิเชษฐ์เพราะเหตุใด
   จึงชมนวล ให้หวลไซร้ต้องช้ำเกิน

๗ แต่ยังกล้าบ่หยุดยั้งระวังจิต
   ยังแอบลอบมาจุมพิศไม่คิดเขิน
   ฤา ไม่ข่มอารมณ์ไว้ปล่อยใจเพลิน
   จึงล่วงเกินกล้ากล้ำให้ช้ำนวล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
Lovings  โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
Lovings  โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
Lovings  โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงโอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน