1 พฤศจิกายน 2546 22:37 น.

...คืนแห่งจันทร์เพ็ญ...

ใบบอนแก้ว

๏ จันทร์เพ็ญเพ็ญผ่องแผ้ว      ผุดผาด
ผ่านพิศพิศพิลาศ                     แหล่งหล้า
หลังแสงแสงส่องสาด                 สรรค์สู่ โลกเอย
แสนสวยสวยแจ่มฟ้า                ฟ่องให้แลเห็น
เป็นคืนคืนพี่นี้                         นึกถึง
สู่ใจใจคำนึง                             หนึ่งน้อง
มองจันทร์จันทร์ส่อตรึง              ติดต่อ
ดุจนวลนวลแม่จ้อง                    จ่มแจ้งมาหา
พาหวนหวนสู่ย้อน                     ยอกจิต
สร่างโลกโลกมืดมิด                    หม่นเศร้า
เจอคนคนช่วยคิด                     เคียงคู่
ใจตรึงตรึงแค่เจ้า                      จึ่งฟ้าเคียงขวัญ
จันทร์งามงามทั่วหล้า                  โลมใจ
สู่เดือนเดือนสดใส                     สื่อสร้าง
เดือนเพ็ญเพ็ญเด่นใน              นำส่อง ทางเอย
เงาโศกโศกส่งอ้าง                      อ่อนให้ใจหาย
หมายมองมองใฝ่เจ้า                   จอมขวัญ
ต่างจำจำไกลกัน                         ก่อนใกล้
คือคืนคืนแห่งจันทร์                    จัดแจ่ม  แสงนวล
สองเราเราต่างใช้                        ช่วงนั้นแสนหวาน
กาลเวียนเวียนผ่านพ้น               เพียงเตือน
หนึ่งวันวันเป็นเดือน                   ดั่งฟ้า
คอยจันทร์จันทร์สู่เรือน               ราวก่อน เก่านา
กลัวใจใจเริ่มล้า                          ล่วงแล้วลืมเสีย ๚				
7 กันยายน 2546 22:20 น.

...ศึกมัชชะ..2.1

ใบบอนแก้ว

๏ ณ แคว้นงามนามเล่นโคเคนเขต
ข้างประเทศลิโพที่โก้หรู
หริ่งเรไรไล่เรียงฟังเสียงดู
ดั่งจะรู้แคว้นนี้มีมงคล
ครั้นราตรีสี่ทุ่มชนกลุ่มน้อย
นั้นมาคอยต้อนรับอย่างสับสน
เสียงอื้ออึงตึงตังอย่างกังวล
ว่าสายฝนเจ้าแคว้นคืนแผ่นดิน
ดังสนั่นหวั่นไหวด้วยไฟพลุ
พลันปะทุตระการคล้ายงานศิลป์
ศุภฤกษ์เกริกก้องเสียงกลองพิณ
พร้อมยาฝิ่นจอมนางเคียงข้างกาย
กองทินเนอร์เซ่อซ่าอยู่หน้าเพื่อน
พร้อมปืนเถื่อนเป็นเงาเฝ้าถวาย
หวั่นอมิตรคิดฆ่าชีวานาย
นำสหายยาบ้าพร้อมหน้ากัน
กองทหารผ่านหน้าประชาราษฎร์
รวมอำมาตย์ยาอีที่ขยัน
หยุดวิเคราะห์เพราะใจสงสัยพลัน
เพราะลูกขวัญคนโตไม่โผล่มา
มองเท่าไหร่ไม่เห็นเป็นเดือดนัก
หนอลูกรักทำไมไม่มาหา
หายไปไหนให้แค้นแน่นอุรา
เราอุตส่าห์มอบแคว้นดูแทนเรา
ราวกับว่าครานี้ลูกที่รัก
ร่ำเรียนหนักไม่ว่างอย่างใครเขา
ขนาดแม้แม่พ่อขอแนบเนา
นึกถึงเจ้ายาฉุนยิ่งขุ่นเคือง ๚ะ				
26 สิงหาคม 2546 20:40 น.

...วอน...(กลอนกล # 22)

ใบบอนแก้ว

๏ ณ แผ่นฟ้าดารารายแสงพรายพร่าง
นภาลัยได้สว่างกลางสิงขร
มิคิดไกลไปจากกันหรือบั่นทอน
มิไถ่ถอนให้เลือนลางยามกลางคืน
มิคิดร้างห่างเธอเลยขอเอ่ยชัด
มิห่างจรก่อนจำตัดยากขัดขืน
นะบังอรวอนเธอนั้นรักมั่นยืน
นะคนงามยามดึกดื่นสุขชื่นใจ
จะทนทุกข์คลุกเคล้าจิตเมื่อคิดถึง
จะสุขสมอารมณ์หนึ่งซึ่งทนไหว
ระคนตรมสมแล้วนี่ที่มาไกล
ระทมหวามยามที่ใจใฝ่หากัน
จะเป็นมิตรชิดชมชื่นยั่งยืนแท้
จะติดตามทรามวัยแน่มิแปรผัน
นะนงรามความในใจไม่เว้นวัน
นะยามใดในใจฉันนั้นมีเธอ
ประคองรักสักหน่อยเถิดย่อมเกิดค่า
ประจักษ์จิตคิดหน่อยหนาอย่าพลั้งเผลอ
วิเคราะห์คิดผิดมากไหมมิได้เจอ
วินิจฉัยใคร่เสนอกลัวเธอเลือน
สนองรักสักนิดหน่อยคอยรักษา
สมัครใจไว้แล้วหนาอย่าเชือดเฉือน
จะมีไหมในคืนค่ำคอยย้ำเตือน
จะได้เคียงเรียงรายเหมือนหมู่เดือนดาว ๛

ข้อบังคับพิเศษ     -  ใช้คณะของฉันท์  ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ ขึ้นต้นในแต่ละ
                               วรรค				
11 สิงหาคม 2546 23:05 น.

...ควรค่า...

ใบบอนแก้ว

๏ พระคุณพระแม่ล้น          เหลือหลาย
เกินกล่าวเกินบรรยาย              ยิ่งแท้
สุดเอ่ยสุดมากมาย                  เหมือนเท่า
หญิงหนึ่งหญิงใดแม้              แม่นั้นยากหา  ๚
   ๏ ใครหนาใครกล่อมเลี้ยง    เรากัน
คุณค่าคุณอนันต์                     หน่อเนื้อ
เกิดก่อเกิดจากครรภ์               ของท่าน
เดือนผ่านเดือนคอยเอื้อ           เอ่ยเอื้อนถนอม  ๚
   ๏ อดออมอดซ่อนเปรี้ยว       ปนหวาน
เลือกสั่งเลือกคัดสาร                ส่งให้
จักเนิ่นจักเนานาน                    นัยหนึ่ง
เพราะแม่เพราะเลือกใช้           สิ่งน้อยเลือกสรร  ๚
   ๏ จากครรภ์จากแม่ล้วน       รักษา      
เติบใหญ่เติบโตมา                  ไม่น้อย
คอยห่วงคอยแลหา                  หากห่าง ตาแล
รักท่านรักเต็มร้อย                   แหล่งหล้าหรือสม  ๚
   ๏ คำคมคำเอ่ยอ้าง               อันใด
แทนค่าแทนหทัย                    ท่านนี้
หยาดหนึ่งหยาดจากใจ            จากแม่
เขียนบ่งเขียนบอกชี้                  แซ่ซ้องใดเหมือน  ๚
   ๏ เตือนใจเตือนต่อด้วย          ใดหนอ
ควรใคร่ควรตรองพอ               ผ่านย้ำ
หยดหนึ่งหยดลงคอ                  คือค่า  น้ำนม
แสนชื่นแสนเลิศล้ำ                    หล่อเลี้ยงลูกขวัญ  ๚ะ๛				
8 มิถุนายน 2546 17:29 น.

...ศึกมัชชะ...(ไหว้ครู)

ใบบอนแก้ว

...ขอน้อมอภิวันท์          วางจิตนั้นบวงสรวง          สู่ปวงเทวฤทธิ์
ล้อมทิศสิ่งภัยพาล         พ้นผ่านดั่งใจหมาย          หมดร้ายในสิ่งทำ
ที่ล้ำจงเกิดผล               เผื่อชนที่ยลเห็น              ให้เป็นตามแรงขวัญ
ของกำนัลแห่งข้า           ขอวันทาเหนือหัว            หันหน้าทั่วทิศา
สักการะพระพุทธ          พิสุทธิ์คำสั่งสอน               สอดซ้อนนบพระธรรม
ที่ชี้นำหลุดพ้น               พาชนพ้นเวียนว่าย        วุ่นวายในตัญหา
ห่างค่ากิเลสชั่ว              ชี้ตัวอกุศล                      สิ่งสับสนหาญอาจ
อภิวาทพระสงฆ์             ซึ่งดำรงคำสอน               สร้างสังวรณ์ในธรรม
ที่นำทางชีวิต                 ว่าถูกผิดเพียงไหน         หนึ่งคือใจศรัทธา
ที่คอยหาสิ่งสุข                สิ้นทุกข์จากโรคภัย         ผองพาลใดแคล้วคลาด
ขออภิวาทแม่พ่อ             ผู้ก่อเกิดตัวฉัน              เฉกท่านปั้นคอยเติม
ต่อเพิ่มชีวิตน้อย            นั้นคล้อยจนเติบใหญ่     ยิ่งล้นในความรัก
รู้ตระหนักบุญคุณ           คอยค้ำจุนกายา             ยากจักหาใครเท่า
ที่เลี้ยงเรานานปี            เปรียบท่านนี้ร่มไทร      ที่ให้ฉันพักพิง
เพื่อสิ่งเดียวสืบสาน        สืบสันดานตระกูล          ก่อเพิ่มพูนความดี
ดั่งเป็นที่ต้องการ           ก่อนท่านจะสิ้นลม           แล้วประนมมือใหม่
เมื่อไหว้อาจารย์ครู        ครั้งเรียนรู้วิชา              ชี้ตำราเลี้ยงกาย
ก่อเกิดหลายอาชีพ         ช่วยถีบส่งโง่เขลา           ของตัวเราพ้นไป
ประกอบใช้ช่วยตน        ตั้งต้นในความดี            ดุจราศีสั่งสม
สังคมน้อมต้อนรับ          ร้อยกรองนับครั้งนี้        นั้นฉันมีมุ่งหมาย
เหมือนระบายรักษา       ส่อเจตนาสืบสาน           ส่งผ่านทางโคลงกาพย์     
กลอนฉันท์ฉาบร่ายปน   เป็นกลบ้างในที            ท่านผู้มีความรู้
เรียนท่านอยู่สักหน่อย   หนออย่าปล่อยยลยิน      อย่าติฉินถ้อยความ
ควรติดตามต่อถ้อย        ทางหนึ่งเพียงเล็กน้อย   หน่อเนื้อคนไทย เถิดนา...				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟใบบอนแก้ว
Lovings  ใบบอนแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟใบบอนแก้ว
Lovings  ใบบอนแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟใบบอนแก้ว
Lovings  ใบบอนแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงใบบอนแก้ว