วิ่งวกเวียนวุ่นวายคล้ายสับสน
เปรอะเปื้อนปนเงาภาพฉาบทุกข์เข็ญ
แปรเปลี่ยนตามวงจรหนาวร้อนเย็น
ก่อเกิดเป็นสภาวะขณะใจ
หมุนย้อนกลับปรับแปลงเติมแต่งจิต
ภาพความคิดสะท้อนซ่อนวิสัย
กลั่นน้ำตาหัวเราะเซาะวันวัย
เก่าสู่ใหม่ในกรอบครอบอำพราง
จึงยิ่งดิ้นยิ่งวนมืดมนอยู่
ต้องรับรู้คืนวันโศกกั้นขวาง
เจ็บทุกข์ทนพ่ายแพ้แก่หนทาง
หลงเคว้งคว้างในห้วงบ่วงมายา
คล้ายคล้ายกับห้องใจเริ่มไหวหวั่น
เปลี่ยนแปรผันตรอมตรมถมหมอกฝ้า
ว่ายวัฏฏะสายธารกาลเวลา
พร้อมใฝ่หาขอบแสงของแรงบุญ
ณ ที่ซึ่งจิตสงบพบสัจจะ
สภาวะแท้จริงรู้นิ่งหมุน
ทุกข์ขอบเขตอารมณ์เกิดสมดุล
หมดสิ้นความว้าวุ่น...เมื่ออุ่นธรรม
6 ตุลาคม 2546 22:45 น. - comment id 172719
จิตสงบจึงได้พบแสงธรรมะ จิตสละจึงได้พบแสงสดใส จิตสงบจึงได้พบแสงแห่งใจ จิตสดใสคือได้พบแสงแห่งธรรม ***เป็นกลอนที่ไพเราะและมีความหมายดีมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชอบจัง***

6 ตุลาคม 2546 22:46 น. - comment id 172721
อันวัฎฎะ สงสาร ดังม่านหมอก ที่ลวงหลอก ฤทัย ให้สับสน หลงอยู่ใน ลาภยศ ศีกดิ์ของตน จึงวกวน เวียนว่าย ตายเกิดมา

7 ตุลาคม 2546 06:50 น. - comment id 172777
:> :)
