กลอนข้อคิด

ล้มบ้างเถอะนะ

เปลวเพลิง


จะขอเล่าอัตชีวประวัติ
โดยรวบรัดแต่ครั้งยังประถม
เรียนได้เกรดสี่ตลอดยอดนิยม
เรายิ่งสมอารมณ์หมายสบายแด
เริ่มตั้งแต่ปอหนึ่งถึงปอหก
พองขนยกตัวว่าข้าก็แน่
คิดว่าตัวเรานี้โชคดีแท้
เพราะพบแต่ความสำเร็จดุจเพชรพลอย
พอมอต้นพากเพียรเข้าเรียนต่อ
เราจะขอสู้สุดใจไม่ท้อถอย
ก็ทุ่มแรงโถมให้มิใช่น้อย
เกรดออกค่อยโล่งจิตขึ้นนิดนึง
แล้วมอปลายเริ่มฤทธิ์ความผิดหวัง
สอบตกครั้งแรกนี้มีแต่อึ้ง
แรกแรกก็เศร้าสลดรันทดตรึง
ดีที่รึงรัดใจเราไม่นาน
มหาวิทยาลัยให้ขื่นขม
รสซานซมผิดหวังดังประสาน
แผลถลอกปอกเปิกพอเบิกบาน
จึงมองการล้มเหลวต่างเปลวไฟ
เปล่า-มิใช่ไฟผลาญย่านเคหา
แต่คือไฟจุดให้กล้าเดินหน้าใหม่
ล้มแล้วเปิดโลกทัศน์เห็นชัด-ไกล
มองอะไรละเอียดอ่อนกว่าก่อนเคย
นับแต่นี้ต่อไปตั้งใจว่า
จะล้มถ้าโอกาสเบียดมาเสียดเสย
หากถามว่าอยากล้มไปทำไมเอย?
ล้มเพื่อเย้ยหลักชัย...ก่อนได้มัน
.........................................................
เขียนให้ตัวเองและให้ผู้อ่านทุกคนครับ

มรดกเลือด

kasin1251


เพราะว่าเงินตัวเดียวจึงยื้อแย่ง
ไม่อยากแบ่งให้ใครกลัวน้อยเหลือ
ทำทุกอย่างทำไปจนใครเชื่อ
หมดแล้วเอื้ออารย์มีแตกกัน
คนเฝ้าดูคล้อยตามคำพูดเท็จ
จึงหาเหตุทำลายคล้ายห้ำหั่น
ก็อยากได้มั่งมีทรัพย์อนันต์
พ่อแม่ฝันสลายทำลายเอง
เพราะอิจฉาจนเกิดโลภละโมบ
ต่างแจ้งโทษต่างฝ่ายต่างข่มเหง
ใครพลาดท่าเสียทีอาจกลัวเกรง
แล้วร้องเพลงหากทำดีฟ้าดินต้อง     เอย

ผู้หญิงคนหนึ่ง

อนงค์...นาง


แต่งงานมีครอบครัวไม่มัวเที่ยว
ตัวเป็นเกลียวหน้าที่มีมากหนา
ฐานะสร้างด้วยกันทุกข์สุขมา
เลี้ยงลูกกว่าเติบโตโอ้นานปี
มีคู่ครองให้เกียรติไม่เหยียดหยาม
ยึดถือความอภัยใจสุขขี
ศรีภรรยาใจเย็นเช่นวารี
สุขุมดีกว่าร้อนคอยผ่อนปรน
สนใจงานการครัวหัวใจบ้าน
สนุกสนานเกินควรนวลหมองหม่น
คนเขาครหานะหน้ามล
เกรงใจคนที่บ้านอย่าหาญไป
ไม่ไปกับชายใดให้เขาลือ
ต้องยึดถือความสัตย์ชัดเจนใส่
ไม่ปล่อยตัวมัวเที่ยวอาจเปรี้ยวใจ
เข้าวัดไว้ดีกว่าน่าภิรมย์
อนงค์นางอาจไม่ใช่เพื่อนที่ดีไม่ค่อยมีเวลาให้เพื่อนแบบไปเที่ยวด้วยกันเลยค่ะ
ตั้งแต่แต่งงานแม้มีเพื่อนชายหญิงหลายคน แต่ไม่อาจไปไหนมาไหนได้ตามใจสะดวกหรือตามใจเพื่อนสนิทมิตรสหายได้ เพราะเกรงใจสามีค่ะ เมื่อไม่กี่วันมานี้อนงค์นางไปเดินช้อปปิ้งจ่ายตลาดแถวบ้านพักหลังเลิกงาน เขาพาลูกไปห้องสมุดก่อนอนงค์นางถึงบ้าน เผอิญโทรศัพท์มีปุ่มล็อคเสียงที่เลื่อนลงแบบไม่ตั้งใจ ใครโทรเข้าจะไม่ได้ยิน ใช้เวลาชั่วโมงกว่าเดินจ่ายตลาดลืมโทรบอกเขาว่าจะไปไหนเพราะคิดว่าเราจะเข้าบ้านก่อนเขา แต่เขากลับบ้านไม่เจอเรา ได่้ออกตามหาเราตามห้างแถวบ้านที่มีหลายห้าง อนงค์นางถึงบ้านก่อนพอเห็นหน้าเขาตอนเข้าบ้านรู้สึกสงสารจับใจ เป็นเรื่องจริงค่ะด้วยความสัตย์ ก็อยู่กันมานานป่านนี้เขายังห่วงเหมือนเดิม
เพื่อนที่คุยกันในบ้านกลอนไม่เสียหายเพราะไม่ได้เจอกันในชีวิตจริง แต่ถ้าจะเจอกันในโลกจริงนั้น
คนที่ใครๆมองว่าเจ้าชู้

ที่ยืน

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


หมั่นทุ่มเทใจกายหมายศึกษา
อนาคตเบื้องหน้าฝ่าลมคลื่น
เยาวชนขันแข่งแย่งที่ยืน
หลายแสนหมื่นมุ่งหน้าหางานทำ
ต้องรักษาคุณธรรมประจำใจ
ความซื่อสัตย์ยึดไว้อย่าถลำ
ตัวอย่างดีมีเห็นเขาเน้นย้ำ
พร้อมจดจำร่วมสร้างทางเจริญ
แต่กลับเห็นผู้ใหญ่ที่ใจชั่ว
ทำความผิดท่วมหัวไม่ขัดเขิน
ยึดป่าเขามีหน้าสง่าเพลิน
มีที่ยืนนอนเดินไม่เบียดไป
บ้างโกงชาติไม่น้อยร้อยกว่าล้าน
ยังหน้าด้านออกสื่อทีวีได้
ไหนบอกว่าเป็นเสนียดเบียดออกไง
หรือเรื่องชั่วทำได้ประเทศนี้
ต้องตั้งเข็มศึกษาตำราใหม่
ยึดป่าเขาเอาได้อย่างเต็มที่
โกงเงินชาติมือไวได้ของฟรี
แถมยังมีที่ยืนในสังคม...

นิพพาน

กวีปกรณ์


เกินกว่ากฎเกณฑ์ศาสน์ศีลธรรม
อำนาจแห่งถ้อยคำพิพากษา
ยิ่งกว่าการขันแข่งแห่งอัตตา
ต่างค้นหากล่าวอ้างอย่างชอบธรรม
โลกล้วนซึ่งความต่างกลับสร้างกรอบ
แบ่งชนชั้นตามชอบใครสูงต่ำ
ใช้ชีวิตเวียนว่ายไปตามกรรม
ให้ศรัทธาน้อมนำกำลังใจ
แดนใด...นรกหรือสวรรค์
ท่ามหมอกควันหมองหม่นหรือสดใส
ตื่นจากความทุกข์ทนที่พ้นไป
นรกไซร้เพียงน้ำตาความอาวรณ์
หนึ่งชีวิตลิขิตเองตามเพรงกรรม
อดีตจำจดต่างอย่างคำสอน
ผิดหรือถูกถามตนบนทางจร
ชั่งน้ำหนักดูก่อนย้อนทบทวน
บางครั้งผิดพลาดพลั้งหวังแก้ไข
อยากย้อนกาลกลับไปอย่างไห้หวน
เกิดด่างพร้อยรอยบาปกำซาบครวญ
ดุจโซ่ตรวนตรึงตรากว่าสิ้นลม
ตั้งสติเตือนตนบนทางเถื่อน
ทุกข์สุขอาจเยี่ยมเยือนตามเหมาะสม
ผ่านมาแล้วผ่านไปเพียงใจชม
อย่ายึดติดตรอมตรมจมอาจิณ
ไม่มีพิษใดร้ายทำลายขวัญ
ไหนนรก/สวรรค์ล้างให้สิ้น
ทั้งหมดล้วนสร้างกิเลสแก่ชีวิน
ประคองตนสู่แดนดินถิ่นนิพพาน

ช่างเถอะ

เปลวเพลิง


ตอนมอปลายเรียนสายวิทย์-คณิต
แต่แหม! ดันเลือกผิดไปนิดหน่อย
คำนวณเลขเราก็หลงเข้าดงดอย
เหมือนยิ่งถอยหลังลงคลองน้ำครำฟิสิกส์ก็ยิ่งร้ายเข้าไปใหญ่
ไม่รู้เรื่อง-เรียนอะไรวันยังค่ำ
สูตรหลากหลายอยากเก่งต้องเร่งจำ
เราแสนช้ำ-จำอะไรไม่ได้เลยเคมีมีสมการเบิกบานจ้า
แทบน้ำตาไหลพราก-ไม่อยากเอ่ย
ผสมสาร ตวง ชั่ง ยังไม่เคย
ยามเกรดเผยนี่ละ-จะเป็นลมโอ้ชีววิทยานั้นขั้นดีหน่อย
ดลให้ค่อยเริงร่าสง่าสม
ระบบนิเวศ เขตป่า สัตว์ น่าชม
พอภิรมย์ได้บ้างไม่ห่างไกลภาษาอังกฤษหรือก็พอไถถู
การเรียนอยู่ในขั้นออกงานได้
สังคมโลก ศาสนา น่าพอใจ
เราสอบไม่เคยตกสักยกเดียวภาษาไทยเรานั้นเข้าขั้นรัก
ยิ่งเรียนจักยิ่งโอภาสฉลาดเฉลียว
คำประพันธ์ชอบเขียนเพียรเป็นเกลียว
คาดว่าเดี๋ยวมหา’ลัย-ไปทางนี้แต่จับพลัดจับผลูไม่รู้ได้
เลือกสอบไล่นิติศาสตร์ปราชญ์วิถี
ผ่านตลอดปลอดโปร่งโล่งฤดี
ทั้งทั้งที่ไม่คิดฝันจะผันตนหวังเรียนครูภาษาไทย-ไม่ได้แล้ว
จะนั่งแกร่วก็เห็นไม่เป็นผล
ทั้งอยากเป็นนักเขียนเพียรผจญ
ดูเหมือนยลดาวพรายปลายนภา
เอาเถอะน่าช่างมัน-เมื่อวันนี้
มีหน้าที่นับร้อยรอคอยท่า
ปัจจุบันทำให้เข้มเต็มอัตรา
วันข้างหน้าเป็นอย่างไร-ไว้คอยดู

ชีวิตที่คิดปล่อยวาง

อนงค์...นาง


ชีวิตต้องสู้ รู้ปล่อยวาง
สาวร้อยเอ็ดสำเร็จการศึกษา(ปี 2526)
ปริญญาตรีอังกฤษจิตแจ่มใส
สอบบรรจุเป็นครูอยู่พนมไพร (โรงเรียนพนมไพรวิทยาคาร ร้อยเอ็ด)
โรงเรียนในบ้านเกิดเทิดแทนคุณ
พี่ชายชวนไปนอกนิวยอร์คดู
ได้เรียนรู้โลกกว้างทางเกื้อหนุน
จากอายุยี่สิบห้าหน้าละมุน
เก้าปีหมุนทางสู่คู่เมืองไทย
ใช้เวลาสิบปีที่รักษา
เทิดมารดาด้วยรักไม่ผลักไส
มะเร็งร้ายพ่ายแพ้จากแม่ไป
ครอบครัวให้เดินต่อขอลูกเรียน
รอบที่สองกลับมาหานิวยอร์ค
งานเมืองนอกลำบากหากผันเปลี่ยน
อดทนสู้เพื่อลูกปลูกพากเพียร
เก้าปีเรียนไม่หยุดรุดเร่งไป
จากม.สองลูกเรียนเพียรศึกษา
จบปริญญาสาวน้อยพลอยสดใส
ได้ทุนเรียนต่อโทโอ้ดีใจ
ทำงานไปเรียนให้ได้วิชา
อยากเรียนแพทย์สอบต่อรอฟังผล
ขออดทนต่อไปไม่หยุดหนา
นำความรู้กลับบ้านงานพัฒนา
ขอลูกยาก้าวไปใฝ่กรรมดี
สิบแปดปีมีทุกข์สุขไม่ท้อ
นิวยอร์คหนอชะตามารศรี
มีงานทำมั่นคงทรงความดี
พรุ่งนี้มีอะไรไม่หวั่นครวญ
คู่ชีวิตไปไหนขอไปด้วย
หน้าที่ช่วยกันไปไม่กำสรวล
เกิดแก่เจ็บตายไปไม่รัญจวน
ชีวิตล้วนกฏแห่งกรรมทำกันมา
ชีวิตนี้ลิขิตเองไม่โทษใครหรือสิ่งใด
ถ้าไม่ลาออกจากครูที่ได้บรรจุครั้งแรกตอนอายุ 24 ป่านนี้คงได้ดีเหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกัน
ถ้าไม่ลาออกจากกสท. ป่านนี้คงอยู่ในกทม. มีบ้านในซอยวัชรพล
ถ้าไม่ลาออกจากชีวิตครูรอบสอง ป่านนี้คงได้เป็นแม่บ้านปลัดอบต.กับเป็นข้าราชการครู
เพราะเป็นคนที่เบื่อง่าย ไม่อดทน หรือเพราะคงมีกร

เมื่อ บุญพร้อมอ่านธรรม

บุญพร้อม


อสุภะ    ความว่า  ไม่น่ารัก
ใช้เป็นหลัก พิจารณา กรรมาฐาน
ตัดราคะ  จริต    สิบประการ
ก่อนได้ญาณ บรรลุ อนาคามี
สุภะคือ ด้านงาม ของธรรมะ(ชาติ)
ผู้คนจะ     นิยม    ชมทุกที่
เป็นตัวล่อ หลอกไว้ ให้ยินดี
ยากจะหนี หากไม่แจ้ง แหล่งที่มา
เหรียญสองด้าน มีไว้ ใช้ให้ครบ
แล้วจะพบ ความจริง สิ่งที่หา
ทุกเรื่องราวที่เห็น ความเป็นมา
พูดได้ว่า เรานั้นอ่าน เพียงด้านเดียว

คน ช้าง ป่า

ป๋อง สหายปุถุชน


เวิ้งฟ้าตะวันฉายไกลสุดตา
พงพนากว้างใหญ่ส่องฉายแสง
พืชพันธุ์ไม้พงไพรฟ้านวลแดง
ทั่วทั้งแปลงเติบใหญ่ให้ร่มเงาแสงรำไรส่องผ่านลานโคนต้น
บ้างออกผลแตกหน่อริมโคนเขา
สัตว์น้อยใหญ่อาศัยนอนแนบเนา
มนุษย์เราทำลายป่าไม้งามทั้งไฟป่าเผาผานกันวอดวาย
ไม้ล้มตายสัตว์สูญหายดูรุกราม
ป่าไม้แห้งดินแล้งดูเสื่อมซาม
ก็เพราะความเห็นแก่ได้ของใครกันดูช้างป่าออกหากินพืชไร่
คนถางไถป่าไม้กันทุกวัน
ตัดเตียนโล่งทำลายใช้เลื่อยหั่น
ขุดโค้นฟันปลูกพืชไร่เลื่อนลอยจนมีข่าวอื้อฉาวคนกับช้าง
เดินสวนทางช้างป่าต้องล่าถอย
ต่างต้องกินต้องอยู่ป่าริมดอย
ป่าเหลือน้อยช้างป่าออกหากินรุกแนวป่าเข้าไปทำไร่สวน
ป่าไม้จวนสูญไปเหลือแต่ดิน
ช้างอดหิวต้องออกระลานถิ่น
ฝนหลั่งรินดินโคลนฟังทลาย

มนุษย์เอย

Lunatic


สิ่งที่ฉันแปลกใจในมนุษย์
มากที่สุดเลยนั้นฉันตอบว่า
เขายอมเสียสุขภาพอาบเหงื่อมา
เพื่อยอมเสียเงินตรารักษาตัว
เฝ้ากังวลห่วงหาอนาคต
ลืมเสียหมดความชื่นบานสำราญหัว
ทำงานหนักเหนื่อยนับเหมือนกับวัว
ฤๅเขากลัวความเป็นอยู่ปัจจุบัน
แท้แล้วนั้นเขานี้อยู่ที่ไหน
"อนาคต" ก็มิใช่ไกลเกินฝัน
"ปัจจุบัน" ก็ไม่ใช่อยู่ไหนกัน
สารพันในมนุษย์สุดจะเปรย
เหมือนเขาตรองครวญคิดชีวิตนี้
จะไม่มีวันตายหรือไรเหวย
เขาต้องสิ้นชีพวายตายเปล่าเลย
อย่างไม่เคยมีชีพชูอยู่แท้จริง

ร่างกายใต้บงการ

กวีปกรณ์


ทารกแรกคลอดเจ้าปลอดภัย
ชื่นชมชีวิตได้ห้าเดือนกว่า
มีพ่อและแม่ชุบชีวา
อยู่ใต้หลังคาเรือนเดียวกัน
สุขสันต์หรรษาใช้ชีวิต
พ่อแม่ใกล้ชิดเช่นความฝัน
อิ่มอุ่นปลอดภัยในวารวัน
ความทุกข์ใดนั้นไม่หวั่นกลัว
กาลหนึ่งจึงเร้าเข้าประชิด
อาทิตย์หม่นหมองเมฆสลัว
เสียงร้องก้องดังจากหลังครัว
ฉับพลันลูกตัวพลัดหล่นดิน
แพทย์ผู้รู้กู้ชีพถีบมรณา
คอยยื้อแย้งชีวาจนกว่าสิ้น
แรงกระแทกกระเทือนแทบวายวิญญ์
ผลกระทบดับดิ้นสมองตาย
เหลือแต่เพียงร่างยังหายใจ
ด้วยเครื่องกู้ไว้น่าใจหาย
ชีวิตคงไว้แต่เพียงกาย
ชีวาวอดวายสายเกินยา
มติแพทย์เห็นชอบมอบความตาย
จึงถอดสายโยงยางเลิกรักษา
อัยการแห่งรัฐจึงก้าวมา
รวบสามีภรรยาฆาตรกร
เหตุเพราะร่างกายใต้บงการ
ฆาตรการจึงกลายอุทาหรณ์
ศาลรับฟังจำเลยเอ่ยอุทรณ์
เล่าเหตุการณ์ก่อนในตอนนั้น
พยานปากเอกจึงเสกเรื่อง
คุยเฟื่องได้กลิ่นพิรุจน์นั่น
ผู้เป็นพ่อทำร้ายหมายฆ่ากัน
เสียงแม่ลั่นวอนอย่าโปรดปรานี
ผู้พิพากษาจึงว่าความ
ลงโทษตามกฎหมายใช่ป้ายสี
โดยไม่สนคำค้านว่าไม่ดี
เพราะพ่อนี้หาเลี้ยงแม้เสี่ยงตาย
เพียงชั่ววูบแห่งโมหะประทะจิต
มัจจุราชก็สถิตหื่นกระหาย
กว่าสำนึกก็เกินกว่าเสียดาย
น้ำตาหลั่งเป็นสายลูกวายปราณ

..พรุ่งนี้..ก็เช้าแล้ว..

มวลภมร


อุปสรรค.ที่มี.ยังไม่พ้น
อุปสรรค.มากจน.มองไม่เห็น
อุปสรรค.ปิดทาง.ช่างลำเค็ญ
อุปสรรค.ยากเย็น.จะผ่านไป
...
อุปสรรค.ขวางหน้า.ไม่หมดสิ้น
ยังไม่ชิน.แค่ดิ้น.แทบไม่ไหว
แขนขาหมด.แรงสิ้น.กำลังใจ
ยืนไม่ไหว.กายล้า.พาหมดแรง
..
แต่ยังยิน.เสียงแผ่ว.ในสมอง
บอกว่าต้อง.อย่าท้อ.ต้องเข้มแข็ง
อยากเดินหน้า.ต้องฝ่า.ข้ามกำแพง
สู้ด้วยแรง.ที่มี.ให้หมดใจ
..
อุปสรรค.ไม่ได้มี.ให้หนีหน้า
อย่ากังขา.ตัวเรา.ต้องเอาไหว
ทางลำบาก.ต้องลำบาก.หากอยากไป
เกรงทำไม.หากจุดหมาย.มีอยู่จริง
..
ถึงหกล้ม.เลือดอาบ.ฉาบแดงฉาน
เวลาผ่าน.ผันไป.ไม่หยุดวิ่ง
สะดุดบ้าง.ล้มบ้าง.ช่างเจ็บจริง
ใช้สลิง.สตั้นแมน.แทนได้งัย
....
ก็เมื่อวาน.ยังผ่าน.มาวันนี้
เดี๋ยววันนี้.ก็ผ่าน.ไปจนได้
มีพรุ่งนี้.รออยู่.หากสู้ไป
เช้าวันใหม่.มีแสง.ตะวันรอ
...23.สิงหาคม.2555..15:30

สิ่งนั้น

Lunatic


สิ่งนั้นตรวนข้าขังยังคุกลับ
สิ่งนั้นจับข้าปลิดอิสระ
สิ่งนั้นช่างร่ำรวยด้วยราคะ
โภชนะชั้นดีของปีศาจ
รยางค์โยงแน่นตรึงถูกรึงรัด
ศตวรรษบ่วงกรรมกระหน่ำสาด
กรรมปางใดทวงมาขุ่นอาฆาต
วิปลาตงันงงในวงกต
ลมหายใจเลี้ยงซากกากชีวิต
เสียจริตใบ้บ้าน่าสลด
แผดเสียงร้องโหยหวนชวนระทด
โพล่งสบถถ่อยต่ำคำอุบาทว์
อันความหวังไร้สิ้นดินแดนดิบ
เขี้ยวคมกริบตรงหน้าดารดาษ
พร้อมเข้ากัดคอเค้นเข่นพิฆาต
ยุรยาตรเยื้องกรายหมายโลหิต
จมดิ่งดำมืดมนต้องทนทุกข์
ใครช่วยปลุกจากฝันอันเบือนบิด
สิ่งนั้นมีแสนยามหาฤทธิ์
ผลาญพิชิตตัวตนข้าป่นดับ
ทรมานหนาวเหน็บแลเจ็บปวด
เกร็งขมวดมัดกล้ามยามขยับ
จำเนียรกาลผ่านมาข้าซึมซับ
ก้มหัวรับทุกข์ท้อมรคา
สิ่งนั้นตรวนข้าขังยังคุกลับ
สิ่งนั้นจับข้าพันกับตัณหา
สิ่งนั้นช่างมากพิษอวิชชา
อนิจจาสิ่งนั้นเป็นฉันเอง

** สุขที่ใจ**

ราชิกา


** แม้นคราใด  ใจเธอ  พร่ำเพ้อหา
หนักอุรา  ในจิต  คิดหวั่นไหว
ความสำเร็จ  นักสู้  อยู่ที่ใจ
ด้วยเหตุใด  ท้อแท้  ไม่แน่นอน
เกิดเป็นคน ทายท้า   ต้องกล้าสู้
ผิดเป็นครู  มองเห็น  เช่นคำสอน
ความอดทน  สร้างพลัง  พึงสังวรณ์
มิคลายคลอน  มั่นคง  ตรงต่อกัน
จะทำการ  สิ่งใด  ใจมุ่งมั่น
มิไหวหวั่น  ติดตาม  สู่ความฝัน
กำลังใจ  เข้มแข็ง  ร่วมแบ่งปัน
รอเพียงวัน  สมปอง   เป็นของเรา
เสริมพลัง  ดวงจิต  อย่าคิดท้อ
เติมรักต่อ  ในนาม  แห่งความเหงา
แสงความหวัง  รุ่งราง  ไม่บางเบา
จะแนบเนา  เคียงอยู่  คู่นิรันดร์
อุปสรรค  ขวางกั้น  ต้องฟันฝ่า
สู้ทายท้า  ก้าวไป  ไม่โศกศัลย์
หากมัวเกรง  สังคม  ขื่นขมพลัน
สิ่งสำคัญ  สงบนิ่ง  เหนือสิ่งใด
** เมื่อทุกอย่าง  ไร้บ่วง  ในดวงจิต
ปรับความคิด  ปล่อยวาง  ให้ว่างใส
สติตาม  ปัญญาเฝ้า  มองเข้าไป
“สุขที่ใจ”  ของเรา  เท่านั้นเอง.......ฯ

หากฉันเสกได้

มนต์กวี


.
หากฉันได้พรวิเศษจะเสกโลก
ให้ไร้โศกไร้ทุกข์เป็นสุขขี
จะเป่ามนต์ให้คนร้ายเป็นคนดี
เสกภูติผีให้หนีไปจากใจคน
.
เสกนักเลงเป็นนักเรียนเพียรศึกษา
เสกปัญญาให้ตกผลึกแล้วฝึกฝน
เสกน้ำตาเป็นน้ำใจไร้เล่ห์กล
เสกคนจนให้พออยู่รู้่ทำกิน
.
เสกอย่าให้ไทยหมองต้องแบ่งข้าง
เสกอย่าให้หนทางนั้นขาดวิ่น
เสกอย่าให้คนดีมีมลทิน
เสกอย่าให้คนหมิ่นเบื้องนั้นเฟื่องฟู
.
เสกให้คนร้องให้ได้หัวเราะ
เสกให้คนใจเสาะมาใจสู้
เสกให้คนใจฟุบเป็นใจฟู
เสกให้คนหัวงูรู้ชั่วดี
.
เสกให้น้ำอย่าท่วมเราต้องเอาอยู่
เสกให้ปูเข้าสภาแล้วอย่าหนี
เสกให้แม้วหวนกลับรับคดี
เสกให้มีความปรองดองทั่วผองไทย
.
เสกคนโง่คนขลาดฉลาดทั่ว
เสกคนชั่วกลับตัวเอาดีได้
เสกคนดีให้ยิ่งดีดีขึ้นไป
เสกหัวใจในทุกผู้รู้แบ่งปัน
.
เสกรอยร้าวเป็นรอยรักสลักจิต
เสกจุมพิษเป็นจุมพักตร์สลักฝัน
เสกปลายหอกเป็นดอกไม้มอบให้กัน
เสกดวงจันทร์เป็นดวงใจ...มอบให้เธอ
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑น้อย..มนต์กวี(17/08/55)

นิพพาน ไร้ตัวตน?

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


ทุกสิ่งล้วนมายา
ภาพลวงตาพาลุ่มหลง
สรรพสิ่งไม่มั่นคง
ล้วนสิ้นลงสลายไป
ความรักว่าหนักแน่น
อ้างว่าแก่นแสนโปร่งใส
พริบตาก็เปลี่ยนใจ
เหลือเอาไว้ในความจำ
รูปลักษณ์สำอางองค์
จิตพะวงใจถลำ
ชั่วกาลผ่านเลยล้ำ
ล้วนระยำเสื่อมสิ้นลง
หลักธรรมของพุทธะ
คือธรรมะที่ยืนยง
โลกแตกเป็นผุยผง
ธรรมยังคงอยู่เหมือนเดิม
นิพพานไร้ตัวตน
หากปวงชนใฝ่ริเริ่ม
พากเพียรรู้เรียนเสริม
ผลประเดิมสัมฤทธิ์จริง

คนขายเกลือ

บุญพร้อม


เป็นพ่อค้า ขายเกลือ  ไปเหนือใด้
ให้คนใช้ เพิ่มรสชาติ ไม่ขาดสาร
รสของเกลือ ย่อมต่าง จากน้ำตาล
อันหนึ่งหวาน อันหนึ่งเค็ม ถ้าเล็มลอง
ขาดอย่างหนึ่ง อย่างใด ย่อมไร้รส
ขายไม่หมด ทิ้งไป  เสียดายของ
สู้อุตส่าห์    หาบมา   เพื่อให้ลอง
วานอย่าจ้อง จับผิด  คิดจนไกล
คนขายเกลือ ใช่เค็ม เหมือนรสเกลือ
ขอ อย่าเชื่อ  รูปลักษณ์  จากเงื่อนใข
ดูแต่เรื่อง  สังข์ทอง   นั่นเป็นไร
ถอดเงาะได้  ยังเห็นเป็นรูปทอง
=============================
คำนินทา กาเล เหมือนเทน้ำ
ไม่ชอกช้ำ เหมือนเอามีด มากรีดหิน
แม้องค์พระ  ปฏิมา  ยังราคิน
คนเตินดิน  หรือจะพ้น คนนินทา
ยังใช้ได้มาจนทุกวันนี้
หน้า / 28  
ทั้งหมด 467 กลอน