กลอนอกหัก

...คนนิสัยเสีย...

พิมญดา


ส่องกระจกคราใดให้นึกโกรธ
อยากมีบทลงโทษ..คนตรงหน้า
บอกไม่เคยจะจำเลยสักครา
เป็นคนเจ้าน้ำตา..มาจนชิน
เวลาทุ่มรักใครไม่เคยเผื่อ
แม้ถูกเถือเลือดเนื้อแทบแดดิ้น
ชอบลงทุนพนันรักอาจิณ
น้ำตารินหมดใจไม่รู้ฟัง
คนนิสัยไม่ดีไม่เคยห่วง
ใครจะลวงมาแอบแนบความหวัง
ไม่ระแวงแสดงหรือชิงชัง
สิ่งที่ยัง คือ รักและภักดี
ผลตอบแทนที่รับนับแต่แผล
หวังรักแท้เท่าไหร่ใยหลีกหนี
บอกให้รักตัวเองนั้นทุกที
แต่ไม่มีค่าควร..ชวนเจ็บใจ
หรือจะเรียก"สันดาน"จนเข้าเส้น
ต่อให้เร้นหลีกลี้หนีไปไหน
ค่าของคน.ผลรับหนักเพียงใด
ก็เปลี่ยนแปลง"นิสัย"ไม่ได้เลย

...หนาว..น้ำตา..

พิมญดา


หยาดหยดไหลลงแก้มแต้มรอยขม
คือความทุกข์ระทม.ที่ไหลบ่า
จึงขับเคลื่อนน้ำใสไหลออกตา
เหนือนหนาวมาถาโถม..บ่มหัวใจ
ยกมือปาดน้ำตามาหลายหน
เพราะเป็นคนอ่อนแอและหวั่นไหว
เป็นผู้แพ้เรื่องรักอยู่เรื่อยไป
หากเวลารักใคร..ใจทุ่มเท
จึงต้องกลายเป็นเหยื่อของความรัก
เหนื่อยจนหนักรักจริงยิ่งหันเห
เหมือนเคว้งคว้างหลงทางกลางทะเล
เสียงลมเพลมพัด..รัดร้าวราน
มีหัวใจใช้น้ำตามาหล่อเลี้ยง
ได้แต่เพียงอย่าซมจนใจด้าน
ปล่อยน้ำตาล้างคราบทรมาน
อาจซมซานไร้หวัง..พังยับเยิน
ก็จะกอดตัวเองให้คลายหนาว
เก็บเอาความปวดร้าวคราวห่างเหิน
ใช้น้ำตาล้างใจ..ใครเขาเมิน
อาจต้องเดินเหน็บหนาว..ร้าวชีวี

ถึงเธอคนแสนดี

ดอกฝักทอง


แม้วันนี้ไม่มีแล้วเธอที่คอยห่วงใย
ทั้งหมดใจยังคงรักและยังคิดหว่งหา
ยังนึกถึงวันเวลาเก่าๆที่เราร่วมผูกพัน
นึกถึงวันเหล่านั้นใจฉันยังแอบมีน้ำตา
อยากบอกให้เธอรู้หนักหนาว่าฉันเสียใจ
หากย้อนเวลากลับไปจะทำดีกับเธอไปทุกวัน
ไม่ทำตัวเหมือนก่อนนั้นที่ฉันเอาแต่ผลักใส
เธอทำดีให้ก็คืนไปแค่ความเย็นชา
ขอโทษวันนี้เธอคงไม่หันมารับฟ้ง
แต่อยากบอกให้เธอรู้อีกสักครั้ง
ว่าวันนี้ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน
เหงาที่ต้องเดินเพียงลำพัง
มันเหงาแทบขาดใจเมื่อมองไปทางใดไม่มีใคร
ก่อนนั้นยังดีที่มีเธอเดินอยู่เคียงใก้ล
ฉันไม่เคยหวาดหวั่นต่อสิ่งใดแม้ใจสั่น
เพิ่งรู้ว่าเธอนั้นสำคัญก็ในวันที่ฉันไม่มีเธอ

ทะเลใจ

din


เธอเป็นซากซากหนึ่งซึ่งเดินได้
มีหัวใจจมปลักกับรักขม
ยอมให้ความหม่นหมองครองอารมณ์
อยู่กับปมชีวิตที่บิดเบือน
จะรักเก่ารักใหม่เธอไม่รู้
เพราะจมอยู่กับฝันอันลอยเลื่อน
คืนวันผันผ่านคล้อยเป็นร้อยเดือน
ยังขาดเพื่อนขาดมิตรคู่ชิดใจ
หากทะเลน้ำตามันว้าเหว่
จะร่อนเร่ชีวิตทิศทางไหน
ยอมให้รักร้าวรานประจานใจ
ซมอยู่ในช่องว่างที่กว้างเกิน
เห็นเธอหม่นก่นเศร้าฉันเฝ้าคิด
ดวงชีวิต...เวียนวก...ระหกระเหิน
ฉันอยากฉุดเธอลากกระชากเดิน
เธอกลับเมินเหินห่างก่อนร้างไป
เพราะช่องว่างกว้างไกลไร้ขอบเขต
คือมูลเหตุทุกข์ตรมระทมไหม้
ช่องที่ว่าง...กั้นกลาง...หว่างสองใจ
แยกเราให้เหินห่างอย่างที่เป็น
เมื่อทะเลน้ำตามากางกั้น
หวิวหวาดหวั่นร้างราอย่างที่เห็น
ทั้งหนาวเหน็บเจ็บแปลบแสบลำเค็ญ
ไร้ประเด็นเว้นว่างเหมือนอย่างเคย
หากรักกันไม่ได้ไม่ต้องรัก
จำต้องหักใจเดินเหมือนเมินเฉย
เสียเวลาปลอบร่ำพร่ำภิเปรย
แล้วก็เลยจากกันนิรันดร์กาล

ถ้าทำได้..

~!!!MaNiAc!!!~


ถ้าทำได้ฉันคงเลือกไม่รู้จัก      จะไม่ทักไม่ทายให้สนิท
ที่ห่วงหาห่วงใยจะไม่คิด           ไม่ทำผิดคิดไกลให้ใจเธอ
ถ้าทำได้ฉันคงเลือกจะไม่รัก     จะเก็บรักเก็บใจไม่เสนอ
ที่บอกรักก็จะเลิกบอกกับเธอ     ไม่พร่ำเพ้อหลงรักเหมือนที่ผ่านมา
ถ้าทำได้ฉันคงเลือกจะไม่เห็น     เธอจะเป็นตายร้ายดีไม่ห่วงหา
จะไม่มีความห่วงใยในแววตา     จะไม่มีค่าอะไรในจิตใจ
ถ้าทำได้ฉันคงเลือกจะมองผ่าน    ไม่ปล่อยใจฟุ้งซ่านจนหวั่นไหว
ไม่หลงคิดไม่หลงเพ้อละเมอไป    ถ้าเลือกได้ฉันจะไม่รักเธอเลย

แรกรัก...แรกเจ็บ

หญิงบ้า


อารมณ์รักเป็นเช่นไรไม่รู้จัก
ยามอกหักเจ็บเพียงใดไม่รู้เห็น
ดวงตาบอดเพราะรักไม่เคยเป็น
หัวใจเต้นเมื่อเจอใครไม่พบพาน
แล้ววันหนึ่งกามเทพเล่นตลก
เล็งตรงอกแผลงศรจนอ่อนหวาน
ฉันมีเธอคู่คิดจิตสำราญ
ทอสายใยเบ่งบาน ณ ลานใจ
หารู้ไม่เธอแค่เหงาเข้ามาคบ
ไม่คิดสบสายตาให้หวั่นไหว
คุยกับฉันแต่มีเขาอยู่ทั้งใจ
เอ่ยคำรักทำไมหากไม่จริง
หรือเพราะเขาเผลอทำเธอช้ำชอก
คำที่บอกเพียงก่อกองไฟผิง
ฉันเป็นตัวแทนเขาเคล้าแอบอิง
ทำทุกสิ่งลงไปใยไม่ตรองรู้บ้างไหมใครคนหนึ่งคิดลึกซึ้ง
เมื่อวันลามาถึงจึงหม่นหมอง
หยาดความเศร้าเข้ามาน้ำตานอง
แก้มทั้งสองเปรอะเปื้อนคราบคำคน
จนเผลอตนทำไปดูไร้ค่า
ยังอุตส่าห์ห่วงใยแม้ไม่สน
รู้ทั้งรู้ใจเธอช่างวกวน
แค่หนึ่งคนหนึ่งใจไม่น่าจำ
ใยถึงยังอยากยืนอยู่เคียงข้าง
ในยามเธออ้างว้างชวนยิ้มขำ
ความรู้สึกปวดร้าวขอเก็บงำ
ไม่แสดงความช้ำจากภายใน
ความผูกพันวันนี้ยังมีอยู่
คอยเฝ้าดูทุกก้าวคราวเคลื่อนไหว
ภาวนาให้ลืมเธอได้เร็วไว
ให้หัวใจแรมร้างเหลือเพียงเงา
ขอส่งใจให้เธอมีแรงสู้
มีแรงอยู่แม้วันนี้อาจไร้เขา
เหมือนที่ฉันฝืนอยู่แม้ไร้เรา
ก็แค่เหงาเหมือนเดิมไม่เป็นไร
ฉัน  :     ^_^
เธอ  :      -  -
ฉัน  :     ^_^
เธอ  :      -  -
........................
.......................
........................
.......................
......................
( ฉัน :   T_________T   )

อย่าเหนี่ยวรั้งยั้งไว้ในคำห่วง อย่าเหนี่ยวหน่วงใส่คำหวานสมานแผล

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


แม้เป็นนกปีกหักยังรักบิน
ยังมุ่งจินต์ ไม่ฟังแม้แต่คำห้าม
หมื่นคำปลอบ หรือจะย้ำแสนคำปราม
ไม่สนความคำเหล่านั้น ดันทุรัง
จะหารักแม้ในที่ไม่มีรัก
จะพิงพักในผืนดินที่สิ้นหวัง
จะคงรักด้วยเศษใจใกล้ภินท์พัง
จะอยู่ยั้งประทังใจไม่ยอมตาย
สารรูปสกปรกนกลากปีก
หัวอกฉีกใจช้ำชา แววตาหาย
ขาดริ้วๆคือเศษฝันพันตามกาย
มองไม่คล้ายเป็นสิ่งที่มีหัวใจ
ดื่มกินน้ำตาต่างอาหาร
ยิ่งร้าวราน ถะถั่งหลั่งรินไหล
ยิ่งกินกลับมาเติมตรมสะสมไป
จากน้ำใส ในวันนี้มีเลือดปน
อย่าปลอบฉันเลยหนา ขออย่าปลอบ
ทำความชอบกับคนนี้ไม่มีผล
เมื่อสิ้นรักก็สิ้นค่าราคาคน
โปรดอย่าสนคนไร้ค่าอย่าได้แล
อย่าเหนี่ยวรั้งยั้งไว้ในคำห่วง
อย่าเหนี่ยวหน่วงใส่คำหวานสมานแผล
อย่าได้ให้หางตามาเหลียวแล
เดี๋ยวโรคแพ้รักจะไพล่ไปเปื้อนเธอ

รักนี้...

แมงกุ๊ดจี่


ทนเคว้งคว้างเดียวดายสุดปลายฝัน
เกินจักกลั้นคล้อยใจมิให้หมอง
ขาดลงแล้วรอยเกลียวเคยเกี่ยวครอง
ทุกข์สนองด้วยฤทธิ์ความผิดหวัง...
หยาดน้ำตาไหลนองเปื้อมสองแก้ม
ไม่อาจแย้มยอมรับกับความหลัง
มอบความภักดิ์เพ้อเคียงเพียงลำพัง
ร้าวประดังพร่าผลาญแหลกรานใจ...
ในเพรงกาลผันเปลี่ยนยังเวียนลอบ
รักยังมอบคงมั่นมิหวั่นไหว
ปรารถนาคือเธอเสมอไป
ถึงอย่างไรอยากเคียงแต่เพียงพี่...
แต่เพราะรักหักราญเกินสานต่อ
พร่ำวอนขอพรฟ้าเมตตาที
ให้ลบเลือนรอยรักรอยภักดี
นับแต่นี้...ลืมเลือนอย่าเตือนจำ...

เจ็บแต่จบ...

แมงกุ๊ดจี่


วันคืนพารอยเกลียวเคยเกี่ยวฝัน
ขาดสะบั้น...หมดลงสิ้นสงสัย
ภาพ "ความจริง" เต็มตาไร้อาลัย
หลงเหลือไว้...ทรงจำคอยย้ำเตือน...
เพราะว่ารักจึงยอมถนอมคำ
มิกล่าวนำยอมจบเพื่อกลบเกลื่อน
เก็บรักษา...ความคิดไม่บิดเบือน
อย่าเอ่ยเอื้อนกลัวพลาดลงบาดใจ...
ถึงวันนี้ ขอบอก จำออกปาก
แม้ฟังยาก "เลิกกัน" อย่าหวั่นไหว
ที่ผ่านมา ยืดเยื้อ เพราะเหลือใย
จากนี้ไป ควรจบ เลือนลบรอย...
"เจ็บแต่จบ" หยุดสาว เรื่องราวเก่า
เพราะฉันเหงา ฉันโง่  ผูกโซ่คอย
ทุกความผิดรับเองผ่านเพรงคล้อย
ขอเพียงปล่อย  มือฉัน  "ในวันนี้" ...
ตระหนักรู้ "เธอไม่รัก" ประจักษ์แล้ว
เปรียบดุจแก้วแตกร้าวถึงคราวหนี
ฉันกล่าวคำ "เลิกกัน" มั่นศักดิ์ศรี
หอบช้ำปรี่...เดินจากไป "ไม่หวนคืน"
ปล.
ถ้ามันจะเจ็บแล้วมันจะจบ ต้องเจ็บเท่าไหร่ก็ยอม...
ถ้าค่อยๆ เจ็บ ถ้าค่อยๆ ทรมาน  ต่อไปอีกนานแสนนาน...

“ตะวันลับฟ้า”

สุนันยา.


“ตะวันลับฟ้า”
*****
สุรีย์ใกล้ ลับลง ตรงขอบ(ภู)เขา
วิหคเฝ้า โบยบิน คืนถิ่นฐาน
ไผ่เสียดก่อ พลิ้วไหว อยู่ใกล้ธาร
เย็นลมผ่าน รวยรื่น ฉ่ำชื่นจินต์
*****
เสียงหรีดหริ่ง เรไร ทักทายทั่ว
ยามฟ้าหลัว ตะวันคล้อย ลอยลับถิ่น
ดั่งบทเพลง กล่อมสรวง ห้วงเมฆินทร์
เคล้าเสียงริน หลั่งไหล สายธารา
*****
เมื่อแสงสูรย์ ลับลา จากฟ้ากว้าง
ดาวระยิบ พราวพร่าง กลางเวหา
ดาระดาษ สาดส่อง ท้องนภา
แทนแสงจันทร์ ที่ลา คราข้างแรม
*****
ได้แต่คิด ครวญคำ ลำนำเศร้า
ความเงียบเหงา ทับถม ระทมแต้ม
ถึงคู่เย้า เคยหยอก บอกรักแซม
ประคองแก้ม เชยชิด จูมพิศปราง
*****
สัญญาใจ ฝากฝัน จะมั่นรัก
ไม่เหหัก ห่างหาย ให้หม่นหมาง
แต่..บัดนี้ ไฉน ไกลเลือนราง
ลืมรักที่ เคยสร้าง เส้นทางใจ
*****
โอ้..รักเอย เปลี่ยนผัน ไม่หันกลับ
ตะวันลับ ยังคืนมา ชื่นฟ้าใส
คนเคยรัก ปักทรวง ห้วงหทัย
กลับไม่เหลือ เยื่อใย มอบให้กัน....
*****
“สุนันยา”

พังพ่ายสิ้น ภินท์พังทั้งชีวา เกินเยียวยากว่ายับยั้งพังยับเยิน

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


คุณ Many_love กับคุณ din เขามาเขียนปลอบใจไว้ในบทที่แล้ว
นักลอนลิเกเจ้าน้ำตาอย่างผม จึงดิ้นหนีไปเรื่อย
ขอบคุณในน้ำใจนี้ ที่รินหยด
รินราดรดดวงฤดีที่หมองไหม้
หากใจป่วย พลิกฟื้นคืนเมื่อใด
จะชดใช้ร้อยคำกรองสนองคุณ
แต่หนนี้ใจป่วยหนักด้วยรักปลิด
เอาชีวิตแทบไม่รอดวอดวายวุ่น
ไม่อาจรับความเมตตาเกื้อการุณ
ขมใจขุ่นอยู่ยั้งอย่างยั่งยืน
ยังดื่มกินความขมขื่นหมื่นแสนคำ
ตอกและย้ำช้ำตรมที่ขมขื่น
รินหลาม.. ความมืดดำให้ค่ำคืน
กว่ากล้ำกลืนขืนข่มตรมน้ำตา
กี่คำปลอบไม่อาจปลดให้หมดปวด
ยังร้าวรวด รักรานประหารฆ่า
พังพ่ายสิ้น ภินท์พังทั้งชีวา
เกินเยียวยากว่ายับยั้งพังยับเยิน
เปรียบฉันเป็นนกน้อยไม่ใหญ่นัก
เคยมีรักหนุนจินต์ให้บินเหิร
ก็บินเที่ยวบินทั่วมัวแต่เพลิน
หยอกๆเอินท้องฟ้าชะล่าใจ
เมื่ออกหักรักตระบัดเหมือนตัดปีก
ไม่อาจหลีกบินหนีไปที่ไหน
ตกลงพื้น ใจระรัวหวาดกลัวภัย
ตาอาลัยยังมองฟ้าอย่างอาวรณ์
เศร้าเมื่อความรักวาย ไม่หายเศร้า
เหงายิ่งเหงา ทบทวีไม่มีถอน
ทำได้แต่แค่วุ่นเวียนเขียนคำกลอน
ที่ยิ่งย้อนกระหน่ำย้ำ ตำใจตน

แพ้ใจเธอ

คนกรุงศรี


ฟังเสียงขลุ่ย โหยหา พาใจหวน
จึงรัญจวน รักจาง อย่างใจหาย
รู้ว่าเจ็บ เหน็บร้าว หนาวใจกาย
แต่ก็สาย แล้วหนอ ท้อใจเกินคำสัญญา ยังอยู่ คู่ใจสาว
ครั้งที่กล่าว เธอให้ ด้วยใจเขิน
มาวันนี้ เหตุใด ดวงใจเมิน
ต้องเผชิญ ความหม่น จนใจตรม
อยากบอกว่า ยามนี้ มีใจภักดิ์
เกรงเจ็บหนัก หมองไหม้ จนใจขม
กลัวจะจาก พรากไป จนใจซม
ทุกข์ระทม จริงแท้ แพ้ใจเธอ
พอดวงจิต คิดไป พาใจหน่าย
ยังเสียดาย ตัวที่ มีใจเผลอ
ต้องผิดหวัง เพราะเขลา เราใจเบลอ
จึงมาเจอ คนซื่อ หรือใจเก
บางครั้งที่ คิดถึง จึงใจหม่น
เจ็บเสียจน หม่นไหม้ ดวงใจเขว
เพราะยังจำ สัญญา พาใจเซ
เพราะรวนเร หรือไม่ ดวงใจนี้แว่วเสียงขลุ่ย อีกคราว สาวใจหวั่น
อยากลืมวัน เคยรัก หักใจหนี
ทนระทม ตรมเศร้า เข้าใจดี
ด้วนมิมี คนใด รู้ใจเรา

อกหัก

nomi


ยังรักเธอเสมอ     แต่ว่าเธอไม่สนใจ
ฉันยังคอยห่วงใย แต่ในใจเธอไม่รัก
ฉันยังอยากรู้จัก    ว่าเธอนั้นคิดยังไง
เพราะเธอจากฉันไป และในใจเธอไม่แคร์

ดาวก็หม่น คนก็เมา เหล้าก็หมด.. (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม)

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


.. ดาวหม่น คนเริ่มเมา เหล้ายังมี
ณ คืนนี้ถ้าไม่เมาเราไม่หยุด
เหตุด้วยเรื่องเปลืองใจคิด ..จิตมนุษย์
ที่มันสุดลึกล้ำเหลือรำพัน
เมื่อรักเขา เขาไม่รักหนักอกเธอ
เลยรักเก้อเพ้อพกตกสวรรค์
เศร้าแสนเศร้าเพียงแค่ไหน รู้ใจกัน
เธอกับฉันมันเพื่อนเก่า ฉันเข้าใจ
...
ดาวก็หม่น คนก็เมา เหล้าเกือบหมด
เพื่อนยกซด ราวเป็นน้ำหลามรินไหล
รับสภาพ ตราบนี้หนอ ต่อนี้ไป
คงสิ้นไร้สุขแล้วในแววตา
เมื่อรักเขา เขาไม่รักหนักแดเดียว
เปล่าใจเปลี่ยวแสนอนาถวาสนา
มองยังเห็นเป็นความรักประจักษ์ตา
แต่ไร้ค่าเมื่อสิ้นรักประจักษ์ใจ
...
ดาวก็หม่น คนก็เมา เหล้าก็หมด
ราดรันทดรดดวงแดแก้หมองไหม้
คนเมาเหล้าคงหลับลงปลงใจไป
คนเมาใจยังตาค้างอ้างว้างจินต์
น้ำตาคนแอบรักมันหนักหนา
หนักเกินกว่ากำลังใจยกได้สิ้น
..ต้องคอยรับซับน้ำตาที่บ่าริน
จากใจวิ่นแหว่งเว้า รักเขาข้างเดียว..
ฉบับนี้ เรียบเรียงเรื่องใหม่ ให้สมบูรณ์กว่าเดิม แต่ไม่รู้ว่า มันเผยตัวมากเกินไปกว่าฉบับก่อน หรือเปล่า จนทำให้วรรคจบอ่อนแรงกว่าฉบับที่แล้ว

ดาวก็หม่น คนก็เมา ..เหล้าเกือบหมด

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


.. ดาวหม่น คนเริ่มเมา เหล้ายังมี
ณ คืนนี้ถ้าไม่เมาเราไม่หยุด
เหตุด้วยเรื่องเปลืองใจคิด ..จิตมนุษย์
ที่มันสุดลึกล้ำเหลือรำพัน
เธอรักเขา เขาไม่รักหนักอกเธอ
เมื่อรักเก้อเพ้อพกตกสวรรค์
เศร้าแสนเศร้าเพียงแค่ไหน รู้ใจกัน
เธอกับฉันมันเพื่อนเก่า ฉันเข้าใจ
...
ดาวก็หม่น คนก็เมา เหล้าเกือบหมด
รินเหล้ารดราดดวงแดแก้หมองไหม้
..จะคอยรับซับน้ำตาทุกคราไป
แม้ที่เธออยากอยู่ใกล้ ไม่ใช่ฉัน
คำเตือน : สุราไม่ใช่ยาแก้อกหัก เด็กและเยาวชน ควรพิจารณาในการอ่านกลอนขี้เมาแต่ง.. หุ หุ

มีอะไร ก็บอกมา

แทนคุณแทนไท


ถ้าน้องเจ็บ
พี่ไยจักจะเก็บอารมณ์ไหว
น้ำตาว๊ะ เป็นบ้าไหลทำไม
หรือบอกความขื่นไข้ในใจเรา
เขาไม่รักเราอย่างที่ควรรัก
แน่นอนนัก ผลักเราเป็นคนเศร้า
ความทุกข์นั้นแม้เพียงแค่แผ่วเบา
แต่สะท้านสะเทือนเข้าไปถึงทรวง
เมื่อน้องเจ็บ
ไยพี่ต้องกดเก็บความเป็นห่วง
ถ้อยที่เคยพร่ำย้ำทุกสิ่งปวง
มาถามทวง ว่ายังจำสักคำไหม
คนหมองหม่น
ไม่แปลกหรอกหากหมองจนอยากร่ำไห้
เพราะบางคนยังแกล้งแสดงใจ
ร้องร่ำไห้ได้ทั้งที่ไม่มีใจ
ไม่ถามว่าวันนี้ สบายดีหรือ
เพราะข้อความที่สื่ออารมณ์ไว้
ในนามของคนที่คอยห่วงใย
ขอถามว่า มีอะไรก็บอกมา

รักเขานานๆ

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


เพราะรักดอกจึงบอกมาว่ารักมาก
ต้องจำพรากจากนี้ไป  ไม่มีหวัง
ยินบ้างไหมใจยังเต้นเป็นเสียงดัง
เพียงลำพังยังรำพึงคิดถึงเธอ
วันผ่านไปใจไม่ผ่านไม่ผันเปลี่ยน
วันผ่านเวียนเพียรระลึกนึกเสมอ
เทียบวันเก่าเท่าวันก่อนตอนเราเจอ
น้ำตาเอ่อปริ่มๆรื้น ชื้นนัยน์ตา
ยังรักมาก มากเท่าที่พี่เคยรัก
ใจยังภักดิ์ แม้ไม่คาดปรารถนา
ว่าคนดีจะมีวันหันกลับมา
รู้ดีว่าสิ้นแล้วแววหทัย
เมื่อความรักหักบิ่นสิ้นความรัก
ใจเคยภักดิ์กลับแพ้เขาที่เข้าใกล้
เคยคิดแค่ รักแท้จะชนะใจ
ไม่เตรียมไว้ รักจะพลาดเกินคาดเดา
รักเขาแล้วก็รักไปให้หมดดวง
อย่าเป็นห่วงดวงใจใครจะเหงา
ให้สมที่พี่ยอมใจให้ซบเซา
อย่าสนใจใครจะเศร้า ..รักเขานานๆ
หน้า / 9  
ทั้งหมด 153 กลอน