กลอนอกหัก รักหวานซึ้ง

รักเธอคนเดียว

ก่องกิก


ดวงฤดีพี่พร้อมยอมมอบให้
ด้วยดวงใจของพี่ที่เคยฝัน
จะถนอมรักเราเท่าชีวัน
เป็นคำมั่นสัญญานะคนดี
ค่ำคืนนี้ที่รักจงพักผ่อน
ก่อนจะนอนพี่มาหาที่นี่
ที่บ้านกลอนถักถ้อยร้อยวจี
จากใจพี่สื่อสารผ่านเว็บมา
ด้วยความรักห่วงใยมีให้น้อง
อย่าหม่นหมองเชื่อพี่นี้เถิดหนา
พี่รักน้องจริงจังดังแก้วตา
รักเท่าฟ้าอยากเคียงเพียงแต่เธอ
พี่ห่างหายไปนั้นหวั่นเจ้าลืม
เราเคยปลื้มต่อกลอนก่อนเสมอ
มาวันนี้เงียบเหงาเศร้านะเออ
ปล่อยพี่เพ้อเผลอบ่นบนลานกลอน
ตรวจสอบเพลงให้ด้วยนะครับ
ผู้ดูแลระบบ
แล้วบอกวิธีลงเพลงไว้ด้วยนะครับ
เพื่อความครื้นเครงครับ...

ฮักอ้ายหลายกว่าฟ้า

ร้อยฝัน


ฮอดเดือนหกฝนตกมาน้ำตาหลั่ง
เสียงฟ้าสั่งตึ้มต้ำซ่ำใจหลาย
ดินกะสุ่มเซาแห้งแล้งกะกลาย
บัดใจอ้ายคือซ่างแล้งแห้งกว่าดิน
เห็นน้องดำคำผู้ฮ่ายซ่างกายหนี
อ้ายบ่มีหัวใจให้ทั้งสิ้น
หนออ้ายเอ้ยน้องคอยถ่ามาจนวิน
อ้ายกลับบินหาคนโก้โอ้หนอชาย
เห็นฟ้าก่ำกรำฝนน้องทนสู้  
ทั้งที่ฮู่อ้ายบ่สนคนบ่หมาย
ยืนฮ่องไห้ในสายฝนหล่นโปรยปราย
ฮู่ใจหง่ายย่อนฮักหลายตายบ่จื่อ
คำแปลนะจ๊ะ
ถึงเดือนหกฝนตกมาน้ำตาหลั่ง
ฟ้าร้องสั่งเหมือนย้ำช้ำใจหนา
พอฝนตกดินชุ่มคลุมผืนนา
แต่อุราพี่กลับแล้งแห้งกว่าดิน
เห็นน้องดำซ้ำร้ายพี่หน่ายหนี
ไม่เคยมีหัวใจให้ทั้งสิ้น
โอ้พี่จ๋าน้องรอมาเป็นอาจิณ
พี่กลับบินหาคนงามหยามน้ำใจ
เห็นฟ้าก่ำกรำฝนน้องทนสู้
รู้ทั้งรู้พี่ไม่รักไม่อยากใกล้
ก็ต้องยอมทนฝืนยืนร้องไป
รักทั้งใจจนตายก็ไม่จำ

ฝากใจ ส่งปลายฟ้า

มวลภมร


เพียงพี่ได้ เห็นหน้า พาใจเพ้อ
อยากเคียงเธอ ทุกวัน ไ่ม่พลันหาย
อยากให้เธอ นั้นอยู่ เป็นคู่กาย
จะไม่คลาย รักเธอ เพ้อทุกวัน
ยามสบตา ยิ่งพา ให้ใจหวั่น
หัวใจสั่น หวั่นไหว พาใจฝัน
ดังตัองมนต์ ตลใจ ให้งงงงัน
แม้ห่างกัน แสนไกล ใจใกล้เธอ
ความคิดถึง ส่งไป ใจโหยหา
ข้ามขอบฟ้า แสนไกล ใจเสนอ
หอบความรัก ส่งไกล ไปหาเธอ
หลับละเมอ เผลอคว้า ไขว่หากาย
ทุกครั้งพี่ สุขใจ ได้ยินเสียง
แม้เป็นเพียง เสียงผ่าน มาทางสาย
ส่งเสียงใส ถึงกัน หวานไ่่ม่คลาย
ผ่านวายฟาย ข้ามฟ้า ไปหากัน
คงเป็นเธอ ที่ฟ้า ส่งมาให้
มาทำใจ ของพี่ นี้ไหวหวั่น
ทำให้พี่ นี้คิดถึง เธอทุกวัน
มาเติมฝัน ก่อรัก จากนี้ไป
o  มวลภมร  o 

กลั่นอารมณ์

ไผ่ลู่ลมม


กลั่นอารมณ์ ร้าวรอน ผ่านกลอนเศร้า
สื่อกานท์เหงา เรียงร้อย ถ้อยคำโศก
ดวงความรัก หักดิบ วิปโยค
คล้ายดั่งโลก มืดมน หม่นฤดี
หยดน้ำตา รินไหล ใช้ขีดเขียน
กับแสงเทียน จากใจ ใกล้ริบหรี่
ความรู้สึก สติ ที่พอมี
กลั่นกวี สุนทร ก่อนดับลง
ขออินทร์พรหม ยมยักษ์ ประจักษ์เถิด
ถ้าแม้นเกิด ชาติหน้า อย่าได้หลง
ให้ดวงจิต หนักแน่น แก่นมั่นคง
ได้ถือธง เหนือใจ ใครทั้งปวง
เกิดชาตินี้ ต่ำต้อย ทั้งด้อยศักดิ์
คนเคยรัก ลาไกล ไม่ได้ห่วง
ต้องทุกข์ทน แสนช้ำ ระกำทรวง
น้ำตาร่วง รินหลั่ง ไหลพรั่งพรู

รักเปลี่ยนทาง

ไผ่ลู่ลมม


เพียงสายลม พรมผ่าน สะท้านร่าง
คล้ายเยื่อบาง ในจิต คิดหวั่นไหว
เหตุเพราะรัก หมุนเวียน เปลี่ยนทางไป
โอ้ดวงใจ บอบช้ำ น้ำตาริน
ผ่านร้อนหนาว แดดฝน ทนฟันฝ่า
จิตใจกล้า เกิดแกร่ง ดังแท่งหิน
แต่วันนี้ เสียหลัก รักโบยบิน
มลายสิ้น ผุ...กร่อน อ่อนแอลง
ทุกค่ำคืน ขมขื่น สะอื้นให้
ดวงหทัย รานแหลก แตกเป็นผง
สัญญาลวง รักนั้น มิมั่นคง
อยากปลิดปลง ชีพดับ ลับเลือนลา

รักขม

ไผ่ลู่ลมม


รักเคยหวาน นานไป กลายเป็นขม
ทุกข์ระทม ความฝัน พลันสลาย
มันสะท้าน สะเทือน ทั้งเรือนกาย
แต่มิวาย ยังรัก มากเท่าเดิม

ฉันเป็นเพื่อเธอนะที่รัก

เปลวเพลิง


ฉันนั่งอยู่ตรงนี้นะที่รัก
ด้วยดวงพักตร์ขื่นขมและตรมหมอง
เมื่อที่รัก-เธอไม่ชายตามอง
ฉันจึงครองเหงาจิตชิดมิวาย
เช้าแรกเหมือนแดดอุ่นละมุนละม่อม
ทอมาย้อมหนาวเย็นให้เร้นหาย
ปลุกดอกไม้ผลิบานตระการราย
เปล่งประกายเหมือนสรวงพร่างดวงดาว
ใจฉันจากหินผาศิลาแกร่ง
ที่ทรงแห่งวิญญาณอันกร้านกร้าว
เริ่มอ่อนโยนอ่อนไหวขึ้นหลายคราว
ยิ่งนานยาวยิ่งกร่อนยิ่งอ่อนใจ
ด้วยเธอพรมหยาดน้ำฉ่ำชื่นแช่ม
หยดลงแต้มทุกวันจนหวั่นไหว
ฉันเริ่มมีรอยร้าวพราวภายใน
แล้วต้นรักก็ผลิใบขึ้นไม่ช้า
แต่เมื่อสูรย์โคจรถึงตอนบ่าย
น้ำก็หายโดยระเหยไปต่อหน้า
เธอเคลื่อนกายดั้นด้นขึ้นบนฟ้า
แล้วไม่มาไยดีเหมือนที่เคย
ฉันนั่งอยู่ตรงนี้นะที่รัก
มันเจ็บนักเจ็บกมลจนเกินเอ่ย
ยามหยาดเพชรจากตามาสังเวย
ฉันจะเย้ย "ที่รักจ๋า" ให้สาใจ
เมื่อเธอเป็นแสงอุ่นทอก่อความช้ำ
ฉันจะนำความเหน็บหนาวเข้าโถมใส่
ถ้าเธอเป็นน้ำหยดรดหทัย
ฉันก็จะเป็นไฟเผาไหม้เธอ

ไม่กล้าบอก

คนกรุงศรี


สุขหนใด ไหนเล่า เท่าวันนี้
ด้วยไมตรี มีตอบ มอบความหวัง
มธุรส บทถ้อย คอยประดัง
เหมือนจะพรั่ง พรูออก มานอกมาน
คำจำนรรจ์ สรรไว้ เลือกไว้หลาก
คงจะยาก เกินไป หากไขขาน
ค่อยเลือกคัด จัดหมู่ ดูรูปการณ์
คิดคำหวาน จารถ้อย เป็นร้อยกรอง
เรียงวลี ที่มัน อัดอั้นจิต
เคยนั่งคิด จนใน หัวใจหมอง
อยากตะโกน ก้องไป ให้โลกมอง
ก็เกรงต้อง ขายหน้า อายฟ้าดิน
บางครั้งเคย บอกใคร อยากให้รู้
แต่หาผู้ ใดเล่า เขาถวิล
พบมากมาย หลายหน จนชาชิน
จึ่งในจินต์ มิกล้า จะพาที
แม้จอมขวัญ นั้นหวัง อยากฟังถ้อย
ถ้าเรียงร้อย แล้วใจ เชื่อไหมนี่
หากยังเคือง ขุ่นข้อง ตรองให้ดี
ทุกวจี เหล่านั้น กลั่นจากใจ
ทั้งคิดถึง ทั้งหวง ทั้งห่วงหา
อาจฟังมา หลายหน จนจำได้
แต่คำหนึ่ง ซึ่งอยาก บอกฝากไป
แต่เหตุใด ไม่กล้า บอกว่ารัก

เหงา หนาว

กันนาเทวี


ใต้ฟ้าพราวดาวพร่างกระจ่างฟ้า
ก่อนนิทราแสนเหงาเศร้าจริงหนอ
คิดถึงคนเคยใกล้ได้พะนอ
ยังเฝ้ารอเฝ้าฝันทุกวันคืน

คิดถึงกันบ้างไหมใจผวา
อยากพูดจาเห็นหน้าพาใจชื่น อยู่ที่นี่หนาวจนทนกล้ำกลืน ลืมตาตื่นภาพฝันนั้นยังจำ ยามฟ้าครวญฝนมาพาใจป่วน หัวใจครวญหนาวอุราฟ้าชุ่มฉ่ำ ได้แต่รอเรียงถ้อยร้อยลำนำ วอนเว้าคำฝากไปใจคนคอย หนาวจับจิตคิดหวังรอฟังหา ส่งข่าวมาถึงบ้างช่างเหงาหงอย คนทางนี้หวั่นรักจักเลื่อนลอย ตะวันคล้อยลับทิวเขาสุดเศร้าใจ หนาว...เหลือเกินคนดีสุดที่รัก หัวใจปักรักเธอมั่นไม่หวั่นไหว ยามลาไกลรอเธอเพัอเพลงไพร ส่งรักไปออดอ้อนวอนตามลม ใต้ฟ้าพราวดาวลอยคล้อยลงต่ำ น้ำค้างพรำเยือนหล้าพาขื่นขม ร้อยคำรักเรียงถ้อยคอยชื่นชม หวังสุขสมสองเราคงเข้าใจ

อยากฟัง

din


เีพียงหนึ่งในไมตรีเธอมีให้
ยังซาบซึ้งตรึงใจให้สุขศรี
การต่อกลอนอ่อนหวานซ่านฤดี
จึงไมตรีมีมอบเพื่อตอบแทน
อาจมีบ้างบางคราที่ว้าเหว่
ดุจเรือเร่ล่องไปไกลเหลือแสน
อยู่กับความหมองหม่นคนหมิ่นแคลน
และยากแค้นยิ่งนักรักเจ้าเอย
แต่สิ่งหนึ่งพึงสดับเพื่อรับรู้
แม้หดหู่เพียงใดฤทัยเ๋อ๋ย
ยังตรงต่อขวัญเกล้าเจ้าทรามเชย
เหมือนที่เคยที่เป็นเช่นก่อนมา
อยากฟังถ้อยร้อยคำเธอนำบอก
อย่าลวงหลอกให้ฉันหวั่นผวา
ความอัดอั้นตันใจในอุรา
เอ่ยวาจาเถิดขวัญฉันอยากฟัง
............................
...........................................

ใต้เงาโศก

พระจันทร์แสงนวล


ใต้เงาโศกไร้แสงดาวคราวฟ้าเศร้า
เมฆบังเงายิ่งอกตรมระทมเหงา
ราตรีนี้เมฆมาพลั้งบดบังเงา 
จิตหมองเศร้าวิปโยคให้อกตรม 
มีแสงจันทร์วันฉายพรายแพรวฟ้า 
ในอุราหาใดชื่นกลับขื่นขม
ราตรีนี้ใต้เงาโศกอกยิ่งตรม 
เมฆทับถมให้รันทดด้วยบดบัง
เขาพรากเธอจากไปหัวใจเจ็บ
ยืนหนาวเหน็บอยู่ไปไร้ความหวัง
อนิจจาความรักใยไม่จีรัง
สิ้นกำลังสิ้นหวังดังที่เป็น
ใต้เงาจันทร์คืนนี้ช่างอ้างว้าง 
น้ำตาหลั่งรินไหลใครจะเห็น 
แอบมาหลบนั่งร้องไห้แสนลำเค็ญ
ไม่อยากให้ใครเห็นรอยน้ำตา
ฝากดวงใจฝังไว้ใต้ต้นโศก
ความวิโยคฝังไว้ใต้พฤกษา
ความเจ็บช้ำเก็บซ่อนไว้ในแววตา
รอยน้ำตาฝากไว้ใต้ฝืนธรณี.....

หวังในไมตรี

คนกรุงศรี


ใครคนหนึ่ง ซึ่งเหมือน เป็นเพื่อนพ้อง
ดุจพี่น้อง ร่วมงาน ช่วยสานศิลป์
เคยต่อกลอน อ่อนหวาน ผ่านจากจินต์
ให้โลกยิน เยี่ยมยล มนต์กวี
จวบวานวัน ผันผ่าน มินานเนิ่น
เราเผชิญ สิ่งใด กระไรนี่
ช่างสับสน วุ่นวาย ในฤดี
หลอนชีวี ของเรา จนเศร้ามาน
ความคิดถึง ห่วงหา มารุมเร้า
กับหงอยเหงา หมองหม่น ทนร้าวฉาน
ตั้งสติ ไตร่ตรอง มองรูปการ
แม้เนิ่นนาน มิเป็น  เช่นนี้เลย
ด้วยเพราะเธอ หรือไร ทำให้ทุกข์
คอยปลอบปลุก ใจเรา นะเจ้าเอ๋ย
เตือนตนตัว กลัวเป็น ดั่งเช่นเคย
ที่ลงเอย ด้วยใจ เกือบวายวาง
เพียงอยากย้ำ คำนัย ให้เธอรู้
คนหนึ่งผู้ ทุกข์ใจ อยู่ไม่ห่าง
อนาคต หดหาย คล้ายเลือนลาง
เกรงอยู่อย่าง ว้าเหว่ อายเทวา
เตรียมคมถ้อย ร้อยคำ จะนำบอก
พูดไม่ออก เหตูใด จึงไม่กล้า
สุดอัดอั้น ตันใจ ในอุรา
จึงวอนฟ้า อย่าให้ดิน...สิ้นไมตรี

ตั้งใจหลอก อย่าบอกใครนะ

มวลภมร


ตั้งใจว่า จะมา หลอกลวงน้อง
หลอกให้ต้อง หลงไหล ใผ่เพ้อหา
หลอกให้รัก ให้ห่วง ทุกเวลา
หลอกให้บอก กันว่า รักหมดใจ
 
ตั้งใจไว้ จะไม่ ยอมเปลี่ยนผัน
หลอกลวงกัน กานดา อย่าสงสัย
หลอกว่าทุ่ม เทใจ ให้ทั้งใจ
หลอกกันไป อย่าได้ ไหวใจทัน
 
ตั้งใจไว้ จะมา หลอกเพียงน้อง
หลอกให้ครอง ใจพี่ได้ อย่าไหวหวั่น
หลอกว่ารัก รักรัก รักทุกวัน
หลอกว่าเธอ และฉัน นั้นมั่นคง
 
ตั้งใจไว้ จะให้ เธอได้รู้
หลอกกันอยู่ อย่านี้ ไม่มีหลง
หลอกเพียงเธอ ไม่เผลอ ใจพะวง
หลอกให้จง จำไว้ ว่ารักเธอ
 
แต่เมื่อได ฝูงไก่ นั้นมีเขา
หรือฝูงเต่า มีหนวด งอกเสนอ
น้ำท่วมเป็ด เมื่อได รู้ไว้เออ
ฉันจะเลิก หลอกเธอ จำให้ดี
.มวลภมร.

-: ก้อนหินสิ้นใจ :-

ปักษาวายุ


          ราวกับเป็นก้อนหินเปรอะดินทราย
คุณปัดปลายชายตาแลมาเห็น
เลี่ยงเลยผ่านลืมไปไม่ยากเย็น
คล้ายถูกเว้นละไว้ไร้ตัวตน
           จะเช้าสายบ่ายค่ำเพียรย่ำผ่าน
เกาะรั้วบ้าน...ตื๊อไว้เผื่อได้ผล
จะร้อนหนาวเท่าไรไม่รีบรน
เป็นก้อนหินอดทนและทุ่มเท
            แม้ใจคุณเช่นเคยยังเฉยนิ่ง
แม้ใจผมวุ่นวิ่งและไขว้เขว
กระสับกระส่ายหลายครั้งที่ลังเล
แต่ไม่เคยหันเห..เหล่มองใคร
            หากวันหนึ่งบังเอิญคุณเดินผ่าน
ขาดอาการขยับเขยื้อนจะเคลื่อนไหว
อาจเป็นเพราะก้อนหินมันสิ้นใจ
เดินเลี่ยงเลี่ยงหลบไป...ก็ได้คุณ!!
อั๊ยยะ ... จบแบบ happy สวัสดีปีใหม่ไทยครับ 

หรือเพราะ

มืดมิด..จนชิดเช้า


หรือเพราะความฝัน ไม่ได้ต้องการจะเกิดขึ้นจริง
แค่อยากมีไว้ ให้ใจพักพิง เวลาที่ ความเป็นจริง มันทำร้ายใจ 
หรือเพราะชีวิต ไม่ได้มีไว้ให้ก้าวเดินผ่าน
แต่มีไว้ให้เก็บเกี่ยว ประสบการณ์ เพื่อสาน ความฝันที่ตั้งใจ
หรือเพราะความจริง ไม่ได้โหดร้ายอย่างที่คิด 
หากเราแต่ยอมรับมันสักนิด มันก็จะกลายเป็นมิตรที่จริงใจ 
หรือเพราะความอดทน ไม่ได้จำเป็นต้องมีมาก เพียงแค่เรารักคนอื่น และไม่อยากเห็นเขาลำบาก
มันก็คงจะไม่ยาก ที่จะเสียสละเพื่อใคร 
หรือเพราะโลกนี้ ไม่ได้กว้างใหญ่ไพศาลอย่างที่เราเห็น เราจึงใช้ความคิดมาก เกินความจำเป็น 
เพื่อที่จะเป็นที่รักของใครๆ
หรือเพราะความจริง สิ่งที่ชีวิตต้องการ ไม่ได้มีมาก 
แค่ให้คนใกล้ตัวที่เรารักไม่ลาจาก ก็คงมากพอที่เราจะสุขใจ

เพรียกหา

คนกรุงศรี


     เปิดกระดาน อ่านกลอน ตอนที่เหงา           คิดถึงเขา คนหนึ่ง ซึ่งห่วงหา
    ดูหายห่าง
ร้างไป เสียไกลตา                  มิรู้ว่า
เป็นสุข มีทุกข์ใด
   เคยต่อกลอน
งอนเง้า ด้วยเราสอง            ตามทำนอง
ของกานท์ ร่วมขานไข
   เป็นสีสัน
วรรณกวี ที่อำไพ                    วันนี้ไย
หายห่าง ทิ้งร้างเลย
    ให้สุขี
สุขี เถอะที่รัก                            เราช้ำหนัก
เท่าไร ไม่เฉลย
     ยอมหนาวเหน็บ
เจ็บปวด เมื่อชวดเชย       แสร้งเฉยเมย
แม้ช้ำ น้ำตาริน
    เพราะตัวใกล้
ใจห่าง ต่างทิฐิ                   ตั้งสติ
สังเกต เหตุทั้งสิ้น
   แม้เว้าวอน
งอนง้อ ขอชีวิน                    ขอเคียงดิน เขายัง เหมือนชังเรา
   ไร้อักษร
กลอนกานท์ หมดงานศิลป์           อยากยลยิน
ยังปอง แต่ต้องเศร้า
    เปิดหน้าจอ
รองาน มานานเนา              อยากบอกเขา รู้ไหม ว่าใครคอย
    แค่ร่วมงาน
สานฝัน วรรณศิลป์               แต่ในจินต์
สับสน ปนเศร้าสร้อย
   ใจวอกแว่ก
วุ่นวาย ให้เลื่อนลอย               แอบนึกน้อย
ใจตน...อยู่คนเดียว
คนกรุงศรี

Drama

เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย


                   ดราเอ๋ยดราม่า                 เจ้าเข้ามาในชีวิตแต่ตอนไหนตั้งแต่เจ้าเข้ามาใจเปลี่ยนไป                เหมือนหัวใจอ่อนแรงเข้าทุกที
เมื่อเห็นภาพบาดตาแลบาดใจ              เมื่อยินเสียงเขาไซร้ยิ่งอยากหนี
ทั้งผัมสัม สายตา ถ้อยวจี                     อยากจะลี้ไกลให้ห่างคนใจดำ
เขาเคยออดออเซาะเคล้าเคลียคลอ      เฝ้าพะนอเสริมส่งรักให้หวานล้ำ
ฝากสัญญาเอาไว้ให้จดจำ                    ฝากความหวังให้รำลึกวันดีดี
แต่ทุกสิ่งก็สูญสิ้นดับสลาย                   คำกลับกลายเป็นคำลวง..น่าบัดสี
เขานำเอารักใหม่มาย่ำยี                       เหยียบขยี้ให้หัวใจเริ่มโรยรา
ตั้งแต่นั้นเจ้าเข้ามาในชีวิต                   คอยสะกิดให้ดวงใจโหยไห้หา
เรื่องใดใดร้องไห้ง่ายดังดารา                เจ้าน้ำตาแม้ไร้คนมาดูดี
เจ้านี่นะยังพาเพื่อนมาด้วย                   พามาช่วยให้หัวใจฉันป่นปี้
"ความทรงจำ"ย้อนเวลาทุกนาที            ในวันที่....รักและเลิก....ให้หวนคืน
"ความคิดถึง" และ "ความเหงา" เข้าเคียงข้าง  มาช่วยสร้างความทรงจำให้รื้อฟื้น
เป็นอย่างนี้ทุกวันและทุกคืน                  ใจขมขื่นปวดแปลบปลาบเกือบเจียนตาย
ไม่เอาแล้ว....เจ้าควรไปไกลจากฉัน        อย่าแกล้งกันแบบนี้เลยสหาย
แค่คนรัก...ลาไปไกล เจ็บมิคลาย           เจ้าอย่าหมายให้ใจนี้สิ้นลมลง
ฉันรู้อยู่ขณะรักควรตริตรอง                   ใช้สมองอย่าหล
หน้า / 50  
ทั้งหมด 839 กลอน