เหม่อมองท้องฟ้าครามยามแสงส่อง พาใจล่องลอยไปไกลหนักหนา
โอ้ใยหนอใจเรานองน้ำตา มิวายหน้าหมองไหม้ไร้ราคี
ธรรมชาติสะอาดผาดผุดผ่อง ใยจึงต้องประเหตุด้วยเฉกนี้
แสงตะวันยอแสงลงในทุกที บาทวิถีเริ่มมีสีจรุงแรง
เดินต่อไปในวังวนด้วยสับสน ชีวิตคนเปรียบเทียนไขที่ส่องแสง
แม้ยามใดดับสิ้นซึ่งเรี่ยวแรง เปรียบดังแสงเทียนไขใกล้ดับลง
รอแสงใหม่ประกายแจ้งแก่ใจตน จึ่งได้พบหนทางใหม่ไม่มีหลง
รอวันวานผันเปลี่ยนไปในใจคง มีสุขล้นกว่าดวงใจในร้อยพัน