มีข่าวดีมาประชาสัมพันธ์ (ตอนที่ 3) ปล.ยังคิดชื่อเรื่องไม่ได้อ่ะ

สุชาดา โมรา

สองพี่น้องครุ่นคิดถึงป้ายประกาศก่อนี่จะเดินห่างไกลผู้คนออกมา  นางฟ้าตัวน้อยผู้ใจดีจึงพาทั้งคู่ลอยขึ้นเหนือท้องฟ้าและกลุ่มเมฆขึ้นไป
          "นั่นไง  เจ้าได้ยินเสียงในความคิดของเด็ก ๆ อีกหลายคนหรือไม่" นางฟ้าตัวน้อยเอ่ย  ชาลีและมารีน่าพยักหน้ารับ
          เสียงของเด็ก ๆหลายคนดังก้องขึ้นจากความคิดของพวกเขา......ทำไงดีวะเราไม่มีงานจะส่งซะด้วยสิ  แต่เราก็สนใจอยู่เหมือนกัน...  เจี๊ยบนั่งนึกอยู่นานในร้านอินเตอร์เน็ตหลังจากที่นิวเพื่อนของเธอกลับไปแล้ว  เธอจึงคิดหาวิธีที่จะทำให้มีงานส่งประกวดได้ทันท่วงที  ในที่สุดเธอก็พบเรื่องสั้นของใครคนหนึ่งซึ่งใช้นามปากกาว่าทาริกา  หรือในนามที่รู้จักกันว่าริวนั่นเอง
                          ริวเป็นนักเขียนตัวน้อย ๆ ที่โลดแล่นอยู่บนอินเตอร์เน็ตมานานนับปี  ข้อความของเธอที่เขียนดูไร้เดียงสา  และอ่อนต่อโลกนัก  ใคร ๆ อ่านก็จะนึกถึงภาพที่ริวนักเขียนตัวจ้อยคนนี้เขียนเกี่ยวภาพความทรงจำในวัยเด็ก  ซึ่งทำให้เจี๊ยบรู้สึกพอใจอย่างมาก
                         ...เอาละวะ  เป็นไงเป็นกัน  ไม่มีใครรู้จักหรอกแม่ทาริกาอะไรเนี่ย...เจี๊ยบนึก  พร้อมทั้งคัดลอกงานของผู้อื่นมาเป็นของตนด้วยความดีอกดีใจ
                      ในขณะที่อีกเสียงดังก้องขึ้น  "หมู่นี้ยัยผึ้งไม่เข้ามาห้องสมุดเลยแฮะ  หมู่นี้ดูแปลก ๆ พิกลเชียว  สงสัยจะซุ่มประกวดซีไรต์ฯแบบกลุ่มพวกนั้นอยู่เหมือนกัน  แต่เราต้องขอบาย"
                      "ทำไมล่ะมิ้ง"
                       "เพราะเที่ยวนี้ชื่อของเราดันลงไปอยู่ในกลุ่มผู้ช่วยกรรมการตัดสินด้วยน่ะสิ  เดี๋ยวเขาจะหาว่าโกงกัน  แต่ก็นั่นละ  ยัยผึ้งก็จะลงประกวดด้วย  แต่ช่างมันเถอะ  เรามันคนละนามสกุลกัน" เด็กสองคนคุยกันหัวเราะต่อกระซิกกันใหญ่
                      "เราก็ไม่มีผลงานเหมือนกันนะคะ" มารีน่าแย้งขึ้น
                      "ใช่จ่ะ  แต่เด็ก ๆ จำโลกนิทานที่พวกเธอไปเยือนได้มั๊ย  หากจำได้  เราก็ไปกันเลย...............
                    สองพี่น้องหลุดเข้าไปในหนังสืออีกครั้ง  เป็นระยะเวลาสามเดือนเต็มที่พวกเขาหลุดเข้าไปในโลกนิทาน  แต่ประสบการณ์ที่สนุกสนานของพวกเขาทำให้มารีน่าคิดที่จะแต่งเรื่องราวจากโลกนิทานมาเป็นนิยายของเธอ  ส่วนชาลีก็มีครูดีที่ช่วยให้พลังเสียงของเขาไปได้ดี  
                  นางฟ้าผู้ใจดีช่วยอัดเพลงให้เขาในโลกนิทาน  ที่มีแต่ความสนุกและเสียงดนตรี
                 สองพี่น้องได้ผลงานที่ต้องการและพร้อมที่จะประกวด
                "เอาละเด็ก ๆ พวกเธอต้องกลับไปในเวลาของเธอแล้ว  จากกันวันนี้โชคดีวันหน้านะจ๊ะ" พระราชินีแห่งโลกนิทานโบกมือลาพวกเขา  ในขณะพวกเขาต่างคนต่างกอดหนังสือและเปคัดเสทแน่น
                แวบแสงสีขาวพวยพุ่งออกจากหนังสืออีกครั้งพร้อมกับร่างของเด็กน้อยทั้งสองคนที่ยังคงถือหนังสืออยู่  เมื่อเขาหันกลับไปก็เห็นบ้านใหม่ของตัวเอง  และนางฟ้าทั้งสองคนซึ่งยืนเชื้อเชิญให้พวกเขาเข้าบ้าน
	ร่างค่อย ๆ ก้าวออกจากบ้านนั้นคือพ่อของเขา  พ่อ!!!  ทั้งสองคนร้องตะโกนเสียงหลง
	ไปไหนมาลูก  พ่อเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
นี่บ้านใครคะพ่อ  มารีน่าเอ่ยถาม
นี่บ้านใหม่ของเรา  นายฝรั่งเขาให้เรามาพักที่นี่เป็นการถาวร  พ่อเอ่ยขึ้นพร้อมกับกอดลูกทั้งสองเอาไว้ทันที
ผมมีของมาฝากพ่อด้วยครับ  ชาลีเอ่ยพร้อมกับใช้คทาวิเศษที่ยังคงติดมือเขามาจากดินแดนมหัศจรรย์แกว่งไปที่หน้าบ้าน  พลันใดนั้นทองคำมากมายก็ปรากฏขึ้น
ลูกทำได้ยังไงเนี่ย!  พ่อเอ่ยถาม
เรื่องมันยาวครับ  ชาลีตอบพร้อมกับกอดพ่อเอาไว้แน่น
ทั้งสามคนจึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข  ในขณะที่นางฟ้าทั้งสองคนยังคงปกป้องพวกเขาอยู่
                 และพวกเขาก็ส่งผลงานได้ทันท่วงที
ตอนนี้ง่วงแล้วค่ะ  เดี๋ยวกลับมาต่อให้พรุ่งนี้นะคะ
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ขอยกของคนอื่นมาให้อ่านนิดนะคะ
"พลังและแรงบันดาลใจ คือสิ่งมีอยู่ภายใน เมื่อใดขาดการนำออกมาใช้ย่อมพลาดโอกาสในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขวัญ กำลังใจ ทั้งความก้าวหน้าในการทำงานจะถดถอย การสร้างพลังเป็นเทคนิคเชิงจิตวิทยาที่จะทำให้พนักงานมุ่งมั่น เข้าใจงาน เข้าใจคน เข้าใจตนเอง มีแรงบันดาลใจ เข้าใจผู้อื่น ตื่นอยู่เสมอ ไม่เผลอใจที่จะท้อถอย มีพลังเชิงบวกในการทำงานรวมกับหัวหน้า สมาชิก เป็นผู้มีใจรักในการทำงาน ภักดีต่อองค์กรมีประสิทธิภาพ ชีวิตสร้างพลังรักในงานอย่างเต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ เป็นบุคลากรในองค์กรที่มีความมุ่งมั่น ขยันทำงานเป็นทีม รักษาเวลา มีความรัก ภักดีในงานและองค์กร สามารถพิชิตปัญหา ผ่านสถานการณ์และวิกฤตต่างๆ ไปได้ด้วยดี"
จาก nationgroup.com ค่ะ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน