30 ธันวาคม 2548 23:58 น.

ฝุ่นสีทราย

pigstation

บางคน เปรียบดัง ฝุ่น ถูกสายลมแห่งโชคชะตาพัดพาไปได้ทั่วทิศ
แต่บางคนนั้นเป็นเช่น ทราย วางตัวเองไว้อยู่ ณ ที่เดิมชั่วนาตาปี
แม้กระนั้น ความรัก ความผูกพัน ก็ยังหล่อหลอมให้ 
ทั้งฝุ่นผง ทั้งเม็ดทราย ได้อยู่ร่วมกัน ณ ที่ซึ่งแม่พระธรณีคุ้มครอง

Wind   of   change    ; Sea   of  sorrow
	สายลมคือการเปลี่ยนแปลงชั่วนิจกาล  แม้เราไม่อาจแลเห็นเรือนร่างของวายุเทพ แต่เราก็สัมผัสได้ถึง  บทเพลงบรรเลงแผ่วเบา เป็นลำนำสายลมขับขานกล่อมทุ่งรวงข้าว  เสมือนมือแม่ไกวเปลกล่อมให้เมล็ดข้าวฝันดี แล้วค่อยเจริญวัยเป็นเมล็ดขาวข้าวอุดมด้วยเนื้อนาบุญ ดังทิพยโภชนาอาหารเลี้ยงดูผู้คนสืบไป
	หรือกระทั่ง ยามวายุเทพแปลงกายกลายเป็นลมพายุสลาตันกระโชกพัดให้ไม้ใหญ่  บ้านเรือน ได้โยกไกวจากไต้ฝุ่นผู้รุนแรง  ราวตวาดเตือนว่า อย่าล่วงล้ำกล้ำเกินซึ่งธรรมชาตินักเลย มนุษย์ตัวจ้อยเอย
	จะวาตภัย อุทกภัย ธรณีพิบัติภัย ล้วนเป็นบทสะท้อนสอนกลับว่า มนุษย์ต้องหวนคำนึงถึงธรรมชาติ ผู้เป็นมวลรวมแห่งสรรพชีวิตให้มากขึ้น ด้วยว่า ทุกสรรพสิ่งนั้นคือหนึ่งเดียว หรือ กล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า เป็นเอกสภาวะอันแบ่งแยกมิได้นั่นเอง
	 เพราโลก แลทรัพยากรธรรมชาตินั้น มิใช่ ขนมเค้กก้อนมหึมา ที่มีให้แก่งแย่งแข่งขันกัน เชยชิมลิ้มรส จนมูมมาม ตะกละตะกลาม บริโภคทรัพยากรกันอย่างไม่ยั้งคิดโดยไม่เฉลียวใจว่า.... 
	สุดท้าย ธรรมชาตินั้นมีการจัดระเบียบของชีวมณฑลอยู่นับเนื่องแต่ครั้งโบราณกาล ทว่ามนุษย์ทั้งหลายต่างไม่เคยจะตระหนักทราบ ได้แต่ใช้ชีวิตด้วยการถลุงทรัพยากรอย่างไม่ยั้งคิดแต่อย่างใด
	จนกระแสเสียงจากธรณีพิบัติภัยครั้งล่าสุด ณ ชายฝั่งบริเวณที่ผ่านพ้นเทศกาลคริสต์มาส 2004 
			 มนุษย์เอ๋ย...เจ้ากำลังละเมิดกฎสมดุลธรรมชาติ บัดนี้เทพเจ้าแห่งธรรมชาติ
		ผู้บันดาลสร้างธรณีโลกธาตุ หรือเทพกายย่านั้น เปรียบเสมือนมาตุภูมิผู้โอบกอดลูกรักใน		เรือนใจอย่างเมตตาปราณี
			ไย..มนุษย์.เจ้ายังดื้อรั้น ข่วนทึ้ง ขบกัด เรือนกายอันอุดมด้วยเนื้อนาบุญนี้
			ฤา... ต้องส่งสัญญาณการโบยตี เพื่อย้ำเตือนว่าคุณของแผ่นดิน มิต่างจาก
		กษีระธารา เป็นดังน้ำนม เลือดเนื้ออันเป็นที่มาของธาตุทั้งปวง ..แล้วไย....
	จึ่งวางหนังสือพิมพ์ลง แล้วหยิบรีโมทมาปิดเครื่องรับโทรทัศน์ เพื่อปิดกั้นกระแสคลื่นข้อมูลข่าวสารที่กำลังล้นทะลักเข้ามายังโสตประสาทจนล้นเอ่อแทบสำลัก
	ที่สุดแล้ว ก็เหมือนดังคำกล่าว 
		  และแล้ว ก็จางหายไปเช่น คลื่นกระทบหาด  ลมพัดยอดไม้  อาทิตย์ลับเขา 
		
	ข่าวสารเรื่องสึนามิก็เช่นกัน เริ่มแผ่วจางไป เช่นสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงอันเป็นนิจนิรันดร์.

เม็ดทรายผู้วางเฉย
	เวลาล่วงดึกโข แสงจันทร์เรื่อเรืองระบายฟ้าสีน้ำเงินเข้ม คืนนี้เป็นข้างแรม โค้งของวงจันทร์เป็นดังโค้งเคียว หมู่ดาวคือรวงข้าวทอแสง ที่ชูช่อไสวพราวท้องทุ่งฟ้าราตรี
	ชายหนุ่มในชุดดำพลันรำลึกด้วยญาณภายในว่า...
	ไม่ช้าจะมีใครบางคนที่คุ้นเคยเดินทางมาเช่นเคย
	ยามนั้น ชาจะมีรสหอมหวานประหลาดล้ำ ดังนักจิบชาเคยรำพันว่า
  		 แม้ว่า ชาจะเลิศรสเพียงไร หากผู้ร่วมวงมิใช่คู่สนทนาอันคู่ควรแล้วไซร้
		น้ำเปล่าก็ยังเข้าท่ากว่าชาชั้นยอด 

	กระท่อมน้อยนี้อยู่เชิงเขา แอบอิงยังภูผาผู้คงมั่น และพรรณไม้เขียวขจีเป็นดังผ้าห่มแห่งไพรพฤกษ์
ใช่ว่าเป็นการหลีกเร้นจากความเจริญที่เรียกว่าอารยธรรมที่เน้นด้านวัตถุนิยม 
	แต่ด้วยว่า ยังมีอริยทรัพย์อันเหนือกว่าความรุ่งเรืองทางวัตถุทั้งหลาย ทั้งปวง
	นั้นคือ ธรรมะ อันร่มเย็น เป็นดังร่มโพธิ์อันเย็นล้ำดับภัยพาลได้ด้วยพุทธบารมี
	การพำนักยังวนาสถานแห่งนี้คือการมาตามคำเชื้อเชิญจากธรรมชาติ เพื่อแสวงหาความสงบสุขภายใน โดยมิพักต้องอาศัยเกียรติยศ เงินตรา บารมี และยศถาบรรดาศักดิ์ ใดๆที่เป็นเพียงโลกธรรมอันธรรมดายิ่ง
	มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีนินทา มีสุข เสื่อมด้วยทุกข์
	ไม่ได้อาศัยคาถามนตราวิชาคุณไสยอย่างใดเพื่อการหยั่งรู้ชัดแจ้งแต่อย่างใด
	ชายหนุ่มนาม ผู้หันหลังให้บางสิ่งบางอย่างผู้นี้ มิได้โกรธเคืองในวาสนา หรือน้อยใจในโชคชะตา เพียงแต่มนุษย์ย่อมมีทางเดินเฉพาะตัว
	แต่บางมนุษย์กลับเลือกเดินตามกันไปสู่หุบเหวอบายภูมิ
	กระนั้นโลกคือความสมดุล มีสูงต่ำดำขาวยาวสั้น เป็นธรรมดาประการ
	จันทร์แรมเริ่มหนีไกล เมฆขาวค่อยเคลื่อนมาเป็นเพื่อนจันทร์ หรือเป็นสัญญาณว่า เพื่อนจากแดนไกลแต่ใกล้ด้วยความผูกพันกำลังจะมาเยือนกัน ตามประสา 
.................................................................

	ด้วยอริยทรัพย์นั้นมิใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดตายตัว เพราะธรรมะ คือ ธรรมชาติ ดังนั้นหนังสือที่บรรจุตัวอักษรที่เรียงแถวเป็นประโยคผูกเรื่องราวมากมายคณานับ จะเรื่องรัก เรื่องหลง เรื่องโชค เรื่องลาภ ครบถ้วนทรัพย์สินทางนามธรรม สุดแต่ผู้ใดจะเรียนรู้รับได้ ตามแต่กำลังสติปัญญาอันฝึกฝน พากเพียรได้
	ทั้งยังหลักธรรมคำสอน เป็นแก่นธรรมค้ำจุนพระศาสนาให้ดำรงอยู่เป็นอกาลิโก เหนือกาลเวลา เหนือขีดจำกัดแห่งมาตราชั่ง ตวง วัด ใดๆ คำนวณได้ เป็นเครื่องค้ำจุนโลกเช่นเมตตาธรรมนั่นเอง
	โลกจึงน่ารักพอที่จะให้มนุษย์ผู้รู้รัก รู้ศานติ ใช่หอมกลิ่นดอกไม้แต่อย่างเดียว ยังรดน้ำต้นไม้ และปลูกต้นไม้ เพื่อบำรุงโลกคืนกลับ
	รักษ์โลกประหนึ่งรักตัวเองแล้วไซ้ พิภพจักอยู่เป็นรวงรังให้เราได้แอบอิงชั่วกาลนาน
	ดังปวงปราชญ์ราชบัณฑิตได้จารึกคำสอนต่าง ๆ จะเป็นตำรา จะเป็นนิยาย จะเป็นคำกลอน ก็ล้วนแต่บอกเล่าถึงลูกหลานว่า เมื่อเจ้าเปิดหนังสืออ่านถ้อยความ ก็เช่นการเปิดดวงตาที่สามเพ่งมองเข้าไปยังความเป็นไปทั้งปวง อันเป็นเรื่องของความไม่เที่ยง
	คือ กฎไตรลักษณ์อันครอบคลุม แผ่ไพศาล 
		 การเดินทางไปมานับหมื่นไมล์พันลี้ ก็ไม่เท่าการเดินทางเข้าสู่อาตมันภายใน 
	เม็ดทรายผู้วางเฉย นั่งรับรัศมีจันทร์ที่ทอแสงนวลอาบยังแมกไม้ ขุนเขา และสังขารให้กลายเป็นสีเงินยวง ดูเย็นตา
	จนคล้ายฉากแห่งความฝัน
	ที่กำลังจะเปิดม่านออกมาสู่ความเป็นจริง
	เมื่อการเดินทางของชายหนุ่มอีกคนมาถึงยังกระท่อมเคียงผาชมจันทร์


ฝุ่นผงผู้พริ้วไหว
	ดวงตาแห่งตะวันเปิดฟ้าให้แจ้งแสง เขาค่อยลืมตาออกมา หลังการนิทราอันแสนสั้น ด้วยการเดินทางผ่านยามวิกาลล่วงพ้นดึกโขจนค่อนแจ้ง กว่าจะถึงยังที่หมาย
	จึงหลับคล้ายเป็นตาย...ไม่กระดุกกระดิกด้วยล้าเหนื่อยจากการรอนแรมด้วยใจโรยรา
	จนแว่วเสียงไก่ขันมาจากไร่ข้าวโพดข้าง ๆ อาณาบริเวณขุนเขาที่ตั้งของกระท่อมน้อยหลังนี้
	กระไอควันจากฟืนเศษไม้ค่อยส่งสัญญาณแห่งการหุงหายังชีพ เขาจึงรีบลุกขึ้นเก็บกวาดที่หลับที่นอน ด้วยสำนึกในความเป็นอาคันตุกะ ใช่จะต้องรับแต่ความสะดวกสบายเป็นที่ตั้ง
	เพราะอาคันตุกะย่อมจะเป็นที่ปรารถนาต่อการต้อนรับอย่างยินดี และเมื่อยามอำลา ก็ทิ้งไว้ซึ่งความประทับใจไว้เบื้องหลังก่อนการจากลา 
	ยังมีอาคันตุกะบางประเภทมักง่าย เป็นที่ระอาใจแก่เจ้าภาพต้องส่ายหน้า เมื่อรู้ว่าต้องได้เจอะเจออย่างไม่มีทางเลี่ยง
	แล้วเราจะเป็นอาคันตุกะ หรือ อาคันเกะกะ...

			 มีอะไรให้ช่วย  เขาถามถึง แล้วสอดส่ายสายตาหากิจกรรมเกื้อหนุนเจ้าบ้าน
			 มี...เจ้าบ้านยิ้มแย้ม แล้วทิ้งท้ายว่า
			ช่วยนั่งเฉย ๆ อยู่นิ่ง ๆ บ้าง เราเวียนหัว 
			.......... เสียงหัวเราะอย่างคนรู้ใจประสานก้องทั่วชายเขา
	เสียงยินดีในมิตรภาพพูดจาปราศัยดังก้องกังวาน จนน้ำค้างบางหยดตกใจชิงระเหยตัวกลับคืนฟ้า 
	สองชายหนุ่มวัยเบญจเพส นั่งประจันหน้าบนก้อนหินยักษ์ พร้อมกาน้ำชา พร้อมหนังสือเล่มที่ว่าด้วยเซ็น 
	ไม่ผิดจากนักจิบชาเอ่ยว่า 
			ชาชั้นยอดจะยิ่งเลิศรสด้วยบทสนทนาชั้นเยี่ยม 

......................................................................................
			เราร้องไห้จนแทบหมดน้ำตา ชายหนุ่มผู้มาเยือนกล่าว
			เราเองก็เสียใจไม่หาย เมื่อรู้ข่าว  เจ้าของกระท่อมตอบกลับ
			แต่ทุกอย่างก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์
			อะไรหรือ เราไม่เข้าใจ
			 น้ำใจที่มีมาทั่วไทย มันชะล้างความสูญเสียให้บรรเทาเบาบางลงไป
			 ถึงนายจะสูญเสีย ..แต่ชาวต่างประเทศกลับได้พบน้ำใจไทยแท้ 
			..ดื่ม..ชายหนุ่มผู้เป็นเช่นฝุ่นผงอันอิสระ พร้อมที่จะโบยบินไปตามสายลมชะตากรรม เชื้อเชิญให้สหายหนุ่มเจ้าของวนาสถานยกถ้วยชาดินเผาขึ้นจิบ
	วินาทีแห่งมิตรสหายคือการแบ่งปันสุขทุกข์แก่กัน ดูจะยาวนาน และเจิดจรัสตามกาลเวลาแห่งนาฬิกาแดด
	แม้ฝุ่นจะลอยลมไปทั่วสารทิศ และทรายจะวางตัวนิ่งอยู่กับแหล่งพำนัก แต่ก็อยู่ร่วมกันบนพื้นพสุธาเดียวกัน  เพื่อจะเรียนรู้ตามวิถีของตัวเอง และนำมาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

มายา ผู้ปราศนาการ
	ถึงเราจะห่มคลุมร่างกายด้วยผ้าไหมแพรพรรณชั้นเยี่ยม หากว่าดวงใจกลับห่อหุ้มด้วยเยื่อไหมใยกิเลส ก็ไม่อาจมีแม้กระไอศรัทธาจากผู้อื่นได้
	เช่นกัน ผ้าขี้ริ้วแม้นว่าห่อทองคำ เหมือน มนุษย์ผู้มีดวงจิตประภัสสรแล้วไซร้
	ความเปล่งปลั่ง ผ่องใสก็บังเกิดยังผู้พบเห็นที่มองผ่านพ้นเปลือกอย่างพิพิธทัศนา จึงรู้ว่าทองแท้ย่อมเป็นทองอยู่เช่นนั้น

	หากว่าทั้งจิตอันแจ่มแจ้งด้วยธรรม พร้อมเรือนกายห่มคลุมด้วยอาภรณ์ขาวบริสุทธิ์ ผ่องพรรณ จะไม่เป็นที่ชื่นชมยินดีต่อผู้อื่นอย่างยิ่งหรือ
	หญิงผู้หนึ่งในชุดพยาบาลสีขาวสดใส ร่างระหง พร้อมรถมอเตอร์ไซค์คู่ชีพสีม่วงมังคุดทะยานฉิวไปมาย่านใจกลางเมืองภูเก็ตถึงอ่าวป่าตอง จึงเป็นที่น่าจับตาของหนุ่มนักเดินทางไม่ว่าไทย หรือเทศ
	เธอเป็นสาวแรกเริ่มภารกิจแห่งการงานอันอุดมไปด้วยความเมตตาปราณี
	คือพยาบาลผู้ดูแล เยียวยาเพื่อนมนุษย์ป่วยไข้ได้บรรเทาเบาบาง
	นางพยาบาลจึงเป็นภาพประทับแห่งอิสตรีผู้อุทิศตนเพื่อปวงชนวิชาชีพหนึ่ง เช่นประทีปแจ้งแสงให้ความมืดบอดของชะตากรรมที่เป็นเครื่องกำหนดไว้ซึ่งวิถีชีวิตผู้คนทั้งหลาย
	เธอใช่สาวผู้งามทั้งใจ แต่กายเธฮนั้น กลับคล้ายงานประติมากรรมที่ประติมากรโดยเทพวีนัสให้งามโฉมอย่างน่าพิศ
	ใช่ความสวย แต่เป็นความงามประกอบสร้าง ราวกับเธอคือมรกตแห่งอันดามัน งามล้ำทอประกายให้ยล
	แต่ละวัน แต่ละคืน คือโมงยามแห่งการงานรับใช้สังคม โดยไม่รู้เหน็ดเหนื่อย หรือคิดนำความงามอันเป็นทรัพย์ของนารีไปแปรรูปอย่างมักง่าย รับใช้กิเลสนิยมอย่างสาวอื่นใด
	 จนกระทั่งเส้นด้ายสายใยแห่งความผูกพันชักนำมาที่ร้านหนัง ( สือ ) ที่มีกาแฟสดหอมกรุ่นไว้จิบกับกองทัพหนังสือระดับขุนพลเต็มชั้นวาง
	พยาบาลสาวผู้นี้มักมาแวะพักดื่มชากลิ่นดอกไม้ หอมกรุ่น เป็นรางวัลชีวิตอยู่ทุกบ่อย จนกระทั่งบุพเพสันนิวาสที่มักโน้มนำชายหนุ่มมากหน้าหลายตามาพบเจอ
	แต่ก็ยากจะพิชิตใจเธอ ด้วยความเป็นหญิงที่ไม่ได้งามแต่ใบหน้า ทว่าสมองยังงามด้วยปัญญาญาณไม่ต่างกัน ด้วยความเป็นหนอนหนังสือตัวยงของเจ้าประคุณเธอ
			...มาที่นี่บ่อยไหมครับ ชายหนุ่มนักเดินทางเริ่มประโยคทักทายสาวเจ้า เมื่อเห็นหนังสือเล่มเขื่องที่มีชื่อว่า หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยววางอยู่ตรงหน้า ขณะเธอพักสายตาจากการกวาดอ่านกองทัพตัวหนังสือเพื่อถอดความหมายระหว่างบรรทัด
			ค่ะ..เราชอบอ่านหนังสือ เจ้าของร้านก็เป็นเพื่อนเราด้วยนิ.. เสียงเข้มของสาวใต้เมืองไข่มุกอันดามันตอบกลับอย่างเป็นกันเอง
			 ไม่ทราบว่าเจ้าของร้าน...อ่า อยู่ไหนครับ แต่งร้านสวยดี ไม่ต้องใช้ของแพง ๆ 	ผมชอบไอเดียในการทำงานมากกว่าการใช้เงินทุ่ม..
			 อ๋อ..ไม่อยู่ค่ะ ไปอยู่เวรค่ะ...
			เป็นนายตำรวจเหรอครับ	
			นายแพทย์ค่ะ..
			อืมม์ หัวศิลป์น่าดู ถ้าเป็นนายทหาร นายตำรวจคงยากจะมาทำร้านหนังสือ ร้าน			กาแฟอย่างนี้ คงขัดกับบุคลิกภาพชอบกล 
			หรือถ้าเป็น นายหัวก็คงเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นที่ได้กำไรมากกว่านี้ ใช่ไหมคะช่างเป็นคำโต้ตอบที่มีไหวพริบ น่าค้นหา และเปี่ยมไมตรียิ่งยามนี้ที่หนุ่งนักเดินทางกำลังแห้งแล้งความรักอยู่ในหัวใจร่อนเร่ดวงนี้ 
	บรรยากาศท่ามกลางภาพวาดหลากหลายไสตล์ที่แขวนเรียงราย สร้างให้บทสนทนาระหว่างสองหนุ่มสาวเป็นไปอย่างสุนทรีย์	
	ประกอบกับลักษณะเฉพาะทางสาขาวิชาชีพพยาบาล เลยเอื้อให้เกิดความหมายของคำว่ามิตรภาพต่างสายพันธุ์ไม่ยากเย็นเพราะโดยลักษณะงานแล้วพยาบาลมักต้องพบเจอคนแปลกหน้าค่าตาเป็นประจำอยู่แล้ว 	อีกทั้งเครื่องแบบของตัว เป็นที่น่าศรัทธาในความเสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อการดูแลและรักษาพยาบาลคนเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างไม่อาจเลือกเวล่ำเวลาได้
	เป็นเหตุให้ใครต่อใครรู้สึกว่า พยาบาลส่วนใหญ่จะน่ารัก แถมใจดีอีกต่างหาก
	และวันนี้ นางสาวมายา  รัตนนาวี พยาบาลสาวจบใหม่ กำลังเริ่มต้นค้นพบความหมายของผู้ชายที่คล้ายฝุ่นผงแห่งห้วงจักรวาล ผู้โปรยปลิวไปมา ระหว่างดวงดาวสู่ดวงดาว...

สาวดอกไม้ กับ นายกาแฟ
	การดื่มกาแฟเป็นเรื่องที่ยิ่งกว่าการกระตุ้นให้เกิดความกระฉับกระเฉง เพราะกาแฟคือการค้นพบความหมายของผู้คนที่รู้จักการเสพอรรถรส
	ด้วยกาแฟที่ดีเยี่ยมนั้น สีของมันต้องดำเข้มดังปีศาจในขุมนรก กลิ่นต้องหอมกรุ่นกำจายดังเกสรดอกไม้จากสวนสวรรค์
	ส่วนรสชาตินั้น ราวกับการปรุงรสโดยกุ๊กมือเทวดาเสกสร้าง
	ที่สำคัญ บรรยากาศของกาแฟ ไม่ใช่จำกัดอยู่ที่ ร้านหรูหรา ร้านอาโก หรือร้านใด
	กาแฟอยู่ที่ใจคล้ายกระบี่

	จอมยุทธจะไม่ยึดติดที่เพลงดาบ เช่นคอกาแฟจะไม่ยึดที่รสชาติของกาแฟถ้วยเก่าก่อนเป็นบรรทัดฐาน
	เพราะกาแฟแต่ละเมล็ดคือการวาดออกมาโดยศิลปินดิน น้ำ อากาศ แสงแดด ต่างกันไป แล้วไยต้องไปเคร่งครัดต่อสิ่งที่เป็นการปรุงแต่ง
	คอกาแฟมักนิยมบรรยากาศในการเสพกาแฟ
	ไม่ว่าจะเป็นบุคคลร่วมดื่มกาแฟ แจกันดอกไม้บนโต๊ะ ภาพวาดบนผนัง หรือแม้กระทั่งข่าวพาดหัวยามเช้า ล้วนเป็นส่วนเสริมเพิ่มเติมให้กาแฟเป็นมากกว่ากาแฟ
	บางครั้งความจริงใจก็เป็นเงื่อนไขสำคัญในการรู้จักคบหา หนุ่มหนึ่งผู้มีชีพจรลงเท้า กับสาวน้อยผู้มีตะเกียงส่องแสงอภิบาลคนยาก ก็กลายเป็นคู่สนทนาที่ทำให้ร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ชื่อร้านหนัง (สือ) ในซอยเล็ก ๆในตึกแถวเก่าแก่สไตล์ชิโน-โปรตุกีส ให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างมากโข
	บางเวลาเจ้าของร้านมีโอกาสพักผ่อนจากงานประจำที่แสนหนักหนาที่เกาะเล็ก ๆ   ที่ยังขาดแคลนความพร้อมหลาย ๆด้าน ก็มาร่วมวงสนทนา
	เช่นวันนี้ เป็นเช้าวันอาทิตย์ที่อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่แสงไฟในบรรยากาศที่เปล่งประกายมาจากโคมไฟติดเพดานนั้นช่วยสร้างแสงสีทองเลื่อมพราย คล้ายเป็นถ้ำทองที่มีหนังสือเป็นขุมทรัพย์ทางปัญญารอการค้นพบจากผู้รักการใฝ่รู้มาแสวงหาปัญญาจากเหมืองแร่กระดาษนี้ 
			..กิจกรรมคราวหน้า ผมยังคิดไม่ออกเลย ยิ่งตอนนี้งานที่โรงพยาบาลก็ล้นมือ
			น้องหมอก็ชิงลาออก เพราะน้อยใจแพทย์ใหญ่ ปัญหาเรื่องการขาดแคลนกำลังคน 			ถือเป็นปัญหาโลกแตกเลย.. แต่ก็ดีมันช่วยทำให้เราต้องคิด ต้องใช้สมอง เพื่อ			ประโยชน์ส่วนรวมแต่คนเราก็ต้องมีทางออก ร้านหนังสือร้านนี้ก็เป็นเหมือนยา			บำรุง.. 
	เสียงรำพันจากหมอหนุ่มเจ้าของร้านเอ่ยยาวเหยียดกับแขกขาประจำ ที่พยักหน้าอย่างเห็นใจ
			 ผม..ยังไม่รู้จักชื่อหมอเลย..มายาไม่เห็นบอก คงลืม แหม คนรักกันชอบกันไม่			น่าลืมชื่อลืมเสียงกันเล้ยย หนุ่มสัญจรเอ่ยถาม พร้อมกล่าวคำสัพยอกหยอกเอินสร้างความเป็นกันเอง
			บ้าอย่างแรงเลย ตานี่..มายาทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
			..อ้าว..ตกลงผมเป็นแฟนกะยายมายาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมชื่อเพชรครับ..
			ถ้างั้นผมเรียกว่าหมอเพชรนะครับ...
			แล้วคุณชื่อ....
			....พู่กัน...ครับ ชายหนุ่มแนะนำตัว
			ชื่อดีนะครับ ไม่เคยได้ยิน
			พ่อผมเป็นสถาปนิก แกหัวคิดสร้างสรรค์ครับ
			โชคดีนะที่คุณพ่อของนายไม่ใช่วิศวกร..สาวเจ้าเริ่มเอาคืน
			ทำไมหรือ  หนุ่มพู่กันถามอย่างตกหลุมพราง
			ไม่งั้นคุณพ่อนายคงตั้งชื่อนายว่า ปั้นจั่น เสาเข็ม แน่ๆ สาวน้อยศอกกลับ
			ชื่อของคุณหมอก็เท่ห์ไม่หยอก นายแพทย์เหล็กเพชร  ...ทั้งสวยงาม ทั้งแข็ง			กล้า ไม่ทราบพระอาจารย์ท่านใดตั้งให้
			 ผมเปลี่ยนเองครับ..
			อืมม...แล้วชื่อเดิมของหมอล่ะ... หนุ่มนักเดินทางนามพู่กัน ผู้เป็นเช่นฝุ่นธุลีพเนจรซักไซ้เห็นว่าเป็นกันเอง
			สมชายค่ะ...ฮิ ฮิ.. เสียงใสของมายา พยาบาลสาวกล่าวอย่างเอ็นดู
			 โธ่หมดกัน............... นายแพทย์เหล็กเพชรถึงกับส่ายหน้า
			............... เสียงหัวเราะร่าลั่นร้านเล็ก ๆ เหมือนกาแฟจะหวานละมุนขึ้น มิตรภาพเริ่มกลมกล่อมขึ้น
	และสิ่งเหล่านี้คือการดื่มกาแฟที่ไม่ได้ดื่มแต่เพียงกาแฟในถ้วย หากแต่เป็นการดื่มบรรยากาศนอกถ้วยกาแฟเข้าไปด้วย
			เกือบลืม...นี่ดอกไม้ที่เราซื้อมาฝากนาย..มายายื่นห่อดอกไม้ให้หมอเพชร แล้วดอกไม้ก็ถูกเด็กในร้านนำไปแต่งตัว ชั่วครู่ดอกไม้ที่ดูมอซอในกระดาษหนังสือพิมพ์ ก็แปลงโฉม สวยสะพรั่งในแจกันเซรามิคขึ้นชื่อของภูเก็ต
	หนังสือจากชั้นวางถูกหยิบออกมาเสนอตัวเกลื่อนโต๊ะกาแฟ ตราบเวลาเลื่อนไหลอย่างเนิบนาบ เช่นฟ้าที่คลุมเมฆฝนสีทึมเทา
	โลกหลังตัวอักษรที่ร่ายรจนาโดยนักเขียน นำพานักอ่านทั้งสามล่วงล้ำไปสู่ดินแดนแห่งจินตนาการ

เมฆ-ฟ้า-ฝน-คน-ทะเล
	เม็ดฝนค่อยทยอยตกลงมาเปาะแปะ จนรินสายเป็นม่านน้ำฝนจากฟ้าไกล หยดน้ำจากเบื้องบนหล่นลงมาพบเจอกันกับพื้นน้ำเบื้องล่าง แล้วก็กลายเป็นน้ำผืนเดียวกัน
	คนมากมายจากหลายหลายที่มา จะอุดร ขอนแก่น สวิส เยอรมัน ญี่ปุ่น ฯลฯ มารวมตัวที่ทะเลสีมรกตแห่งนี้ ด้วยความฝันอย่างเดียวกันคือ การชื่นชมซึ่งความงามของคาบสมุทรอันดาอัน
	แม้ผลพลอยได้ อาจจะเป็นเรื่องของ เศรษฐกิจ ซึ่งมีเงินตราเป็นดังเม็ดเลือดไหลเวียนหล่อเลี้ยงระบบอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ถึงเรื่องกิน อยู่ เรื่องปากท้อง
	แต่ท้ายที่สุด ความงามของฟากฟ้าทะเลฝันแห่งนี้ ก็เป็นการหล่อหลอมให้คนได้หลงรักธรรมชาติจนนำไปสู่การคงไว้ให้ทรัพยากรนี้คงอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลาน
	เพราะทุกสิ่งทุกอย่างนั้น มิใช่ของที่อยู่ในครอบครองของใครทั้งสิ้น เป็นดังมรดกจากปู่ย่าตายาย และการเป็นหยิบยืมมาจากลูกหลานของเราจากอนาคตทั้งสิ้น
	เช่น ฝนสั่งลาฟ้า ลงมาสู่ทุ่งนา ป่าเขา และทะเล ก่อนจะระเหยขึ้นไปใหม่ ดังนั้น คนเราต้องคืนน้ำใจให้ธรรมชาติบ้าง
			เห็นแม่ค้าส้มตำแล้วนึกถึงสาวบาร์เบียร์ พู่กันเปรยเบาๆ
			ทำไมหรือ...หมอเพชรสงสัย
			ก็คงเรื่องทัศนคติ ค่านิยมส่วนตัว ที่ต่างกัน บางคนมาค้าขาย หาเงินส่งไปบ้าน			เกิดแต่บางคนก็ใช้ทางลัด แต่ก็ด้วยความกตัญญูเป็นที่ตั้ง
			จะว่าฝ่ายหญิงมาค้าขายอย่างว่าก็ไม่ใช่ มันเป็นเพราะไอ้คำว่าอุตสาหกรรม				ท่องเที่ยวมันกำหนดกฎเกณฑ์ คุณภาพนักท่องเที่ยวแบบเหมาโหลก็เป็นต้นตอ 			หมอเพชรให้เหตุผลน่าฟัง
			บางประเทศเคร่งครัดมาก เรื่องค้าประเวณี จะต้องถูกกฎหมาย เพื่อง่ายต่อการ			จัดระเบียบสังคม การควบคุมโรคติดต่อ ที่สำคัญ...หมอเพชรทิ้งท้าย
			ไม่ใช่เป็นช่องทางของผู้ประกอบการที่อาศัยอิทธิพลทางธุรกิจการเมืองมา				เอื้ออำนวยให้เกิดผลประโยชน์ต่อพรรคพวก...หมอเพชรติดลม
			...เดี๋ยวฝนหยุดแล้ว มายาขอตัวกลับก่อนนะ จะเตรียมตัวสอบ มสธ. ดูเถิดเวลานี้ยังจะลืมสตรีน่ารักไปเสียเฉิบ หนุ่มนักปราชญ์ทั้งสองเอ๋ย
			..................สองหนุ่มยังถกกันต่อถึงเรื่องสิทธิทางเพศ จนดูเหมือนจะละลืมสาวน้อยตาคมไปเสีย แต่ด้วยมีหนังสือเป็นเพื่อนอยู่ข้างตัว อะไรก็ช่างไม่สำคัญนักหรอก
	แล้วฝนก็สั่งลา ฟ้าก็เปิด แดดเริงแสงแรงฉายออกมาสู่เบื้องล่าง คล้ายความลิงโลดใจที่ผ่านการอัดอั้น ดูทั้งเมืองภูเก็ตอาบไปด้วยสุพรรณรังสี ดูสวยด้วยรัศมีมลังเมลือง งามจับตา จับใจนัก
	คือ มนต์เสน่ห์ภูเก็ตทั้งภาคพื้นดิน และพื้นน้ำ

	มายาจึงขอตัวไปอ่านตำรา  ซึ่งสองหนุ่มยังพูดคุยถูกคอกัน เลยเปลี่ยนจากเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นสารเคมีประกอบ เป็นเครื่องดื่มที่มีสารละลายอัลกอฮอล์เจือปน เพื่อกระชับมั่น
	จากแก้วแรกไล่มาจนขวดเรียงแถว อาการติดลมของหนุ่มทั้งสองก็กอดคอกันสัมภาษณ์เชิงลึกกับสาวบาร์เบียร์ ที่ไม่ได้มาจากความกลัดมันด้วยวัยหนุ่ม แต่เห็นจะเป็นความเห็นใจในความเป็นเพื่อนมนุษย์เสมอกันมากกว่า

หาดป่าตอง และน้องนางบ้านนา	
	ใครเชื่อว่าพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรหมเทพ ณ เกาะภูเก็ตงามนัก ก็ย่อมต้องเชื่อว่าสตรีที่บาร์เบียร์ก็งามล้ำ แม้จะคล้ำไปนิด แต่สำหรับหนุ่มฝรั่งเฒ่าต่างด้าวแล้วคือ เสน่ห์เอเชียอัน (s)Exotic	
	แม้จะมีสายตาเหยียดหยาม ถ้อยคำประณาม ทว่าเธอเหล่านี้คือ หญิงสนิมดอกไม้เหล็กที่แกร่งทั้งกาย แกร่งทั้งใจ
	ใช่เป็นความสุขสมที่ได้แลกเปลี่ยนกามรส นั่นคล้ายความปวดร้าวที่เฉือนลง กรีดลงไป เมื่อความรักถูกแยกออกจากความใคร่อย่างเด็ดขาด
	แล้วคำว่ารักใคร่ใยดีจะมีความหมายอะไร นอกจากการดื่มย้อมใจให้วันคืนผ่านไปอย่างไม่คะนึงหาขอเพียงแลกเงินมาส่งกลับไปบ้านเกิด
	กี่ครั้งที่ต้องรองรับอารมณ์ชายเพื่อแปรรูปเป็น อิฐสักก้อน กระเบื้องมุงหลังคาสักแผ่น	หรือดอกเบี้ยส่งธนาคาร ธกส. หรือบริษัทไฟแนนซ์ ลิชชิ่งท้องถิ่น
			นายว่าความรักแยกขาดจากความใคร่ได้ไหม พู่กัน หมอเพชรล้วงกระเป๋าทำสีหน้าครุ่นคิด
			ได้ หากว่าคนเราถึงคราว....
			แต่เราว่ามันเป็นสิ่งเดียวกัน ...หมอเพชรยิ้มนิดๆ
			ยังไง หือ หมอเพชรว่ามา
			ก็เพราะรักตัวเองมากไปจึงกลายเป็นความใคร่ ความอยาก ไม่รู้จักอิ่ม จักพอ 
			ไม่บวชพระซะเลยล่ะ เทศน์มาแต่เช้า
			ช่างกระแนะกระแหนนักเชียว อยากดูโชว์อะโกโก้ใช่ไหมล่ะ มาสิ ร้านนี้ของ	เพื่อนเราเอง พ่อมันเป็นนายหัว ก็ต้องรับช่วง...
			เอาสิ..ผู้หญิงสวยงาม และน่าทนุถนอม
			ทนุถนอม หรือทะลุทะลวง ว่ามา พู่กัน 
	ชายหนุ่มทั้งสองเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปสู่กลิ่นไอของตัณหาที่โชยคละคลุ้งคละเคล้าบรรยากาศชายทะเลยามค่ำคืนที่โชยกลิ่นคาวปลาครอบคลุม
	เหมือนว่าทุกอย่างถูกกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน สายตาแต่ละคนแวววามไปด้วยไฟกิเลส พร้อมจะจุดติดกับเพลิงกามไฟโลกีย์ อย่างอินังขังขอบกับคำว่ายางอาย หรือศีล 5 สักข้อเดียว
	หาดป่าตองกับน้องนางบ้านนา เสมือนภาพกลับด้านของศีล 5 สะท้อนตรงกันข้ามกับโลกแท้ๆว่าท้ายที่สุดแล้ว
	มนุษย์ก็คือสัตว์ประเภทหนึ่งที่สลัดความดิบ เถื่อน เปี่ยมไปด้วยราคจริต ไม่ได้ต่างจากสัตว์อื่นเลยแม้แต่น้อยนิด หากมีโอกาส สถานที่ให้ปลดปล่อย
	เสรีภาพไม่ได้หมายถึงเรื่องทางเพศ แต่ในนามของการหมุนเงินให้สูบฉีดเข้าหล่อเลี้ยงระบบ ย่อมต้องอาศัยการล่อลวงเอาความอยากได้ใคร่ดีของคนมาเป็นที่ตั้ง
			นายเชื่อไหม เอดส์ไม่ใช่โรคร้าย หมอเพชรยังเคร่งขรึมตามแบบฉบับในบุคลิกภาพของนายแพทย์
			รู้สิ คนต่างหากเป็นโรคร้าย ทำให้ภูมิคุ้มกันศีลธรรมบกพร่อง สังคมถึงได้ฟอน		เฟะอย่างนี้  พู่กันตอบอย่างรู้ใจคู่สนทนา
			ใช่แล้วสังคมกำลังป่วยหนัก...
			หมอเคยฟังเพลงโลกา โคม่าของเฉลียงเปล่า...
			หนึ่งในเพลงโปรดของเรา
			แต่นาทีนี้เรานึกถึงเพลงไถ่เธอคืนมา...
			...นางงามในตู้กระจก...แม่สาย เป็นเพลงสะท้อนปัญหาการเอาเปรียบทางเพศ
			ได้แต่หวังว่า พวกเธอคงเก็บเงินเก็บทองไปตั้งตัวได้บ้าง
			ถ้าไม่ติดยา ติดเชื้อเฮช ไอ วี เสีย ก่อน
			ดื่ม..เพื่อความล้มเหลวของจริยธรรม และความเจริญรุ่งเรืองของกามารมย์
	แม้จะมีสาวอะโกโก้เดินมาเบียดสีอย่างจงใจ ด้วยความหน้าตาดี และเสน่ห์ของชายหนุ่มทั้งสองบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกียจถึงมิตรไมตรีต่อกันเสมอด้วยความเป็นเพื่อนมนุษย์
	รอยยิ้มอย่างสุภาพที่มีให้ คงพอทำให้เธอดอกไม้เหล็กที่กลีบขึ้นสนิมได้ชื่นในอกขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย
			อ้าว..ไอ้หอกแอบมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่โทรมาบออกจะได้จัดSpecial ให้
	นิคม ลูกชายนายหัว หนุ่มเพลย์บอยโอบกอดเพื่อนสนิทอย่างหมอเพชร ก่อนจะพยักพเยิดให้เด็กในร้านนำเครื่องดื่มชั้นเยี่ยมมาบริการเกลอเก่า
			ยินดีที่ได้รู้จักครับพู่กันค้อมศรีษะให้
			เช่นกัน ...เดี๋ยวเรียกเด็กให้..เฮ้ยไว้แจ็ค ไปเรียกน้องดรีม น้องเฟิร์น มาหน่อย 	เสียงมีอำนาจ เฉียบขาดของนิคมบัญชาการลูกน้องทันที ไม่กี่อึดใจน้องสาวทั้งสองที่มีเพียงบิกินี่นุ่งห่มอวดเนื้อหนังไร้ไฝฝ้าราคี บนเรือนร่างสูงโปร่ง พร้อมใบหน้าคมคายสวยคนละแบบ เรียกได้ว่า สวยไม่อายใคร หากเห็นกันตอนกลางวัน หรือตามสถาบันการศึกษาในชุดนักศึกษาคงเดาไม่ออกว่าทำงานอย่างนี้ไปทำไม
	 
	แต่คงไม่น่าสงสัยเท่า การที่ต้องตั้งคำถามย้อนกลับไปว่า แล้วทำไมผู้ชายทั้งโสดและไม่โสด ยังต้องมาเที่ยวกลางคืน
	และอีกคำถามที่ว่า ไม่มีงานอื่นใดที่ให้ค่าตอบแทนดีกว่างานขายบริการทางเพศ (หญิง หรือ เพศแม่ ) อีกแล้วในยุคนี้
	จะไปว่าเป็นเรื่องของเด็กสาวใจแตกแต่ฝ่ายเดียวคงไม่ถูก

	หาดป่าตองยังนองคลื่น และโชยกลิ่นคาวมาไม่ขาดสาย เพราะมันหมายถึงเม็ดเงินที่ไหลมาเทมาเป็นเทน้ำเทท่าในกิจกามอย่างว่า
	หากเปรียบห้วงทะเลแห่งมหาสมุทรคือการไหลรวมจากแม่น้ำลำคลองจากทั่วสารทิศที่ไม่มีวันเต็มได้ จิตใจมนุษย์ส่วนใหญ่ก็มีสายธารกิเลส ตัณหา ไหลลงสู่เบื้องล่าง ณ ทะเลใจ คล้ายจะไม่มีวันเต็ม วันอิ่มพอเช่นกัน
		
ศิลปินนอกรีต
	เบื้องหน้าคือผืนผ้าใบตึงเปรี๊ยะขึงบนเฟรมขนาดเมตรคูณเมตร บรรจง เฒ่าทะเลที่คนทั้งหาดป่าตองคุ้นเคยกันดีในฐานะของศิลปินนอกรีต ผู้ไม่เคยลงรอยกับใคร สิ่งใด ทั้งสิ้น
	นับเป็นคนเขียนรูปรุ่นแรก ๆ ที่ปฏิวัติการเขียนรูปตามใบสั่งของนายหัว เจ้าของแกลเลอรี่ที่รับออร์เดอร์มาจากลูกค้าชาวต่างประเทศ
			 เราไม่อยากเดินซ้ำรอยตีนใคร และไม่อยากให้ความงามที่ศิลปินระดับโลกต้อง			กลายเป็นของโหล
			ถึงเป็นการเข้าถึงความงามในราคาชาวบ้านก็เถอะ แต่มันดูจะไร้รสนิยมเกินไป			หน่อย
	เฒ่าทะเลบ่นกับเพื่อนร่วมอาชีพ
			แล้วพระพุทธรูปที่เค้าหล่อกันเป็นหมื่นพันองค์ ไม่เห็นจะบ่นว่า ไม่เป็นต้นฉบับ			เลย ตา	เฒ่าทะเลเอ๊ย 
	เพื่อนร่วมอาชีพที่มีพื้นฐานจากเพาะช่าง  แต่ไม่ทันจบก็สะพายย่ามออกจากชั้นเรียนมาเรียนรู้นอกห้องเรียนอย่างหน้าตาเฉย  ส่งเสียงท้วงติง เพราะว่าเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือเลยมีแนวความคิดที่พอจะคมคายอยู่บ้าง 
			..เฮ้ยยย นั่นเป็นความศรัทธา เป็นสัญลักษณ์แทนพระแทนเจ้า เป็นรูปเคารพ 			ต้องยิ่งทำ ยิ่งสร้างให้คนได้เคารพบูชา..คนละเรื่อง พูดมาทำพรื้อ
	บางครั้งทัศนคติก็สวนทางกับความเป็นจริง คนอย่างนายบรรจง ศิลปินผู้มุ่งมั่นในงานต้นฉบับ ( Original ) ยังคงปาดสีป้ายพู่กันต่อไปบนเส้นทางของตัวเอง
	แม้เรื่องรายได้ไม่เป็นที่นำมาซึ่งสมบัติพัสถาน แต่ก็มีความสุขตามอัตภาพที่ภรรยาต้องเอ่ยปากว่า
			ขอให้พี่ทานแกลบไปพลางๆ ส่วนน้องก็ขอไปทำมาหากิน เอาข้าวสารกรอกหม้อ			เลี้ยงลูกให้มันไม่อดตายนะคะ คุณพี่
	แต่ด้วยปณิธานแรงกล้า คงเป็นอานิสงค์ให้ลูกสาวที่ห่างจากอกพ่อ ไม่ได้หนีห่างไป 
	มายา คือ	 ชื่อที่ได้ฝากไว้เป็นดังสิ่งแสดงถึงความไร้แก่นสารของสรรพสิ่ง อันมีแต่เปลือกคลุมแก่น อีกทั้งเป็นภาพวาดเลื่องชื่อของศิลปินบรมครูอย่างโกย่า
	แม้ลูกสาวคนนี้จะโตขึ้นมาในครัวเรือนใหม่ ไกลจากกลิ่นสีและกาวแป้ง แต่คำว่าพ่อลูกผูกพันนั้นกระชับมั่นให้สองดวงใจผูกสัมพันธ์กัน
	ตั้งแต่เล็กจนโต มายา พยาบาลสาวก็ไม่เคยห่างหายไปจากสายตา และหัวใจพ่อผู้เป็นศิลปินนอกรีต ที่ไม่คิดใช้ทักษะแลกเงินมักง่ายอย่างที่ตั้งปณิธานไว้
	หากเพราะเป็นศิลปินนอกรีตด้วย และยังนอกสถาบันอีกกระทง
	เลยลอยวนเวียนอยู่เวิ้งฟ้ากะลาแล็คซี่ศิลปะที่ไม่กว้างใหญ่ไพศาลของเมืองไทยอยู่ตรงนั้นเอง
	นานทีจึงจะมีฝรั่งทรงภูมิมาซื้องานศิลป์ของแกไปประดับฝาบ้าน

	จนวันหนึ่งขณะแกก้มๆเงยๆจากอาการคนแก่ที่ยอกหลังพอเงยขึ้นมา ก็แทบยกมือไหว้ไม่ทันด้วย...
			อ่า  อาจารย์เทืองครับ..มาไหงล่ะ ไม่บอกไม่กล่าว จะได้แลให้เต็มที่ 
	ที่ว่าศิลปินอย่างนายบรรจงต้องรีบกุลีกุจอออกตัวต้อนรับศิลปินรุ่นใหญ่ที่มาเยือนอย่างไม่รู้เนื้อ รู้ตัว เพราะความเป็นศิลปินที่ฝึกปรือฝีมือจากห้องเรียนธรรมชาติ ไม่ได้มาจากสถาบันการศึกษาใด
	คงเป็นด้วยความวิริยะ ความพากเพียรรักมั่นในคำว่าศิลปะ จึ่งเป็นเหตุดลใจให้ เขาผู้นี้เดินทางตามเส้นทางนี้อย่างไม่กริ่งเกรง
	แน่นอน อุปสรรคใดๆ ไม่เท่าน้ำคำจากปากคอคน
	มีด ดาบ ที่ว่าคมนัก ก็ยังแพ้ลิ้นที่ทั้งอ่อน นุ่ม แต่พลิกได้ง่ายดาย
	ก่อนนั้น ศิลปินเทืองผู้นี้เป็นที่ครหานินทาถึงความเป็นอื่นที่ไม่ใช่ศิษยานุศิษย์จากสำนักใด สำนักหนึ่งด้านศิลปกรรมอย่างไม่ไว้หน้า ทั้งที่ต่างเป็นลูกพระพิฆเนศ เทพผู้เปี่ยมด้วยศิลปวิทยาการเสมอกัน
	จนเวลาผ่านพ้น ผลงานเท่านั้นจะเป็นเครื่องประจักษ์ชัดถึงความเป็นสัจจะ ความดีงาม แห่งปรัชญศิลป์
	วันนี้ศิลปินเทืองยังอ่อนน้อมเช่นดังรวงข้าว ไม่ใช่ผู้มากล้นด้วยฝีมือจนพอกพูนด้วยอัตตา
	วิถีของเขาในยามนี้คือ  คุรุ ( GURU ) ผู้เอื้อเฟื้อและให้โอกาสถึงแนวทางสู่ผู้ที่รักและยินดีในสุนทรียศิลป์ทุกผู้ทุกนาม
	หากกระทรวงศึกษาธิการยังคงนำภาพกษัตริย์เกษตรที่เสกสร้างจากจิตประภัสสรของศิลปินผู้มีธรรมชาติเป็นดังบรมครู ประดับไว้ ณ ห้องโถงแรกสุด ที่กระทรวง ฯ
	เสมือนว่า การศึกษา คือการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ผนวกกับสิ่งรอบข้าง ไม่ใช่การศึกษาสำคัญเพียงกระดาษอันสมมุติว่าเป็นปริญญาบัตรเท่านั้น
	ซึ่งประเทืองก็เป็นหนึ่งในผู้เรียนรู้ด้วยตัวเอง แม้เป็นหนึ่งในร้อย แต่ก็คือน้อยก็หนึ่ง และยังเป็นดังแรงบันดาลใจเคลื่อนที่ออกให้ความรู้นอกตำราสู่เด็กน้อยตามโรงเรียนแสนไกล ตามแต่สมควร
	โดยถือแต่เพียงว่า หากหัวใจเด็กคิดแต่กลั่นกรองความงามจากธรรมชาติออกมาเป็นงานศิลปะได้ ความงามของสังคมที่มีสมาชิกรู้รัก รู้จักแจ้งถึงความละเอียดอ่อนก็จะพึงบังเกิด
			ไม่ต้องเกรงใจอะไร...ตามสบายผมมาพักผ่อน ก่อนหาสถานที่เขียนรูป เธอไม่			ต้องลำบาก คราวนี้ลูกสาวเพิ่งกลับมาจากนอก เค้ามาด้วย...
	รอยยิ้มของศิลปินอาวุโสบรรจบกับรอยยิ้มของนายบรรจงตรงโค้งขอบฟ้าอันดามัน
	เป็นอัธยาศัยไมตรีของคนวาดรูป ไม่ใช่อื่นใด
	เพราะมิตรภาพนั้นจะวาดออกมาได้อย่างไร หากสิ้นไร้ความจริงใจเป็นปฐมบทเริ่มต้น
		
นักบุญใจบาป
	ยอดบริจาคของนายหัวที่เป็นนักการเมืองระดับประเทศของเมืองถลางมันไม่ได้บ่งชี้ถึงความใจบุญสุนทาน เพราะเป็นเงินที่มาจากเบื้องหลังอันมิชอบทั้งสิ้น
	ชายหาด ป่าเขาบางส่วนที่เป็นสมบัติของคนไทยทั้งประเทศ ถูกแปลงเป็นที่ดินสปก. ก่อนจะมีเรื่องอื้อฉาวจนกระทั่งบานปลายถึงหน้าด้านระดับอินเตอร์
	ทว่าบุคคลเหล่านี้ยังลอยหน้านวลๆอยู่ในสังคม มีแต่คำครหาลับหลัง แต่ต่อหน้าเห็นคนเราก็เอาแต่กุมมือไหว้ ผงกหัวรับ ยิ้มกระลิ้มกระเหลี่ยเรี่ยราด หวังแต่เศษซากกากเพชรที่มาจากคนจน คนด้อยโอกาสทั้งสิ้น
			เลือกตั้งคราวนี้เห็นทีต้องเล่นให้หนัก.... เสียงนักการเมืองผู้ยึดติดในตำแหน่งที่เอื้อต่อการสวาปามงบประมาณที่มาจากภาษีแท้ๆของทุกคนคำรามผ่านไรหนวด
			อุตส่าห์เตือนดีๆด้วยคำพูด มันยังไม่ฟังกัน
			มันยังอวดดีว่า ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง ต้องเลือกคนเก่ง คนดีมีความรู้ 	ความสามารถ..หมดยุคแล้วสำหรับนายหัวนักการเมือง
			....แล้วมันจะรู้คำตอบดี...
			ให้มันไปเล่นการเมืองต่อที่นรกเหอะ ไอ้สันต์...
	จากนั้นลมหายใจของหนุ่มกลางคนก็ดับสิ้น พร้อมกับความหวังใหม่ทางการเมืองที่นับวันจะสู้ระบบทุนนิยมไม่ได้ต้องตั้งคำถามว่า จะสู้เพื่อประเทศชาติ แต่ต้องสละชีวิต ละทิ้งคนรักและครอบครัว
	คนเก่ง คนดี...ไม่ได้มีมากมายเหมือนวีรชนเดือนตุลา
	คำว่าตายสิบ เกิดแสนจึงกลายเป็นว่า อยู่ไป ตัวใครตัวมัน
	วันนี้นักบุญใจบาปจึงอวดลิ้นสองแฉกทั่วบ้าน ทั่วเมือง
	
	ในขณะบ้านเมืองกำลังหวาดหวั่นอยู่กับภัยก่อการร้าย หน้าที่ของผู้บริหารประเทศกลับมองเห็นเพียงแต่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ และพวกพ้อง
	คนดีกำลังถูกลบบทบาทไปจากประวัติศาสตร์สังคมไทยแล้วหรือ
			เสียดาย..รู้ว่าเป็นใคร แต่ทำอะไรมันไม่ได้ เสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของญาติ			มิตรผู้จากไปด้วยอุดมการณ์ที่ขวางทางปืน และความละโมภ
	เสียงล้อรถดังเอี๊ยดปราดเข้ามาจอดยังลานหน้าศาลาสวดศพ เป็นรถรุ่นใหม่ราคานับสิบล้าน ตีตราของเยอรมันนำเข้ามา
	คุณภาพ หรือมาตรฐานของสินค้าอย่างรถคันโก้นี้ไม่ใช่ความภูมิใจของชาวเยอรมันผู้ผลิตหรือ วิศวกรเครื่องยนต์ ,นักออกแบบรูปโฉม ต้องอับอายด้วยว่า รถตรานี้ของตัวที่ภาคภูมิในเทคโนโลยี และความงามของยนตกรรมชั้นเลิศ 
	เป็นประหนึ่งพาหนะของนักบุญใจบาปในคราบปีศาจนักการเมือง ไม่ใช่พาหนะอันสง่างามแต่อย่างใด
	ทันทีที่จอดสนิท พวงหรีดก็ถูกยกออกมา พร้อมกับดวงหน้าที่เหมือนเศร้าเสียใจ
	มันเป็นละครชีวิต...ที่ฉุดดึงให้คนดีต้องหลบฉากหลังม่าน แล้วปล่อยให้คนเลวเริงเมือง
		ไอ้สัตว์ริยำ..รู้ทั้งรู้ว่ามึงเป็นคนทำยังหน้าด้านมา...
		อย่าเป็นเดือดเป็นแค้นเลย...เวรย่อมไม่ระงับได้ด้วยการจองเวร...
	ใครๆต่างก็รู้ดีถึงความโค้งคดเคี้ยวของถนนสายภูเก็ตบางเส้นทางที่เลียบเลาะชายฝั่ง และวันนี้เองแม้นว่าเทคโนโลยีสุดยอดของเครื่องยนต์กลไกอย่างรถคันงามของนักการเมืองผู้เหี้ยมโฉดก็ต้องสังเวยให้กับโค้งมรณะ หลังจากการก่อกรรมทำชั่วมาอย่างไม่ขาดสาย
			กรรมเวรมีจริง ถึงช้าไปหน่อย....
	แต่ไม่นานหลังจากนั้นทายาทอสูรก็ก้าวมาแทนที่ ด้วยว่าการเมือง การปกครองของบ้านเรา เมืองเรายังไม่เป็นเรื่องของคนมีความรู้ ความสามารถ
	แต่การเมืองเป็นเรื่องของคนรวย บรรดาเสี่ยรับเหมาจึงตบเท้าเข้าไปครองรัฐสภาที่ทรงเกียรติ
	มหกรรมกินข้ามชาติจึงไม่มีวันสิ้นสุด
	ลำพังความดีคงยังไม่เพียงพอ
	เรายังคงต้องรอความกล้าหาญชาญชัยไปอีกนาน ถ้าต่างคนต่างอยู่อย่างนี้
		พู่กันค่อยหยิบหนังสือพิมพ์วางลงบนโต๊ะกาแฟ ก่อนเรียกให้เด็กเสิร์ฟเก็บเงิน ชั่วเลาไม่กี่วันที่ภูเก็ตขุมเงินขุมทองแห่งนี้
	มีทั้งความตายเนื่องด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง คนตั้งใจอาสามาทำงานให้บ้านเมืองถูกเด็ดชีวิต มีทั้งกามโลกีย์จากสตรีทั่วไทยมารวมตัวกันที่นี่...หรือโลกเป็นแหล่งพำนักให้ความสุขชั่วคราวเท่านั้นเอง
	ทั้งเสียดายความงามล้ำของธรรมชาติ กับน้ำใจเก่าแก่ของคนท้องถิ่นที่มีอยู่ในบางมุมเล็กๆของเมืองใต้
	แต่ก็ด้วยว่าโลกไม่ใช่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพราะโลกคือความหลากหลายท่วมท้นทวี มีดีชั่วปะปน เช่นดัง ความเป็นหยิน หยาง แห่งเต๋าสาธยายไว้แจ่มชัด
	หากไม่ปล่อยวางโลกคล้ายจะหนักอึ้ง แต่หากไม่แบกรับก็คล้ายละเลยโลก
		พู่กันค่อยพิจารณา ค่อยผ่อนพักความรู้สึกให้ด้านชาต่อความเป็นเช่นนั้นเองของโลกย์ แล้วจึงเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ในร้านอินเตอร์เน็ต เปิดดูข้อความ พบว่า...เพื่อนคนหนึ่งกำลังจะเดินทางมาที่ภูเก็ต จึงค่อยยินดีกระเตื้องขึ้นมาในทรวงอกที่ร้อนฉ่าด้วยเรื่องร้าย
	ด้วยว่า..เพื่อนคนนี้เป็นประชากรสากลไม่มีสังกัดใด ด้วยช่วงวัยหนุ่ม 25 ปีเช่นกัน เขาเป็นประหนึ่งปุยนุ่นลอยคล้อยไปตามลมพา ปลิวไปมาดุจระบำปุยนุ่น
	5 ปี 14 ประเทศที่หนุ่มนามฟิลิเป้ตระเวนไปขลุกอยู่อย่างถึงเนื้อถึงตัว
	พรุ่งนี้..เจอกันแน่..ไอ้คัสโนว่าเป้ พู่กันอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงใบหน้าคมเข้ม และเส้นผมสีทองสยายพลิ้วของเพื่อนรักอีกคนจากแดนไกล เมื่อครั้งเจอกันในนิทรรศการภาพถ่ายของเพื่อนกัน
		จึงรี่ไปจับจองห้องพักให้เพื่อนให้เสร็จสรรพ แล้วขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปหา มายาที่โรงพยาบาลกระทู้ แล้วโทรหาหมอเพชรว่าจะมีเพื่อนมาจะแนะนำให้รู้จักกันไว้
	ด้วย ฟิลิเป้เป็นช่างภาพอิสระที่แมกกาซีนชั้นนำต่างยื่นราคาให้กับภาพถ่ายมีชีวิตแบบประหลาดล้ำของตากล้องพเนจรในราคาสูงลิ่ว
	ฟิลิเป้จึงเหมือนเหยี่ยวที่บินสูง และมีแววตาที่เฉียบคม เหยื่อของเขาคือวิญญาณและเรื่องราวของภาพ

	
		
		

การท่องเที่ยวเชิงน่ารัก
	บางครั้งการวาดฝันนั้นอาจเป็นไปได้ เช่น ฟิลิเป้ หนุ่มสเปนที่แบกเป้ขนาดย่อม พร้อมเงินเดือนห้าปีเต็มในส่วนที่เก็บหอมรอมริบจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักใน office studio

	เพื่อการเดินทางตามภาษาหัวใจใฝ่หา
	หลังจากไปย่ำทะเลทรายเพื่อนับก้อนหินที่สร้างปิระมิดอันอลังการ รวมทั้งการย่ำย่างบนไหล่กำแพงยักษ์ของเมืองจีนอันโอฬารริก
	ก็ถึงเวลามาเยือนยังสยามเมืองมากด้วยรอยยิ้ม และเต็มเปี่ยมด้วยอัธยาศัยไมตรี
			สวัสดีค่ะ.... คำทักทายแรกจากการพบเจอหญิงไทยผู้แช่มช้อยด้วยกิริยาสมกุลสตรี 
	เสียงชัตเตอร์ลั่นแช๊ะแทนคำตอบกลับ
			คุณสวยมาก...ฟิลิเป้หยอดคำหวานเป็นภาษาอังกฤษ
			ขอบคุณค่ะ เช่นกัน คุณก็หล่อมาก...เสียงจากชายหนุ่มอีกคนยิ้มแบบกัดฟันหน่อยๆ เมื่อแฟนทั้งคนถูกจีบเอาซึ่งๆหน้า
	ฟิลิเป้ทำหน้าเจื่อน แล้วก็รีบหาตู้โทรศัพท์เพื่อติดต่อหาพู่กันแล้วนัดหมายเจอกันที่เมืองภูเก็ต
	เกือบวันที่ต้องผ่านเส้นทางยาวเหยียด จากที่ราบมีแต่ท้องทุ่งมากลายเป็นเทือกเขาเลาะเลียบชายฝั่ง จนทะเลปรากฏยังเบื้องหน้า
	กระเป๋าตังค์ของฟิลิเป้ตกใจในค่าใช้จ่ายที่เมืองไทยยามนึกเปรียบเทียบถึงที่อื่น ๆ ที่ผ่านมา
			 เหนื่อยไหม..ไปที่พักก่อน  พู่กันทักทายเพื่อน ก่อนมุ่งสู่ที่พักอาบน้ำอาบท่าให้คลายความเหนื่อยล้า เติมความสดชื่น
			ไปร้านกาแฟกัน...เดี๋ยวแนะนำให้รู้จัก ดอกเตอร์ชิวาโก.. คำพูดนี้ทำเอาฟิลิเป้งุนงง ด้วย ดร.ชิวาโกเป็นวรรณกรรมที่ได้การยอมรับมายาวนาน มีการนำไปสร้างเป็นหนังใหญ่ ตราตรึงความประทับใจไว้ให้จดจำในความเป็นหมอผู้มีความปรารถนาเยียวยาโลกด้วยหัวใจแท้ ๆ แล้วทำไมนายคนนี้ถึงบอกว่า จะพาไปหาได้ นี่มันเรื่องโจ๊กอะไรกันหรือ
			อะไร เราไม่เข้าใจ ฟิลิเป้ทำขมวดคิ้ว
			อ๋อ..เรามีเพื่อนเป็นหมอ ที่รักหนังสือ แล้วทำร้านกาแฟน่ารักๆ มีภาพสวยๆให้ดู ไปเติมกาแฟสดสักแก้ว แล้วค่อยลุยเมืองภูเก็ตกัน เผื่อมีมุมดีๆให้นายถ่ายรูป
			โอเค ไอซี...
	สองหนุ่มก็พากันไปนั่งดื่มกาแฟอย่างสบายอารมณ์ หลังจากนั้นทุกชายหาด ทุกสวนยาง ทุกสถานที่ฟิลิเป้เซ้าซี้ให้พู่กันพาซอกแซกก็สมดังปรารถนาส่วนตัวของช่างภาพอิสระ
	วันนั้นความจุของหน่วยความจำภาพในกล้องดิจิทัลคู่ใจหนุ่มสเปนกล้องตาเหยี่ยว ไม่มีที่ว่างพอจะบรรจุภาพถ่ายของมดได้สักตัว
	เพราะภูเก็ตเสมือนภาพจิ๊กซอหมื่นแสนล้านชิ้นรวมตัวกันเป็นภาพความงาม ความเป็นจริง ที่ขึ้นอยู่กับการมองที่ต่างจากการเห็น
	ไม่ว่าจะเป็นนักวาด นักเขียน นักอะไรก็ตาม...ภูเก็ตคือเหมืองแร่อมตะที่ไม่มีวันล้างราได้ซึ่งวัตถุดิบ ทั้งความหมาย ทั้งแรงบันดาลใจ มีให้ไม่เลือกผู้เลือกนาม

ดาวจูบดิน
	ใครกันช่างเปรียบเปรยว่า ดารา ที่เป็นคนมีเลือดเนื้อ มีจิตใจเช่นคนธรรมดาสามัญคือดวงดาราพร่างพราวฟ้า ส่องแสงให้สายตาทุกคู่เมียงมอง
	ด้วยรูปโฉมโนมพรรณของ อนิสตา ลูกครึ่งไทย-อิตาลี ผู้กำลังโด่งดังในบทบาทของ นางแบบ แล้วก้าวสู่การเป็นดาราภาพยนตร์ มาถึงจุดสูงสุดแห่งวงการมายาที่การเป็นนักร้องสาวสุดเซ็กซี่
	แต่บางทีดาวบางดวงอาจเบื่อการยอแสง เบื่อการถูกเฝ้ามอง และตั้งความคาดหวังไว้จากประชาชนผู้เคลิ้มฝัน
	ความเป็นลูกครึ่งที่มีความคิดอิสระ เป็นเอกเทศ ไม่ขึ้นอยู่กับใครทั้งสิ้น จู่ๆอนิสตาหันหลังลงจากเวทีการแสดง ละทิ้งชื่อเสียง รายได้ ประกาศอำลาวงการ
	พร้อมเป้สะพายหลัง กับอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวเต็มที่ เพียงปล่อยผมที่หยิกสลวยให้ระดวงหน้าได้รูปพริ้งพราย แล้วสวมแว่นกันแดดขนาดเขื่องแบบเฉี่ยว เธอก็กลืนหายไปกับบรรดาแบ๊คแพ็คเกอร์ที่เกลื่อนหัวลำโพงรอขึ้นรถไฟขึ้นเหนือ ล่องใต้ ตามประสาคนรักการเที่ยวละไม
	หนึ่งในนั้นที่ตั้งเข็มทิศไว้ที่เมืองเชียงใหม่ คือเธอ ดาวที่โน้มตัวลงมาจูบดิน...
			ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณแม่ ... อนิสตาวางสายโทรศัพท์สาธารณะลง ก่อนฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ หลังจากฝากความคิดถึงไปยังมารดา
	บัดนี้ไม่มีอีกแล้วเสียงโทรศัพท์มือถือที่จ้องตามจิกตัวเธอให้ไปถ่ายแบบ สัมภาษณ์ คิวละคร วันนี้และวันต่อๆไป คือวันเวลาของเธอ
	ซึ่งเธอเข้าใจดีว่า ไม่นานนัก ดาวดวงใหม่ก็พร้อมจะแทนที่เธอตลอดเวลา ความเป็นจริงเท่านั้นที่เธอปรารถนา ไม่ใช่ความมายาทีปลอบประโลมให้ผู้คนล่องลอยเคลิบเคลิ้มไปตามฝัน เพื่อหนีคืนวันอันหนักหนาสาหัสจากพิษเศรษฐกิจ
	เธอเอนตัวลงบนเบาะรถไฟนอน แล้วหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาเป็นเล่มที่เธอหมายมั่นปั้นมือจะอ่านมานานโขแล้ว..
	จากนั้นเธอก็ดำดิ่งลงสู่ห้วงแห่งจักรวาลวรรณกรรม จนลืมไปว่าวิวข้างทางนั้นแอบค้อนว่าทำไมเธอไม่เหลือบแลบ้าง
	ผ่านมาจนถึงปากน้ำโพ จึงค่อยละสายตาออกมาดูวิวทิวทัศน์พักสายตา จนมีชายหนุ่มคนหนึ่ง เหน็บหนังสือเล่มเดียวกันกับที่เธออ่านเดินผ่านไป คงไปตู้เสบียงเธอคิด
	หนังสือก็เหมือนคนอ่านไม่ต่างกัน จะมีหนังสือไม่กี่เล่ม ไม่กี่ประเภทที่นักอ่านชื่นชม และมักใช้ต่างเครื่องประดับไม่ต่างจากเพชรนิลจินดาทั้งหลาย
	ว่ากันว่าบางคนใช้หนังสือแทนตัวเองว่า วันนี้จะถือเล่มใดออกจากบ้าน ดังการเลือกเน็คไทสักเส้น จึงจะค่อยสบายใจ ไม่ตัวเบาหวิวปลิวลม 
	สักพักอนิสตาก็ก้มหน้าอ่านหนังสือไปสักพักก่อนหนังตาหนักแล้วหลับไปในที่สุด
		...........................................................

	คลับคล้ายคลับคลาในฝันนั้น เธอกลายเป็นหนึ่งในตัวละครของหนังสือเล่มนั้น หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำ เมื่อต้องโลดแล่นไปตามบทบาทที่ผู้ประพันธ์วางไว้
	จนต้องผวาตื่นมา แล้วจึงค่อยหายตกอกตกใจในฝันกลางวัน จนกระทั่งมาพบเจอภาพเคลื่อนไหวเบื้องหน้าคือสะพานเล็กๆตรงเนินเขาเขียวขจีที่รถไฟกำลังวิ่งผ่าน
	ราวกับรถไฟขบวนนี้เป็นรถรางสายปรารถนา พาผู้โดยสารไปสู่ดินแดนมหัศจรรย์
	แล้วสายตาของเธอก็สานเข้ากับแววตาสนิมเหล็กคู่นั้น...ตรงหน้าต่างถัดไปสองที่นั่ง
	เป็นหนุ่มคนที่ถือหนังสือเล่มนั้น

ที่นี่สถานีเชียงใหม่
	ตอนนี้นะโมกำลังมองวิวที่วิ่งผ่านหน้าต่างรถไฟ ด้วยอาการอยากจาริกไปยังสถานที่ใหม่ ๆ เผื่อจะปลุกเร้าธาตุรู้ภายในให้กระฉับกระเฉงขึ้นมา
	อีกทั้งเชียงใหม่ก็เป็นดังสำนักตักศิลาที่ฝึกปรือให้ตัวเองได้รู้จักคุณค่าแห่งการดำรงอยู่
	ณ เชิงดอยสุเทพคือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มอเชิงดอยในฝันของหนุ่ม-สาวจากทั่วสารทิศมาร่วมฝัน ร่วมวัน ร่วมวัย เติมรสชาติให้ชีวิตการศึกษา และแสวงหาความหมายของหัวใจ ณ ที่นี่
	ย้อนไปยังวันแรกที่ต้องนั่งรถไฟรับน้อง นะโมอดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นผู้ชายเก้ๆกังๆคนหนึ่งที่หันรีหันขวางชนโน่นชนนี่ เพราะหอบกระเป๋าพะรุงพะรัง เป็นบ้าหอบฟาง
	เลยอาสาไปช่วย เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวของนะโม มีเพียงย่ามใบโต และเป้ทหารของลุงใบเก่าเท่านั้น
	ทั้งสองหนุ่มจึงได้รู้จักกันมาตั้งแต่นั้น
		เรา..พู่กันคณะศึกษา เอกปรัชญา
		เรา...นะโม วิจิตรศิลป์ เอกภาพพิมพ์
	รอยยิ้มทั้งสองก็แลกกันอย่างน่าฉงนในที่มาของชื่อ แต่ต่างสถานะ
	จากนั้นทั้งคู่ก็เป็นดังปาท่องโก๋ที่ท่องไปทั่วแดนเหนือ เสาะหาความหมายของมิตรภาพผ่านการเดินทาง ผ่านหน้าหนังสือปรัชญา หนังสือโป๊ ผ่านน้ำเมา...จนกระชับมั่น
	เป็นภวังค์หนึ่งก่อนจะได้สบกับแววตาหวานล้ำโดยไม่คาดฝัน ในตอนที่แอบมองวิวสวยตรงระหว่างลำพูน ลำปาง ก็ไม่ได้จดจำหลักเขต เพราะภาพนั้นมันงามน่ารักจนไม่อยากจะไปสนใจเรื่องอื่น
	ทำให้ต้องสบตาแลกใจกันอย่างกับว่าบุพเพมันอาละวาด
		ยิ้มพิมพ์ใจโดยไม่ได้นัดหมาย สองหัวใจเหมือนมีไฟเข้าช๊อต
	ไม่นานที่ตู้เสบียง ทั้งสองก็มานั่งพูดคุยกันถึงหนังสือ หนังหาที่ผ่านสายตาอย่างออกอรรถรส ไม่ผิดจากโต๊ะอื่นๆที่ร่ำสุราไปก็พูดจาเรื่องสองแง่สองง่ามตามประสา


ไหว้พระพุทธชินราช
	เมื่อเป็นดังนี้ นะโมตัดสินใจเดินทางต่อกับอนิสตา คงเป็นเรื่องราวของบุพกรรมที่มีมาแต่เก่าก่อน หลังจากตระเวนแอ่วดอยจนถ้วนทั่ว
	อนิสตาจึงอนุญาตให้เขาเป็นดังมักกุเทศน์สมัครใจ เพื่อนำพาให้เธอได้รู้จักแผ่นดินแม่อีกแผ่นดินหนึ่งที่เป็นดังเลือดเนื้ออีกครึ่งหนึ่งในเรือนกายเธอผ่านการเดินทาง
	ประวัติศาสตร์ก็คือห้องเรียนที่ผ่านข้ามกาลเวลา 
	เมืองสองแคว หรือพิษณุโลกกำลังกลายเป็น 4 แยกอินโดจีน ซึ่งกำลังทวีความสำคัญจากชุมทางภายในประเทศ สู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมระหว่างประเทศ

ส้มตำลำโขง
	จากธารน้ำแข็งละลายตัว ไหลรวมลงมาตามทางน้ำผ่านนานาประเทศ ลุ่มแม่น้ำโขงคือเส้นเลือดใหญ่แห่งอุษาคเนย์
	เป็นบ่อเกิดแห่งความเชื่อ ความศรัทธา คือตำนานบ้องไฟพญานาค
	เป็นบ่อเกิดแห่งอารยธรรม ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ดังที่ทราบกันดี
	เป็นบ่อเกิดแห่งพันธุ์ปลาน้ำจืด เช่นปลาบึก ปลาราหู ซึ่งต้องทึ่งในขนาดด้วยความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางธรรมชาติ โดยไม่อาศัยเทคโนโลยีทางพันธุวิศวกรรม DNA ให้ยุ่งยาก
	สองหนุ่มสาว นะโมและอนิสตา นั่งเคียงกันยังรถบัสสีส้มที่เอื่อยเฉื่อยราวลมโชยริมทุ่ง ในลีลาถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง
	บางคราวก็มีไก่ มีหมู มาเป็นผู้โดยสาร
	และบางครั้งผู้โดยสารก็ต้องกลายเป็นแรงม้าสำรอง ช่วยเข็นรถบัสยามเครื่องยนต์พยศขึ้นมา
	ล้วนเป็นความงามวิถีชนบทที่ยังคงอยู่ตามถิ่นฐานบ้านไกล ซึ่งคงไว้ด้วยน้ำใจไหลเย็นรินให้กันไม่ขาดสาย


เลาะตรอกข้าวสาร-เลียบย่านบางลำพู
	งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา อนิสตาพานะโมย่ำบางกอก ก่อนจะตัดสินใจชั่วแวบเดียวด้วยการเข้าไปจองตั๋วไปอิตาลีทันที
	เผอิญโชคดี เธอได้ตั๋วเดินทาง ชั่วเวลารอคอยวันเวลาเครื่องขึ้น ที่เกสต์เฮ้าส์ขนาดกระทัดรัด คือเซฟเฮ้าส์ของเธอ
	ส่วนนะโมก็เตร็ดเตร่มาดื่มกาแฟเป็นเพื่อนยามเช้า แล้วลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยเขตเกาะกรุงรัตนโกสินทร์
	แล้วมานั่งละเลียดค๊อกเทลที่ตรอกข้าวสาร ก่อนแยกย้ายไปหลับเอาแรงตระเวนถิ่นฐานย่านพระนคร รวมทั้งการเข้าชมหอศิลป์ในละแวกนี้จนถ้วนทั่ว 

สะแกกรังยังเอื่อยไหล ห้วยขาแข้งยังไกลโข
	
สัปดาห์หนังสือแห่งชาติหน้า 
	ถึงมีรายงานทางสถิติว่าคนไทยอ่านหนังสือน้อยมาก ทั้งที่เวลามีงานมหกรรมหนังสือฯ ณ  ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์จะพบความหนาตาของบรรดาหนอนหนังสือหลั่งไหลมา ทั้งครอบครัวตัวหนอนหนังสือก็ยกบ้านมา ทั้งหนอนหนังสือโสดหลายตัวก็มาพบรักกันตรงแผงหนังสือ
	น่าแปลกตรงที่คนมากันล้นงาน แต่หนังสือกลับมีไม่กี่ประเภทที่ขายดี ส่วนที่เป็นหนังสือดีมีคุณภาพก็เห็นแอบกระซิบขายด้วยน้ำตานองหน้าว่าค้างปีมากกว่าปลาร้าค้างไห
	กว่าจะพิมพ์ได้ นักเขียนต้องเคี่ยวเข็ญตัวเองให้ได้มาซึ่งแรงบันดาลใจ ใช่ว่าจะลอยมากับแมลงหวี่ แมลงวัน ก็หาไม่ ต้องชอนไชใช้เงินล่วงหน้าหาประสบการณ์เอามากลั่นกรอง แปรรูปเป็นตัวหนังสือ
	สุดท้ายพิมพ์ออกมาค้างแผงเล่น ราวว่าวค้างเสาไฟ

	แต่หนังสืออะไรก็ไม่รู้ที่ว่าแต่เรื่องในมุ้ง ยุ่งกันใต้สะดือ ของการสาวไส้ให้กากินโดยคนดังทั้งวงการนั้น ขายดิบ ขายดี ราวกับเรียงเบอร์วันหวยออก
	 หรือจะเป็นหนังสือต่างชาติ คนต่างด้าวเขาเขียน พอเอามาแปล แถมการันตีว่าคนทั้งโลกเขาอ่านกันทั้งนั้น ไม่ได้พอพี่ไทยคว้าหมับจับมาแปล แล้วสร้างกระแสโปรโมท ก็ขายดีถล่มทลายอย่างพ่อมดน้อยนามแฮรี่ พ๊อตเตอร์ที่ดูไปก็ไม่เห็นจะเก่งกาจเท่าสี่ยอดกุมาร ,ขวานฟ้าหน้าดำ และโกมินทร์ไปสักกี่มากกี่น้อย
	นักเขียนไทยจะแจ้งเกิดได้อย่างไร....แต่ก็ไม่เป็นไร การอ่านทำให้เราเขียนโลกได้ทั้งใบ แต่การเรียนทำให้เราวาดหัวใจได้สวยงาม
	จะหนังสือขอม สวีเดน เอสกิโม ก็คือภูมิปัญญาทั้งสิ้น ถ้าเราใช้หัวสมองอ่านอย่างตริตรอง แล้วใช้หัวใจสัมผัสรับสื่อจากสารส่งผ่านตัวอักษรมา
	นั้นคือ...โลกอีกหลายใบที่เธอจะได้ครอบครอง จากสิ่งที่เรียกว่า  หนังสือ 
	



โปสการ์ด หรือ ปลาหมึกย่าง
	การเดินทางไม่ต่างจากการบันทึกรอยเท้าของเราบนแผ่นดินถิ่นฐาน และความทรงจำหากมีไว้แต่ผู้เดียวก็เหมือนสมบัติที่ฝังไว้ในไหส่วนตัว
	กระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่เรียกกันว่าโปสการ์ดเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำร่วมกัน ระหว่างนักเดินทางที่ส่งผ่านอารมณ์ ความรู้สึก ผ่านกลุ่มประโยคกระชับมั่น พร้อมภาพด้านหน้าที่เกี่ยว หรือไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในขณะนั้นก็ตามที
	คือหน้าที่ของโปสการ์ดแผ่นกระดาษวาดความทรงจำสาธารณะ
	หลายต่อหลายสายตาแม้จะไม่เจตนา แต่ก็แอบเหลือบชำเลืองอ่านถ้อยคำที่เขียนมาบนแผ่นโปสการ์ด พร้อมกับคาดเดาว่าใครเป็นคนส่ง ใครหนอที่รอคอยรับอยู่ปลายทาง
			ขอบคุณครับ...น้าไปรษณีย์
	ปึกหนึ่งที่นะโมรับมาจากคุณน้าไปรษณีย์ ด้วยว่ากระท่อมนั้นตั้งห่างชุมชนแสนไกลลิบลับ จึงต้องรอรวบรวมทีเดียวค่อยมาส่งให้ถึงมือ
	อีกอย่างหนึ่งคือ นะโมเองก็ไม่ได้รีบร้อนต่อการติดต่อด้วยระบบการสื่อสารที่ออกจะล่วงสมัยแล้ว แต่เสน่ห์บางอย่างของโปสการ์ดที่ต้องเดินทางผ่านหลายถุงเมล์ไปรษณีย์นั้น มัดใจเขาอยู่หมัด เหมือนแสตมป์ที่ติดผนึกแน่นบนแผ่นโปสการ์ดเช่นกัน
			จากไอ้โหน่ง อุตรดิตถ์ ลูกสองคนแล้ว กำลังต่อโท..
			ของพู่กัน กำลังมีความรักอีกครั้ง..หึ หึ ไอ้แห้วสนิท
			................
	ด้วยหน้าที่ของโปสการ์ดนั้นผูกสัมพันธ์กับคนที่รู้คุณค่า และประณีตหมดจด อาจทำให้ไม่ได้รับชะตากรรมอย่างคู่แฝดเช่น โทรเลข 
	เพราะการมีโทรศัพท์มือถือขึ้นมา หมายถึง การติดต่อสื่อสารปานสายฟ้าแลบ
	ใครดี ใครร้าย ใครหาย ใครโผล่...โทรปั๊บ รู้ปุ๊บ
	แล้วใครจะถ่อสังขารไปที่ทำการไปรษณีย์เพื่อกรอกข้อความกระชับ ชัดเจน ส่งสัญญาณตะแล๊บแก็ปไปยังปลายทางให้เมื่อยตุ้ม
	บทบาทของโทรเลขจึงค่อยจางหายไปกับเทคโนโลยี แต่โปสการ์ด หรือ ไปรษณียบัตรนั้น ยังยืนยงด้วยว่า
	ความช้าที่น่าลุ้น ความกล้าที่ท้าอ่าน
	กว่าโปสการ์ดจะถึงมือคุณ...ใครต่อใครที่ได้ผ่านตา ผ่านมือเจ้าแผ่นกระดาษขนาดไม่ใหญ่กว่าฝ่ามือนัก ก็ต้องแอบดูรูปด้านหน้า แล้วอดใจไม่ได้ต้องเผลอพลิกอ่านข้อความด้านหลัง
	แล้วคาดเดาว่า ใครส่ง  ใครรับ ตามแต่บุคลิกที่แฝงมาในข้อความนั้น ๆ

	ที่สุดแล้ว โปสการ์ดมันมีบุคลิกภาพเป็นตัวของมันเอง
	จึงกลายเป็นสิ่งของร่วมสมัยที่ยังคงบทบาทอยู่
	จนกระทั่งมาเจอ.....หนุ่มวัยกลางคน ใบหน้าเหมือนสนามเพลาะที่ถูกกับดักระเบิดทำลายไปครึ่งอาณาเขต
	เขาขายโปสการ์ดแลกข้าว ( มื้อละหลายร้อยกิน ) แลกบ้าน ( แบบทาวน์เฮ้าส์ทรงยุโรปทางตอนใต้ ) แลกรถ ( ฟอร์ด เอสแคปสีเหลืองขี้ นำเข้า )...
	สนราคา 3 ใบ 10 มากว่า 5 ปีเข้าให้ในจำนวนประมาณกว่า 150,000 ใบเข้าให้ แม้จะมีสุ้มเสียงค่อนขอดว่า 
			ทำวงการโปสการ์ดเสื่อมเสีย
	แต่กลยุทธ์ย่อมเป็นกลยุทธ์ การค้าไม่ใช่การคบมิตร ผลประโยชน์ กำไร มาก่อนคำว่าเพื่อนแท้
	โปสการ์ด หรือปลาหมึกย่าง มีให้คุณเลือกตามใจ จะอิ่มท้อง หรือ อิ่มใจ
	สามใบสิบ หยิบกันแบบไม่ต้องคิด
	เหมือนหยิบใบไม้ที่โรยร่วงดาษดื่น แต่ก็มีความงามของใบไม้เช่นกันอยู่ครบเครื่อง ด้วยมาตรฐานบัณฑิตจิตรกรรม ศิลปากรของหนุ่มหน้าอุกาบาตคนนี้
	อย่างน้อยก็เป็นความงามที่แฝงไว้เช่นงามอย่างมีคุณค่า  ราคาน้ำเต้าหู้
	เช่นกันโปสการ์ด จะเป็นไปรษณียบัตร ( เอาไว้ส่งชิงโชคบอลโลก ) โปสการ์ดแฮนด์เมดราคาสูงตามฝีมือ หรือ โปสการ์ด 3 ใบ 10 
	มันก็มีบุคลิกไม่ซ้ำแบบกัน เหมือนปลาหมึกย่างที่เค็มไม่เท่ากันสักตัว แต่มีไอโอดีนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายทุกตัวเช่นกัน
	แต่อย่าเผลอเอาแสตมป์ติดปลาหมึกย่าง แล้วเอาโปสการ์ดจิ้มน้ำจิ้มแทนก็แล้วกัน

หัวใจชิงดวง
	เราต่างรู้ดีว่าความรักเป็นเรื่องของการสุ้มเสี่ยง ความรักคล้ายเกมส์พนัน ต่อให้เป็นคนใกล้ตัวกันเพียงไร บางครั้งควมรักนั้นก็ไม่เป็นเช่นใจแอบเข้าข้างตัวเอง
	เพราะความรักอาจมาจากแดนไกล หรือ อาจเป็นการชักจูงหัวใจให้ไปหารักไกลตัว
	หัวใจคล้ายดาวตก คุณไม่อาจคำนวณถึงทิศทาง ที่มาที่ไป แบบแน่ชัดได้
	จู่ ๆ ขีดวาบขาวพราวฟ้าก็พาดผ่าน จนมองแทบไม่ทัน
	จู่ ๆ ความรักก็เช่นกันปรากฏแวบขึ้นในใจ จนไม่อาจคว้าไว้ได้
	หมอเพชรและพู่กัน รักมายา
	แต่ มายายังไม่ปักใจในรักใด
	 ส่วน นะโมนั้นรักในมิตรภาพ 
ความรักของคนรักของเพื่อนรัก
	เบื้องล่างคือท้องทะเลผู้แปรผัน เบื้องบนคือท้องฟ้าผู้ปรวนแปร เบื้องหลังคือความรักที่แปรเปลี่ยน ชายหนุ่มผู้สวมเสื้อกาวน์สลัดความคิดทั้งมวลทิ้งไว้ยังท้องทะเลเบื้องล่าง
	เพราะเบื้องหน้ายังมีคนทุกข์คนยากที่ขาดความรู้ ความเข้าใจในการดูแลรักษาสุขภาพ
	เขาไม่ใช่หมอที่หวังแต่เพียงรายได้จากค่ารักษาพยาบาล แต่เขาปรารถนาจะเห็นความอยู่เย็นเป็นสุข
	งานส่งเสริมสุขภาพจึงเป็นรากฐานของการสร้างเสริมคุณภาพชีวิต
	แม้งานของหัวใจจะไม่สำเร็จ ไม่สมหวัง แต่งานของชีวิตกำลังจะเป็นหลักชัยของชุมชน

เพลงซุกซน-ดนตรีคึกคัก
	โลกเราก็เหมือนเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งที่รักความสนุกสนาน ดังนั้นของเล่นที่โลกเราชอบใจก็คงจะเป็นบทเพลงบรรเลงกล่อมที่มีทั้งเพลิดเพลิน และเศร้าสร้อย สลับสับเปลี่ยนกันไป
	วันนี้พู่กันหยิบเอาแผ่นซีดีเพลงของหลายๆวงคละรุ่นคละแบบมาเปิดฟังกับบรรยากาศหน้าหนาวของเมืองปาย
	เมื่อวานเหมือนว่ายังเดินอยู่กลางเวียงเจียงใหม่ แต่วันนี้แมลงหวี่อย่างพู่กันก็บินรี่มายังปาย ดินแดนมนต์เสน่ห์ขุนเขาและลุ่มน้ำ
	แม้จะเริ่มมีผู้คน มีบ้านเรือนเพิ่มขึ้น แต่หากมีการจัดการที่ดีย่อมเป็นผลดีทั้งสองฝ่าย คือ ระหว่างธรรมชาติผู้นิ่งเฉยแต่สวยเฉียบ กับมนุษย์ผู้มากเรื่องแต่ตัวน้อยนิด ได้เคารพในวิถีซึ่งกันและกัน
	ตะวันฉายเลาะไหล่เขา หากไร้ดวงตาใครมาจับจ้อง หรือแม้แต่การบันทึกด้วยฟิล์ม ก็คงเป็นเช่นสิ่งที่ไร้การสนองตอบ
	ความงามต่างสะท้อนซึ่งกันและกัน ในเบื้องลึกของมนุษย์คือความงามแห่งการปรุงแต่ง และเบื้องหน้าอันไพศาลคือความงามของธรรมชาติอันไร้จริต
มงกุฎวรรณกรรม
	การเดินทางของหนังสือเล่มหนึ่ง ไม่ใช่การถูกหยิบจากมือใครคนใดคนหนึ่ง หรือการถูกบรรจุใส่กล่องแล้วรอการขนส่ง
	แต่หมายถึงความหมายในถ้อยคำที่นักเขียนประจงถักทอร้อยเรียงความคิดฝันปัญญาผนึกไว้แนบ ณ หน้ากระดาษ แล้วกลายเป็นสะพานข้ามกาลเวลาที่จะพานักอ่านได้ข้ามสะพานประโยคเพื่อสัมผัสอาณาจักรอักษรที่ซ่อนไว้ในแต่ละบรรทัดของหนังสือแต่ละเล่ม
	หนังสืออาจเปียกฝน มอดกัด ไหม้ไฟ แต่ความหมายที่ส่งผ่านมาทางประโยคนั้นจะดำรงอยู่ในความทรงจำของนักอ่าน

หมอไม่ใช่หมอ
	ความรู้สึกแปลกใจที่หมอเพชรพบจากเพื่อนร่วมงานที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนักในวงกว้าง แต่วัดจากระดับท้องถิ่นแล้ว คำว่าหมออนามัย ไม่ใช่ของเล่น

นักพรตเจ้าสำราญ กับ โยคีจอมสำรวย
	มนุษย์มีหลายประเภท และมนุษย์บางประเภทมีหลายบุคลิกภาพ ดังเช่น

นกหลงฟ้า ปลาหลงน้ำ
	นกมองไม่เห็นฟ้าที่ตัวเองกำลังบินอยู่ เช่นปลาที่ไม่อาจรู้ว่าน้ำนั้นเป็นอย่างไร คนก็เช่นกันไม่สนใจว่าจะอยู่ดินถิ่นฐานใด ก็ขอเพียงสุขใจก็พอ
	มีฝรั่งคนหนึ่งอายุก็ล่วง 50 กว่าปีจากการคะเน ไม่สำคัญเท่า การเดินท่อม ๆ เก็บขยะบนชายหาดใส่ถุง เที่ยวแล้วเที่ยวเล่า
	คนต่างมองว่าแกหลง ๆ ลืม ๆ 
	
ใครว่าไอน์สไตน์ฉลาด
			นายว่าไอน์สไตน์โง่หรือฉลาด
			ไม่รู้ เรารู้แต่ว่าไอน์สไตน์มีคุณธรรมสูง สูงพอที่จะเรียกว่าพ่อพระได้
			ทำไม ?..นายคิดอย่างนั้น

เขียดตะปราชญ์
			ดูนี่สิ..มหาวิทยาลัยเหมือนหอคอยงาช้าง...ช่างเปรียบเปรยดีเนอะ
			ถ้ามหาวิทยาลัยเป็นหอคอยงาช้างแล้วอาจารย์ในมหาวิทยาลัยล่ะ
			คงเป็นขี้ฟันช้างมั๊ง..
			นักศึกษาก็คงเป็นพวกเห็นช้างขี้ตามช้าง

สำนักพิมพ์ในกะลา
			หนังสือเต็มแผงเลย...
			มีแต่หนังสือดารา ซุบซิบบ้าบอ
			แต่อาจเป็นสื่อนำให้คนหันมาอ่านหนังสือกันมากขึ้น
			ผิดเต็มประตู มอมเมาชัด ๆ ยั่วยุกามารมณ์อีกต่างหาก
			ใช่ มีแต่รายการโฆษณาขายของยั่วน้ำลาย

สถานีโทรทัศน์รายการเห็นดอกบัวเป็นกงจักร
			รีโมทมีไว้ก็ไม่มีประโยชน์
			รายการดีๆเหมือนดอกบัวที่เจ้าของรายการโทรทัศน์เห็นเป็นกงจักร
			เคเบิ้ลทีวีก็แพงเป็นบ้า น่าจะยอมให้มีโฆษณาลงไปสนับสนุนบ้าง 
			ข้อมูลเป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญสำหรับเด็กๆ
			แต่บ้านเรามีแต่รายการหลอกเด็ก
			รายการชวนคนดูเห็นกงจักรเป็นดอกบัว


กาวดักหนูยี่ห้ออินเตอร์เน็ต
	ดาบมีสองคม อินเตอร์เน็ตก็เช่นกัน เด็กสาวหลายคนใช้มันเพื่อ

สิ่งแวดล้อมไม่น่าศึกษา
	หากท้องฟ้ามีแต่ควันพิษจากปล่องไฟโรงงาน หากท้องทะเลเต็มไปด้วยคราบน้ำมันลอยเคลือบ

วาทกรรมคำเท็จ
	เธอเชื่อในความจริงแค่ไหน คำว่าศรัทธา กับ งมงาย ไม่ใช่ฝาแฝดหรอกหรือ

กำ(บัน)ไร
	ธนาคารยิ้มแก้มปริเมื่อผลประกอบการประกาศออกมา นักธุรกิจหัวเราะร่าเมื่อกระดานหุ้นดีดตัวกระเด้งเป็นกระทิงเปลี่ยวตกมัน 

ทุนนิยม/ธรรมนิยม
	เมื่อคลื่นลูกที่สามโหมซัด จุดเริ่มต้นของอารยธรรมมนุษย์คือความเชื่อ ความศรัทธาได้ถูกผลักห่าง เรื่องของวัตถุนิยมก้าวเข้ามาเป็นศาสดาองค์ใหม่ ทิ้งให้แมลงมุมชักใยบนหิ้งศาสดาแห่งศาสนาทั้งปวงต้องเลือนหายไป 

นายสังคมป่วยหนัก
	แต่ละหน้าของหนังสือพิมพ์คือบทสะท้อนขั้วตรงกันข้ามกับใบลานที่จารึกหลักธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก

นางสาวเศรษฐกิจไข้จับ
	บรรทัดฐานใหม่ของการมีชีวิตอยู่คือการบริโภค จับจ่าย

ทฤษฎีพอเพียงก็เพียงพอ
	ฟองสบู่ที่ดูเลื่อมพรายใสสวยก็ถึงวันแตกกระจายสลายร่าง



ถั่วงอกรำพึง
	เมื่ออัตตานั้นกลายเป็นสิ่งสำคัญ ผู้คนทั้งหลายจึ่งนับหน้าถือตากันด้วย เงิน เป็นสำคัญ ซึ่งความหมายนี้ นะโมเองก็รับทราบแต่โดยดี มิได้ฮึดฮัดอึดอัดใจต่อระบบเงินต่อเงิน ทองต่อทองแต่ประการใด
	เพราะแต่ละวันของการกินอยู่ของเขาคือ การกินเพื่ออยู่ ใช่อยู่เพื่อกิน
	กะเพรา โหระพา พริกชี้ฟ้า ข่า ตะไคร้ ลงแปลงปลูกอยู่ข้างกระท่อมพร้อมเด็ดฉวยมาปรุงใส่หม้อแกงทันที สดกว่าคำว่าเราคัดความสดอย่างซุปเปอร์มาร์เก็ตป่าวประกาศไว้
	ทั้งที่ความสดนั้นคงรูปกว่าเดือน กว่าปี ย่อมต้องมีสารเคมีอมตะเป็นตัวหล่อเลี้ยงให้พืช ผัก ผลไม้ ได้สดข้ามศตวรรษ
	แล้วผลบั้นปลายนั้นสารเคมีอมตะก็มาเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์มะเร็งคุกคามเนื้อเยื่อเราเอง

ใบตองมองจานดาวเทียม
	ก่อนกล่องโฟมจะก้าวมาแทนที่ถุงพลาสติก หรือถุงก๊อบแก๊บนั้น ยังมีถุงกระดาษโชคดีทำหน้าที่เป็นบรรจุภัณฑ์ เวลาแม่บ้าน แม่เรือนซื้อหาจับจ่าย
	
ครัวไทย ครัวโลก (อมโรค)
	ความหลากหลายแห่งภาคพื้นคาบสมุทร ไม่ว่าจะเป็นคาบสมุทรเมดิเตอเรเนียนก็มีพืชผลธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ หรือคาบสมุทรมลายูก็เช่นกัน คือที่มาแห่งเครื่องเทศ
	เมื่อวัตถุดิบดีเยี่ยม ย่อมเป็นที่มาของอาหารเลิศรส
	ครัวไทยก็กลายเป็นนโยบาย

เจ้าพระยากำสรวล
	สายเลือดไม่เคยเหือดแห้งจากเรือนกายของเรา หากชีพยัง แต่บัดนี้

น้ำ(ของ)มัน
	มันมาจากซากพืช ซากสัตว์ที่ทับถมหลอมรวมกัน ผ่านแรงบีบอัด ผ่านกาลเวลา จนเป็นแหล่งพลังงานที่ถูกขนานนามว่าเป็นทองคำดำ

น้ำใจคือสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุด
	สารพัดผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นบ่อเกิดของขยะปฏิกูลเช่นกัน ดังนั้นหากเรามีจิตสำนึกถึงการอยู่ร่วมกัน น่าจะมีมาตรการบางอย่างที่จะทำให้โลกเกลี้ยงเกลาเบาสบายขึ้น

อย่าปลูกต้นไม้กันเลยแล้วกัน
			น่าจะมีรางวัลโนเบลสาขาปลูกต้นไม้
			ตำรวจที่ชื่อดาบวิชัยก็จะได้
			แต่ถ้ามีรางวัลโนเบลสาขาตัดไม้ทำลายป่า ..กรมป่าไม้ไทยแลนด์รับทันที

ปรากฏการณ์เรือนกระจกที่ประจักษ์
	หากเรายังนิยมปลูกบ้าน ปลูกตึกกันมากกว่าปลูกต้นไม้ใบหญ้า โลกก็จะป่วยด้วยพิษไข้ขึ้นสูง เพราะว่า การเกิดขึ้นของวัสดุก่อสร้างทั้งหลาย คือการสร้างสมความร้อนสะสมลอยสู่ชั้นบรรยากาศนั่นเอง
	เมื่อมากคนก็มากด้วยการใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องผลิตข้าวของมารองรับปริมาณคนที่เพิ่มทวีขึ้น

เมื่อโลกบิดขี้เกียจ
			ดูสิแผ่นดินไหวบ่อยขึ้น

เทพเจ้าเนปจูน และกุลธิดาสึนามิ
	ไกลโพ้นไปสุดปลายระบบสุริยะจักรวาล บัลลังก์แห่งเทพเนปจูนแห่งวารีธาตุ

พลิกนาฬิกาทรายให้ฝุ่นจำศีล
			เราอยากอยู่คนเดียวสักพัก  พู่กันกล่าวกับนะโม กัลยามิตรที่พร้อมยอมรับในน้ำมิตร
			ดีเลย เรากำลังจะออกไปข้างนอกพอดี
			ไปซื้อโอเลี้ยงเหรอ
			ไปธิเบต
			ไอ้บ้า...งั้นเข้าท่าเลยเราจะอยู่ซะอาศรมนี้เลย
			อืมม์ เวลาจะช่วยนายได้
	แล้วเม็ดทรายก็ติดปีก ส่วนฝุ่นผงก็กำลังติดกาวให้ตัวเองอยู่กับที่ เพื่อปลอบโยนดวงใจที่สูญเสียให้บรรเทาเบาบางลงด้วยความโศกเศร้าเกาะกุม
	คนรักที่เอ่ยคำลา และจากไปยังดีเสียกว่าคนที่รักกันที่จากลาแสนไกลด้วยเส้นแบ่งของความเป็น-ความตาย

ฉากอวสาน
Rianbow   of    forever
	ณ กระท่อมเคียงผาชมจันทร์ ที่ซึ่งพู่กันได้หยุดพักการร่อนเร่ทางความรู้สึกไว้ชั่วขณะ เนื่องจากหัวใจอีกดวงได้ล่วงสู่สัมปรายภพ
	เป็นห้วงที่นะโมได้ออกจาริกจากภูมิลำเนา ไปยังดินแดนหลังคาโลก คือ ธิเบต เพื่อศึกษายังที่มาแห่ง
ปรัชญาล้ำลึกบนความเรียบง่าย 
	และแล้วสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลงก็พัดพาเม็ดทรายคืนมายังวนาสถาน
	เวลานั้นเหมือนฟ้ายินดี ส่งปรอยฝนมาโปรยไพร ฉากหลังคือหน้าผาตระหง่านรับแสงแดดยามบ่ายที่เริ่มอ่อนโยนลง
	และรุ้งก็ทอตัวถักสีออกมาเป็นสะพานข้ามเมฆ
	
	ชายหนุ่มทั้งสองค่อยทักทายไต่ถ่มความเป็นมา เป็นไป ท่ามกลางละอองฝน อย่างชื่นใจ
	แต่แล้วเสียงรถมอเตอร์ไซค์ก็ค่อยดังขึ้น จนมาใกล้ตัวจึงมีหญิงสาวหน้าตาแจ่มใสภายใต้หมวกนิรภัยเทอะทะส่งยิ้มมาแต่ไกล
	เมื่อถอดหมวกออก สิ่งซึ่งกำบังถูกปลดออกจากดวงหน้าแฉล้มนั้น เหมือนมนต์สะกด
		 ....มายา....
	ภาพประพิมพ์ประพายผุดขึ้นระหว่างความทรงจำที่มีต่อกัน 
	
		สวัสดีค่ะ ฉันชื่อนาโมริ เป็นชาวญี่ปุ่น มาทำงานด้านพัฒนาชนบท มาขอรบกวน......
	เหมือนการเชื่อมโยงดวงใจขึ้นมา
		 หัวใจดวงนี้เป็นของนาย.... พู่กันเอื้อมมือตบบ่านะโม สหายผู้เอื้ออารีมาโดยตลอดแล้วผินหลังเดินหลบฉาก ด้วยหมายใจว่าจะรีบเก็บสัมภาระ พร้อมจะติดปีกให้ผงฝุ่นอิสระเช่นตัวเอง ให้ล่องลอยและโบยบินไปตามแต่สายลมแห่งโชคชะตา

		.....ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ...
		นะโมครับ....ส่วนคนนี้เขาเป็นใบ้พูดไม่ได้ครับ....นะโมได้ทีขี่แพะไล่

	แล้วหัวใจทั้งสามดวงก็ถูกห่อด้วยผืนฟ้า แผ่นดิน มีริบบิ้นสีรุ้งคาดไว้อย่างสวยงาม เป็นของขวัญที่ธรรมชาติส่งมอบให้เป็นดังของขวัญให้เราเข้าใจความหมายของคำว่า รักแท้ มากขึ้นกว่าเดิม
	
	แม้ว่าจะเป็นเช่นฝุ่น ก็ไม่เห็นจะต่างจากทราย เพราะถึงอย่างไร เราก็เป็นหนึ่งเนื้อนาเดียวกันร่วมวัฏสังสารนี้ไปชั่วอนันตกาล.				
28 ธันวาคม 2548 06:36 น.

รูปธรรม นามธรรม "จัดดอกไม้"

pigstation

จัดดอกไม้


	ค่อยหยิบดอกไม้เรียงใส่แจกัน พบว่าเมื่อจัดดอกไม้ ก็เหมือนจัดใจให้สัมผัสกับความประณีตศิลป์
	กล่าวว่า เมื่อจัดดอกไม้ให้สวยงามน่าดูก็คล้ายดังจัดเรือนใจให้งดงามน่ามอง แต่ไม่นานพอ เพราะดอกไม้ย่อมล่วงสู่วันโรยรา
	ใจนั้นก็เช่นกัน มักมีสิ่งรบกวน ล่อลวงให้เกิดความรกเรื้อ วุ่นวายภายในอยู่ไม่รู้จบ ยากจะวัดวางให้ใจได้ทั้งสงบ และผ่อนพัก
	หวนพิจารณาดู เมื่อไม่มีทั้ง ดอกไม้ ไม่มีทั้งแจกัน ก็ไม่ต้องมาปรุงแต่ง คิดประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ที่สมมุติสร้างขึ้นมา
	ดังนั้น เมื่อคิดว่าใจคือความว่าง ดวงจิตคือการปล่อยวาง ทั้งดอกไม้ แจกัน หัวใจ ก็เป็นสูญฺญตา.				
27 ธันวาคม 2548 23:26 น.

สถานะของน้ำมีสติ

pigstation

สถานะของน้ำมีสติ

	ไม่มีอะไรคงรูปอยู่อย่างเสถียรภาพได้ เว้นไว้แต่ธรรมอันเป็นสัจจะที่เที่ยงแท้ ใช่เป็น มายา สิ่งปรุงแต่งอันปลาสนาการ ไร้รูปรอยถาวร มีแต่จะเสื่อมสิ้นสลายไป
	ความไม่แน่นอนบอกสอนผ่านธรรมชาติ เริ่มจาก ผิวน้ำที่ลำคลองหนองบึง ร้อนรนจากการแผดเผาของเตาดวงตะวัน
	จนระเหยเป็นไอน้ำลอยสู่เบื้องสูง ฟ้าไกลแล้วรวมตัวกลั่นกายเป็นก้อนเมฆใหญ่น้อย
	จากสีขาวฟูฟ่อง ค่อยคล้ำเข้ม ร่างก็ใหญ่คับฟ้า เปล่งตัวดูเป็นยักษ์มหึมาน่าพรั่นพรึง กลับไม่อหังการยึดติด ค่อยลดรูป เปลี่ยนร่าง แปลงกายเป็นสายฝนเม็ดน้อย
	แล้วจึงรินสายคล้ายเป็นม่านสวยใสโรยตัวสู่ผืนดินเบื้องล่าง
	วงจรของน้ำคล้ายคลึงกับวงจรชีวิตคนไหม ? ดิ้นรน ทะเยอทะยาน ไปสูงสุด แล้วตอนท้าย ก็ร่วงหล่นลงมายังสถานะเดิม...ไม่แปลกแต่จริง.				
27 ธันวาคม 2548 05:46 น.

สิ่งแวดล้อมทางธรรม "รวงข้าว ราวรวงทิพย์"

pigstation

รวงข้าว ราวรวงทิพย์


	คดข้าวใส่จานแล้วลืมอะไรไปบ้างไหม ? ลืมคุณชาวนายังไม่ร้ายเท่าลืมคุณแผ่นดิน ที่เป็นถิ่นฐานสร้างปวงธาตุทั้งหลายได้มีเครื่องพยุงสังขาร
	แต่ คนมักจะลืมข้าว ...
	...นอกจากเมล็ดข้าวที่หุงหากันง่ายดายปานเนรมิต จากหม้อหุงข้าวไฟฟ้าแล้วไซร้ การซื้อหาข้าวจากซูเปอร์มาร์เก็ตก็กลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่ต้องใช้สมองคิด เพียงหยิบสารพัดถุงบรรจุข้าวใส่รถเข็น แล้วมาที่แคชเชียร์ จ่ายเงิน..จบกระบวนการ
	หรือง่ายดายแค่ เดินทางไปยังภัตตาคาร ร้านอาหารสักแห่ง อ้าปากสั่ง เหมือนเสกบันดาล..
	ทั้งที่กว่าจะเป็นข้าวเม็ดหนึ่งนั้น มาจากฝนกี่หยาด ดินกี่ผืน...หล่อหลอม รวมตัวกันเป็นรวงข้าวจนเต็มนาเขียวสะพรั่ง ก่อนสุกคารวง ก่อนเกี่ยวมาขัดมาสีเอาเปลือกออกเป็นข้าวสารเอามาหุง..
	
	จากนั้น คนจึงลืมข้าวเพราะวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ต่างคน ต่างทำ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่แต่ละครัวเรือนก็มีทั้งนาข้าว ไร่พริก แปลงผัก บ่อปลา...ครบวงจร
	สมาชิกแต่ละคนก็ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมายตั้งแต่หัววันยันค่ำมืด ตั้งแต่วิดน้ำเข้านา ดักปลา ฝัดข้าว หั่นรำตำแกลบ...
	สมัยก่อน คนเราจึงผูกพันกับธรรมชาติ และรู้คุณค่าของสรรพสิ่ง

	สมัยก่อนที่คนธรรมดาสามัญจะกินข้าวกันได้...ต้องนำข้าวที่เพิ่งหุงสุกใหม่ ๆ ตักบาตรถวายเป็นข้าวทิพย์แด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แลเป็นกุศลต่อพระสงฆ์องค์เจ้า แล้วจึงถึงคราวคนธรรมดาเดินดินกินข้าวได้

	นับเป็นวิถีชีวิตที่ทำให้เรียนรู้ที่จะเคารพบูชา ที่จะให้เกียรติ ให้คุณค่า ตามลำดับคุณงามความดี ใช่แบ่งชั้นวรรณะแต่อย่างใด
	รวงข้าวดังรวงทอง ค้อมตัวคำนับฟ้าดิน เป็นเช่นรวงทิพย์ถวายเป็นเครื่องพลีแด่พระพุทธคุณ แล้วต้นหญ้าต่ำต้อยอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ จะชูคออวดตัวให้น่าหมั่นไส้ยังเทพยดา แลฟ้าดินเสียเปล่า ๆ ปลี้ ๆ

	จงเอาธรรมชาติมาเป็นครู และอย่าลืมคุณข้าว ที่เปรียบดังรวงทิพย์คู่ควรค่าแก่การบูชาธรรม.				
12 ธันวาคม 2548 21:48 น.

เรื่อง “ สวนสุขภาพครบวงจรดีแน่ แต่ต้อง......? ”

pigstation

บทความเชิงวิชาการ
เรื่อง  สวนสุขภาพครบวงจรดีแน่ แต่ต้อง......? 
เขียนโดย นายกิตติคุณ  ธรรมศิริ นักวิจัยชุมชน
	
	สืบเนื่องอนุสนธิมาจากแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 7  กล่าวว่า จะต้องสร้างคนซึ่งถือเป็นทรัพยากรบุคคลให้เป็นจุดศูนย์กลางในการพัฒนาประเทศ ดังนั้นจึงต้องเร่งพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ แต่ด้วยการมองแต่เพียงมิติเดียวอย่างเช่นแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ผ่านๆ มานั้น ทำให้โครงสร้างของสังคมไทย ทั้งชนบท และเมืองต่างประสบปัญหาเชิงโครงสร้างทางสังคมที่ยากจะแก้ไขได้โดยง่าย เพราะเป็นการคิดอย่างแยกส่วนไม่มองภาพรวมที่ประกอบด้วยมิติต่าง ๆ เช่น กาย ใจ ชุมชน สังคม เป็นต้น 
	หากนำเรื่องของจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาไทยมาประกอบกันกับความทันสมัย คือเรื่องของเทคโนโลยี เพื่อช่วยสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นมาระหว่างมนุษย์กับสังคม ด้วยว่าความละเอียดอ่อนของจิตมนุษย์นั้น หากมีเจตนารมณ์เห็นแก่ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ย่อมจะเป็นการพัฒนาให้สังคมไปสู่ความสุข ความเจริญ ที่ไม่มีปัญหาอาชญากรรม คอรัปชั่น ล้นทวีขึ้นมากมาย เหมือนอย่างทุกวันนี้
	ดังนั้น การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตให้เกิดดุลยภาพนั้น แต่ละสถาบันทางสังคมต่างก็แบ่งรับหน้าที่ / ความรับผิดชอบต่างกัน ซึ่งสำนักงานเทศบาลตำบลบ้านไร่ก็ถือเป็นสถาบันหนึ่งที่มีบทบาท/หน้าที่ ตามกระบวนการทางสังคมที่เอื้อให้ประชาชน ซึ่งเป็นสมาชิกในสังคมได้เข้ามามีส่วนร่วม โดยใช้เสียงประชามติเป็นหลักการปกครองท้องถิ่นตามที่นานาอารยประเทศปฏิบัติไว้ดีแล้วนั้น
	บัดนี้ สวนสุขภาพ ที่เทศบาล ฯ ได้จัดสร้างถึงเวลาปรับปรุงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนที่รักสุขภาพ และรักท้องถิ่น นั้น จำต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติ/แนวคิด ของ สวนสุขภาพ ว่าสมควรที่จะเป็นไปในทิศทางอย่างไร มีปัจจัยเอื้ออำนวยต่อผู้ใช้บริการเพียงพอ หรือครบถ้วนหรือไม่ เพราะว่า หากพิจารณาเพียงการก่อสร้าง จัดซื้ออุปกรณ์ที่คุณภาพไม่ถึงเกณฑ์ ก็จะเป็นการใช้งบประมาณส่วนท้องถิ่นสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์
	แนวทางของ สวนสุขภาพครบวงจร ที่ข้าพเจ้าขอนำเสนอไว้เป็นกรอบแนวคิดเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลประกอบการพิจารณา มีดังนี้ คือ
	แนวคิดหลัก 
	ปรับปรุงสถานที่
	เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม 
	สร้างเสริมกิจกรรม 
	นำสู่สุขภาพที่ดี 
	ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
i.	ปรับปรุงสถานที่
				ต้องทำการสำรวจเบื้องต้นถึงความพร้อมของชุมชนที่มีความต้องการ			สวนสุขภาพอย่างแท้จริง ก่อนทำการออกแบบ / วางผัง /ดำเนินการจัดสร้าง			เพื่อเป็นการกระจายอำนาจจากรัฐสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง	
ii.	เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม 
				สวนสุขภาพครบวงจรจะต้องมีแรงจูงใจให้ประชาชนทั่วไปที่อาจจะยัง
			ไม่มีความสนใจด้านการออกกำลังกาย / ดูแลสุขภาพ หันมาสนใจร่วมออก			กำลังกาย ด้วยการจัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ	ส่งเสริม	การออกกำลังกายที่เหมาะสม			กับทุกเพศ ทุกวัย 

iii.	สร้างเสริมกิจกรรม 
				นอกเหนือจากการจัดหาอุปกรณ์ ฯ แล้ว เพื่อความต่อเนื่อง ทาง				เทศบาล ฯ ยังต้องจัดกิจกรรมเพื่อรองรับผู้มาใช้บริการให้ได้ประโยชน์ เช่น การ			ขอความร่วมมือจาก สสอ.บ้านไร่ มานำเต้นแอโรบิค หรือ การจัดหน่วยตรวจวัด			ความดัน / ตรวจเช็คสมรรถภาพ เป็นต้น เพื่อเป็นการตอบสนองต่อผู้มาใช้			บริการให้เกิดความรู้สึกที่ดี และพร้อมให้ความร่วมมือในขั้นต่อไป

iv.	นำสู่สุขภาพที่ดี 
				ทางเทศบาล ฯ จะต้องเป็นแกนนำ/ผู้นำด้านการออกกำลังกาย โดย			การจัดกีฬาระหว่างหน่วยงานภาครัฐ/ภาคเอกชน ในเขตเทศบาล ฯ เพื่อสร้าง			เครือข่ายรักษ์สุขภาพ และเป็นการกระชับมั่น สร้างเสริมความสามัคคี มีน้ำใจ			นักกีฬา ให้เกิดขึ้นในชุมชนอีกประการหนึ่งด้วย

	จากแนวคิด และรายละเอียดดังกล่าว จะเป็นไปได้นั้น ไม่ได้เกิดจากความสำคัญตามทฤษฎี/หลักวิชาการ แต่อย่างใด จึงจะทำให้เกิดสวนสุขภาพครบวงจรขึ้นมาได้
	ทั้งนี้ก็มิใช่อำนาจการเซ็นอนุมัติจัดสร้างได้จากผู้มีอำนาจตามสิทธิฯ แต่ต้องพิจารณาจากความต้องการอย่างแท้จริงของประชาชนในเขตเทศบาลตำบลบ้านไร่ ตามประเด็นที่ยกมาอนุมานได้ว่า 
	คุ้มค่าหรือไม่ ถ้าจะมีสวนสุขภาพครบวงจร ที่มีสนามเด็กเล่น ที่พร้อมด้วยอุปกรณ์ชั้นดี มีมาตรฐาน เสริมสร้างพัฒนาการให้เด็กเล็ก-เยาวชน
	จำเป็นหรือไม่กับการลงทุนสร้างสวนสุขภาพ ในขณะที่ยังไม่มีแกนนำด้านสุขภาพในชุมชน ที่พร้อมร่วมมือ ร่วมใจนำประชาคมให้รักษ์สุขภาพ
	สำคัญหรือไม่กับสวนสุขภาพครบวงจร เมื่อเปรียบเทียบกับระบบสาธารณูปโภค เช่น คุณภาพของน้ำประปาที่ไหลแรง ไหลดี ใสสะอาด ไม่แพง ที่รอการปรับปรุง ,สภาพพื้นผิวการจราจรในเขตเทศบาล ฯ ไม่มีหลุมบ่อ มีแสงไฟสว่าง ปลอดภัยยามสัญจรไปมา เป็นต้น
		เป็นเสียงสะท้อนเล็ก ๆ ของนักวิจัยชุมชนที่นำวิชาการที่ได้เรียนรู้จากสถาบันการศึกษา มารับใช้ท้องถิ่น เพื่อยังประโยชน์สุขส่วนรวมของปวงชนตามปณิธานที่มีไว้ ดังคำว่า
			.....คนดีของในหลวง ...คือคนดีของแผ่นดิน ...คือคนดีของทุกคน.
			ด้วยความปรารถนาดีอย่างยิ่งต่อชุมชนบ้านไร่ (บ้านเรา)				
Lovers  0 คน เลิฟpigstation
Lovings  pigstation เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟpigstation
Lovings  pigstation เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟpigstation
Lovings  pigstation เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงpigstation