๑.ผ่านมาหลายสิบปีแล้วพี่น้อง ชเวดากองเจดีย์ถูกฟ้าผ่า แผ่นทองคำจารึกหล่นลงมา เป็นเรื่องของผู้กล้าแห่งชาติไทย ๒.มหาเทพจึงมุ่งจากกรุงศรีฯ หลังถูกตีพ่ายแพ้เกินแก้ไข รวมทหารดาบคู่ที่รู้ใจ แล้วฝ่าไปมุ่งออกนอกประตู ตีพม่าที่รุมเข้าล้อมจับ จนตายยับราบคาบด้วยดาบคู่ หนึ่งทหารกำจัดสิบศัตรู กลิ่นเลือดผู้รุกด้าวจึงคาวดิน ยิ่งถาโถมทะลุทะลวงด่าน ผู้รุกรานยิ่งยับยิ่งดับดิ้น คราสองดาบคมจัดตวัดบิน ก็ดื่มกินเลือดปร่าแห่งรามัญ มือที่จับศาสตราอย่างสามารถ เคยตักบาตรหวานคาวทั้งข้าวฉัน บัดนี้ต้องปราบถ่อยเป็นร้อยพัน คนหยิบมือจะยันได้ฉันใด เหงื่อรินอาบดาบชุ่มชโลมเลือด จะแห้งเหือดสักคราก็หาไม่ พอล้าโรยแรงแล้วทแกล้วไทย ก็พลาดให้ตีกลับจนอับจน มิอาจต้านทานทัพคนนับหมื่น ธนูปืนซัดมาเป็นห่าฝน ยังยืนหยัดจนหมดแรงอดทน แต่ละคนร่วงไปเหมือนใบไม้ เหลือเพียงมหาเทพทหารแกร่ง แหวกกำแพงวงล้อมออกมาได้ รีบมุ่งหน้ากลับบ้านแห่งวานวัย ที่อาศัยเกิดมาจนหย่านม เห็นเรือนชานบ้านไหม้เพราะไฟเผา วันที่เขามายืนอย่างขื่นขม วันที่เขาถูกผลักลงปลักตรม แหละจะจมรามัญผู้จัณฑาล มาเถิด..พม่าชะตาดับ จะชั่วกัปถึงกัลปาวสานต์ กูจะป้องอโยธยา..ขอสาบาน ต่อหน้าดวงวิญญาณวีรชน ๓.ควันไฟไหววับพยับแดด เสียงแผดพม่าโกลาหล เมื่อไพร่ไพรีและรี้พล ตามจนจวนติดประชิดตัว มหาเทพยืนพิงกำแพงวัด จะยืนหยัดสู้ตายถวายหัว ขอพระผู้พิสุทธิ์ดุจดอกบัว โปรดเป็นรั้วป้องกันอันตราย สามคืนวันผ่าน ณ ลานร้าง ก็ถมร่างนับร้อยไพรีร้าย ทุกขยับคมดาบอันปลาบปลาย เรียกความตายพม่าทุกคราฟัน ศพขุนทัพนายกองก็กองเกลื่อน ข่าวสะเทือน..หนึ่งชื่อก็ลือลั่น ดั่งไฟลามทุ่งทองสู่สองกรรณ ของราชันย์นักรบ..บุเรงนอง ๔.บุเรงนองหยุดม้าที่หน้าวัด เงียบสงัดไร้นกจะผกร้อง ศพพม่ามากมายนอนก่ายกอง เกิดจากสองคมดาบกำราบฤๅ เหลือทหารสองนายยังกายสั่น เขาหวาดกลัวใครที่ไหนหรือ บุรุษนั่นหรือเปล่าที่เล่าลือ ดาบสองมือสองแขนยังแน่นกำ ดาบข้างหนึ่งปลายชี้ไปที่ฟ้า ราวบอกว่าข้าน้อยผู้ต้อยต่ำ ทำหน้าที่ครบถ้วนอย่างควรทำ เหมือนดั่งคำวาจาที่สาบาน อีกหนึ่งดาบปลายชี้ไปที่พื้น ราวบอกคืนร่างกายนายทหาร กลับสู่พื้นแผ่นดินเมื่อสิ้นปราณ ตลอดกาลใต้พระธรณี ดาบยังยันร่างไว้มิให้ล้ม สองตาคมยังจ้องสุรีย์สี ราวอาลัยในพื้นปฐพี หวังกรุงศรีฯหลุดพ้นจากโพยภัย พลธนูเล็งง้างที่ร่างนั้น หวังรางวัลหากยิงผู้ยิ่งใหญ่ บุเรงนองฟันควับอย่างฉับไว หัวคนไพร่หล่นพื้นพสุธา ฟังคำกูให้ดีพวกขี้ขลาด ใครบังอาจทำร้ายร่างชายกล้า หัวมึงจะถูกบั่นในทันตา กูจะจารึกเขาในเจดีย์ กูจะเผาร่างเขาราวขุนศึก กูยังนึกหวาดหวั่นท่านผู้นี้ หากมีแค่ร้อยคนในธานี คงไม่มีวันกูจะกำชัย. กลอนเก่า ๒๘ เมษายน ๒๕๕๐ เกลาใหม่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๔
28 เมษายน 2550 20:11 น. - comment id 688884
เคยรู้เรื่องท่านนานแล้ว ตั้งแต่ยังเด็ก ตอนนี้ลืมไปเยอะ จำปีที่เจดีย์ถูกฟ้าผ่าไม่ได้ ชื่อหน่วยทหารของท่าน วัดที่ท่านสู้จนตัวตาย ผมลืมชื่อหมด ถ้าจำได้เรื่องคงสนุกกว่านี้
28 เมษายน 2550 21:52 น. - comment id 688900
กูจะสู้แม้รู้ว่ากูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายหากเสียทีไพรีครอง ....ส่วนหนึ่งจาก บทกวีที่จำได้มาจนถึงทุกวันนี้ เป็นบทกวีที่เขียนไว้ในค่ายบางระจัน ครับ ....อ่านแล้วขนลุกทุกครั้ง
28 เมษายน 2550 22:02 น. - comment id 688903
ขอตบมือให้แก่คุณ ที่เอาเรื่องพงสาวดารที่ จารึกชื่อนี้ไว้ผมเองอ่านแล้วครับ คุณเขียนได้ดี เยี่ยมมากครับ เขาปกป้องผืนแผ่นดินไทยตาย โดยไม่ยอมล้ม บุเรงนองต้องเขาประคองร่าง ประกาศเกียรติคุณแก่ชาวพม่าถึงวีรกรรมของ มหาเทพไว้และได้จัดการศพอย่างสมเกียรติยศ เชียวครับ คุณเขียนได้ดีมากครับขอบคุณที่นำ สิ่งดีๆมาเผยแพร่ไว้ครับ อ้อผมทราบว่าเป็นเพียง ทหารชั้นผู้น้อยเท่านั้นเองครับ แก้วประเสริฐ
28 เมษายน 2550 22:46 น. - comment id 688912
สายน้ำแห่งรัก ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยม ลุงแก้วประเสริฐ ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ
28 เมษายน 2550 23:55 น. - comment id 688931
..... คุณฤทธิ์คะ ฉางน้อยอ่านงานกลอนของคุณแล้ว ขนลุกคะ อ่านแล้วน้ำตาซึมคะ คุณเขียนได้ดีมากๆๆ เลยค่ะ ยอมรับฝีมือ ฉางน้อย ไม่ค่อยอยากอ่านหนังสือแนวประวัติศาสตร์ เพราะเหตุนี้แหละคะ อ่านแล้วเลือดรักชาติเข้มข้น 5555 อ่านแล้วมักร้องไห้ตอนที่ ทหารไทยสู้แทบตาย สุดท้ายต้องเสียกรุงให้ชาติอื่น ไม่อยากดูด้วย ภาพยนตร์แนวนี้ กลัวร้องไห้ อายคนอื่นเค้าค่ะ อ่านสองรอบเลยนะคะ น้ำตาซึม ขนลุกโดยไม่รุ้ตัว ( จริงๆคะ ไม่พูดเล่น ) คิดถึงคำพูดของเตี่ยค่ะ ที่บอกว่า... .....ทหารไทย ล้มได้ แต่ธงชาติไทยจะล้มไม่ได้.... นั่นหมายถึงว่า ลูกผู้ชายไทย รักชาติจนถึงวินาทีสุดท้าย รักชาติ โดยไม่คำนึงถึงชีวิตตัวเอง .....อ่านแล้วสะเทือนใจเลยคะ จริงๆ .
29 เมษายน 2550 01:30 น. - comment id 688962
อ่านแล้วได้ความรู้ดีจังค่ะคุณฤทธิ์ ขอบคุณค่ะ ที่นำความรู้มาบอกเล่า
29 เมษายน 2550 12:12 น. - comment id 689040
ฮึกเหมน่าดู
29 เมษายน 2550 15:25 น. - comment id 689122
ฉางน้อย นั่นเป็นความรู้สึกรักชาติที่อยู่ในวิญญาณของพวกเราครับ...ขอบคุณครับที่มาเยี่ยม ปราณรวี ขอบคุณครับ ก่องกิก ขอบคุณครับ
29 เมษายน 2550 15:29 น. - comment id 689125
สุดยอดเลยค่ะ แพรวนึกภาพตามแล้วขนลุกเลยค่ะ พี่ฤทธิ์ วันนี้แพรวดุรายการหนึ่งที่เค้าแสดง ศิลปะ มวยไทยโห สุดยอด แข็งแกร่ง หึกเหิม คนไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติใด ศิลปะของคนไทยก้ยิ่งใหย่ไม่แพ้กันค่ะ คนไทยน่าจะมองเห็น และภาคภูมิใจเน๊าะ
29 เมษายน 2550 16:00 น. - comment id 689149
ยอดเยี่ยมค่ะ ลูกหลานท่านภู่ เบ่งบานเต็มลานกวี
29 เมษายน 2550 22:29 น. - comment id 689372
อ่านแล้วไม่มีคำว่า เสียเวลาเลยค่ะ ได้ทั้งสาระ ได้ทั้งความสำนึก เพิ่มมุมมองให้แง่คิด อืมม.....หรือคุณเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้โดยเฉพาะคะ
2 พฤษภาคม 2550 20:03 น. - comment id 690658
ผมก็คนหนึ่งที่รักชาติ และ ชอบอ่านและดูหนังประวัติศาสตร์นะครับ แต่ พงศาวดารเรามีแค่โดนพม่าไล่ยึดเมืองแล้วเกิด วีรบุรุษมากมาย แต่ว่าจะมีมั้ยที่เราไปรุกล้ำแผ่นดินของคนอื่นมั่งง่ะ บางทีก็อดคิดไม่ได้นะ ว่าเราเคยยึดเมืองหงสา,เมืองแปร...ฯลฯ บ้างป่ะ ใครรู้ช่วยตอบหน่อยนะ