**..  ไม่เพียบพร้อม พร่างพราว เฉกดาวน้อย
       แต่รู้ร้อย เรียงรัก สรรพอักษร
       จินตนาการ กลั่นรส สู่บทกลอน
       แนบคำสอน ซ่อนไว้ ในถ้อยคำ..
**..  กวีเถื่อน เพื่อนไพร ในดงลึก
      ท่ามเดือนดึก สงัดร้าง น้ำค้างฉ่ำ
      เขียนโลกโฉด โหดหิน ทมิฬดำ
      เตือนโลกล้ำ งามแท้ แค่นิยาย..
**..  มองขวางโลก เพราะโลกขวาง ทางความคิด
      ด้นชีวิต เนื้อตัวอาจ แทบขาดสาย
      เพื่อหมายมุ่ง สู่เหว เปลวความตาย
      แล้วความหมาย ของมนุษย์ คือจุดใด..
**..  เขียนความรัก รักย่อม น้อมบริสุทธิ์
      ใช่รักฉุด แรงทึ้ง หึงหวงไห้
      ไม่ปรารถนา รักหวาน สักปานใด
      แค่เสี้ยวรัก สลักใน ใจทุกคน..
**..  กวีเถื่อน แรมรอน นอนทุกถิ่น
      ใช่ศาสตร์ศิลป์ ล้ำค่า อย่าสับสน
       ทุกทุกถ้อย ลอยไป แต่ใจตน
       เราก็แค่  สามัญชน ... คนเขียนกลอน      
  ด้วยความหวังดี
ก.นพดล  รักษ์กระแส
ก.ประแสร์  ศิษยาพร 
  				
				
			 
							
						
						2 มีนาคม 2551 21:32 น. - comment id 828733
ชอบๆ กวีหวานปานนี้ยังว่าเถื่อน ช่างเลอะเลือนลืมลายหนอชายเอ๋ย บทกวีงามแท้แท้หนอแม่เอย ช่างไม่เคยมองดีที่ความใน

 
							
						
						3 มีนาคม 2551 09:06 น. - comment id 828847
พี่เขียนเพื่อบอกเล่าความรู้สึกของตัวเองค่ะ

 
							
						
						3 มีนาคม 2551 11:19 น. - comment id 828887
สามัญชนเขียนกลอนสะท้อนฟ้า ให้มองมาพื้นดินทุกถิ่นที่ เขาอยู่กินอย่างไรร้ายหรือดี เขามั่งมีศรีสุขหรือทุกข์ใจ อย่าอยู่บนหอคอยลอยลิบโลก มัวเสพโชคเกษมสันต์กันยกใหญ่ ลืมรากเหง้าชาวบ้านถิ่นฐานไทย ระวังไว้เดี๋ยวจะหา...ว่าไม่เตือน กลอนบทนี้มิเทียบชั้นวรรณศิลป์ ใครยลยินก็งั้นงั้น...เห็นกันเกลื่อน ไม่ผ่องเพ็ญสุกสกาวดั่งดาวเดือน มันดิบเถื่อนเปื้อนคำ...ต่ำสกุล สามัญชนเขียนกลอนสะท้อนฟ้า จงมองมาแล้วคิดใหม่...ใครเกื้อหนุน ส่งฟ้าให้ได้ภิรมย์เสพสมบุญ เห็นไหมคุณ...เถื่อนทั้งนั้น...ดันขึ้นมา

 
							
						
						3 มีนาคม 2551 13:46 น. - comment id 828934
เป็นคำถามที่น่าคิดครับก้อง....

 
							
						
						3 มีนาคม 2551 20:43 น. - comment id 829048
**.. ขอขอบคุณในทุกๆความเห็นครับนั่นสิครับ เราเขียนบทกวีเพื่ออะไร


