27 พฤษภาคม 2547 17:43 น.

“คุณ ร้านของเราชื่ออะไรดี”

spectaculous

คุณ ร้านของเราชื่ออะไรดี เป็นคำพูดที่สุดที่รักพูดกับผมเมื่อเราเดินผ่าน ห้องว่างให้เช่าห้องหนึ่งของอาคารใหม่ใจกลางตลาด เธอใฝ่ฝันอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง อยากที่จะทำเพื่อลุกและเพื่อครอบครัว แต่ทว่าผมบอกไปว่า ปกติตัวเราเองก็ทำงานเลี้ยงชีพไปวันๆหนึ่ง เงินก็พอมีเก็บสำรองเล็กๆน้อยๆ ส่งลูกเล่าเรียนก็พอจะทานไหว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้อีกนานแค่ไหน ยิ่งลูกโตขึ้นเรียนสูงขึ้นค่ารายจ่ายต่างๆก็เพิ่มขึ้นๆเป็นเงาตามตัว ทุกครั้งที่ผมกับภรรยาเดินผ่านห้องๆนี้ทีไร เธอต้องได้รับคำตอบที่หดหู่ใจจากผมเสมอ ทั้งที่ผมเองก็คิดเสมอว่า ทำอย่างไร เราจึงจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ แล้ววันหนึ่ง ผมก็ได้พบกับเพื่อนสมัยเรียนคนหนึ่ง ที่เมื่อก่อนเค้าไม่มีอะไร เป็นลูกของคนเร่เก็บขวดขายไปวันๆหนึ่ง ต้องตากแดดเหนื่อยหอบกันทั้งวัน แต่เดี๋ยวนี้กลับเป็นเจ้าของกิจการ ร่ำรวย แต่ก็ไม่ลืมตน แม้ครั้งที่ได้เจอเขายังใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้นธรรมดาเลย ไม่ได้ต้องใส่สูทให้ดูสง่าสมฐานะ เพราะสิ่งที่เขาเป็นก็เป็นความสง่าในตัวเองแล้ว เราได้โอกาสพบและคุยกัน เขาบอกกับผมว่าที่เขามีวันนี้เพราะเขาเชื่อใจตัวเอง อะไรที่ผิดพลาดไม่เคยโทษ เอามาคอยกำชับและย้ำเตือนตนเสมอ ถึงเมื่อก่อนต้องมาเดินเก็บขวดกลางแดดจ้า แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าตัวเองด้อยค่าเลย ก็เห็นว่าเราก็เป็นคนเหมือนอย่างใครๆเขา มีมือมีเท้าเช่นกัน ไม่ใช่ผู้แพ้ และก็อดทนมากกับทุกสิ่งที่จะเข้ามาทั้งดีและร้าย ตอนอายุได้17 เขาเริ่มจากไปสมัครเป็นลูกจ้างตำแหน่งต่ำต้อย และก็ค่อยๆไล่ขึ้นไปถึงแม้จะใช้เวลานานก็ตามสำหรับเด็กที่ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสืออย่างเขา จนนานพอสมควรคาดว่าเก็บเกี่ยวอะไรๆมาพอสมควร มีเงินทุนสักก้อนหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่จะออกมาทำอาชีพอิสระ เริ่มก่อร่างสร้างตนจากประสบการณ์ที่เคยมีมา จนถึงตอนนี้ก็ได้ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นนี้  แม้จะเป็นช่วงเวลาที่นานเกือบครึ่งชีวิตของตัวเขากับการที่ได้มาถึงจุดนี้แล้ว และเขาบอกกับผมอีกว่า คนเรามักคิดถึงแต่ในแง่ลบจนลืมแสวงหาทางด้านบวก ประโยคนั้นที่ผมได้ยินชัดเจนที่สุด และนั่นคือจุดเริ่มต้นของผมอีกครั้ง จนถึงวันนี้ คำพูดที่ว่า คุณ ร้านของเราชื่ออะไรดี ยังคงดังก้องอยู่ข้างในเสมอ แต่ทว่าคำตอบที่ผมจะมอบให้กับสุดที่รักของผมนั้นไม่มีหรอก และเธออาจไม่ต้องการคำตอบแล้วก็ได้ ในเมื่อเวลานี้สิ่งที่ผมจะถามกับเธอบ้างว่า เราจะเปิดสาขาสองที่ไหนดี 

แรงบันดาลใจจากเพื่อน กับประโยคสั้นๆ
กับวันนี้เวลานี้ ที่บอกได้เพียงว่า ขอบคุณ
				
13 พฤษภาคม 2547 00:15 น.

จินตนาการ

spectaculous

กลับมามองที่ท้องฟ้าอีกครั้ง 
.....ฉันเห็นเมฆสีฟ้าบ้าง สีครามปะปนกัน เป็นระลอกกลุ่มใหญ่ 
มองไม่เห็นสายลม แต่รู้สึกได้ถึงกระแสอ่อนๆที่ยังพัดอยู่รอบกายฉัน 
นกน้อยใหญ่ พากันโบยบินลู่ลมให้ชมเชยอย่างน่าชื่นชม ในท้องฟ้า 
สีอ่อนของแสงจากอาทิตย์ สู่ความสว่างของต้นไม้ใบหญ้าเรียงราย 
ล้อมรอบพื้นที่สีเขียวตรงนี้ อากาศที่บริสุทธิ์ของพันธุ์ไม้นานา 
.....ทำให้ความสุขง่ายๆเกิดขึ้นได้ 
............และยังทำให้ความรู้สึกนั้นมากขึ้นตามมา 

ฉันรู้สึกได้ว่า ...หากเวลานี้ 
...พื้นหญ้านุ่มๆตรงนี้จะไม่ได้มีเพียงฉันคนเดียวล่ะ 
......ที่ข้างๆ ที่ยังว่างเปล่า ฉันวางมือลงตรงที่ว่างข้างๆนั้น 
...จินตนาการขึ้นไว้ว่าจะเป็นคนพิเศษของฉัน 
...เห็นเพียงภาพลางๆที่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเพียงภาพวาดหรือจะมีอยู่จริง 

ในความโดดเดี่ยวที่ยังมีความคิดถึงจากทุ่งกว้าง 
...ไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่ง 
...และใบที่ลู่ไปตามแรงลมที่โบกอยู่สม่ำเสมอ บอกอะไรกับฉัน 
...ลุกขึ้น เดินไปเรียบไปกับบึงใหญ่ 
ที่มีฝูงปลาแหวกว่าย หลบไล่กันไปในหมู่บัวที่บานยามเช้า 
...สีชมพูอ่อนๆของกลีบบัว สีที่เธอชอบ สวยที่สุดในเวลานี้ 
ฉันเดินไปเรื่อยๆตามทางลาดหญ้าที่ยังชื้นไปด้วยน้ำค้างจากคืนจันทร์แรม 
...ดอกไม้หลากสีที่แข่งกันเบ่งบานอวดช่อที่มีกลิ่นหอมอย่างธรรมชาติ 
...แมลงที่เวียนวนอยู่ท่ามกลางมวลหมู่พฤกษาสัน 
ดูเป็นการใช้ชีวิตที่น่าสนใจ 

ฉันเดินมาจนถึงเนินสีเขียวที่ลาดยาวไปแสนไกล 
...เห็นอาทิตย์ดวงกลมอย่างแจ่มชัดที่ส่องแสงมาที่ฉัน 
...มองไปที่ขอบฟ้า แล้วหลับตา 
รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ได้รับในตอนนี้ 

...มือข้างขวาที่ยังว่างเปล่า กำมันไว้เหมือนว่ามีเธออยู่ข้างๆฉัน 
เราจับมือกันไว้ ยืนอยู่ด้วยกันนะ 
...มองไปข้างหน้าแล้วหลับตาสิ นี่ไงอิสระที่เธอฝันไว้ 
.................ท่ามกลางไอแดดและสายลม 
ผีเสื้อที่บินอยู่รอบๆนี้บอกว่า 
..สถานที่แห่งนี้จะยังเป็นเหมือนภาพๆเดิมที่จะรอให้ฉันกลับมาเยือนอีกครั้ง 
แต่ไม่ได้มาตัวคนเดียวอีกแล้ว 

..เราจะมาด้วยกัน.. 

มาทำให้ภาพในจินตนาการนั้นสมบูรณ์ 
...ฉันยังรอเธออยู่ และที่แห่งนั้นยังรอเราอยู่เช่นกัน... 


รอบกายฉัน.....ดุจพู่กัน.....ละเอียดอ่อน 
ระบายฉาก.....หากละลาย..กับสายน้ำ 
วาดลูกคลื่น..กลืนทรายขาว..ทอดยาวข้าม 
ฟ้าสีคราม.....สายรุ้งตาม...หลังฝนโปรย 
แต้มเขียวพรม..ลากสายลม...ผสมแสง 
ตะวันแดง....ที่แอบแฝง.....ความอบอุ่น 
ต้นไม้ใหญ่.....ระแนงใบ....ที่พรูพรุ่น 
ระบายฝุ่น....ดอกเกษร....ปลิวพัดพราย 
สะบัดปลาย...ระบายใหม่...ในความฝัน 
น้ำค้างนั้น.....ยังค้างฝัง.....ณ ฝั่งจิต 
ที่ริมบึง.....รวมรำพึง.....ของความคิด 
ฟ้าลิขิต.....ให้เล่าสู่.......เนินภูผา 
แลดอกฟ้า...พนาพฤกษ์.....ณ ป่าลึก 
ความรู้สึก...ลงหยั่งลึก.....ณ จิตใจ 
หวลหมู่เมฆ...ที่ล่องลอย...คล้อยตามไป 
หัวใจใส.....ล่องลอยไป.....ใกล้ๆเธอ 

ทะเล.....หาดทราย.....และสายลม 
ช่างเหมาะสม...กลมกลืน..กับผืนฟ้า 
แล้วใจนี้....ที่ฝันใฝ่.....หรือไร้ค่า 
ใดในหล้า...ช่างไขว่คว้า..ฤๅหมางเมิน 


ทะเล.....หาดทราย.....และสายลม 
ช่างเหมาะสม...กลมกลืน..กับผืนฟ้า 
แล้วใจนี้....ที่ฝันใฝ่.....หรือไร้ค่า 
ใดในหล้า...ช่างไขว่คว้า..ฤๅหมางเมิน 

ฉันมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับสถานที่แห่งนั้น 
...ในใจที่อยากจะพรรณนาออกมาเป็นภาษากลอนเสียมากกว่า 
แม้ไม่อาจสื่ออารมณ์ของที่แห่งนั้นได้อย่างชัดเจน 
...แต่นี่คือกลอนของฉัน แต่งให้เธอ 
กลอนของทะเล หาดทรายและสายลม เคียงคู่ท้องฟ้าสีครามผืนใหญ่ 
...............ณ ทุ่งของหมู่มวลพฤกษาพรรณ......................  

***************************************** 

- 
- 
- 
- 
- 
- 
- ฉันเขียนได้เพียงเท่านี้ ทำได้แค่นี้ 
.อาจจะไม่ทำให้เธอรู้สึกได้อย่างที่ต้องการ ฉันขอโทษ 
-สิ่งที่เธอคาดหวังในตัวฉันว่าจะทำได้ มันอาจไม่เป็นอย่างที่คิด 
-ถ้าหากวันหนึ่งเธอจะได้รู้ความจริงของตัวฉัน 
-แล้วจะรับฉันได้ไหม จะเกลียดฉันบ้างหรือเปล่า 
-ถ้าความจริงนั้นมันไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างที่เธอเห็น 
- 
-ฉันอาจเป็นคนสุดท้ายที่เธอเกลียด 
-หรืออาจเป็นคนสุดท้ายที่เธอห่วง 
- 
-แต่ ทุ่งสีเขียวแห่งนั้น เนินที่ทอดยาว แสงอาทิตย์และฟ้าสีคราม 
-ยังรอคอยให้กลับไป 
- 
-...ด้วยกัน 
- 
- 
-ฉันกับเธอนะ............ 


***************************************** 				
12 พฤษภาคม 2547 23:59 น.

บันทึกเล่มใหม่ เรื่องราวครั้งเก่า

spectaculous

เคยไหม ความรู้สึกอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเขา 
แต่อาจเพียงแค่เกิดมาเพื่อคอยดูแล และเทคแคร์เขา 
เคยรู้สึกกันแบบนี้บ้างไหมล่ะ แบบที่ฉันเคยได้รู้สึก 
แม้จนวันนี้ก็ตามที 
เหมือนคนๆหนึ่งที่คงอยู่และพาสิ่งดีๆมาให้กัน 
จนถึงวันที่คนที่ถูกกำหนดแท้จริงจะมารับช่วงต่อจากฉัน 
หน้าที่ของฉันก็คงจะหมดไปในเวลานั้น 
แล้วคงเหมือนแค่คนเดินผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไปเสีย 
เหลือเพียงความทรงจำที่จะกลั่นน้ำตาให้หายคิดถึง 
สักวันหนึ่งนั้น จะมาถึงเมื่อไหร่นะ 
เขาคงมีความสุขกับคนที่รักจริง ฉันเองก็ดีใจที่เป็นเขา 
ส่วนที่ตรงนี้คงเหลือแต่เพียงความเศร้าโศกที่แทนที 
ความฝันของครั้งหนึ่งๆ กันคนที่ดีๆสักคน เหมือนภาพวาด 
แต่นานไปภาพวาดนั้นก็ซีดจางและเก่าขาด 
จนอาจไม่เหลือรายละเอียดเดิมๆที่อดทนแต่งแต้มมาแสนนาน 
ภาพความทรงจำสีจางๆ ไม่เลือนหายไปหรอกในความรู้สึก 
แต่ในความเป็นจริง ได้จากไปแล้ว เหลือเพียงความว่างเปล่า 
กับเวลาที่พ้นผ่าน ใจของคนที่ถูกปรุงแต่งนานับ 
ถูกหล่อหลอมด้วยความรู้สึกมากมาย ฝังแน่นยากที่จะไถ่ถอน 
ฉันเองก็มีหัวใจที่ถูกขีดเขียนไว้ด้วยใครสักคนหนึ่ง 
และไม่มีสิ่งใดที่จะเข้าไปลบหรือล้างร่องรอยเหล่านั้นออกได้ 
มีเพียงน้ำตาที่ชะล้างออกมาภายนอกทุกครั้งที่ได้ฉุกคิด 
ฉันเกิดมาเพื่อช่วงเวลาที่แสนดีช่วงหนึ่งของใครสักคน 
แค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่มากมายด้วยความปรารถนาดีที่มีให้ 
ซึ่งในท้ายที่สุดก็ทำได้เพียงแค่หันหลังแล้วจากไป 
ไม่สามารถพอที่จะเหลียวกลับมามอง 
และไม่กล้าพอที่จะบอกกันเป็นครั้งสุดท้ายว่าลาก่อน 
ฉันไม่อาจแข็งใจพอจะพูดคำๆนี้ ทำไม่ได้ 
ผูกพันธ์ เหมือนห่วงที่คล้องไว้แล้วตัดไม่ขาดเสียที 
แม้ใจหนึ่งจะยินดีที่เธอนั้นจะมีความสุข 
แต่ในหนึ่งภายในนี้เหลือเพียงภาพสุดท้าย 
เกิดมาเพียงเพื่อดูแล ไม่ใช่หัวใจของกันและกัน 
ก็ยังพอใจ และยังอุ่นใจในวันเวลาที่ได้ทำหน้าที่นั้น 
สักวันเมื่อคนๆนี้จะต้องจากไปแล้ว 
ขอเธออย่าร้องให้ แต่จงดีใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา 
เธอในวันนั้นต้องเข้มแข็งกว่าวันเก่าๆนะ 
ให้ระหว่างเราเพียงความทรงจำกับภาพวาดในหัวใจ 
มีความสุขกับชีวิตใหม่ที่ควรจะเป็น 
แล้วบันทึกอดีตเก่าๆนั้นไว้ วันใดที่เธอคิดถึงฉัน 
ขอให้บันทึกนั้นช่วยย้อนรอยยิ้มและเสียงหัวเราะนั้นมาสู่เธอ 

อีกครั้ง....................................~ 
				
12 พฤษภาคม 2547 23:53 น.

สิ่งใดคือเธอ อะไรคือฉัน (ปรัศนีนฤอุรา หทัยกาล)

spectaculous

ผู้หญิงลืมยาก เขาว่าความจำดี 
แต่ผู้ชายไม่เคยจะลืม 
ผู้หญิงจู้จี้ขี้บ่น เขาว่าใส่ใจรายละเอียด 
แต่ผู้ชายไปตามสถานการณ์ ไม่อยากซีเรียส 
ผู้หญิงมักใจร้อน ถ้าเธอโกรธอย่าตอแย 
ผู้ชายใจเย็น ค่อยๆเปลี่ยนทุกเหตุการณ์อย่างฉัน รู้ดี 
ว่าเธอเป็นเช่นไร ไม่มากและก็ไม่น้อยแน่ 
ผู้หญิงบางครั้งใจอ่อน เป็นพิเศษ 
แต่บางทีก็ใจแข็งอย่างน่าปรบมือให้ 
ผู้ชายไม่ได้ใจแข็งอย่างที่ผู้หญิงส่วนใหญ่คิด 
อ่อนโยนพอที่จะรับรู้และเข้าใจผู้หญิงหลายๆด้าน 
ผู้หญิงชอบผู้ชายที่คุยเก่ง คุยสนุกและพูดถูกคอ 
ผู้ชายอย่างฉันก็ชอบที่เธอคุยสนุก และดูทะเล้นเหมือนเด็กๆดี 
ผู้หญิงชอบผู้ชายที่แต่งตัวดูเรียบๆแต่ไม่ตกยุค ไม่อายใครเขา 
แต่รู้ไหม ผู้ชายชอบอะไรง่ายๆ แบบสบายๆ อย่าบังคับกันนักล่ะ 
ผู้หญิงชอบให้ผู้ชายเอาใจเธอ หน้าแดงเมื่อเจอคำหวานๆ 
ผู้ชายก็ชอบให้ผู้หญิงมาเอาใจบ้างเหมือนกันนะ ใส่ใจกันหน่อย 
ผู้หญิงร้องให้ ฉันจะคอยปลอบใจ เธอเป็นอะไรไหม? 
ผู้ชายก็ร้องให้เป็น เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่รัก 
ผู้หญิงชอบความสวยงาม ดาว เดือน คลื่นลมทะเล 
ผู้ชายก็ชอบเหมือนกับที่เธอชอบนั่นแหละ ทำความเข้าใจดูสิ 
ผู้หญิงอย่างเธอเทคแคร์ฉันดีเหลือเกิน รู้สึกดีใจ 
ผู้ชายอย่างฉันก็ไม่เคยสนใจใคร ใส่ใจแค่เธอเช่นกัน 
ผู้หญิงเมื่อต้องห่างไกล คิดถึงกันมากไหม อยากคุยหรือเปล่า 
ผู้ชายคนนี้ ห่างกันนั้นแสนเหงา อยากมองหน้าเธออีกสักครั้ง 
ผู้หญิงรับของจากผู้ชาย นั้นเกรงใจ 
แต่รับไว้ด้วยความจริงใจ ฉันเองก็มีความสุขที่ได้ให้ 
ผู้ชายรับของจากผู้หญิง รู้สึกเกรงใจเสียยิ่งกว่า 
เธออุตส่าห์ซื้อให้ฉัน ฉันจะรักษามันไว้เป็นอย่างดี 
ผู้หญิงรักผู้ชาย คงไม่จำเป็นต้องบอกว่ารัก 
แค่ความเป็นห่วงเป็นใย เอาใจใส่ ก็เป็นที่เข้าใจดีแล้ว 
ผู้ชายอย่างฉันรักผู้หญิงน่ารักอย่างเธอ 
ย้ำว่ารักอีกกี่ครั้ง ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังเป็นคำพูดคำเดิม เสมอไป 
ผู้หญิงถามผู้ชายว่าท้อไหม 
ในใจเธอนั้นเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดเลยรู้ไหม 
ผู้ชายไม่คิดจะถามคำถามนี้หรอก 
เพราะผู้ชายนี่แหละที่จะเป็นคนก้าวไปหาผู้หญิงที่เป็นที่รัก 
ผู้หญิงมักจะถามว่าเธอกำลังทำสิ่งใดอยู่ และทำเพื่อใคร 
ผู้ชายคนนี้จะบอกกับเธอว่า ฉันกำลังทำสิ่งที่ดีที่สุด ก็เพื่อเธอ...  

และคำนิยามของผู้หญิงอย่างเธอคือ "ฉันเป็นฉัน" 
แต่คำนิยามของผู้ชายอย่างฉันคือ"ฉันจะเหมือนเดิม"				
12 พฤษภาคม 2547 23:43 น.

ชีวิตสุดท้าย(1เล่มเทียน)จะมอดดับ

spectaculous

ค่ำคืนที่ฉันมักจะนอนไม่หลับ 
เพราะคิดถึงก็ใช่ 
เป็นห่วงก็อีกแหละ 
เธอจะร้อนไหม หนาวหรือเปล่า 
อารมณ์ดีอยู่หรือกำลังทุกข์ใจ 
หลับหรือยังหรือยังอยู่เป็นเพื่อนฉัน 
นอนอย่างสบายใจหรือเธอกำลังร้องให้ 
คิดถึงฉันเอาไว้สิ 
ฉันที่อยากให้เธอพบเจอแต่ความสุข 
ฉันที่อยากลบคราบน้ำตาให้กับเธอ 
ฉันที่จะเติมรอยยิ้มให้แทนที่ 
ฉันที่จะสร้างเสียงหัวเราะให้เธอได้เห็น 
ฉันที่รักเธอมากแค่ไหน เข้าใจบ้างไหม 
เวลามากมายที่ฉันใช้ไปเพื่อเธอ 
ฉันรู้ว่ามันไม่เสียเปล่าใช่ไหม 
ที่ได้รักเธอฉันก็มีความสุขมากแล้ว 
แม้หากเธอจะไม่รักไม่สนใจฉันเลย 
ไม่เลยแม้สักนิด ฉันก็จะไม่ว่าเธอ 
เพราะเราอาจเป็นเพียงแค่คนผ่านมา 
เข้ามาเพื่อเทคแคร์เธอในช่วงหนึ่งของชีวิต 
แค่นั้นก็เป็นได้ ที่ฉันอาจจะได้กระทำ 
เหนือจากนี้ฉันคงไม่มีสิทธิ์สินะ 
มากกว่าเพื่อน แต่ไม่เหมือนคนรัก 
แบบนี้หรอกหรือเปล่าที่ฉันได้รับอยู่ 
เราไม่สามารถเป็นได้มากยิ่งกว่านี้ 
ต้องอยู่อย่างนี้ตลอดไปหรือยังไงนะ 
ถ้าเป็นจริง ฉันควรทำอย่างไรกับวันนั้น 
เวลาสุดท้ายของเราจะมาเมื่อไหร่ 
จะไม่ได้เคียงข้างกันอีกแล้ว 
ต้องเป็นแค่คนที่ได้รักตลอดไป 
ใช้ชีวิตคนละด้าน ไม่เหมือนกัน 
คิดถึงกัน แต่ไม่อาจได้พบกันอีก 
หัวใจที่เหงาจนเกินจะแก้ได้ 
อยากจะอยู่กับเธอให้นานที่สุด 
เท่าที่จะทำได้จนถึงวินาทีสุดท้าย 
แล้วอยากจะหลับตาลงเสียที 
ไม่อยากเห็นสิ่งที่สวยงามอีก 
เพราะเหล่านั้นไม่มีอีกแล้ว 
แล้วจะมองเห็นสิ่งใดไปทำไม 
เพราะรักทำให้คนตาบอดกันได้ 
แต่ฉันพร้อมที่จะไปสู่ความมืดมิด 
ฝันชีวิตไปสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง 
เปลวเทียนเล่มสุดท้ายจวนหมดไข 
พร้อมจะจากไปด้วยรอยยิ้มนี้ 
น้ำตาของความสุขใจครั้งสุดท้าย 
ลาก่อนความสุขที่เคยได้รับ 

เหลือเพียงความทรงจำสุดท้าย 
ภาพเธอเมื่อครั้งที่ฉันยังมีความหวัง 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟspectaculous
Lovings  spectaculous เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟspectaculous
Lovings  spectaculous เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟspectaculous
Lovings  spectaculous เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงspectaculous