23 ตุลาคม 2547 21:36 น.

Left Outside Alone

spectaculous

ภาพมายา หรือ คือเรื่องราวเก่าๆ ที่ทำให้เศร้าได้ทุกครั้ง
ยังมิอาจลืมเลือน หากยังคอยเตือนให้รำลึกถึง มิจืดจาง
บ้างก็ฉายย้อนถึงความสุข ความทุกข์ อย่างต่อเนื่อง
บอกให้ทราบว่า แม้ในเวลานี้แล้ว ล่วงมานานเพียงใด
ใจฉันไม่เคยสงบเลย ยังคงมีความรู้สึกเดิมๆวนเวียนอยู่เสมอ
รวมไปถึงคำสัญญาและความซื่อสัตย์ ที่ยังมิแปรเปลี่ยน
ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ทำให้ชายคนหนึ่งพร้อมจะเป็นทุกสิ่ง ทุกอย่าง
แม้เธอผู้นั้นจะไม่ได้อยู่ข้างๆ มิได้เอื้อมไปไขว่คว้าได้ง่ายๆ
ใกล้ก็เหมือนไกล อะไรๆก็ดูช่างเลือนลางลงทุกที ทุกที
ถึงหัวใจจะยังรักษาทุกความรู้สึกเอาไว้ แต่วันเวลาก็ผ่านไปๆ
ยังมิถูกปิดผนึกไว้ด้วยความลุ่มหลงของสังคมใหม่ๆ
ยังเปิดประตูบานนั้นเอาไว้ และท่องไปในอดีตที่เคยได้สัมผัส
จากเริ่มแรก ของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เปรียบได้กับนางฟ้า
ผ่านไป ผ่านไป เธอเหมือนผู้หญิงที่ดีที่สุด แม้จะมิใช่นางฟ้า
แต่ช่างยากเสียเหลือเกินที่จะไขว่คว้าเธอนั้นเอาไว้
ในความเป็นจริงของใจสองใจที่แตกต่างกัน
ทางเดินคนละเส้น ที่อาจจะขนานกัน หรือแยกห่างออกจากกัน
อาจไม่มีวันที่จะบรรจบกัน ดั่งในความฝันก็เป็นได้
แม้ท้องฟ้ากับผืนทะเลจะห่างกันแสนไกล
ก็ยังสามารถบรรจบกันที่ปลายขอบฟ้า
ก็เช่นกันว่า เส้นทางที่ขนานกัน ก็อาจบรรจบกันที่ปลายทางได้เช่นกัน
สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ 
แต่ก็สามารถหยุดนิ่ง เหมือนรอคอยอะไรบางอย่าง
สายลมที่พัดผ่าน เจ้าล่องลอยไปหนใด
อาจมีสักวัน ที่เจ้าจะพัดกลับมาหากันอีกครั้ง
แล้วความรักของฉัน เรื่องราวบอกผ่านสายลม
วันใดที่เจ้าจะนำเรื่องราวมาบอกเล่าสู่กันฟังอีกครั้งหนึ่ง
หัวใจดวงนี้ หากแม้ตอนนี้จะเหมือนสายน้ำที่หยุดนิ่ง 
เพื่อรอคอยอะไรบางอย่าง  รอคอยใครสักคน
นาฬิกาบอกเวลาก็มิเคยหยุดนิ่งเช่นกัน
แต่ก็ยังวนกลับมาที่เดิมได้อีกเสมอ
ก็คงมิต่างกัน หากในวันหนึ่งวันใด ซึ่งมิอาจคาดเดาได้
ใจดวงนั้นจะหวนกลับมาหากันอีกครั้งหนึ่ง เหมือนดั่งเวลา
กาลเวลา คอยเปลี่ยนแปลงสรรพสิ่ง แม้แต่หัวใจก็ตาม
แต่ก็คงมิอาจเปลี่ยนใจดวงนี้ได้ 
ขอเพียง ความไว้ใจ และความเชื่อใจดังเดิมนั้นยังคงอยู่
แม้ตัวของฉันนั้น จะต้องอยู่ตามลำพังไปอีกนานแสนนาน เพียงใด
ข้างๆกายของฉัน ก็ยังคงมีความรู้สึกและตัวตนของเธออยู่
ยังคงได้ยินเสียงลมหายใจของความรู้สึก 
ยังคงสัมผัสได้ถึงตัวตนของผู้หญิง ที่รักที่สุด เท่าที่จะรักได้
ความโดดเดี่ยวได้สอนให้ฉันไม่กลัวต่อสิ่งใดอีกแล้ว
แต่ความโดดเดี่ยวได้ทำให้ฉันพร้อมที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่าง
เพื่อที่จะไขว่คว้าความฝันที่เคยหวังว่าจะต้องเป็นจริง
หญิงที่รักที่สุด และพร้อมที่จะเป็นในสิ่งที่เธอนั้นปรารถนา
เกมส์ของชีวิตบทนี้ ฉันได้ผ่านมันไปแล้ว
และบทต่อๆไป ก็พร้อมที่จะผ่านมันไปให้ได้เช่นกัน
แม้จะปราศจากกำลังใจที่มีเหมือนในอดีตที่ยังหวานชื่น
น้ำตาที่มิเคยนับครั้งที่เสียไป บอกอะไรกับฉันไม่น้อย
รวมไปถึงการอดทนต่อ ความลำบากทุกรูปแบบ
ฉันไม่ใช่คนเดิมที่อ่อนแออย่างที่เธอคิดอีกต่อไปแล้ว
ตัวตนและใจฉันมิได้เปลี่ยนไปเลย 
แต่องค์ประกอบนั้นๆไม่ได้เปราะบางเหมือนครั้งอดีตอีกแล้ว
คนที่เธอรอคอยมิใช่ฉัน 
ทว่า ความเป็นไปที่จะเป็นฉันในวันข้างหน้านั้น
อาจทำให้ใครสักคน ต้องร้องให้กับอดีตที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวของฉัน
				
10 ตุลาคม 2547 00:07 น.

เรืองราวที่ถูกปิด

spectaculous

-แต่ทว่า วันแห่งความเศร้า

-ผ่านไป ผ่านไป  ใจเดิมๆก็ยังนึกถึงเรื่องราวเดิมๆ

...วันเกิดของเธอ คือวันที่เราจากกัน
...วันที่ควรมีความสุข กลับเต็มไปด้วยน้ำตา

...วันเกิดของฉัน อะไรที่ดลใจฉันกระนั้นหรือ
...100วันของการจากกัน ระหว่าง วันเกิดของคน 2 คน
...ซึ่งไม่ใช่  เรื่องบังเอิญ

-ตัวฉันเองก็รู้ดีว่า เธอ ไม่มีทางลืมวันเกิดฉันหรอก
...ยังคงคิดอยู่ว่า หากในวันนี้ เธอจะให้เพียงแค่
...Happy Birth Day กับฉัน 
...ก็คงดี

-ใช่ มันไม่ใช่การคิดลมๆแล้งๆ
...เธอ มาบอกกับฉัน  
...เพียงแค่ประโยคเดียว

-
-
-ขอบคุณนะ 

-ไดอารี่ของฉัน ~เรียกฉัน

...ต้องการให้ฉันเขียน อีกครั้งหรือ?

..เหมือนว่าใจฉันเองก็ต้องการ  
...ที่จะเขียนมัน

-กับความรู้สึก ที่มั่นใจตลอด

...เธอ 
...ต้องแวะมา 
---เพื่อมาอ่านไดอารี่ของฉัน อย่างแน่นอน

-คาดเดาไม่ผิดหรอก
...เพราะอย่างน้อย
...ฉันเอง  ก็เป็นคนหนึ่ง
...ที่เข้าใจเธอ ไม่มากก็น้อย 

-คอมเม้นหลังจากคืนวันที่บันทึกผ่านพ้นไป

...เหมือนต้องการจะยิ้ม
...แต่กลับต้องร้องให้

...เธอ เข้ามาอ่านในเรื่องราวที่ฉันได้บันทึกนั้น จริงๆ

-เธอ
-จะรู้ไหมนะ  ว่า...

...ตอนนี้ ฉัน...   จะเขียนไดอารี่ของฉัน...
...ต่อ

-เหตุผลง่ายๆ มีอยู่เพียงว่า

...ฉันคิดถึงเธอ และ
...คิดถึง ไดอารี่...ของฉัน

-กับทุกความรู้สึกที่เป็นตัวตน ของเธอ
...บอกเล่า

...ผ่านไดอารีเล่มนี้ มานานแสนนาน

...อยากจะเก็บเอาไว้ 

-ให้บันทึกนี้ ยังดำเนินต่อ และคงอยู่
...เพื่อรอวัน

...ที่จะมีเธอ มาบอกเล่าเรื่องราว ณ ที่แห่งนี้

...อีกครั้ง

-after the love has gone-
Zear_Arragon
spectaculous.				
6 ตุลาคม 2547 22:51 น.

จากวันของเธอ สู่วันของฉัน

spectaculous

-ไม่ต้องเป็นนางฟ้า เพราะฉันเอื้อมไม่ถึง
-ไม่ต้องเป็นเจ้าหญิง เพราะฉันไม่ใช่เจ้าชาย
-ไม่ต้องเป็นความฝัน เพราะเธอมีอยู่จริง
-ให้เธอเป็นผู้หญิงที่แสนดี อย่างนี้ก็พอแล้ว

ในเวลาแห่งความสุข ไม่มีใครรู้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่
ก็เช่นกัน วันเวลาแห่งความเศร้า ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ความเศร้าของฉันผ่านพ้นไปครั้งหนึ่งแล้ว
ยังคงหลงเหลือเพียงความคิดถึง ความห่วงใย
และความรู้สึกเดิมๆ ที่ยังได้ยินและได้สัมผัสอยู่เสมือนกับครั้งอดีต

คนที่ตัวฉันรัก และทุ่มเทเกือบทั้งชีวิต
เหลือไว้เพียงความทรงจำ กับภาพเก่าๆ
และน้ำตา กับความโดดเดี่ยว
ฉันปล่อยให้รักนั้นตายไปกับเขา
เหลือเพียงตัวเราที่เดินต่อไปอย่างไร้ความรู้สึก(ไร้หัวใจ)

แม้ฉันจะยังรู้สึก แลสัมผัสได้ว่า
วันหนึ่งวันนั้น ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเมื่อไหร่ เธอจะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
แต่ความเจ็บปวดที่เคยได้รับนั้น คอยทำให้ฉันหมดแรงที่จะก้าว
กำลังใจที่เคยได้รับอย่างสม่ำเสมอจากเธอ เพลานี้ ไม่มี
สายลมที่คอยพัดเรื่องราวของเรา ไปบอกเล่าสู่กันฟัง
บัดนี้ เจ้าพัด ไปแห่งใด (ทำไมไม่กลับมา)

จากวันของเธอ สู่วันของฉัน
จากการร้างลา ในวันพิเศษของเธอ
ถึงคำพร่ำเพ้อ ในวันพิเศษของฉัน

 อย่างน้อย ก็อยากจะบอกว่า
............. "ขอบคุณ" .............
สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
และ 
............. "ขอบคุณ" .............
ที่ยังไม่ลืมกัน สำหรับคำพูดสั้นๆในวันนี้ 
"Happy Birth Day"
 ............. "ขอบคุณ" .............


บางสิ่งที่ได้เกิดขึ้นและผ่านเข้ามา จงรีบไขว่คว้าเมื่อยังมีโอกาส
เพราะว่านั้น อาจไม่มีโอกาสอีกเป็นครั้งที่สอง

บันทึก ผ่านกาลเวลา
ความทรงจำ ผ่านอดีตสู่ปัจจุบัน
ฤดูกาลที่แตกต่าง วันและคืน แสงแดดและฝนโปรย
สายรุ้งและเมฆครึ้ม  ฤากรวดทรายและสายน้ำ (ที่ไม่ไหลย้อนกลับ)
กับคน 2 คน ที่ตอนนี้เหลือเพียง 1
ผู้ชาย ที่ยังรอคอยเธอเสมอ
คอยเพื่อที่จะได้เห็น ...รอยยิ้มนั้น 

...........................อีกครั้ง..................................				
13 มิถุนายน 2547 16:52 น.

ฅนที่ฆ่าฉัน

spectaculous

แม้ตัวเองจะไม่ได้เป็น แต่ก็ต้องเจ็บกับใครอื่นด้วย
ครั้งใดที่เกิดกับตน มันรู้สึกหนักหน่วงกว่า
รู้สึกเจ็บลึกๆ เหมือนมีดทิ่มแทง โดยไม่รู้ตัว
น้ำตาก็เหมือนเลือดที่ไหลออกมาแทนที่
ซึ่งเกินที่จะกลั้นหรือห้ามไว้ไม่ให้ไหลออกมา
ต้องอยู่รักษาบาดแผลเพียงลำพังให้หาย
แต่รอยแผลเป็นที่มากมายยังไม่เคยหายไป
แม้จะมองไม่เห็น แต่ยังคงปรากฏอยู่เสมอให้รู้สึกเจ็บขึ้นมาอีก
ใจฉันมีให้กับใครสักคนหนึ่ง
ต้องมีเข็มอีกกี่พันเล่มที่คอยขวางกั้นฉันเอาไว้
กี่เล่มแล้วที่ทำให้ฉันต้องมีน้ำตา ต้องมีบาดแผลซ้ำๆ
รักมากก็ต้องเจ็บมากหรือ ทำไมต้องเป็นเช่นนั้น
ทุ่มเททั้งหัวใจที่ต้องแลกกับความทุกข์ ความโศกเศร้า
ช้ำใจกับหลายครั้งหลายครา กับภาพและความรู้สึกที่ยังตราตรึง
แต่ก็ยอมที่จะถูกสิ่งเหล่านี้ทำร้าย เพราะอะไร
เพราะความหวัง เพราะความฝัน
เพราะกำลังใจที่ยังคงมีให้อยู่หรือไรกันนะ
อะไรที่ทำให้ฉันยังเดินไปเผชิญกับความเลวร้ายมากมายเหล่านี้
เพราะความรัก ความผูกพันธ์
คำพูดจากปาก ที่พร้อมจะบอกกับใครสักคนหนึ่ง
และให้ได้กับเพียงคนๆเดียว ถูกเอ่ยออกไปแล้ว
สามารถหรือที่จะเอากลับคืนมา เพื่อไปให้ใครอื่นได้อีก
ฉันสามารถถอนคำพูดนั้นคืนมาได้อย่างนั้นหรือ
ถึงแม้จะทำได้ แล้วคิดว่าฉันอยากทำหรืออย่างไร
จิตใจฉันไม่ใช่ทาสีดำเอาไว้นะ 
ตั้งแต่ครั้งแรกที่พูดออกไปว่ารัก ก็รู้สึกมั่นใจ
และตั้งความหวังว่าจะทำให้ได้ ขอฝากคำๆนี้ไว้เป็นพยาน
แต่เมื่อตัวฉันกลับรู้สึกสนใจใครอื่นขึ้นมา แม้เพียงชั่วคราว
ก็ไม่ได้ต้องการใครคนนั้นเสียมากมายเลย
คิดแล้วก็คิดอีก คิดทั้งน้ำตา
ฉันทำเรื่องแบบนั้นไม่ได้ ฉันฝากรักเอาไว้ให้ก่อนแล้ว
แล้วจะไปมีใครอีก ก็ได้แต่ปฏิเสธตัวเองอยู่ร่ำไป
แต่สิ่งนี้กลับทำให้ความเจ็บช้ำทวียิ่งกว่า
ตอนนี้ฉันเหมือนคนที่ถูกตัดซึ่งความไว้ใจเสียแล้วหรือ
ฉันเจ็บที่ต้องเป็นเช่นนี้ แต่ก็ต้องทนรับกับสภาพนี้
เพราะตัวฉันนั้นก่อขึ้นมาเอง เพราะจิตใจที่สับสนของฉันเองแท้ๆ
จนถึงตอนนี้ ฉันก็ได้รู้ว่า
ฅนที่ฆ่าฉัน ไม่ใช่คนที่ฉันรัก และไม่ใช่ใครอื่นใด
แต่กลับกลายเป็น ตัวของฉันเอง....				
27 พฤษภาคม 2547 17:43 น.

“คุณ ร้านของเราชื่ออะไรดี”

spectaculous

คุณ ร้านของเราชื่ออะไรดี เป็นคำพูดที่สุดที่รักพูดกับผมเมื่อเราเดินผ่าน ห้องว่างให้เช่าห้องหนึ่งของอาคารใหม่ใจกลางตลาด เธอใฝ่ฝันอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง อยากที่จะทำเพื่อลุกและเพื่อครอบครัว แต่ทว่าผมบอกไปว่า ปกติตัวเราเองก็ทำงานเลี้ยงชีพไปวันๆหนึ่ง เงินก็พอมีเก็บสำรองเล็กๆน้อยๆ ส่งลูกเล่าเรียนก็พอจะทานไหว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้อีกนานแค่ไหน ยิ่งลูกโตขึ้นเรียนสูงขึ้นค่ารายจ่ายต่างๆก็เพิ่มขึ้นๆเป็นเงาตามตัว ทุกครั้งที่ผมกับภรรยาเดินผ่านห้องๆนี้ทีไร เธอต้องได้รับคำตอบที่หดหู่ใจจากผมเสมอ ทั้งที่ผมเองก็คิดเสมอว่า ทำอย่างไร เราจึงจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ แล้ววันหนึ่ง ผมก็ได้พบกับเพื่อนสมัยเรียนคนหนึ่ง ที่เมื่อก่อนเค้าไม่มีอะไร เป็นลูกของคนเร่เก็บขวดขายไปวันๆหนึ่ง ต้องตากแดดเหนื่อยหอบกันทั้งวัน แต่เดี๋ยวนี้กลับเป็นเจ้าของกิจการ ร่ำรวย แต่ก็ไม่ลืมตน แม้ครั้งที่ได้เจอเขายังใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้นธรรมดาเลย ไม่ได้ต้องใส่สูทให้ดูสง่าสมฐานะ เพราะสิ่งที่เขาเป็นก็เป็นความสง่าในตัวเองแล้ว เราได้โอกาสพบและคุยกัน เขาบอกกับผมว่าที่เขามีวันนี้เพราะเขาเชื่อใจตัวเอง อะไรที่ผิดพลาดไม่เคยโทษ เอามาคอยกำชับและย้ำเตือนตนเสมอ ถึงเมื่อก่อนต้องมาเดินเก็บขวดกลางแดดจ้า แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าตัวเองด้อยค่าเลย ก็เห็นว่าเราก็เป็นคนเหมือนอย่างใครๆเขา มีมือมีเท้าเช่นกัน ไม่ใช่ผู้แพ้ และก็อดทนมากกับทุกสิ่งที่จะเข้ามาทั้งดีและร้าย ตอนอายุได้17 เขาเริ่มจากไปสมัครเป็นลูกจ้างตำแหน่งต่ำต้อย และก็ค่อยๆไล่ขึ้นไปถึงแม้จะใช้เวลานานก็ตามสำหรับเด็กที่ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสืออย่างเขา จนนานพอสมควรคาดว่าเก็บเกี่ยวอะไรๆมาพอสมควร มีเงินทุนสักก้อนหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่จะออกมาทำอาชีพอิสระ เริ่มก่อร่างสร้างตนจากประสบการณ์ที่เคยมีมา จนถึงตอนนี้ก็ได้ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นนี้  แม้จะเป็นช่วงเวลาที่นานเกือบครึ่งชีวิตของตัวเขากับการที่ได้มาถึงจุดนี้แล้ว และเขาบอกกับผมอีกว่า คนเรามักคิดถึงแต่ในแง่ลบจนลืมแสวงหาทางด้านบวก ประโยคนั้นที่ผมได้ยินชัดเจนที่สุด และนั่นคือจุดเริ่มต้นของผมอีกครั้ง จนถึงวันนี้ คำพูดที่ว่า คุณ ร้านของเราชื่ออะไรดี ยังคงดังก้องอยู่ข้างในเสมอ แต่ทว่าคำตอบที่ผมจะมอบให้กับสุดที่รักของผมนั้นไม่มีหรอก และเธออาจไม่ต้องการคำตอบแล้วก็ได้ ในเมื่อเวลานี้สิ่งที่ผมจะถามกับเธอบ้างว่า เราจะเปิดสาขาสองที่ไหนดี 

แรงบันดาลใจจากเพื่อน กับประโยคสั้นๆ
กับวันนี้เวลานี้ ที่บอกได้เพียงว่า ขอบคุณ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟspectaculous
Lovings  spectaculous เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟspectaculous
Lovings  spectaculous เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟspectaculous
Lovings  spectaculous เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงspectaculous