14 มิถุนายน 2547 12:15 น.

๏ ลายน้ำไหล...ใจจรัสศรี๚..ทิกิ

tiki

๏ .ไม่มีวันที่ฉันจะลืม..คุณหญิงจรัสศรี .. ๚ ...
กวีคนงาม คนใสซื่อ  คนจิตใจละเอียดอ่อนงดงามคนนั้น...    ๏ 
     
            ๏วันที่รู้จัก  คุณติ๋ม  ๚ ........
....เป็นวันอันยุ่งยากที่สุดในชีวิต กับเจ้าตัวเล็กจอมงอแงที่บ้านในวันนั้น..
          . คุณติ๋มเธอเป็นเจ้าของ เนอร์สเซอรี่ ในซอยข้าง ตลาดพงศ์เพชร  .
                .คุณพ่อของเจ้างอแง กับ สามี  คุณติ๋มนั้นเป็นมิตรสหายกันแต่ครั้งเรียนที่ ชิคาโก ด้วยกัน
           แต่  คุณต้อย สามี คุณติ๋ม เธอเรียนวิชาประกอบเครื่องบิน ซึ่งมาหารับประทานในเมืองไทยมิได้..ในช่วงเวลานั้น.

             .ครั้นกลับมาประเทศไทย วิถีชีวิตรักแต่วัยเด็กของสองคน ก็ทำให้มาประสบพบกันใหม่ 
เป็นคู่ตุนาหงัน บรรจบกันด้วยความรัก 
แม้ว่าคุณแม่ คุณพ่อ  คุณติ๋ม ซึ่งเป็นครอบครัวนายตำรวจใหญ่ นั้น
จะไม่เห็นด้วย แต่ก็ขัดลูกสาวมิได้ 
 ทั้งคู่ จึงได้มาแต่งงานกันแล้วประกอบ อาชีพสองอย่างพร้อมกัน
 ตามความถนัดของแต่ละคน ...
          คบหากับครอบครัวคุณติ๋ม   ตั้งแต่เห็นคู่สามีภรรยาช่วยกันกุลีกุจอ ทำธุรกิจ เนอร์สเซอร์รี่ จนถึงวัน ที่เศรษฐกิจทรุด จนเธอ ถูกธนาคารแห่งชาวนาชาวไร่ไทย สั่งฟ้องจะล้มละลาย ในวันนั้น...
           ชื่อของ คุณหญิงจรัสศรี ..  ก็โผล่แวบเข้ามา เมื่อ คุณติ๋ม เกิดไปพบ ท่านโดยบังเอิญในรถโค้ชไปพักผ่อนของโรงเรียน คอนแวนต์แห่งนั้น...ศิษย์เก่าสองคน นั่งเศร้าสงบบนเบาะเดียวกัน

         **คุณหญิงจรัสศรี ...ท่านหันมาทักติ๋มว่า คุณเป็นผู้หญิงสวยมาก คุณติ๋ม แต่ทำไม หน้าคุณถึงเศร้าจังนะคะ**
    คุณติ๋ม เล่าด้วยใบหน้าท่าทางแจ่มใส ...
สองหญิง บรรยายความทุกข์อันถูกสามี ไปมีหญิงอื่น ด้วยวิถีทางอันน่าชอกช้ำใจทั้งคู่ไปตลอดทาง
  ความทุกข์ใดในโลกจะร้ายเท่าที่ต้องประสบ ว่า ของรักของตน ถูกคนอื่น ทดลองใช้ อยู่เรื่อยๆ โดยไม่อาจแย่งชิงคืนได้

          นับจากไปเที่ยวน้ำตกกับ ขบวนศิษย์เก่า โรงเรียนคอนแวนต์แห่งนั้น 
         .  คุณหญิงจรัสศรี .ก็เชิญ คุณติ๋ม  ไปเป็นแขกคนสนิท..ร่วมรับน้ำชายามบ่าย 
ที่คฤหาสน์หลังงามของเธอในซอย สุขุมวิท ประมาณว่า สามสิบกว่า ซึ่งฉันจำซอยมิได้เสียแล้ว..
           .เวลาของเธอทั้งสองก็เป็นไปในอันว่า   คุณหญิงจรัสศรี .คนงามแสนบอบบางนั้น จะอ่านบทกวี ไทย อังกฤษ ของเธอให้ คุณติ๋ม   ฟัง  เป็นที่ชุ่มชื่นจิตใจทั้งสองฝ่าย 
          และ ได้ ต่อเนื่องไปจนถึงการเดินทางไป ปฏิบัติธรรมร่วมกัน ที่ไชยากับวัดแห่งท่านพระพุทธทาสภิกขุ...และกิจกรรมอื่นอีกมากหลาย 
           โดย   คุณหญิงจรัสศรี .เป็นฝ่าย อ้อนวอนด้วยเสียงอันอ่อนหวานและเมตตาของเธอ ให้คุณติ๋ม วางงานอันยุ่งเหยิงในฐานะ เจ้าของกิจการดนตรีเล่นประจำตามโรงแรมและงานเลี้ยงต่างๆในระยะหลังนั้น ลงไปก่อน  และให้หันไปสูธรรมสายของเธอบ้าง
 

               ในการคบหาสมาคมกับ .  คุณหญิงจรัสศรี ..  นั้น ก็เกิดผลดีมหาศาลนานับประการต่อมา..... 
               คุณหญิงจรัสศรี ..  ในฐานะ น้องสาวเจ้าสัว ประธานธนาคารเพื่อชาวนาชาวไร่ แห่งประเทศไทย แห่งนั้น ก็ได้ เรียกลูกน้อง พี่ชาย มาพบ พร้อมขอให้ ผ่อนผันให้คุณติ๋ม  ไประยะ หนึ่ง   แต่คุณติ๋ม  ก็ยังทุกข์ระทมอยู่อีก
                            ฉันไปพบคุณติ๋ม เรื่อยๆ ด้วยมีเรื่องช่วยเหลือกันอยู่บ้างอย่างสม่ำเสมอ....และ เมื่อเดินพิจารณาความกว้างใหญ่ ของเนื้อที่กว่าครึ่งไร่ของ อดีต เนอร์สเซอรี แห่งนั้น ฉันก็หยิบ ภาพถ่ายโฉนด ของเธอมาดู พร้อม ฟันธงลงไปทันทีว่า

               **คุณติ๋ม ตัดโฉนดผืนเล็ก 87 วานั้นขายให้ข้างบ้านไป ในราคาประเมิน วาละ สี่หมื่นกว่าเสียจะได้ cover หนี้ธนาคาร คุณยังมีเหลือ อีก 200 วา ครึ่งไร่ นี้ จะได้หมดปัญหา**
           คุณติ๋ม ผู้นับถือ  ๏ พระแม่มารี  ๚ ..ในฐานะแคทอลิค เก่า..กอดฉันไว้แนบแน่น แล้ว บอกว่า เพิ่งขออธิษฐานกับ๏ พระแม่มารี  ๚ ..........อยู่เมื่อเช้าว่าขออย่างไรก็ได้ ให้สามารถหาหนทางแก้ไขเรื่องนี้ ขอให้๏ พระแม่มารี  ๚ ..........ช่วยนำบุคคลที่จะให้แสงสว่างแก่เธอมาพบเธอ ให้แก้ไขปัญหาให้เธอได้เถิด..........
                  คุณติ๋ม แก้ปํญหาชีวิตกับ สถาบันการเงินใหญ่นั้นได้ ..และก็เป็นช่วงที่นำให้ฉันได้รู้จัก กวีคนงามคนดีเช่น

.  คุณหญิงจรัสศรี .ผู้น่าประทับใจ..

font color=#8C7800>  
``*:-.ฤา,_,.-:*``ฝันนั้น*:-.,_,.-:*``มิใช่สิทธิ์ *:-.,_,.-:*``*:-ของฉัน ? ,.-:
*``*:-.,_,.-::-.,_,.-:*``*:-  

 ทิกิ_tiki
ยังมีต่อ..to be  continued				
12 มิถุนายน 2547 10:51 น.

๏ ช่อกุหลาบ...งามเพราะครู จับมือสอน ๚

tiki

ช่อกุหลาบ...งามทุกมุม ๚ 


      ๏ เป็นเช้าแสนสดใสในเช้านี้

อากาศเย็นสดชื่นดี....ตื่นเริงร่า

หันไปดูห้องสวยด้วยอีกครา

ช่อกุหลาบวางท้าอยู่ทุกมุม ๚ 


      ๏ เป็นนักจัดดอกไม้มือฉมัง

เคยนึกขลังไปเรียนจัดอย่างสุขุม

เรียนวิชาจัดดอกไม้ไว้ครอบคลุม

ให้งามมองจ้องประชุม...สบายใจ.. ๚ 


      ๏ บ่ายพฤหัส..มัดเอกสาร..งานเรื่องคลัง

ผ่านด้านหลัง..ริมถนน...บนทางไสว

เจ้ากุหลาบ...บัวบูชา....ค่าดอกไม้

อดไม่ได้..ขนหอบซื้อ...เคยมือกัน ๚ 


      ๏ เคยจัดแต่งแปลงองค์ขึ้นทรงเครื่อง

ตัดปลายเปรื่อง...แช่น้ำ..งามเฉิดฉัน

ริดใบออก ริดหนาม..จนข้ามวัน

แจกันนั้น....ถวายพระ   ..กระจะตา ๚ 


      ๏ ส่วนที่เหลือ...ดูไม่เบื่อ...จัดทุกที่

บรรจงคลี่..วางคลัสเตอร์.*..ลงรอท่า

ตัดปลายก้าน กะสัดส่วน...ชวนมองมา

เสียบ หลัง...หน้า....วางจัดรอ...จนพอดี ๚ 


      ๏ ทุกแจกัน...เหมาะเจาะ...พอเหมาะงาม

ดอกและก้าน...ไม่วางก้าม...ลงไล่รี่

สีผสาน...งานดอกไม้...มวลมาลี

ก็ทั้งนี้...ครูมีชื่อ.....จับมือสอน  ๚


            **พวกเธออย่าได้เดินไปจำแบบอย่างที่ผู้ค้าทำขายหน้าวิทยาลัยแบบ
ไม่ประณีตเรียบร้อยพวกนั้นมาเป็นแบบอย่างนะ
          วิทยาลัยของเรา สืบทอดประเพณีวัฒนธรรมแห่งพระองค์ท่าน
สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี
 พระมเหสีแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ห้า

          งานของเราเข้าวังบ่อยนะคะคุณลูกศิษย์ทั้งหลาย**

          เสียงท่านอาจารย์ยังแจ้วๆแว่วเข้าหู


*เดินเข้าเดินออกก็ไหว้สมเด็จพระแม่เจ้าท่านบ้าง
ไม่ใช่ไม่รู้ใคร ยกมือไหว้ส่งเดชไปก็ไม่ดี 
ให้รู้จักขึ้นไปนั่งถวายบังคมท่านบ้าง**

ทิกิ_tiki


ครู				
11 มิถุนายน 2547 02:25 น.

๏ รักเมตตา.ไหล บ่าท่วมโลกา๚.กลอนน้ำไหล

tiki

กลอนน้ำไหล ๕..๑๒รักเมตตา.ไหล บ่าท่วมโลกา.. ๚ 



                           ๏รักเอ๋ย..เอ่ยเมตตา

                        ไหลบ่า..โลกา...ดั่งฝัน
                     
                      ไหลชื่น..ดื่นใจ..ไปนิรันดร์

                    ชะไรร้อน...ก่อนฝัน...นั้นคงเย็น

                โชคหรือกรรม..นำโศก..ทั่วโลกหล้า

            ...เวทนา...นำมา..เกิด...ระเบิดให้เห็น

          คนหรือเกิด..ตาย....สลายชีวิต...ลิขิตเป็น

       วิบากเลือกเฟ้น....ฟ้าเค้นมาแกล้ง...แล้งเข็ญขาดใจ ?๏

                           ๏     ดั่งน้ำไหล..กลอนจากสาย..หทัยสรรค์

                    ผู้คนอัน...ทุกข์ใดเหมือน...   เบือนฝันใฝ่

                    ขึ้นกลอนห้า..หัวใจพา หกเจ็ดไป

                     แปดเก้าไหว...สิบสิบเอ็ด..เข็ดสิบสอง๚ 

                          
                         ๏ ไหลบ่าไปทั่วโลกาคราคิดคนึง

                  ให้น้ำใจไหลซึ้ง ..ซึ่งผุดผ่อง

                  ฝากเมตตาให้โลกาช่วยประคอง

                  ดูแลผองเพื่อนมนุษย์...หยุดสงคราม ๏    ๚ะ๛- 

๏ ทิกิ_tiki ๚ 





กลอนน้ำไหล ๕..๑๒รักเมตตา.ไหล บ่าท่วมโลกา.. ๚ 
จารหน้าจอ ใหม่บ่ายวันที่สิบเอ็ด...๑๑  มิถุนายน  พุทธศักราช ๒๕๔๗
แรม  ๙  ค่ำ เดือน ๗				
7 มิถุนายน 2547 01:40 น.

๔๖ ที่รัก คุณจะหยุดดีจนฟ้าสะเทือนเสียที,.-ได้ไหม

tiki

ใครจะเลวร้ายเท่าฉันหนอ...?

    ...ไอ้เด็กเลวร้ายคนนั้น คนที่ชอบแอบออกจากห้องเรียนไปเดินเล่น
ดูผีเสื้อในสวน
คนที่ร้องเพลงเริงร่าท่ามกลางสนามหญ้าของโรงเรียน คนที่ชื่นบานเต้นรำ
อยู่ในสวนกลางสนาม เพื่อจะกลับเข้าไปถูก *คุณคูขา**  สั่งคาบไม้บันทัด 
ยืนกางแขน พร้อมยืนขาเดียวให้เป็นตัวตลกของเพื่อนหน้าห้อง
        ไอ้เด็กเลวร้ายคนนี้ ที่ไม่อยากไปโรงเรียนเล้ย ขอยอมปวดท้อง
นอนเล่นบนเตียงเพียงเพื่อจะไม่ต้องไปโรงเรียน 
โกรธ *คุณคูขา** นั้นเหลือเกิน
........อยากเล่นเร่ร่อนไปในเชิงเขา วิ่งเล่นในสวนต้นไม้ใหญ่ 
ได้นั่งระบายสี ได้ร้องเพลง....อยากร้องเพลง อยากเล่นดนตรี..
อยากเป็นคนธรรพ์บรรเลงเพลงสวรรค์ตลอดไป
             ชีวิต และสังคม ได้บ่มอะไรให้ชีวิตบ้างหนอ...

         ร้องเพลง สนุกสนาน สำราญบานใจ หน้าตาชื่นบานดวงตาแจ่มใส
มีชีวิตเหลือเกิน..เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้ร้องเพลง ครวญเพลงสำราญชื่นบานนั้น.
..ใครหนอจะเข้าใจ...
เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้ ฟ้อนรำรื่นเริงชื่นบานเหลือเกิน....
เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้เต้นระบำรำฟ้อนร้องเพลง มีความสุขเหลือเกิน...

       ทำไมใครๆถึงไม่ให้เราร้องเพลง ทำไม ลูกสาวคนนี้ถึงไปร้องเพลง
ไม่ได้หนอ     ทำไมใครๆก็บอกว่า ชีวิตลูกสาวพ่อแม่ต้องดีเด่น ต้องเป็น
โน่นเป็นนี่ที่เคร่งขรึมขลัง
ก็ชีวิตหนูจะมีเสียงดนตรีไว้คู่ชีวิตหนูไม่ได้เลยหรือ...
.....นิ้วเล็กๆนั้น ที่หัดสีซอ หัดตีระนาด หัดเล่นออร์แกน หัดเล่นเปียนโน...
 ..... ตัวน้อยที่หัดร้องเพลงบนตำหนักเจ้าจอมนั้น...

      ในฝันทุกคืน...ที่ต้องวิ่งหนี สิงห์ขาว ที่ชอบมาโผล่ใต้เตียงแล้วมายืน
ข้างเตียง  สิงห์ขาวที่ชอบมากระซิบว่า..ไป..กลับไปด้วยกัน หนีมาทำไม..
        เสียงร้องกรี๊ดทุกคืน...ในเตียงคอกเล็กๆนั้น...
   พ่อผู้ลุกมาโอบอุ้มไว้ทุกคืน...
**เสือมาค่ะพ่อขาเสือมาค่ะพ่อขา..หนูกลัวค่ะพ่อขา**
      เสือมาทุกคืน...สิงห์ขาวที่ชอบกางเล็บแล้วแยกเขี้ยว...
            ในฝันที่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุน หนีเสือ หนีสิงห์ขาว.

     แล้วเช้าขึ้นมา..เจ้าซีซาร์หมาตัวนั้นที่ชอบกินข้าวเกรียบว่าว
คือเพื่อนเดียวในชีวิต ที่วิ่งไปวิ่งมาวิ่งเล่นกอดกัน ...
เจ้าหมาสีน้ำตาลอ่อน อ่อนโยนกับเด็กที่กอดกันทุกวัน
เจ้าหมาที่อยู่จนแก่ ..ที่คอยเลียหน้าเลียตากัน ที่คอยให้โอบกอดรัดกัน.
..เวลาเสียงแม่ดุเอ็ดที

            ใต้โต๊ะพ่อคือที่หลบซ่อน..
พ่ออยู่ไหนคะ พ่อไปไหน พ่อทำไมต้องไปเรียนไกลถึงอเมริกา
อเมริกานั้นมันอยู่ไหนคะ หนูจะตามหาพ่อ 
พ่อขา กลางคืนเสือมาไม่มีใครมากอดหนูเลย เสือมาทุกคืน
หนูกลัวจริงๆพ่อขา

ทิกิ_tiki				
2 มิถุนายน 2547 09:47 น.

๏ ๏ ๔๕วิสาขะบูชา...สหประชาชาติ ๏ ๏

tiki

เนื่องจากคณะกรรมมาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ร่วมพิจารณาและมีมติเห็นพ้องต้องกัน
ประกาศให้วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลกทั้งนี้ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 
ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวล มนุษย์ทั้งหลายในโลก 
จะเห็นได้จากการยกเลิกแบ่งชนชั้นวรรณะ ซึ่งเท่ากับเป็นการเลิกทาสโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ
 นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย กล่าวคือ ทรงสอนให้ไม่ฆ่าสัตว์ ให้รู้จักช่วยเหลือสัตว์
 เหตุผลสำคัญ อีกประการหนึ่งคือ 
พระองค์ ทรงเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้


 โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนา พุทธและทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิ คุณสอนโดยไม่คิดค่าตอบแทน 



 
ที่มา..http://www.worldbuddhism.net/buddhism-day/visak-day.html				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki