ไม่เท่าไร...

..โทโส..

เหวยเหวยวนวากย์กลั้วกันเอง
เศียรจ่อสุมเชลงล่อล้อ
มธุรสประพจน์เลบง.ระบัดบ่ม
หนอช่างพากย์พรายพ้อ..พร่างพร้อยเหลือหลาย ฯ
โลกกลายไยมืดครึ้ม.ครอบหัว
สูงส่งสายตามัว...ม่านฟ้า
ขอบโค้งเคลื่อนสอดสลัว...ลามล่วง
ฤๅว่ากะลาคว้า.ขวักคล้อยคลุมเศียร ฯ
วนเวียนละเลียดล้วน..เลอนัย
วิเคราะห์เจาะวิจัย...จัดจ้าน
แปลกปลอมผ่านพิสัยแสดงศักดิ์
ปราชญ์เปรื่องเมลืองสะท้าน.ถั่งถ้อยรอยกถา ฯ
ราตรีรึงรัดสิ้นสูรย์แสง
ฤๅเปรียบมานะแสดง........ดั่งนั้น
ทิฐิสรรพส่อแสลง...ลงล่าง
หยดหยาดก็อาตม์รั้น..ร่ายร้อยพลอยขำ
				
comments powered by Disqus
  • ผู้หญิงไร้เงา

    23 เมษายน 2546 16:39 น. - comment id 130354

    จริง ๆ คุณก็แต่งดีนะ  แต่ฉันอ่านกลอนแบบนี้ไม่ค่อยเป็น  เอาเป็นว่าแวะมาทักทายแล้วกันนะ
  • โทโส

    23 เมษายน 2546 16:59 น. - comment id 130366

    ขอบคุณเด้อที่แวะมาทักทาย
    
    แบบนี้ครือ...โค-ลง...ปลัก..เอ๊ย...สี่สุภาพ....หรือ...โคลงสี่เรียบร้อย...ฮิๆๆ....บ่ใจ้กลอน....
  • จังงัง พรรคลิงรักลิง

    23 เมษายน 2546 17:26 น. - comment id 130374

    ฮะๆๆ....แซวข้ามกระดานหน่อย  ทางโน้นน่ะ ทางไหนหว่า .. ไปเรือ หรือ ไปรถ ดีล่ะ
  • ..สีน้ำฟ้า..

    23 เมษายน 2546 20:33 น. - comment id 130411

    ไม่รู้จะขำเท่าไร.. 
    แบบว่า.. อ่านแล้วยัง งง น่ะค่ะ
    เอาเป็นว่า..แวะมาชื่นชม โคลงเรียบร้อยก็แล้วกันค่ะ.. เขียนแบบนี้ไม่เป็น..ขอชื่นชมนะคะ
  • อัลมิตรา

    23 เมษายน 2546 23:33 น. - comment id 130525

    .....ทรายงามยามล่องพริ้ว...............พราวประกาย 
    ผุดผ่องมองความหมาย..................ซ่อนเร้น 
    ชีวิตจิตโยงสาย-............................เป็นหนึ่ง 
    มากเผ่าเราต่างเว้น........................จากมล้างพงษ์เดียว ฯ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน