ธรรมชาติแห่งอำนาจ

บพิตร

พายุร้าย...ตายเป็นแสนแผ่นดินโศก
ธรณีไหวโยก...สุดขื่นขม
วิบัติภัยสั่นโลกาน่าเศร้าตรม
ประชาคมทั้งโลกรู้หดหู่ใจ
ธรรมชาติ...มิอาจฝืนยืนหยัดสู้
จงรับรู้ความแท้จริงอันยิ่งใหญ่
ธรรมชาติ...กำหนดเส้นความเป็นไป
เหล่ามนุษย์นั้นไซร้แค่ธุลี
อันกิเลสตัณหากว่าพายุ
แรงปะทุเกินเขาไฟในโลกนี้
ความพวยพุ่งราคะแสงแห่งโลกีย์
จะป่นปี้กว่าดินน้ำมาทำลาย
หลงอำนาจขาดธรรมนำชาติล่ม
เหมือนจ่อมจมดิ่งตกนรกร้าย
เกินนับศพผู้คนที่ล้มตาย
บนทางสายอำนาจที่ขาดธรรม.				
comments powered by Disqus
  • ดาวระดา

    27 พฤษภาคม 2551 13:59 น. - comment id 854216

    สวัสดีครับ
     แวะมาชื่นชมผลงานกลอน
    ยังไพเราะพร้อมสาระตลอดเลย
    ยอดเยี่ยมครับ
  • โคลอน

    27 พฤษภาคม 2551 15:55 น. - comment id 854257

    ธรรมชาติพิบัติ แต่ละคนต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
    
    แต่ถ้าคนวิบัติ ก็คงไร้ซึ่งความปรารถนาดีต่อกัน
    
    อย่างหลังน่ากลัวกว่าเยอะเลยนะคะ23.gif
  • ผู้หญิงไร้เงา

    27 พฤษภาคม 2551 19:42 น. - comment id 854347

    พายุร้ายว่าร้ายยังไม่เท่า
    คนที่เฝ้าหลงอำนาจหลงบาตรใหญ่
    ไม่คำนึงคุณธรรมค้ำจุนใคร
    มองแต่เรื่องสื่อนัยกำไรตน
    
    11.gifคนที่เห็นแก่ประโยชน์ของตน  จนลืมคุณธรรม  หลงอำนาจ  คงเจริญอยู่ได้ไม่นาน  แต่บางครั้งก็น่าแปลกที่บางคน  อยู่ได้นานเหลือเกิน (ชื่นชมในผลงานค่ะ)11.gif
  • อัลมิตรา

    28 พฤษภาคม 2551 22:52 น. - comment id 854761

    มนุษย์ตัวจ้อยคิดท้าทายธรรมชาติ
    ด้วยการฝืนในหลาย ๆ สิ่ง
    หนำซ้ำยังประเมินตนเองว่าเลิศล้ำกว่าสิ่งใด
    
    เมื่อคราวที่ธรรมชาติแสดงความอหังการบ้าง
    มนุษย์ก็ได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรม
    
    แต่เชื่อเหอะ ยังไม่รู้สำนึกอยู่ดี
  • พี่ดอกแก้ว

    29 พฤษภาคม 2551 15:08 น. - comment id 854937

    ลมร้อนผ่านบ้านเรือนเดือนเมษา
    ระอุกล้าเปลวแดดแผดเผาหมอง
    ผิวกายไหม้ใจมีแผลพุพอง
    เพราะร่ำร้องไล่ร้อนจนย้อนใจ
    
    ลมร้อนหายกลายเป็นลมกรรโชก
    เกิดวิโยคลมฝนล้นฟ้าใส
    ทั้งป่าเมืองมีเรื่องวาตภัย
    เกิดหวั่นใจความเย็นเป็นฆาตกร
    
    พายุหายคลายร้อนตอนเดือนหก
    ฝนเริ่มตกพร่างคลุมสุมทุมขอน
    เขียวขจีคลี่กลุ่มทั้งลุ่มดอน
    เป็นไปตามวงจรฤดูกาล
    
    ลมร้อนเย็นเป็นไปตามภูมิเขต
    สิ่งอาเพศบ่งลางทางสื่อสาร
    ต่างจากภัยกิเลสใต้มนต์มาร
    ไม่จำกัดช่วงกาลของเภทภัย
    
    แม้นฝนพร่างกลางฟ้าถ้าใจร้อน
    จะนั่งนอนก็หมดสุขสดใส
    แม้นตะวันยังคงสาดแสงไกล
    ก็มืดมิดหากใจมีม่านบัง
    
    ภัยภายนอกอาจมากความเสียหาย
    ชีพมากมายหายลบถูกกลบฝัง
    แต่ก็มีช่วงเวลาให้ระวัง
    มีพยากรณ์ให้ฟังก่อนเหตุการณ์
    
    ภัยภายในจากใจไร้กุศล
    เกิดสงครามจราจลให้กล่าวขาน
    ความเสียหายมากล้นพ้นประมาณ
    ไม่มีการพยากรณ์ก่อนแสดง
    
    ภัยภายในสืบภัยไม่รู้สิ้น
    ทำแผ่นดินลุกเป็นไฟทั่วระแหง
    หากโลภโมโทสันนั้นร้อนแรง
    ต้องแสวงปัญญามาสู้ภัย
    
    36.gif11.gifสวัสดีค่ะ แวะมาฝากไว้ด้วย ..ช่วยกันเขียน

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน