...จากเมืองไทย... ขอบันทึกเล่าความตามที่เห็น เก็บไว้เป็นความทรงจำอันล้ำค่า เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตติดตรึงตรา ราวกับว่าภาพเคยฝันพลันเป็นจริง เมืองยุโรปเคยเห็นได้ในแผนที่ เรื่องราวมีได้ศึกษามาบางสิ่ง จากหนังสือตำรามาอ้างอิง ดูภาพนิ่งบนกระดาษวาดฝันไป ดูทีวีเห็นบ้านเมืองเขาเรืองรุ่ง กว่าเมืองกรุงเรานักหนาพาสงสัย เป็นภาพจริงหรือภาพหลอกยอกย้อนใจ ความยิ่งใหญ่จริงหรือเล่นเป็นสงกา คนเคยไปบอกกล่าวเล่าให้คิด ในชีวิตสักครั้งหนึ่งพึงเสาะหา มีโอกาสไปดูเองเพ่งด้วยตา ให้รู้ว่าเป็นจริงแค่ไหนในน้ำคำ ยี่สิบสามนาฬิกาลากรุงเทพฯ ไม่หนาวเหน็บฟ้าใสใจชุ่มฉ่ำ เครื่องแอร์บัสเหินฟ้าน่าจดจำ ได้อิ่มหนำทั้งคาวหวานสำราญใจ แวะอัมมานจอร์แดนแสนเงียบเหงา เวลาเข้าตีสี่นี่วันใหม่ ตรงเวลาแปดโมงเช้าของเมืองไทย รอเครื่องไปอีกทีสี่ชั่วโมง กรุงอัมมานเมืองหลวงของจอร์แดน เป็นแว่นแคว้นทะเลทราย คล้ายฝุ่นผง ดูเวิ้งว้างแห้งแล้งแดดแรงลง ไม่มีดงเขาป่าค้าน้ำมัน เข้าห้องน้ำห้องท่าพาอึดอัด เห็นได้ชัดไม่สะอาดจนหวาดหวั่น จำต้องทนพอปลดทุกข์ลุกเร็วพลัน มองหน้ากันได้อมยิ้มพออิ่มใจ ...ไปปารีส... จากอัมมานมุ่งหน้าสู่ปารีส ทุกดวงจิตเริงร่าหน้าสดใส เป็นเวลาหกโมงเย็นของเมืองไทย นับรวมได้สิบเก้าชั่วโมงโล่งดวงแด เป็นเวลาห้าโมงเช้าชาวน้ำหอม ทุกคนพร้อมเหนื่อยเพียงใดไม่แยแส กรุงปารีสเมืองในฝันนั้นชวนแล ใจแน่วแน่จะเก็บเกี่ยวไม่เที่ยวเพลิน หวนคำนึงถึงเมียลูกผูกดวงจิต ผ่านความคิดด้วยตั้งใจใช่ผิวเผิน อยากให้มาเคียงข้างร่วมทางเดิน คงเพลิดเพลินแสนสุขใจในต่างแดน อากาศเย็นพอสบายได้สัมผัส ไม่อึดอัดผ่อนคลายสุขใจแสน ฟ้ามืดครึ้มแต่จิตใจไม่คลอนแคลน รถบัสแล่นมุ่งหน้าพาสู่เมือง ท้องถนนรถราไม่ติดขัด เส้นทางลัดมากมายได้ต่อเนื่อง ทั้งทางลอดทางข้ามตามตัวเมือง ดุจฟันเฟืองพาลื่นไหลให้คล่องตัว สองข้างทางเรียงรายไม้เมเปิล มองดูเพลินสุดแสนไกลปลูกไว้ทั่ว ตัดตกแต่งงามสดใสไม่ขุ่นมัว ดุจดังรั้วเขียวขจีช่างมีมนต์ แม่น้ำแซนน์สวยใสไหลพาดผ่าน ลอดสะพานเรือมากมายไม่สับสน สะพานโค้งลวดลายงามยามได้ยล รูปปั้นคนประดับไว้ให้ชื่นชม สองฟากฝั่งตึกโบราณขนานขนาบ งามซึมซาบงานก่อสร้างช่างเหมาะสม ทรงคุณค่าประทับใจให้อารมณ์ เกินคำชมจะสรรหามาบรรยาย สถาปัตย์ฝีมืองามวิจิตร ยิ่งพินิจยิ่งชื่นชมสมความหมาย เมืองเก่าแก่ทรงคุณค่ามิเสื่อมคลาย อาบกลิ่นอายประวัติศาสตร์ชาติโรมัน ตามทางแยกตัดผ่านมีงานศิลป์ ให้ยลยินทั่วไปเหมือนในฝัน เป็นรูปร่างแปลกตาน่าอัศจรรย์ ล้วนสร้างสรรค์ประณีตวิจิตรตา รูปพระเจ้านักรบมีครบถ้วน เหมือนเชิญชวนทักทายให้ศึกษา สัตว์น้อยใหญ่เทพนิยายคล้ายเคลื่อนมา ยืนจังก้าให้เพ่งมองไตร่ตรองดู รถวนเวียนชมเวียงวังฝรั่งเศส เฝ้าสังเกตความแตกต่างช่างเลิศหรู ทางรถไฟมุดใต้ดินดังถิ่นรู คนพรั่งพรูโผล่ขึ้นมาแหงนหน้ามอง ร้านกาแฟเรียงรายมากมายนัก ดูคึกคักทุกแห่งหนไม่หม่นหมอง ผู้คนนั่งวนเวียนเข้าเฝ้าจับจอง บ้างประคองนั่งเคียงคู่ดูรื่นรมย์ มีถนนคนเดินเชิญซื้อหา ของแปลกตาน่าสนใจไว้สะสม ทั้งเก่าใหม่ดูให้ดีมีให้ชม อาจตรอมตรมดูไม่ออกมีหลอกกัน ทั้งเสื้อผ้าหนาบางวางไว้ทั่ว วัดดูตัวมีไว้ให้เลือกสรร หนังสือเก่าหลากเนื้อหาสารพัน ทั้งรูปปั้นภาพเขียนสีมีมากมาย แวะช็อปปิ้งร้านค้าปารีสลุค มีความสุขซื้อของฝากอันหลากหลาย ทั้งน้ำหอมเสื้อผ้าสวยด้วยลวดลาย แต่ตอนจ่ายแทบหงายหลังตังค์ยูโร จนพลบค่ำแวะกินข้าวเริ่มหาวง่วง ให้เป็นห่วงคิดถึงใครอยู่ไกลโข จากบ้านมาอยู่เมืองไกลแสนใหญ่โต ไม่สุขโขเหมือนบ้านเราเหงาหัวใจ อาหารจีนรสอร่อยค่อยยังชั่ว มีผัดถั่วสุดยอดคือทอดไข่ น้ำพริกเผาของฝากจากเมืองไทย แบ่งปันให้ได้ชิมได้ลิ้มลอง พออิ่มหนำออกเดินทางไปข้างหน้า เบื้องบนฟ้ามืดสลัวดูมัวหมอง รถบึ่งแล่นสู่ที่หมายดั่งใจปอง ขนข้าวของเข้าพักผ่อนนอนเอาแรง พักโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ถิ่นปารีส ดูประณีตสะอาดสวยด้วยสีแสง พักเป็นคู่ตามถนัดที่จัดแจง เสียงกรนแข่งหลับสบายคลายกังวล นิราศปารีส-โรม(๒)
บพิตร 4 มี.ค. 2552 14:39 น. - ID 10016 
2567
0
0
4 มีนาคม 2552 23:49 น. - comment id 104235
อ่านนิราศคุณแล้วก็มองเห็นความรักที่มีต่อครอบครัว ไม่ว่าที่ไหนๆจะรุ่งเรืองศิวิไลย์ยัไงก็ไม่มีความสุข ถ้าไม่ได้อยู่พร้อมหน้าครอบครัว นิราศคุณไพเราะมากค่ะ ขอให้คุณและครอบครัวมีความสุขค่ะ
5 มีนาคม 2552 07:10 น. - comment id 104243
เป็นเมืองที่ฝันไว้ว่าอยากไปให้ได้สักวัน ขอบคุณนะคะ เขียนได้น่าสนใจมากค่ะ
หน้าส่วนตัว
กลอนอกหัก รักหวานซึ้ง
กลอนอวยพร
กลอนให้กำลังใจ
กลอนให้ข้อคิด
ช่วยเลือกที่สุดกลอนดีๆ