คิดถึงกรงเทพฯ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


คิดถึงกรงเทพฯ(คุณอ่านถูกครับ)
----------------------------------------------------
ยังจำได้ฉันเคยไปเมื่อหลายปี
นครนี้มีอะไรเกินใครขาน
จึงเก็บกดจดจำราวตำนาน
ในก้นบึ้งดวงมาลย์ชาวบ้านนา
วันแรกแรกแปลกหน้าน้ำตาไหลผ
มิใช่ด้วยแปลกใหม่ดอกนายขา
แต่เพราะควันรถพรูเต็มหูตา
จึงไหลพรากออกมาราวบ้าบอ
รถราราวมดไรไต่ตอมขอน
ถนนเวียนดังพวกหนอนมันชอนหนอ
เสียงอื้ออึงแผดไล่เอาให้พอ
เสียงตวาดด่าทอก็พอกัน
เสียงเรียกเร่เข้ามาเข้ามาดู
เสียงนกหนูถูกคุมขังดังสนั่น
เสียงร้องขายขายของต่อรองพลัน
เสียงจอแจแหมมันฟังคันใจ
เคยแต่ฟังเสียงลมพรมใบข้าว
ยินเสียงขลุ่ยกล่อมดาวคราวเดือนไหว
ไผ่เสียดกอล้อกันต่อกันไป
ตามแนวไผ่ถ้วนแถวสุดแนวธาร
หลีกย่านคนจอแจแค่แสนคืบ
เห็นซอกหลืบเรียงรายหลายสถาน
ชวนแปลกหน้าเหมือนมดไรไต่วิมาน
คนก่อกรรมทำหน้าบานทุกย่านยวง
คนผู้ขอก็ชุกเกือบทุกมุม
คนผู้หิวเร้นกลุ่มในบึงบ่วง
คนผู้บาปหลอนหลอกซ่อนดอกดวง
ทั้งหมดนั้นเป็นผลพวงอันขื่นเค็ม
ของสิ่งใดในเขตแคว้นแดนนามดี
แต่ซุกซ่อนภูตผีราวฝีเข็ม
ที่เย็บหยาบด้นเดาเอาเต็มเต็ม
จึงแตกปริเหม็นเข้มเหม็นเต็มเมือง
ออกจากซอกโสมมอย่างตรมตรอม
ยังเห็นคนผ่ายผอมซากโซเหลือง
โกยขยะขึ้นมาขายหมายเศษเฟื้อง
ชีวิตคนมะลังมะเลืองดีแท้แท้
รถโดยสารปานกล่องไม้ในเมรุ
ซากน้ำใจบวมฉุทั้งอ่อนแก่
ใครเจ็บจนคนเจ็บใจมีใครแล
หายากยิ่งจริงแหมฉันแพ้ใจ
ที่มั่งคั่งก็อย่างกับมิใช่คน
เพราะกินเลือดเชือดเนื้อคนขัดสนได้
ย่ำยีไม่มีค่าด่าดะไป
ฟังแล้วอยากเกิดใหม่เป็นกบปู
ใช้เล่ห์หลอกกลอกกลิ้งแล้วชิงเอา
ใช้เล่ห์เหลี่ยมเสี้ยมเขาให้นกหนู
เพื่อก่อกวนชวนเชื่อเพื่อพวกกู
แล้วหยิบชิ้นปลากู๋ขึ้นแอบกิน
ในสังคมที่คนแว้งกัดแย่งกัน
โฉมภายนอกเหมือนสวรรค์ทั้งสีกลิ่น
ภายในกลับบัดสีกว่าขี้ดิน
ก็เห็นไหมที่ได้ยินอยู่โครมครืน
เด็กนักเรียนตีกันนั่นอะไร
เป็นผลพวงอันยิ่งใหญ่ในทางขื่น
บอกให้แจ้งแทงใจใครบ้องตื้น
นั่นแหละผลจากผื่นเผินไมตรี
คนตีกันนั่นเพราะกลัวตัวจะอด
กลัวพวกอื่นจะกินหมดเสียทุกที่
และพวกอื่นก็กินจริงทุกสิ่งซี
นี่สังคมนครนี้เป็นแบบนั้น
ก็ไม่ว่า นครไหนก็ไม่ต่าง
เพราะแคว้นนี้มีแบบอย่างทางสร้างสรรค์
คือกดขี่ หลอกลวง เป็นช่วงชั้น
ยินข่าวเฟื่องเมืองสวรรค์
พลันสาธุการ .
&				
comments powered by Disqus
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    22 เมษายน 2547 23:57 น. - comment id 252448

    เป็นงานชิ้นแรกที่เขียนออนไลน์
    ในเว็บฯปพส.
    ในนามบรรลุพร นามโนรินทร์
    ก็นานแล้ว
  • ชัยชนะ

    23 เมษายน 2547 06:09 น. - comment id 252524

    ทำมาหากินอยู่ถิ่นฐานของตนเองดีกว่านะครับ
    
  • )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

    23 เมษายน 2547 06:46 น. - comment id 252533

    ขอบคุณ  พี่ลุ
    
    
    ขอบคุณนะครับที่ช่วยแนะนำ ผมว่าดีครับไม่ดีตรงไหนบอกมาเลยครับจะได้แก้ไข มีอะไรเราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 
    
    ขอบคุณครับ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    23 เมษายน 2547 08:52 น. - comment id 252596

    สวัสดีครับคุณชัยชนะ
    และคุณ)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
    คุณใจกว้างแบบนี้ มีคนช่วยเยอะครับ
    ก็อย่างที่บอกครับ
    เราต่างเป็นมิตร
    
    ว่ายอยู่ในทะเลน้ำหมึก
  • ตฤณ

    23 เมษายน 2547 10:13 น. - comment id 252620

    บทกลอนไพเราะมากค่ะ 
    มาชื่นชมผลงานนะคะ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    23 เมษายน 2547 10:38 น. - comment id 252643

    สวัสดีครับคุณตฤณ
  • มัดหมี่ค่ะ sun strom

    23 เมษายน 2547 12:12 น. - comment id 252720

    ไม่มีอะไรบรรยายต่อเลยค่ะ
    แต่ที่นั่นก็บ้านปะป๋านะคะ
    
    
    
    
    
    แม้เป็นกรง ก็เป็นกรงที่ขังคนที่เรารักค่ะ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    23 เมษายน 2547 20:21 น. - comment id 253031

    บางคนว่าโลกนี้คือกรงด้วย
    ขังเราทุกคน

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน