::ชีวประวัติบุคคลไม่สำคัญ::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

1. ฯพณฯ อารมณ์ดี   เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
    มองเห็นเหตุประเทศใด   ไม่ใส่ใจคนไม่สำคัญ
    เห็นแล้วท่านหัวร่อ     ว่าเออนี่แหละหนอกุญแจนั่น
    กุญแจไขจากปัจจุบัน   สู่อนาคตอันรุ่งเรือง
2. ท่านจึงจารถ้อยคำ       อ่านสนุกอย่างลำนำเฟื่อง
    หมายให้ปัญญาประชาประเทือง  คนไม่สำคัญเต็มเมืองมีคนใส่ใจ
3. คนแรกที่เขียนถึงคือนายสอ       คนหนุ่มรูปไม่หล่อร่างใหญ่
    ผิวคล้ำถึงดำเมี่ยม         ถนัดงานจนเจียมกับจอบไถ
    ไถดะ แปร และดะ                ไม่ดักไถกระทั่งพระแบบไผ
    ที่ตั้งด่านสะดวกดี                   รีดไถประชาชีผู้ยากไร้
    นายสออุตสาหะ                     แต่ไม่พอกินนะเชื่อหรือไม่
    ใครไม่เห็น ฯพณฯ เห็น        คอยติดตามประเด็นต่อไป
------------------------------------------------------------------------------------------
สอปลูกมันสำปะหลัง แลกข้าวสารทีละถังกินยาไส้ (กลอนหัวเดียว)
หัวมันสี่ห้าหัว   แต่ก่อนหนักปานวัวยกบ่ไหว
ตอนนี้หัวเล้กเล็ก  เท่ามันเทศแขกเจ็กงงกงันใหญ่
ว่าทำไมปลูกกันอยู่   ก็เมื่อคนเขารู้ว่าพืชไร่
พวกนี้ทำลายดิน    ความอุดมมีแต่จะสิ้นลงไป
สอบอกให้ปลูกหยัง   ที่มันได้กะตังสิปลูกให้
ปลูกข้าวยังซื้อข้าว    ปลูกเรือนบ่มีแม้เล้าจะอาศัย
ดินดอนในดงด่าน  แค่แมวดิ้นก็เป็นดานปานอะไร
หัวมันรีบจะลีบ   เห็นมันแล้วมันบีบหัวใจ
ขุดมันขายไปซื้อข้าว  ต่อชีวิตให้ยาวยืดออกไป
ก่อนนี้สอก็เก่งนา  เก่งทั้งปุ๋ยทั้งยาแกลลอนใหญ่
เกษตรเขาส่งเสริม  ให้ทิ้งแบบเดิมเดิมทำแบบใหม่
ปลูกข้าวหมายเอารวย  แต่ที่สุดก็แทบม้วยแกมหมองไหม้
โรคข้าวเคล้าโรคคน  ยิ่งเจ็บก็ยิ่งจนจนยางไหล
ขายข้าวรักษาแขน  เกิดหนี้สินถึงแสนขึ้นจนได้
สอโซอกอักเสบ  ซมซานปานบาดเจ็บตรงขั้วใจ
เพื่อนสอนับถึงซาว  ชวนขึ้นภูเอื้อมดาวเพื่อวันใหม่
เลิกนามาปลูกมัน   ปีแรกอัศจรรย์ปานเทพให้-
พรเพื่อจะพ้นทุกข์  ก็ขยายแดนปลูกมันกันใหญ่
หักล้างและถางพง  ตัดไม้ใหญ่น้อยลงเพื่อเอาไร่
พอมันจะพอหนี้   ราคามันก็ตกซีเอ๊ะปีไหน
ฝรั่งซื้อมันเลี้ยงม้า  คนปลูกมันเหมือนหมาเลยว่าไหม
ขว้างมันใส่หัวหมา  มันแพงกว่าขี้ม้าก็หาไม่
ขายมันมึนกลับมา   เอาไปซื้อน้ำปลาน้ำตาไหล
ได้น้ำปลาขวดเท่าก้อย  เหยาะลงแจ่วจิ้มอร่อยพอกินได้
หมดมันก็หมดข้าว   เรื่องของสอยังอีกยาว โปรดอดใจ
4.ตอนที่สอต้องสูญนา  ลุงป้าน้าและอาหาอยู่ไม่
ทุกคนอยู่บนสวรรค์  ป่วยด้วยโรคอะไรนั้นจำไม่ได้
เจ็บขาและเจ็บหัว  และก็เจ็บทั่วตัวแถมมีไข้
บ้างก็ว่าไข้ฉี่หนู   แต่สอบอกว่ากูว่าไม่ใช่
อาการมันเหมือนง่อย  เปลี้ยลงทีละน้อยแล้วหลับไหล
ไหลตายแหละเขาว่า  โรคสำหรับบรรดาประชาไทย
ที่เจ็บจนและข้นแค้น   ทั้งๆ ที่เขาแสนจะมีไฟ
ไฟความอุตสาหะ  แต่ยังจนเออวะ  เพราะอะไร
5.ฯพณฯเขียนแล้วยิ้ม  (กลอนสุภาพ)
วงหน้าเอิบอิ่มนั้นผ่องใส
บางทีหมายเหตุประเทศไทย
จะเหมือนหมายเหตุใหญ่ในลาติน
ทุกคนดูขยันแต่ทุกข์ยาก
ประเทศมั่งคั่งมากด้วยทรัพย์สิน
คนเป็นแสนเป็นล้านไร้อันกิน
สุดท้ายสูญที่ดินเร่ขายแรง
ฯพณฯ อมยิ้มอยู่คนเดียว
นึกภาพสอซีดเซียวทุกหัวระแหง
นี่ไงไทยแลนด์แดนทองแดง
มีจุดแกร่งตรงคนยากมากนี่ไง
ฯ
-----------------------------------------------------------------------------------				
comments powered by Disqus
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 14:19 น. - comment id 795408

    สวัสดีครับมิตรทุกท่าน
    ผมนึกสนุกนะปีนี้
    กะจะเขียนชีวประวัติบุคคลไม่สำคัญ
    ออกมาซักหนึ่งชิ้น เป็นแบบไปเรื่อย ๆ
    
    ฉันทลักษณ์ผสม
    
    เนื้อหาคงหมายให้สนุกเสียดเย้ยน้อยๆ
    ที่เสียดเย้ยคงเป็นชีวิตคนเขียนเองมากกว่า
    
    ถ้างานนี้ดัง
    ผมขอยกความดีทั้งหมดแด่นักเขียนที่ผมเพิ่งอ่านงานของท่าน
    
    
     คุณวิกรม   กรมดิษฐ์ครับ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 14:48 น. - comment id 795429

    
    สอปลูกมันสำปะหลัง
    แลกข้าวสารทีละถังกินยาไส้
    
    หัวมันสี่ห้าหัว
    แต่ก่อนหนักปานวัวยกบ่ไหว
    
    ตอนนี้หัวเล้กเล็ก
    เท่ามันเทศแขกเจ็กงงกงันใหญ่
    
    ว่าทำไมปลูกกันอยู่
    ก็เมื่อคนเขารู้ว่าพืชไร่
    
    พวกนี้ทำลายดิน
    ความอุดมมีแต่จะสิ้นลงไป
    
    สอบอกให้ปลูกหยัง
    ที่มันได้กะตังสิปลูกให้
    
    ปลูกข้าวยังซื้อข้าว
    ปลูกเรือนบ่มีแม้เล้าจะอาศัย
    
    ดินดอนในดงด่าน
    แค่แมวดิ้นก็เป็นดานปานอะไร
    
    หัวมันรีบจะลีบ
    เห็นมันแล้วมันบีบหัวใจ
    
    ขุดมันขายไปซื้อข้าว
    ต่อชีวิตให้ยาวยืดออกไป
    
    
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 15:03 น. - comment id 795436

    ก่อนนี้สอก็เก่งนา   
    เก่งทั้งปุ๋ยทั้งยาแกลลอนใหญ่
    
    เกษตรเขาส่งเสริม
    ให้ทิ้งแบบเดิมเดิมทำแบบใหม่
    
    ปลูกข้าวหมายเอารวย
    แต่ที่สุดก็แทบม้วยแกมหมองไหม้
    
    โรคข้าวเคล้าโรคคน
    ยิ่งเจ็บก็ยิ่งจนจนยางไหล
    
    ขายข้าวรักษาแขน
    เกิดหนี้สินถึงแสนขึ้นจนได้
    
    สอโซอกอักเสบ
    ซมซานปานบาดเจ็บตรงขั้วใจ
  • ครูพิม

    1 ธันวาคม 2550 15:07 น. - comment id 795439

    1.gif
    
    จะติดตามอ่านนะคะ
    อยากให้แต่งเป็นโคลงบ้างนะคะ..
    ครูพิมกำลังสอนนักเรียนมอสามเขียนโคลง
    แต่ครูเขียนไม่เป็น
    36.gif36.gif36.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 15:17 น. - comment id 795442

    
    เพื่อนสอนับถึงซาว
    ชวนขึ้นภูเอื้อมดาวเพื่อวันใหม่
    
    เลิกนามาปลูกมัน
    ปีแรกอัศจรรย์ปานเทพให้
    
    พรเพื่อจะพ้นทุกข์
    ก็ขยายแดนปลูกมันกันใหญ่
    
    หักล้างและถางพง
    ตัดไม้ใหญ่น้อยลงเพื่อเอาไร่
    
    พอมันจะพอหนี้
    ราคามันก็ตกซีเอ๊ะปีไหน
    
    ฝรั่งซื้อมันเลี้ยงม้า
    คนปลูกมันเหมือนหมาเลยว่าไหม
    
    ขว้างมันใส่หัวหมา
    มันแพงกว่าขี้ม้าก็หาไม่
    
    ขายมันมึนกลับมา
    เอาไปซื้อน้ำปลาน้ำตาไหล
    
    ได้น้ำปลาขวดเท่าก้อย
    เหยาะลงแจ่วจิ้มอร่อยพอกินได้
    
    หมดมันก็หมดข้าว
    เรื่องของสอยังอีกยาว โปรดอดใจ
    
    
    
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 15:19 น. - comment id 795443

    สวัสดีครับครูพิม
    ก็คิดไว้อยู่นะครับ
    ว่าจะใส่โคลงลงไปด้วย
    แต่อาจจะเป็นเรื่องของบุคคลไม่สำคัญต่อจาก สอ เขา
    
    ขอบคุณมากนะครับที่เข้ามาคุยด้วย
  • ครูพิม

    1 ธันวาคม 2550 15:25 น. - comment id 795445

    1.gif  สวัสดีค่ะ
    
    ตอนนี้พิมขออนุญาตขุดงานของคุณ
    ที่เป็นโคลง...
    เอาไปเป็นตันตัวอย่างให้นักเรียนอ่าน..
    
    ::ชีวประวัติบุคคลไม่สำคัญ::
    งานที่คุณเขียนอ่านได้อรรถรสดีค่ะ
    รูปแบบก็แปลกดีน่าสนใจ
    
    29.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 15:29 น. - comment id 795447

    ขอบคุณอีกครั้งครับครูพิมพ์
    
    ถ้างานของผมมีประโยชน์ใด ๆ ต่อเด็ก
    
    ผมขอยกความดีนั้นแด่คุณคมทวน คันธนู
    ครูที่ผมเรียนรู้จากท่านโดยการติดตามอ่านในสยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ เมื่อนานมาแล้ว
    
    กับคุณเวทย์ คุณอัลมิตรา ที่ผมเคารพนับถือ
    ที่ได้แนะนำการเขียนโคลงแก่ผม
    
    ครูพิมพ์นำไปใช้ได้ตามสะดวกเลยครับ
  • ครูพิม

    1 ธันวาคม 2550 15:35 น. - comment id 795450

    1.gif สวัสดีอีกรอบค่ะ ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
    
    ขอบคุณมากนะคะ
    ตอนนี้พิมก็พยายามเรียนรู้การเขียนที่นี่
    รวมทั้งได้นำนักเรียนเข้ามาศึกษาและสังเกตการใช้คำ
    การวางแนวคิดในการเขียนที่นี่ค่ะ
    
    
    อากาสเย็นมากดูแลสุขภาพนะคะ
    ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 15:41 น. - comment id 795452

    ชื่นชมครูพิมพ์ครับ
    
    
    อุณหภูมิลดลงเร็วมาก
    เย็นวันหนึ่งผมอาบน้ำอุ่น
    ออกจากห้องน้ำมาเจออากาศหนาว
    ผมหนาวจนสั่น
    ถ้าร่างกายไม่แข็งแรงนี่เจอหนาวๆคงทนไม่ไหวแน่
    
    แต่ก่อนเคยคุยกับลูกว่าจะไปอยู่เหนือทำสวนสตรอเบอรี่ ตอนนี้เปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว
    
    ผมทนหนาวไม่ค่อยได้
    
    คงได้พูดคุยกันอีกนะครับ
  • ครูพิม

    1 ธันวาคม 2550 15:48 น. - comment id 795454

    1.gif  คุณก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ ค่ะ
    
    การได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว..
    เป็นความสุขที่สุดค่ะ..
    อากาศหนาวมาก...โดยเฉฉาะที่เลย.
    เย็นจนเจ็บกระดูกเลยละค่ะ..
    เคยดูสารคดีเทิดพระเกียรติพ่อหลวง
    เกี่ยวกับไร่สตรอเบอรี่..ได้แต่ชื่นชมคนทำสวนทำไร่
    และคิดขอบคุณที่ทำให้เราได้ทานสตรอเบอรี่
    ผลไม้ที่สวย  และรสชาดแซบ...หวานอมเปรี้ยว..
    
    ขอให้คุณและครอบครัวมีแต่ความสุขนะคะ.
    
    ต้องพิมพ์งานต่อแล้วล่ะคะ..
    29.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 15:53 น. - comment id 795457

    
    ตอนที่สอต้องสูญนา
    ลุงป้าน้าและอาหาอยู่ไม่
    
    ทุกคนอยู่บนสวรรค์
    ป่วยด้วยโรคอะไรนั้นจำไม่ได้
    
    เจ็บขาและเจ็บหัว
    และก็เจ็บทั่วตัวแถมมีไข้
    
    บ้างก็ว่าไข้ฉี่หนู
    แต่สอบอกว่ากูว่าไม่ใช่
    
    
    อาการมันเหมือนง่อย
    เปลี้ยลงทีละน้อยแล้วหลับไหล
    
    ไหลตายแหละเขาว่า
    โรคสำหรับบรรดาประชาไทย
    
    ที่เจ็บจนและข้นแค้น
    ทั้งๆ ที่เขาแสนจะมีไฟ
    
    ไฟความอุตสาหะ
    แต่ยังจนเออวะ  เพราะอะไร
    
    
    
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 15:55 น. - comment id 795458

    มีสุขกับงานนะครับครูพิม
    
    
    สวัสดีครับ
  • บนข.

    1 ธันวาคม 2550 16:20 น. - comment id 795483

    แวะมาชมครับ
    ตอนนี้สายสอ.กำลังมาแรงนะครับ มีสอ.ใดบ้างที่ช่วยสะกัดได้37.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 16:24 น. - comment id 795487

    ฮ่าๆ
    
    สวัสดีครับ
    คงสะกัด-และกั้นยากล่ะถ้ามาแรง
    
    
    ขอบคุณคุณบนข. อย่างยิ่งครับ
    ที่มาทักทาย พูดคุยด้วย
  • นางสาวใบไม้

    1 ธันวาคม 2550 17:20 น. - comment id 795502

    ไม่ค่อยมีโอกาสเข้ามาบ่อยนัก
    
    แต่ยังคงคิดถึงชาวบ้านกลอนสม่ำเสมอ
    
    และจะรออ่าน  "ประเด็นต่อไป" ค่ะ
    
    ขอบคุณที่ยังระลึกถึง...อากาศหนาวแล้วรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
    
    36.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 17:36 น. - comment id 795508

    ฯพณฯเขียนแล้วยิ้ม
    วงหน้าเอิบอิ่มนั้นผ่องใส
    บางทีหมายเหตุประเทศไทย
    จะเหมือนหมายเหตุใหญ่ในลาติน
    
    
    ทุกคนดูขยันแต่ทุกข์ยาก
    ประเทศมั่งคั่งมากด้วยทรัพย์สิน
    คนเป็นแสนเป็นล้านไร้อันกิน
    สุดท้ายสูญที่ดินเร่ขายแรง
    
    ฯพณฯ อมยิ้มอยู่คนเดียว
    นึกภาพสอซีดเซียวทุกหัวระแหง
    นี่ไงไทยแลนด์แดนทองแดง
    มีจุดแกร่งตรงคนยากมากนี่ไง
    
    
    
    
    
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 17:38 น. - comment id 795509

    ขอบคุณคุณนางสาวใบไม้มากครับ
    
    ดูแลสุขภาพเช่นกันนะครับ
  • ดอกบัว

    1 ธันวาคม 2550 18:34 น. - comment id 795519

    สวัสดีค่ะพี่ก่อพงษ์
    ดอกบัวมาอ่าน ชีวประวัติบุคคลไม่สำคัญ
    แต่ที่แน่ๆ ดอกบัวขอแอบปริ้นไปอ่าน
    หน่อยนะค่ะ เพราะพี่ก่อพงษ์เขียนดีจังค่ะ
    และหลายบทด้วยสิค่ะ
    บัวขอให้พี่ก่อพงษ์และครอบครังมีความสุขค่ะ
    46.gif36.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    1 ธันวาคม 2550 19:50 น. - comment id 795532

    สวัสดีครับน้องดอกบัว
    
    ขอให้มีความสุขเช่นกันครับ
    
    
    ปีใหม่ที่จะถึงนี้พี่ขออวยพรให้น้องมีความสุขสมหวังทุกอย่างด้วย
    
    ด้วยไมตรีจิตครับ
  • อัลมิตรา

    2 ธันวาคม 2550 23:35 น. - comment id 795867

    ไม่ค่อยซาบาย น้ำมูกย้อยเป็นธารน้ำตก
    ไม่ดีเลยแฮะ เลยปั้นขี้มูกเล่นไม่ได้
    
    
    ไปนอนก่อนดีกว่า
    
    พรุ่งนี้ จะมีคนมายิ้ม ที่นี่ .. รู้หรอกน่า
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    3 ธันวาคม 2550 08:48 น. - comment id 795926

    สวัสดีครับพี่..
    
    อ่านชีวประวัติของคุณวิกรม กรมดิษฐ์แล้วเช่นกันครับใน"ผมจะเป็นคนดี"
    ภาษาราบรื่นของคุณประภัสสร เสวิกุลด้วยหรือเปล่า
    ที่ทำให้อ่านรวดเดียวจบ
    บ่อน้ำตาตื้นอะพี่ อ่านแล้วอึ้งกับอะไรต่อมิอะไร
    กว่าจะมาเป็นวิกรมวันนี้
    ขนาดว่ายังไม่ลงรายละเอียดชีวิตรันทดของผู้หญิงแต่ละคนในเรื่องนะ  ยังนิ่งงันหลังอ่านจบใหม่ ๆ
    ได้สาระชีวิตไปเยอะ
    
    
    
    ***
    
    
    ชอบที่พี่เขียนจัง
    อ่านอย่างตั้งใจ และปริ๊นส์เก็บไปอ่านที่บ้านต่อด้วย
    
    ชอบครับ คำว่า เสียดเย้ย
    ได้อารมณ์ดี
    
    จะตามอ่านต่อเรื่อย ๆ นะครับ
    
    
    
    
    41.gif41.gif41.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    3 ธันวาคม 2550 16:35 น. - comment id 796135

    สวัสดีครับคุณอัลมิตรา
    และคุณร้อยแปดพันเก้า
    
    อากาศหนาวเย็นลงอีก 2  องศา
    ตอนนี้ผมรู้ชัดแล้วว่าผมไปไม่ได้กับอากาศหนาว  ความฝันที่จะไปอยู่ทำไร่สตรอเบอรี่เป็นอันพับเก็บไว้   อยู่สกลปลูกหม่อนกินลูกหม่อนไปตามประสาคงพอได้  อากาศที่สกลนครว่าไม่หนาวก็หนาวครับ
    ผมพยามออกกำลังเรียกเหงื่อและความอบอุ่น
    แต่พอเจอน้ำเย็นๆก็แหยง ๆ    
    แม้แต่น้ำอุ่น อาบเสร็จมาเจอลมหนาวๆ ก็สั่นอีก  ร่างกายในวัยที่แก่ตัวลงนี่ไม่เหมือนเดิมเลย
    
    ตอนเป็นหนุ่มผมเคยไปอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว   ใครเขาอาบน้ำไม่ได้  ผมตักน้ำอาบโครมๆสบายมาก
    
    สังขารไม่เที่ยงหนอ
    
    ฮา
    
    คุณอัลมิตราสบายขึ้นหรือยังครับ
    ขอให้หายไว ๆ นะครับ
    
    
    คุณ-ร้อยแปดพันเก้า- ครับ
    เล่มใหม่ของคุณวิกรม  กรมดิษฐ์
    ชื่อ CEO มองซีอีโอโลกครับผมได้มาจากร้าน
    สะดวกซื้อที่ปั๊ม ปตท.เล่มละ 100
    อ่านสนุกมาก  ได้แรงบันดาลใจเพียบ
    
    
    คำเสียดเย้ย ดูเหมือนผมจะเก็บมาจาก
    คอลัมน์สิงห์สนามหลวง ของคุณสุชาติ สวัสดิ์ศรีนะครับ   ผมชอบคำ ของท่าน  ภาพเขียน และงานบรรณาธิการของท่านด้วย
    ผมนับถือความเรียบง่ายแต่อัศจรรย์ของท่านมากครับ
    
    
    ปีนี้ผมอยากสร้างงาน
    ซักชิ้นจึงได้ลงมือนี่แหละครับ
    
    ขอบคุณครับ
  • ร้อยแปดพันเก้า

    4 ธันวาคม 2550 12:13 น. - comment id 796509

    สวัสดีครับพี่ก่อพงษ์
    
    ผมยังไม่ได้อ่านเล่มหลังน่ะครับ
    จะคุยก็คุยไม่ได้
    เลยเล่าที่อ่านแล้วน่ะครับ
    
    พี่พูดแบบนี้ เดี๋ยวคงได้หยิบมาอ่าน
    กำลังหาแรงดาลใจอยู่เหมือนกัน
    ความหนาวทำเจ้าชู้..
    เลยคุดคู้ใต้ผ้าห่ม ขี้เกียจเขียนไปซะงั้น
    
    46.gif
  • โคลอน

    4 ธันวาคม 2550 15:55 น. - comment id 796579

    อืมม.....น่าศึกษา11.gif36.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    4 ธันวาคม 2550 16:52 น. - comment id 796610

    สวัสดีครับคุณร้อยแปดพันเก้า
    
       ผมเคยลองจะเขียนตอนที่อากาศหนาวจัดๆ
    เขียนไม่ออกดอกครับ  จนเวลาล่วงเข้าหน้าร้อนจึงเขียนถึงความหนาวได้  บทนั้ชื่อคืนที่เยือกหนาวที่สุด   ได้ลงตีพิมพ์ในนิตยสารผู้หญิงครับ
    
       รักษาสุขภาพนะครับ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    4 ธันวาคม 2550 16:55 น. - comment id 796611

    ทักทายคุณโคลอนครับผม
    
    ผมอยากเขียนต่อจังครับ
    ชีวประวัติบุคคลไม่สำคัญในประเทศของเรา
    
    ผมกะว่าจะเข้าไปนั่งในใจของท่านนายกรัฐมนตรีแล้วมองมายังชาวบ้านซึ่งเป็นบุคคลไม่สำคัญหลังเลือกตั้งเหล่านั้น
    
    ฮา
    
    
    
    ขอบคุณนะครับที่เข้ามาพูดคุยด้วย
    
    รักษาสุขภาพนะครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน