คือหนึ่งหยดน้ำตาวิวาห์ร้าง
มอบไว้ต่างน้ำสังข์คราวครั้งก่อน
เมื่อเธอสิ้นน้ำใจไม่อาทร
ทั้งตัดรอนน้ำคำไม่อำลา
จากไปพร้อมน้ำฝนที่หล่นร่วง
เจ็บช้ำทรวงโศกตรมสมน้ำหน้า
เหมือนละครน้ำเน่าเศร้าโศกา
ฉันเหมือนสิ้นน้ำยาทอดอาลัย
เธอเปรียบสายน้ำวนสุดทนต้าน
ดุจสายธารน้ำตกวกเวียนไหล
หรือเธอมีน้ำเค็มเต็มหัวใจ
จึงยากไร้น้ำจิตคิดถึงกัน
เบื้องหลังรอยน้ำหมึกระลึกย้อน
เคยพร่ำวอนน้ำปิงอิงแอบฝัน
ดินน้ำฟ้าเป็นพยานสานสัมพันธ์
คืนที่จันทร์แต้มดาวหนาวน้ำค้าง
เปรียบเธอเพชรน้ำหนึ่งซึ้งคุณค่า
เชื่อวาจาน้ำถ้อยร้อยสรรค์สร้าง
เธอกลับเป็นน้ำกร่อยค่อยจืดจาง
เธอไม่ต่างน้ำนิ่งยิ่งไหลลึก
คำพูดเธอมีน้ำหนักควรจักเชื่อ
สำนวนเจือน้ำตาลหวานรู้สึก
เหมือนน้ำเย็นฉ่ำใจให้เหิมฮึก
มิทันนึกจึงต้องช้ำ...เพราะน้ำเงิน
12 ตุลาคม 2546 16:44 น. - comment id 173930
เปรียบเทียบได้ซึ้งใจ กินใจดีจัง

12 ตุลาคม 2546 19:48 น. - comment id 173966
ว้าว.. น้ำท่วมกลอนแล้วค่ะ หุหุ ล้อเล่นนะคะ น่ารักดีค่ะ เก่งจังเลย :)

12 ตุลาคม 2546 21:44 น. - comment id 173990
อ่านเเล้วรุสึกเข้าถึงใจผู้แต่งเลยค่ะ. . .กลอนเพราะมากๆด้วยค่ะ
