๏ พญาตานี ๏

เอกมาศ

                                 ๏ พญาตานี ๏ 
        ๏ กร่างตระง่านงันงามหน้ากระทรวงฯ	
สง่ากว่าทั้งมวลปวงปืนผา
ตั้งหันผันผืนปืนใหญ่ให้นานนา		
จึงใคร่ถามใครหนา มาบอกความ
         ปากกระบอกกว้างยาวได้ศอกเศษ	
ระบุเพศ พญาตานี ที่ยากถาม
ราชสีห์สลักเป็นศรีอยู่เจือจาง			
กาย ฤา ก็เหลืองอร่ามพลางปืนดิน
          ร่ำร่ำ ใครกันที่ชันชะลอ		
ขอยศยอ สอพลอให้วิเศษสิน
ที่พลัดพา ยันยามาแผ่นดิน			
จากต่างถิ่นที่มา ฟาฏอนี
           ยาวลำปืนถึงสามวากับหกศอก	
ถ้าก่ายกอดคงพรอดพร่ำหนำหัตถี
แปลกแต่ตาเพลามองอยู่หลายที		
โอ้ ตานี นามนี้คือกระไร
      ๏  อยากจะถามผู้ว่าฯ ณ หน้ากระทรวงฯ	
ก็กลัวจะร่วงดอกพิกุลพิรุณเฉไฉ
ครั้นจะตอบกลัวจะดอดออกป่าไพร		
ด้วยมิได้รู้แจ้งและเห็นจริง
          ป่าวประกาศ เอกมาศ มาดชวนหัว	
ฤา นายกลัว รู้แจ้งแจ่มใจสิงห์
ถ้ารู้ว่า ประวัติศาสตร์ เบือนบิดจริง		
จะเอาสิ่งเอาใดไปประกัน
          ศิลปวัฒนธรรมไทย		
เหตุไฉน ลืมความตามเสกสรรค์
หลวงวิจิตรฯ ลวงตา ฤา อย่างไรกัน		
สยามนั้นประกอบไทยให้เป็นแดน
           วิจิตรฯ วิศวกรรม			
ประกอบไทยธรรมา ประกาศแสงฯ
สยามใหม่จะยิ่งใหญ่ วิมานแมน		
เท่าด้าวแดนแสนทัพอัปมงคล
	๏ ลองตรึก ลองตรอง ประวัติศาสตร์ ชาติฉัน๏ 
          
      ๏  ร่ายประวัติวัตถุจากต่างถิ่น		
อันเป็นสินส่วน พระองค์ทรงชะลอหน-
- ครายกทัพ รับหมื่นม่าน พม่าพล		
เพื่อปัด บงส์ เบื้องบาทประกาศนาม
           ลุได้ป้อง สองทัพ ณ มลฑล		
ประมาณการณ์ กล ลุว่าคงจะเสิบสาร
ประกาศก้อง จงน้อมจงกราบกราน		
จำนนจาร ด้วยทหาร แห่งองค์บวรฯ
           ตีแตกให้แตกทัพรับศึก		
แขก คึก ปกปืนป้องก้องสะท้อน
ก้องปืนแสดแก้วหู อยู่รอนรอน		
องค์บวรฯ มิทดถอน ให้อ่อนลา
          แตกเมืองแตกทัพ รายาแห่งตานี	
แตกบ้านจะเสียที่ มาดชาติสิงหา
แตกทัพจะเสียหนึ่ง ซึ่ง ศัสตรา		
แตกกรุงนัคราเสียไพร่ฟ้า ประชากร
      ๏  ประวัติศาสตร์ฝั่งฟาก ฟาฏอนี	
คราเสียที่ ศรี ศัสตราอุทาหรณ์
น้อมเกล้าฯไปผองเพื่อนข้าฯ อย่าวายวอน	
อย่าลืมย้อน ไถ่ถอนข้าฯ พญาตานี
         สุดเทศาภิบาล มลฑล		
ยังได้อยู่ยง ใต้องค์ พระทรงศรีฯ
ยังเป็นสยามอยู่ใต้สุดธารธรณี		
ยังมีที่ ฝังร่างอยู่ อย่างเราเรา
          จนประวัติศาสตร์แห่งชาติไทย	
รุกรานไปจนสิ้นถิ่นแขกเขา
ทิ้งกำเนิด เกิดมาด ชาติไทยเรา		
ลืมภูเขา ลืมดง รกพรงไพร
          ประกาศชาติลืม ทุกชาติชน		
เราทุกคนเป็นชนอื่น ฤา ไฉน
ใช่, เราต่างพันธุ์ อยู่ร่วมกันมิเป็นไร		
แล้วคนไทย ไยเรียกข้าฯ ว่าตานี  .???
................................................................................................................................................................................................................
   ๏       อยู่ใต้ฟ้า ฟ้า บ่ กั้น            กันและกัน ยันชายขอบรอบสยาม
แตกภาษาถิ่น แตกถ้อยเจียรจาร    แต่ไม่แตก ความต่างซึ่ง ความดี.....๏
		รักกัน นะครับ เรารักกันแม้ไม่ใช่ไทยจะเป็นแขก ลาว จีน มอญ พม่า ยวน ฝรั่ง หรือ อย่างไร .......รักกันได้ไม่สำคัญ.....................ที่น่ารังเกียจคือไทยยังแบ่งไทย....แบ่งกันที่ เงิน วาสนา บารมี ...แบ่งกันด้วยอำนาจ ......ข้าพเจ้า เหนื่อยหน่ายเหลือเกิน กับ เล่ห์กระเท่ห์ของคนที่คิดว่าตนเป็นไทยบน แผ่นดินสยาม แบ่งแยกกันที่ชนชั้นที่เราเลือกเกิดมิได้ แบ่งกันทำไม...ทำไม..ทำไม...???
			
				
comments powered by Disqus
  • เอกมาศ

    9 สิงหาคม 2547 11:00 น. - comment id 308831

    ....สวัสดีครับ....อ่านกันเล่นครับ ประดบ ความรู้ครับ อย่าคิด มากกับสาระ....เดี๋ยวแก่นะครับ ถ้าคิดมาก....แต่วิจารณ์ได้ครับ ยินดีครับ......
    
    ......
    ...ทำเนียบปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหม......
                            พระพิรุณแสนห่า  
             พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ ทรงสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๒๐ เมื่อยังคงดำรงพระยศเป็น สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริยศึก เป็นคู่กับ ปืนพลิกพสุธาหงาย เป็นชื่อเดิมของปืนที่มีชื่อเสียงสมัยกรุงศรีอยุธยา มีขนาดใหญ่มาก 
    ปืนกระบอกนี้หล่อด้วยทองสำริด มีลวดลายประดับอย่างโอฬาร มีรูปราชสีห์เผ่นผงาดอยู่ที่เพลา มีห่วงสำหรับยกอยู่ ๔ ห่วง รูชนวนมีรูปนก หน้าสิงห์ขบ ท้ายรูปลูกฟัก ที่กระบอกปืนมีจารึกว่า พระพิรุณแสนห่า ดินบรรจุหนัก ๒๐ ชั่ง ปากลำกล้องกว้าง ๑๙ นิ้ว ยาว ๔ ศอกคืบ ๓ นิ้ว  
    
                             พญาตานี  
              นางพญาตานี ศรีตวัน เจ้าเมืองปัตตานี ให้ช่างชาวจีนฮกเกี้ยน ชื่อ หลิม โต๊ะเคี่ยม เป็นผู้สร้าง สมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคล มหาสุรสิงหนาท เมื่อครั้งเสด็จยกทัพไปรบพม่า ที่ยกเข้ามาตีหัวเมือง ภาคใต้ของไทย เมื่อเสร็จศึกแล้ว ได้ทรงนำปืนกระบอกนี้ มาจาก เมืองปัตตานี เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๒๙ 
    ปืนกระบอกนี้ หล่อด้วยทองสำริด มีห่วงสำหรับยก ๔ ห่วง ท้ายลำกล้องทำเป็นรูปสัตว์ หรือเขางอน ที่เพลาสลักรูปราชสีห์ พญาตานีเป็นปืนที่ยาวที่สุดในบรรดาปืนโบราณที่มีอยู่ ที่กระบอกปืน จารึกว่า พญาตานี ดินบรรจุหนัก ๑๕ ชั่ง ปากลำกล้องกว้าง ๑๑ นิ้ว ยาว ๓ วาศอกคืบ ๒ นิ้วกึ่ง  
    
                           พลิกพสุธาหงาย  
               พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ ทรงสร้าง โดยให้หล่อที่ หน้าโรงละครใหญ่ ริมถนนประตูวิเศษไชยศรี เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๓๐ หล่อด้วยทองสำริด มีห่วงยก ๔ ห่วง ลำกล้องปืน มีลวดลายประดับ ที่เพลาสลักรูปคชสีห์ รูชนวนมีลายกนก ท้ายลำกล้องเป็นรูปลูกฟัก ที่กระบอกปืนจารึกว่า พลิกพสุธาหงาย ดินบรรจุหนัก ๒๐ ชั่ง ปากลำกล้องกว้าง ๑๙ นิ้ว ยาว ๖ ศอกคืบ ๓ นิ้ว เป็นปืนขนาดใหญ่คู่กับ พระพิรุณแสนห่า  
    
    
    ..........น่าสนใจดีครับ ลองอ่านกันนะครับ นำมาฝากกันไว้...สวัสดีครับ
  • ลอยไปในสายลม

    9 สิงหาคม 2547 12:18 น. - comment id 308894

    แวะมาทักทายค่ะ
  • Robert TingNongNoi

    9 สิงหาคม 2547 13:28 น. - comment id 308950

    
    ดีครับได้ความรู้ถูกต้องความจริง  ทำให้
    เข้าใจที่มา&ที่ไปได้อย่างถ่องแท้๚ะ๛
    
    size>
  • วิจิตร ภู่เงิน

    9 สิงหาคม 2547 15:36 น. - comment id 309038

    .................
    
    
    ไม่กล้าวิจารณ์ครับ
    
    วิจิตรว่าวิจิตรสมัครเป็นศิษย์ดีกว่า
    
    .................
  • sandsun

    9 สิงหาคม 2547 16:21 น. - comment id 309060

    ประวัติศาสต์ มีไว้ให้ชนรุ่นหลัง เพื่อเรียนรู้
    เพื่อที่เราจะได้ วิเคราะห์ อนาคต รัฐปัตตานี
    อาจยิ่งใหญ่ในอดีต เทียบเท่า อาณาจักรข้างเคียง อย่างเช่น นครศรีธรรมราช แต่อาจแตกต่าง ด้วยความเป็นมุสลิมเท่านั้น การที่นครศรีธรรมาช ไม่กระด้างกระเดื่อง อาจเพราะ มีวิถีความเป็นพุทธ ซึ่งกลมกลืนได้ง่าย กว่า
    และนั้นคืออดีต การสร้างชาติ เพื่อให้เป็นหนึ่งย่อม ยากยิ่งกว่า  องค์พระมหากษัตริย์ ท่านทรงห่วงใย พรสกนิกร ของพระองค์ โดย มิได้ เลือกศาสนา หรือ เลือกอดีตความเป็นมา
    ไม่ว่า สุโขทัย อยุธยา ลพบุรี นครศรีธรรมราช ปัตตานี ล้วนมีอดีต ที่ยิ่งใหญ่ แต่ทุกวันนี้ ปัจจุบันทุกคนคือไทย  และ ไท  
    
    ความรุนแรงไม่ใช่การแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ผู้ชนะในเกมส์เข่นฆ่าไม่ใช่ผู้ถูกต้องเสมอไป 
    
    อยากให้ทุกคน รักษ์ปัตตานี อยากให้ทุกคนรักษ์ ประเทศไทย อยากให้ชนชาติไทย คือชนชาติที่รักสงบ ทุกศาสนา เจริญรุ่งเรื่องตลอดไป
    
    
  • หมึกมรกต

    9 สิงหาคม 2547 16:53 น. - comment id 309084

    คุณเอกมาศนี่ ไม่ธรรมดาเลยนะครับ
  • เมกกะ

    9 สิงหาคม 2547 19:07 น. - comment id 309135

    พญาตานี
    อิอิ เมกไม่เคยรู้จักเยยอ่ะครับ  ถ้าไม่ได้อ่านงานของคุณ
    สงสัยจะไม่รู้ไปอีกนาน  ประวัติน่าสนใจมากครับ
    ร่ายประวัติศาตร์ที่น่าชมอีกหนึ่งมุมมอง น่าชื่นชมครับ
    
    อิอิ เมกแวะมาให้กำลังใจครับคุณเอกมาศ
    
     ll๛เมกกะ๛ll ~*~ ll๛ผู้ชายอารมณ์ดี๛ll 
    
  • malijauna

    9 สิงหาคม 2547 20:00 น. - comment id 309161

    แวะมาทักทายค่ะ
    คุณหนึ่งนี่ แจ่มอยู่แล้วค่ะ
    ยิ่งได้พูดคุย จะเป็นที่รู้เรื่องกลอนเยอะมาก และก็อารมณ์ไหนก็แต่งได้หมด
    นับถือ จริง ๆ ค่ะ
  • ชัยชนะ

    9 สิงหาคม 2547 22:44 น. - comment id 309232

    แวะมาอ่านประวัติศาสตร์ประดับความรู้
    
    รู้แต่ว่าผีนางตานี สิงอยู่ในต้นกล้วยตานี
    
    ดีที่เข้ามาอ่านได้สาระเพิ่มขึ้นครับ
    
  • เอกมาศ ครับ ไม่ได้ล็อกอิน

    9 สิงหาคม 2547 23:45 น. - comment id 309252

    .....ขอบคุณครับ......

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน