เกษตรสาลีนิรันดร์ (The Endless Husbandry)

ลำน้ำน่าน

ลานเวิ้งว้างสนธยานกกากลับ
ตาลลิบลิ่วทิวลับกับโศกแสง
ตะวันคล้อยลอยเลื่อนเหมือนหมดแรง
ทอเรื่อแดงอ่อนโยนโพยมาน
ทุ่งสาลีข้าวหลวงธัญบุตร
ระวางแสงวิสุทธิ์พุทธศานต์
โอบลูกรวงหน่วงใบอยู่ในลาน
สอดซ้อนสานแซมภักดิ์ด้วยรักนั้น
อาณาจักรรากเหง้าชาวเกษตร
สุขอยู่ในคามเขตนิเวศน์ขวัญ
แดนแหลมทองสยามพิรามวรรณ
ธัญพันธุ์ครัวโลกโศกอันตรธาน
เดินมาหลายอสงไขยในวัฏฏะ
ก่อนพุทธะพระไตรฯ อวสาน
ท่ามกลางเหตุเภทภัยพญามาร
นายนิรยบาลปรากฏพบมลทิน
เถิดรวงเรียวข้าวเหนียวใบอย่าไหวตื่น
หยุดสะอื้นร่ำไห้ใยถวิล
อย่าเติมสายน้ำตาธาราแผ่นดิน
แม้นมณฑลธานินทร์ผินปีกมา
ถังข้าวสารเก่าคร่ำเมื่อค่ำพลบ
ยังสงบหอมร่ำพันธุ์บุปผา
ทิพย์ข้าวเจ้าดอกมะลิผลิวิญญาญ์
กรอกหม้อเลี้ยงชาวนาอย่างสามัญ
อัฐไม่เหลือเกลือแกงพอแบ่งกิน
ตราบโลกสิ้นอายุขัยไม่เสียขวัญ
ยามแสงทองส่องทางพร่างฟืนควัน
เจื้อยไก่ขันฟ้าสางพร่างผืนนา
ออกไปแปรผืนดินสูดกลิ่นหมอก
ไปเย้าหยอกอาบอุ่นกรุ่นอุษา
กสิกรรมดลใจร่ายมนตรา
เสกทรายทองระยิบตาอุษาโยค
โพ้นไกลนั่นมวลมนุษยชาติ
ไถแผ่นดินสิ้นหยาดน้ำตาโศก
อีกมุมเมืองแห้งแล้งแดงเลือดโลกย์
ธงสงครามโบกไกวใกล้อดตาย
สิ้นสมัยทิ้งทิพย์เกษตรกรรม
จะชอกช้ำตราบเกลือทะเลสลาย
ปลาสนาการขวัญข้าวหนาวใจกาย
พบจุดหมายหิวเร่วเนจร
อัญมณีสาลีล่วงสวรรค์
ปลูกในไร่เทวารัณย์ธรรพ์อัปสร
หว่านเม็ดพันธุ์ตกไถไพรดงดอน
ของเมืองฟ้าอมรแต่บุราณ
เกิดต้นธาตุข้าวหลวงรวงหลากหลาย
เหลืองเรียงรายเจิมดิถีศรีวิศาล
วาณิชแลกแยกขายหลายทะนาน
สานวิญญาณตะวันตกสู่เอเชีย
พัฒนาการชาวโลกน่าโศกเศร้า
ไม่เหลือเงากสิกรรมซ้ำเสื่อมเสีย
ไฟวัตถุเผาไร่นาป่าลามเลีย
อีกครึ่งโลกง่อยเปลี้ยเขี่ยข้าวกิน
สยามสมัยนี้ฤามีโชค
รวงยังโบกพุทธะกระแสสินธุ์
อยู่พอเพียงเลี้ยงสัตว์ทรัพย์ในดิน
ห่างมลทินสงครามตามล่าทาส
นั่นเหลื่อมเขียวผลหมากรากผัก
โบกเถาเครือเจือรักน้ำค้างหยาด
เหลืองฟักทองผ้าผ่องผุดพุทธวิลาส
ธรรมชาตินิวาสเหล่าเวไนย์
ลานเวิ้งกว้างสนธยานกกากู่
ทุกฤดูเก็บเกี่ยวรวงเรียวไสว
ธรรมเกษตรสาลีนิรันดร์ไทย
ตราบสุดสิ้นอสงไขยในสังสารวัฏฯ

----------------------------------
หลายพันปีแล้วที่รวงข้าวออกรวงเลี้ยงชาวโลก
ประเทศในแถบลุ่มน้ำโขงของเอเชียส่งออกข้าวขุนชาวโลกผู้หิวโหย
เป็นครัวโลกอันยิ่งใหญ่ ผลิตภัณฑ์การเกษตรส่งออกแปรเป็นเงินอักโข
สยามแปรทุ่งกุลาร้องไห้ให้เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิพันธุ์พิเศษสุด
ฝรั่งมังค่าถือดีแอบขโมยพันธุ์ข้าวหอมมะลิของไทยไปจดลิขสิทธิ์
ควรเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับชาวสยามที่มีข้าวดอกมะลิพันธุ์ดี
แต่กลับโดนแย่งไปครอบครอง.......
ถึงเวลาหรือยังที่เราจะตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของการเกษตร
สองสามปีมานี้ประเทศไทยเริ่มนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
นี้คือสัญญาณการเสื่อมสลายไปของเกษตรกรรมนิรันดร์ของไทย
สยามในอดีตในยามกาลียุค ข้าวยากหมากแพง คนสยามไม่ร้อนใจ
ด้วยมีข้าวในถังข้าวสารที่จะกรอกหม้อ เก็บผักปลากินไปตามยถากรรม
ในขณะที่คนอีกครึ่งโลกทางแอฟริกากำลังหิวโหยขาดอาหาร....
เป็นสัจจริงที่มนุษย์ขาดธัญญาหารไม่ได้
พ่อเคยบอกเสมอว่า ถึงจะยากจนอย่างไรขอให้มีข้าวสารไว้ในถัง
ถึงเวลาก็หุงนึ่งกินกับผักปลาน้ำพริกได้..อย่างไรก็ไม่อดตาย
เรามีผืนดิน มีน้ำ การเกษตรจึงเอื้อประโยชน์ต่อชีวิตมหาศาล
กลับสู่ความหมายแห่งชีวิตที่ต้องพึ่งข้าวพึ่งปลาเสียบ้าง
ชีวิตในวิถีพุทธจึงจะสงบอย่างแท้จริง.....
ว่าแต่ว่าวันนี้คุณทานข้าวหมดจานหรือยัง?

				
comments powered by Disqus
  • plaing_piu

    11 เมษายน 2548 09:54 น. - comment id 451866

    เป็นจริงยิ่งแล้วคดข้าวอดอยาก
    มิรู้จากบ้านพ่อแม่มาแต่ไหน
    นอนกลางดินกินกลางทรายอายทำไม
    สุขฉะนี้มีใครจักได้เป็น
    
    ไม่รู้เลศเหตุผลดิ้นรนรอด
    รู้หัวใจใบ้บอดไม่สอดเห็น
    อยู่วันๆผวาน้ำตากระเด็น
    ชีวิตเล่นเช่นนี้กี่วันวัย
    
    อย่าถามเลยเคยอิ่มเคยยิ้มแย้ม
    ข้าวกับแซมกี่ครั้งยังเหลือให้
    ตะวันรอนร่อนเร่ว้าเหว่ใจ
    มิรู้ฟ้าสวยหรือไม่....หิวในท้อง
  • กุ้งหนามแดง

    11 เมษายน 2548 11:46 น. - comment id 451918

    เมืองเราเป็นเมืองเกษตร...มาตั้งแต่ครั้งบรรพชน..ปู่ย่าตายาย ก็ทำนามาทั้งนั้น ..
    
    ภูมิใจที่ได้เป็นลูกหลานชาวนาค่ะ..
    
    ..
    
    
  • มาดามมด

    11 เมษายน 2548 11:57 น. - comment id 451925

    
    ...คุณนี่ยังคงเขียนกลอนเก่งเหมือนเดิมเลยนะคะ  เข้ามาอ่านค่ะ  เพราะดี  คิดคำได้  น่าทึ่งมาก ๆ ค่ะ
    
    
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    11 เมษายน 2548 12:12 น. - comment id 451934

    แม่สอนนักหน้าเรื่องคุณแม่โพสพ  กินข้าวเสร็จให้ยกมือไหว้  ข้าวไม่ให้หกหล่น ไม่ให้เหลือติดชาม หากหกลงดินกินไม่ได้ต้องรีบเก็บกวาดไปให้เป็ดไก่ ในครัวต้องมีข้าวสารในโอ่งเสมอ เกลือไม่ให้ขาดไห สองอย่างเท่านั้นที่ขาดไม่ได้แกเล่าว่ายายสอนต่อๆมา ตอนแกตายไม่บอกอะไรเลยคงจะถือว่าบอกหมดแล้ว ก็ได้เรื่องที่สำคัญ
  • แก้วนีดา

    11 เมษายน 2548 12:42 น. - comment id 451961

    แม้เรามิใช้ลูกหลานชาวนา
    แต่เราก็รู้ค่าบุญคุณข้าว
    เกษตรกรไทยดำนากันเหนื่อยล้าว
    เราคนไทยใยเมือนหน้าหนี้ข้าวขาว
    หันไปกินสิ่งที่ไม่ใช้ข้าวของพวกเรา
    ข้าวเจ้าผิดตรงไหนข้าวเหนียวก็ได้
    แต่ไฉนคนไทยดันไปหลงศีวิไลค์
    กินขนมปังบอกว่าอร่อยสบายใจ
    โถคนรุ่นใหม่ใยลืมคุณข้าวไทย
    แล้วต่อไปจะมีคนไทยที่ไหนดำทำนา
    
    แอบมาอ่านกลอยของ ลำน้ำน่านค่ะ.....เขียนไปไพเพราะเสมอ........
    
    
  • skyheart

    11 เมษายน 2548 16:26 น. - comment id 452115

    ติดตามอ่านผลงานเสมอ 
    แต่ไม่ค่อยได้แสดงความคิดเห็นเท่าไหร่
    ก็ขอเป็นกำลังใจในความงดงามแบบนี้ตลอดไปค่ะ
  • namsai

    11 เมษายน 2548 18:47 น. - comment id 452142

     
    
    ***********************น้ำใส************************
    
    เคยลงไปช่วยปู่ย่าดำนา..คิคิคิ..แต่โดนไล่หนี..
    
    เค้าบอกว่าไปเหยียบย่ำให้ ดินที่ไถ มันแน่น..
    
    แล้วจะปักกล้าลงไม่ได้..จะต้องใช้ไม้มาช่วย
    
    กระทุ้งให้เป็นรูลงไป..แล้วเอาต้นกล้า
    
    ปลูกลงไป..จะเสียเวลา..เลยอด..สนุกเลย..
    
    **************************************************
    
    **งานงามเสมอ..**
    
    .
    
    ^____^
    
    
  • กอกก

    11 เมษายน 2548 20:48 น. - comment id 452193

    งานงามมากค่ะ
    เป็นคนที่ทานข้าวไม่เคยเหลือค่ะ
    เพราะจะตักน้อยๆ แบบแน่ใจก่อนว่าทานหมด
    หากไม่อิ่มค่อยเติมเพื่มได้
    
    สวัสดีค่ะ
  • แก้วประเสริฐ

    11 เมษายน 2548 22:55 น. - comment id 452262

    เขียนได้ยอดเยี่ยมเสมอครับ  ไม่ต้องห่วงหรอกครับมันขโมยไปจดลิขสิทธิ์ก็จริงแต่หาผลประโยชน์ในการทำไม่ดี  ชาวโลกเขารู้หมดครับ  เพราะมันปลูกและพัฒนาพันธุ์ข้าวนี้ไม่ดีเท่าเราหรอกครับเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศเมืองเราเป็นอุปสรรคแก่มัน  อย่าลืมครับแม้แต่ประเทศข้างเคียงเรายังทำไม่ได้แปลกแต่จริงครับ
    
                          แก้วประเสริฐ.
  • แม่จิตร

    11 เมษายน 2548 22:57 น. - comment id 452263

    รวยรินกลิ่นทุ่งท้องนา
    พฤกษาพิศสมัย
    เม็ดข้าวเลี้ยงคนมากมาย
    เกษตรไทยภูมิใจคนไทยทำเอง อิอิ...ของแท้ ต้องไทย
  • ชัยชนะ

    12 เมษายน 2548 15:09 น. - comment id 452517

    แสงตะเกียงกลางทุ่งที่ริบหรี่
    คนล้วนหนีจากหลักแหล่งไร้ถิ่นฐาน
    ใครจะกลับคืนทุ่งถิ่นกันดาร
    ช่วยกันสานสืบต่อหน่อข้าวไทย
    
  • 4895_tiki unlogged_in

    12 เมษายน 2548 19:53 น. - comment id 452652

    ไพเราะ .....งดงามเหลือเกินค่ะ
    ลำน้ำน่าน
  • เพรง.พเยีย

    13 เมษายน 2548 19:17 น. - comment id 452968

    ทานข้าวหมดจานเสมอจนเป็นนิสัยค่ะ
    เพราะถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก
    
    เคยได้ยินคำพูดว่า  *อย่าให้ชาวนาถึงกับต้องซื้อข้าวกินเลย*
    
    ไม่อยากให้มีวันนั้นจริงๆ ค่ะ
    .
  • อนาลัย

    14 เมษายน 2548 14:05 น. - comment id 453348

    เพราะว่าใครหลายคนบนสภา
    ไม่เคยเยื้องกรายมาบนนาข้าว
    ไม่เคยนอนกองฟางกลางแสงดาว
    ไม่เคยกินข้าวหมดอย่างอดทน
    ...เพราะว่าคนหลายคนบนสภา
    ยึดผืนนามาทำบนหลังคน
    ลวงล่อและฉ้อฉล
    หลอกทุกคนจนหมดตัว..
    เพราะว่าเขาไม่รู้คุณของข้าว
    เพราะว่าเขาหัวใจบอดสลัว
    จึงเป็นโรคเลือดเย็นเห็นแก่ตัว
    เสพความชั่วแทนข้าวขาวจึงกร้าวเกิน..
    
    กลอนไพเราะมากเลยนะคะ แต่อ่านบทความตอนท้ายแล้วเกิดความรู้สึกซึมเศร้ารุนแรง กลอนที่แต่งมาคุยด้วยเลยออกจะแหวกแนวไปหน่อย..
    ขอชื่นชมผลงานทุกๆบทเลยค่ะ
  • นี

    14 เมษายน 2548 22:34 น. - comment id 453476

    ...อ่านแล้ว คิดถึงคนที่เป็นชาวนา..
    
    คิดถึงนาข้าว...และก็คิดถึงข้าวที่กินอยู่ทุกวัน

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน