นิราศแผ่นดินทอง (The Whispering of Ancient Rattanakosin)

ลำน้ำน่าน

แผ่นดินปฐมรัตนโกสินทร์
ปฐมวงศ์แห่งราชวงศ์จักรีบัลลังก์
     (๑) อยุธยาคืนยศแล้ว..........วิมานสอง บุรีฤา
กระจ่างทิพย์โพยมทอง............ทวิพร้อย
ลายกุดั่นพรรณลำยอง...............ระยับเมฆ เมลืองแล
กระหนกเปลวระย้าย้อย.............หยาดฟ้าอุษาไสวฯ
(กลบทบัวบานขยายกลีบ)
     (๒) คืน..บดินทร์ถิ่นกมุทแก้ว..กชกร สยามนอ
คืน..หวดอุ่นหุงขจร..................กลิ่นข้าว
คืน..สะพรั่งหลั่งอัมพร..............พิรุณพยับ
คืน..สู่ฟ้าจักรีเจ้า.....................จรัสเพี้ยงพิมานสมานฯ
(กลบทบัวบานขยายกลีบ)
     (๓) หอม..รำเพยพ่างพื้น......พะยอมสยาม
หอม..กรุ่นบุญอาราม................รจิตเนื้อ
หอม..ปรุงอบกำยานยาม...........ย่ำรุ่ง หอมแม่
หอม..ร่ำตาดจันทน์อะเคื้อ.........คลี่หล้ามาหอมฯ
     (๔) รอนแรมล่าอริคุ้ง............แควใด สยามฤา
นกป่าร้องระงมไพร....................เพรียกเช้า
หากห่วงแม่แลไฉน....................นะพ่อ
บาปลูกแท้ห่อนเฝ้า....................ฝากไข้คุณสนองฯ
(กลบทบัวบานขยายกลีบ)
     (๕) ฝาก..ธรณีมิ่งไม้...........คุ้มครอง นะแม่
ฝาก..พระพายครรลอง.............ลูบอ้อน
ฝาก..แม่โพสพสนอง................หลับตื่น หิวฤา
ฝาก..แต่ราชการร้อน...............ลิ่วล้างอรินทร์ผลาญฯ
     (๖) ปราบม่านพกพ่ายแพ้.......ภายลาญ
แตกทัพเก้ากองการย์.................กลาดข้า
บุญเมืองศึกบ่นาน......................นัยว่า นะแม่
คลอค่ำขลุ่ยกล่อมฟ้า...................วิหคเฝ้าคืนขอนฯ
(กลบทบัวบานขยายกลีบ)
     (๗) ประสบ..โสมส่องฟ้า........เฟือนทาง แลแม่
ประสบ..ศึกณรงค์คราง...............คลาดเจ้า
ประสบ..ทัพพม่าหมาง................หมองหมิ่น เมืองแล
ประสบ..สุขบ่คลายเศร้า..............สร่างเนื้อคะนึงหอมฯ
(กลบทบัวบานขยายกลีบ)
     (๘) ระลึก..ระรื่นหน้า............นางทอง
ระลึก..คืนบุหลันครอง................ดื่มผึ้ง
ระลึก..รักสมัครปอง...................เพียงแม่ อรเอย
ระลึก..จิตนิมิตซึ้ง......................แต่น้องนรีสยามฯ
(กลบทบัวบานขยายกลีบ)
     (๙)  ไตร..บุญหนุนเกิดใต้.....ไผทกรุง
ไตร...รัตน์เรืองเรืองจรุง.............แจร่มแล้ว
ไตร...ปิฎกดั่งสายซุง..................ส่งสู่  สวรรค์นอ
ไตร...ชาติไป่คลาดแคล้ว............ทาสเบี้ยเรือนสยามฯ
     (๑๐) ปฐมพระพุทธยอดฟ้า......จุฬาโลกฯ
การณรงค์พิชัยโชค......................ชิดชั้น
พุทธะอุษาโยค.............................ยกย่อง ยิ่งแฮ
กษัตริย์ศึกพลปั้น........................ปกป้องมไหศวรรย์ฯ
     (๑๑) มโหรีร่ายฟ้อน.............เฟื่องละคร
โขนพาทย์นาฏอาภรณ์...............ปลั่งพื้น
นางในสไบกำจร.......................จีบร่าย รำแม่
ศึกละพระพุทธฟื้น.....................ฟ่องฟ้อนอัปสรศิลป์ฯ
     (๑๒) พระนราธิปไท้..........ทอดทาง
ยอดเอกพิหารปรางค์.............พุ่มแก้ว
รัตนวังนภางค์.......................พยับเมฆ โพยมแล
สดับพาทย์ประโคมแจ้ว........จิบเจื้อยการเวกสวรรค์ฯ
     (๑๓) ทรงอัญเชิญพระแก้ว....มรกต
ประดิษฐานประณต....................นอบไหว้
ปราบศึกอนุวงศ์คด....................เกียรติล่ม ลงแล 
รัตนศาสดารามไซร้...................พ่างพื้นแพนสรวงฯ
     (๑๔) ชำระชำรุดต้น..............ไตรปิฎก
ศาสนูปถัมภก............................ไพร่พร้อง
มณเฑียรหากทรงยก..................ยศใหญ่ หอนา
อรรถกถาข้อง............................ขัดแก้วประชุมสงฆ์ฯ
     (๑๕) สังคายนาแบบต้น..........ไตร่ตรอง
จารึกใบลานรอง..........................รักษ์ไว้
พระไตรปิฎกฉบับทอง.................ทาบทึบ ทองแล
ปกแผ่นหน้าหลังไล้......................ลูบล้วนกนกสรรค์ฯ
     (๑๖)  พระทรงออกกฎเข้ม.......ข่ายสงฆ์
กฎกวดพุทธพงศ์.........................พัสตร์ผ้า
พัสตร์พันพาสน์ธุดงค์...................ฤดูหลั่ง วสันต์นอ
โดมร่มกาสาว์ฟ้า..........................ฝึกฟื้นธรรมขลังฯ
     (๑๗) สมเด็จทรงโปรดให้........อัญเชิญ
พระพุทธรูปเจริญ........................ร่มแคว้น
จากฝั่งสุโขทัยเทิน.......................เทียวท่อง ลงนา
ศรีศากยะมุณีแม้น.......................มิ่งแก้วสุทธาวิหารฯ
     (๑๘)  เก็บกฏหมายเก่าคล้ำ......กรุงปลาย
อยุธยายศคลอนคลาย....................คลาดคล้อง
อาลักษณ์พระคลังหมาย.................หมวดหมู่ สามนา
ผนึกกฎสามดวงพร้อง...................พ่วงถ้วนตราสถานฯ
     (๑๙) พระองค์ทรงพลิกฟื้น........อักษร สยามนอ
วรรณคดีลาญรอน.........................ร่อยร้าง
พระยาพระคลังกลอน....................กาพย์เก่ง
อีกพระนิพนธ์สล้าง........................สืบสร้อยลายสือฯ
     (๒๐) พืชมงคลทรงปลุกฟื้น-......ฟูพิธี
ไถหว่านสะคราญเทพี....................หาบข้าว
พระราชภิเษกศรี...........................ศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งนอ
อาพาธพินาศด้าว..........................ดักดิ้นโรคสยองฯ
     (๒๑) พิพัฒน์สัตยารับน้ำ.........บุราณเนา
แรกก่อนบังคมเคา-.....................รพเกล้า
ไหว้พระพุทธก่อนเกลา.................แก้เปลี่ยน แปรแฮ
ออกดื่มน้ำพยานเฝ้า.....................ฝ่ายเบื้องภูมิสูงฯ
     (๒๒) สมเด็จทรงโปรดสร้าง......สุพรรณหงส์
เรือพระที่นั่งทรง...........................ท่องน้ำ
ผ้าพระกฐินดำรง...........................ราชเก่า พิธีแฮ
พยุหยาตราข้าม............................ท่องพื้นธารไหลฯ
     (๒๓) เสียงร่ำเสียงโศกห้วง....เทวินทร์
สิ้นพระชนกบดินทร์....................ดับแล้ว
มหาพิชัยราชรถริน.....................เห่อัฐิ พระศพนา
พระโปรดสรรค์รถแก้ว................กษัตริย์เชื้อส่งสวรรค์ฯ
(กลบทบัวบานขยายกลีบ)
     (๒๔) เห่..อเนกนานัปกิจเจ้า.......เจรียงชน พ่อนา
เห่..กล่อมทศมณฑล.......................ทั่วแคว้น
เห่..ทัพสะกดมนตร์.........................มลายม่าน 
เห่..พาทย์นาฏผุดแป้น....................ผ่องผ้าพุทธถวิลฯ
     (๒๕) ทาสกวีกรีดเลือดไล้........เชลงโคลง
ร้อยแผ่นดินศิลป์ระโยง.................ระยับหล้า
ก่องบุญก่อนนอนโลง....................ลับร่าง ราพ่อ
แม้นนิราศสี่ภพข้า........................ขนาบเนื้อกนกสมัยฯ

---------------------------
ข้าพเจ้าเปิดเพลง "นางครวญ" เดี่ยวขิมเงียบงาม
บรรเลงประโลมใจในวันพระจันทร์ข้างแรม
จิตประหวัดไปในสมัยอยุธยาตอนแตกดับ
ไทยเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าครั้งที่สองเมื่อปี ๒๓๑๐
เป็นการเสียกรุงอย่างย่อยยับที่สุดในประวัติศาสตร์
หากพม่าได้เผาผลาญทำลายทุกสิ่งทุกอย่างโดยสิ้นเชิง
บ้านเมืองวัดวาอาราม ปราสาทราชวัง ถูกทำลายลงสิ้น
ผู้คนที่อพยพหนีพม่ามาอยู่ในเมืองประมาณหนึ่งแสน
ถูกพม่าฆ่าตายมากกว่าครึ่ง ที่เหลือก็ถูกกวาดต้อน
นำไปเมืองพม่าอย่างทารุณ..
ได้รับยากแค้นแสนสาหัส ทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ
ถูกขนกองนำกลับไปพม่านับประมาณค่ามิได้
กรุงศรีอยุธยาอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด 
หมดสภาพที่จะปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ได้
ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกรุงศรีที่ว่างศึกสงคราม
มานานนับศตวรรษ ผู้คนมีความเป็นอยู่รื่นเริง
ดังปรากฎในเพลงยาวรบพม่า พระราชนิพนธ์
กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทว่า
ทั้งพิธีปีเดือนคืนวัน
สารพันจะมีอยู่อัตรา
ฤดูใดได้เล่นเกษมสุข
แสนสนุกทั่วเมืองหรรษา
และบัดนี้ก็ถึงการแตกดับอย่างไม่คาดฝัน 
ไม่เห็นเช่นว่าจะเป็นถึงเพียงนี้
มายับเยินอับปรีย์ศรีศักดิ์หลาย
สารพัดย่อยยับกลับกลาย
อันตรายไปทั่วพื้นปฐพี
และสุนทรภู่ได้บรรยายสภาพกรุงร้าง
ไว้อย่างน่าสังเวชว่า
ดูปราสาทราชวังเป็นรังกา
ดังป่าช้าพงชัฏสงัดคน
อนิจจาธานินสิ้นกษัตริย์
เหงาสงัดเงียบไปดั่งไพรสณฑ์
แม้กรุงยังพรั่งพร้อมประชาชน
จะสับสนแซ่เสียงทั้งเวียงวัง
การล่มสลายแห่งกรุงศรีอยุธยาคงเป็นอุทาหรณ์
ได้ดีกระมังว่า คนสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินนั้น
มันเจ็บปวดเกินกว่าเทวดาองค์ใดจะรับรู้
หากด้วยบุญเพรงแห่งกษัตริย์สยาม
พระเจ้าตากจึงกอบกู้อิสรภาพคืนมา
นับเป็นการเริ่มต้นปฐมบรมจักรี
อาณาจักรรัตนโกสินทร์แต่นั้นสืบมา
---------------------------------------
ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันดร์
๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๘

				
comments powered by Disqus
  • ภูตะวัน ตะวันรอน

    22 สิงหาคม 2548 00:05 น. - comment id 506868

    
    แวะมาทายทักเพื่อนเก่า..ก่อนนอน..
    
    งานงามมากค่ะ...
    เปี่ยมไปด้วยความรู้
    
    
    41.gif64.gif41.gif
  • ธรรมาภิวัฏ

    22 สิงหาคม 2548 00:22 น. - comment id 506871

    หนักแน่นนะครับ41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif
  • ChorChongKoh

    22 สิงหาคม 2548 00:25 น. - comment id 506873

    11.gif36.gif สวัสดีค่ะ มิ่งมิตรแห่งจิตรบรรณ
    
           ๑. ยากนักยุคจักย้อน  อโยธยา
        ยุคแห่งแก้วกฤษฎา       เด่นสร้าง
        ศรีปราสาทวัดวา            วิสิฐ สวรรค์ฤา
        สลายดับเลือนลับร้าง      ล่มทิ้งรอย\"ศิลป์\"
    
        ๒. สืบธร\"ณินทร์\"ถิ่นฟ้า       ฟื้นฟู
        ตราชั่งตั้งตราชู              เชิดค้ำ
        ชาติประชิดศัตรู            เศรษฐศึก ซีมแล
        ศึกนอกศึกในซ้ำ......... สุขสิ้นเหลือศูนย์ฯ
    
                             .... 42.gif...ช่อชงโค
    
                 ลีลางดงามและลึกล้ำความหมายค่ะ
    
       ประวัติศาสตร์แห่งผืนปฐพีนี้มีคุณค่าสูงล้ำ
    
                                            4.gif41.gif
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    22 สิงหาคม 2548 08:22 น. - comment id 506896

    งดงามครับผม
    31.gif
  • อัลมิตรา

    22 สิงหาคม 2548 08:29 น. - comment id 506899

    มาอ่านโคลงงามจากบุรุษแห่งธาร
    ยังไม่มีเวลาแจมสักเท่าไหร่ ขออ่านอย่างเดียวก่อนนะคะ
  • แมงกุ๊ดจี่

    22 สิงหาคม 2548 09:28 น. - comment id 506922

    สวัสดีค่ะ  คุณลำน้ำน่าน
    
    แวะมาทักทายค่ะ  ไม่ได้ทักทายคุณเสียนาน..
    เรื่องโคลงไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่...
    แต่อ่านแล้วเพราะดีค่ะ....
    
    คิดถึงเพื่อนเก่าซึ่งเคยคุ้นเคย...ณ จุดหนึ่ง..
    จึงแวะมาทักทาย...
  • namsai

    22 สิงหาคม 2548 12:55 น. - comment id 507027

    
    
    ++
    
    +++
    
    สวัสดีจ่ะ..
    
    สบายดีนะ..
    
    งดงามงานกลอนเหมือนเคย..
    
    ++
    
    ++++
    
    
  • ดอกข้าว

    22 สิงหาคม 2548 13:23 น. - comment id 507043

    36.gif..
    
    แวะเยี่ยมพี่ลำน้ำน่านครับ
  • ไรไก่

    22 สิงหาคม 2548 15:46 น. - comment id 507117

    แวะมาอ่านคะ
    แต่ยังไม่ได้เก็บรายละเอียด
    เป็นผลงานที่งดงามมากๆค่ะ
  • คนเมืองลิง

    22 สิงหาคม 2548 17:25 น. - comment id 507205

    29.gif29.gif29.gif
    
    เหนือคำบรรยายจริงๆค่ะ เยี่ยมที่สุดเลยค่ะ57.gif
  • ชัยชนะ

    22 สิงหาคม 2548 19:30 น. - comment id 507281

    แวะเข้ามาเรียนประวัติศาสตร์ซ่อมด้วย
    ลืมเกือบหมดแล้ว
    
    ประวัติศาสตร์เป็นอีกวิชาหนึ่งที่ชอบอ่าน
    
    อดีตให้ข้อคิดแก่เราได้เป็นอย่างดี
    36.gif36.gif36.gif
  • ผู้หญิงไร้เงา

    22 สิงหาคม 2548 20:10 น. - comment id 507313

    ขอบคุณความรู้ที่แต่งมาให้รับรู้ค่ะ
    
    ผลงานคุณเหนือคำบรรยาย บอกได้แค่ว่าสุดยอดจริง ๆ คะ  ชื่นชมในผลงานเสมอ
  • กอกก

    22 สิงหาคม 2548 20:17 น. - comment id 507321

    เมื่อแรกที่เห็นชื่อเรื่อง ดีใจว่าจะได้พบแม่พลอยกับพ่อเปรม...
    
    แต่ก็ต้องทึ่งในผลงานของคุณมากๆ...
    และไม่ผิดหวังเลยค่ะ ถึงไม่ได้เป็นแม่พลอยก็ตาม...
    
    ขอบคุณงานงามค่ะ 29.gif
    
    สวัสดีค่ะ
    36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    22 สิงหาคม 2548 21:21 น. - comment id 507345

    36.gif41.gif36.gif
    
              เป็นโคลงที่งดงามมากเชียวครับ อ่านแล้วให้รำลึกนึกถึงคนสองคน คือ  เจ้าฟ้ากุ้งและนายนรินทร์ธิเบศร์ มหาดเล็กหุ้มแพรจริงๆครับ
    ผมชอบงานสองท่านนี้มากเชียว
    แต่โคลงนี้แนวโน้มไปในท่านหลังเสียมากกว่าครับ
    ขอบคุณยอดกวีชายมากๆครับที่ไปเยี่ยมและได้
    รับความรู้ขึ้นอีกมากครับ 36.gif41.gif36.gif16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • rain..

    22 สิงหาคม 2548 22:53 น. - comment id 507384

    ..เรนขออนุญาต ..พี่นิวเก็บโคลงนิราศในไดฯของเรนนะคะ ..36.gif..
    
         งดงามในความรู้สึก.. ของเรนด้วยดิคะ ..36.gif
  • แดดเช้า

    23 สิงหาคม 2548 07:31 น. - comment id 507470

    เป็นกลอนสะท้อนภาพ
    แทรกซึมซาบอาบใจไหว
    ร้อยเรื่องเฟื่องอำไพ
    แล้วร้อยใจในเรื่องราว
    
    โคลงสี่สุภาพล้ำ
    จังหวะนำทำนองพราว
    คารวะปรบมือกราว
    ซึ้งในวาววามแห่งคำ : )
    
    เข้ามาทักทายค่ะ
  • พี่พุด

    23 สิงหาคม 2548 09:44 น. - comment id 507490

    16.gif
    เมื่อคืนในราวเมือง
    
    มีโอกาสได้นั่งฟัง
    บทเพลงบรรเลงจากเปียนโน
    ที่บรรยากาศภายใต้แสงเทียนโรแมนติกมาก
    น่าเสียดายที่เป็นเพลงคลาสสิค
    ของคีตกวีชาวยุโรปมิใช่ของเราค่ะ
    ...
    36.gif
    และเริ่มรุ่งทิวาหวาม
    ยามเช้าบนชั้นที่16เหนือกรุงเทพฟ้าอมร
    หัวใจดวงสะออนได้สัมผัส
    พลังจากพระอาทิตย์สวยจรัสมาก
    ไรฟ้าเป็นสีส้มมอชมพู
    แล้วค่อยแจรงแจ่มแตะแต้มทั่งท้องนภางค์
    สว่างแล้วแปรเป็นสีทองค่ะ
    ตามดวงสุริยาที่เริ่มพรายพร่างกระจ่างใสไปทั่วเวิ้งฟ้านภากาศ
    
    36.gif
    กับ
    กาแฟละมุนควันกรุ่นกระจายหอมในมือ
    และ
    บทกวีแสนงามในมือ
    ที่กำลังอ่านแกล้มกับ
    บรรยากาศกรุง
    ทำให้ดวงใจหอมกรุ่น
    ด้วยพลังแห่งหวังหวาน
    มิสิ้นสุดที่จะหยุดรัก..แผ่นดินธรรม
    ผืนดินทอง พสุสาไทย
    ที่แสนร่มเย็นเป็นสุขมาช้านาน
    36.gif
    และ
    ดอกไม้ใจ..ดอกไม้ไทยโบราณ..
    ในดวงใจ..ในฝันจะยังเจิดแจ่ม
    ตาบใดที่ฟ้ายังมีอาทิตย์อุทัยมาทอทอง
    และ
    ยังมีครรลองสายน้ำระรินมิสิ้นรักค่ะ36.gif
    
    ด้วยคารวะและรักในงานเหนือคำชม..แล้ว
  • พี่ดอกแก้ว

    23 สิงหาคม 2548 15:45 น. - comment id 507646

    บุรุษแห่งสายน้ำ.....36.gif
    
    สร้างเมืองเรืองรุ่งฟ้า                 นคร
    งามดั่งภพอมร                           ทับแก้ว
    รัฐราษฎร์รับบวร                        พุทธศาสน์
    สถิตแนบขวัญแล้ว                     ร่มล้ำฉ่ำจินต์
    
    กาลรินไตรลักษณ์ล้น                  ธรรมา
    พินาศเยี่ยมนครา                       เปี่ยมเศร้า
    พลัดถิ่นพ่ายแตกมา                   แดนใหม่
    กู้กอบดินคลุกเคล้า                     เลือดเนื้อสร้างกรุง      
    
    เสรีจรุงด้วย                               ชีพไทย
    นับหมื่นแสนตายไป                เพื่อบ้าน
    ธารโลหิตหลั่งไหล                   เพื่อบุตรหลานนา
    หยาดเหงื่อความกรำกร้าน        แลกล้วนเมืองงามฯ
    
    ขอร่วมระลึกถึงความเปลี่ยนไปในกาลไว้ ณ ตรงนี้ด้วยค่ะ บุรุษแห่งสายน้ำ
    ทุกครั้งที่เข้ามาอ่าน ..ไม่เคยเลยสักคราที่จะพลาดไปจากความไพเราะและงดงามของถ้อยคำ
    และความสงบสุขที่แสดงออกมาจากภายใน...ด้วยความชื่นชมค่ะ
  • ลักษมณ์

    24 สิงหาคม 2548 11:59 น. - comment id 508015

    ได้มายลยินด้วยความชื่นชม
    
    เหมือนเช่นทุกคนครับ
    :]
  • ลี่...ชวนมาเยือน

    25 สิงหาคม 2548 13:10 น. - comment id 508360

    คุณลำน้ำน่านจะพิมพ์รวมเล่มเมื่อไหร่หรือคะ
    ลี่จองไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ
    .....................................................................
    ลี่...ผู้มาเยือน
    .

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน