อย่าเป็นเพียงโคถึกคึกคะนอง

พี่ดอกแก้ว

เมื่อวาดหวังตั้งไว้ในสิ่งหนึ่ง 
และมุ่งหมายไปถึงความใฝ่ฝัน 
นอกจากใจกล้าสู้คู่ชีวัน 
สิ่งสำคัญคือความรู้ผู้บอกทาง 
หากเป็นเพียงโคถึกคึกคะนอง 
หยิ่งผยองแรงเรี่ยวเกรี้ยวโผงผาง 
อาจมีเหยื่อมาล่อลงหลุมพราง 
ต้องร้องครางเพราะเขลาไม่เท่าทัน 
หากเหลิงหลงลมรสพจมาน 
มธุรสซาบซ่านจนเคลิ้มฝัน 
หวังอาจเปลี่ยนเวียนไปไม่เว้นวัน 
เพราะลมปากเขานั้นปั่นให้เมา 
หากทดท้อต่อคำตำหนิติง 
จนทอดทิ้งหวังไว้ในความเฉา 
เลือกความทุกข์คลุกใจจนซึมเซา 
ปล่อยความเศร้าเฝ้าความฝันให้ผันแปร 
มวลความรู้คือผู้นำสู่ชัย 
ให้รู้ภัยหลบพ้นจนไร้แผล 
วิชาโลกชาญเชี่ยวเคี่ยวดวงแด 
วิชาธรรมรู้แท้ต้องคู่กัน 
วิชาโลก...นำให้ใฝ่ฮึกเหิม 
และต่อเติมบันไดไปสู่ฝัน 
มุ่งสำเร็จในศาสตร์กาจเก่งพลัน 
ยิ่งผลักดันให้ก้าวเท้าสู่ชัย 
วิชาธรรม...นำพ้นความหม่นหมาง 
ข้ามหลุมพรางสรรเสริญเพลินคำไข 
ผ่านกับดักตำหนิคำติใคร 
รู้ทันนัยคำลวงปวงลิ้นลม 
ทั้งพยุงให้มุ่งอย่างสันติ 
ไร้อริเคี่ยวขับกับขื่นขม 
วิชาธรรมฝึกใจให้มีคม 
ตัดอารมณ์ลุ่มหลงคงปัญญา 
รู้ประโยชน์ไร้ประโยชน์ไม่โทษใคร 
รู้บทกรรมเป็นไปไม่กังขา 
รู้อภัยแก้ไขไร้โกรธา 
รู้ทิศทางเบื้องหน้าอย่างชัดเจน 
				
comments powered by Disqus
  • ดาหลา & ปะการัง

    22 มีนาคม 2548 08:40 น. - comment id 442660

    สาธุค่ะพี่ดอกแก้ว
    
    ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้   หันหน้า เดิน เข้าทาง ธรรม บ้าง แต่ อันเนื่องยังคงเป็นโค ถึง โง่ เงา 
    จะค่อยๆๆเดินไม่กระโดด   แล้ว คงเข้าถึง องค์ธรรม  อย่าง เต็มใจสักวัน
    
    ขอบพระคุณค่ะ ที่แส่งสอนและแนะนำ สิ่งดีดีค่ะ
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    22 มีนาคม 2548 09:31 น. - comment id 442680

    แวะมาอ่านงานงามครับพี่ดอกแก้ว..รักษาสุขภาพนะครับอากาศร้อนแล้วครับผม
  • มนต์กวี

    22 มีนาคม 2548 09:32 น. - comment id 442682

    มาอ่านงานและซึมซับอารมย์กลอนครับพี่ดอกแก้ว.....
    
    
  • 4895_tiki unlogged_in

    22 มีนาคม 2548 10:01 น. - comment id 442697

    เป็น เรื่องติติงสอนใจได้ดียิ่งค่ะ
    
    
  • แก้วนีดา

    22 มีนาคม 2548 10:52 น. - comment id 442709

    ธรรมที่นำความสุขใจมาให้เสมอค่ะ..พี่ดอกแก้ว.........มาชื่นชมการเขียนของพี่ดอกแก้วอีกแล้วค่ะ........
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    22 มีนาคม 2548 15:44 น. - comment id 442828

    @...นู๋นิ่ม...
    
    สวัสดีค่ะ...ไม่ได้พบกันหลายวัน
    ดีใจนะคะที่ทราบว่าเดินเข้าหาความร่มเย็นใจอยู่ในขณะนี้..ขอให้พบและได้พักอย่างที่ใจหวังนะคะ...
    
    ปล.คำว่า โคถึกน่ะ ..ความจริงแล้วเขาหมายถึงโคหนุ่ม ..แต่พี่ดอกแก้วนำมาใช้ให้คล้องกับคำ..คึกคะนอง... เน้นที่อาการที่แสดงออกน่ะค่ะ ..ไม่ได้หมายจะไปเหยียบย่ำความเป็นโคที่ไหน ...อิอิ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    22 มีนาคม 2548 15:46 น. - comment id 442829

    @...บินเดี่ยวหมื่นลี้...
    
    อากาศร้อนๆอย่างนี้ยังอุตส่าห์แวะมา
    ขอบคุณมากนะคะ ...
    แล้วอย่าลืมดูแลตัวเองด้วยล่ะคะบินเดี่ยวฯ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    22 มีนาคม 2548 15:57 น. - comment id 442832

    @...มนต์กวี...
    
    ขอบคุณค่ะมนต์กวี..
    กลอนบทนี้พี่ดอกแก้วนึกถึง..พระมหาบุรุษ..เป็นที่ตั้ง
    ..การศึกษาศิลปศาสตร์ ๑๘ สาขาที่เพียบพร้อม
    ..การตรัสรู้ธรรมที่เห็นแจ้งในสิ่งทั้งปวง
    จึงเป็นที่มาของความยิ่งใหญ่เป็นเอกบุคคล...ที่มิมีผู้ใดเทียมได้
    
    ส่วนคนทั่วไปที่มีแต่วิชาการทางโลกเพียงอย่างเดียวนั้นมักตกเป็นเหยื่อของกิเลสจนเกิดความพ่ายแพ้ไปในที่สุด...
  • พี่ดอกแก้ว

    22 มีนาคม 2548 15:58 น. - comment id 442834

    @...คุณทิกิ...
    
    ขอบคุณที่แวะมานะคะ..
    อาจกล่าวได้ว่า ...วิชาธรรมนั้นเหนือกว่าวิชาทางโลก..ในทุกสถานการณ์
    นั่นเพราะมี..ความรู้..ที่จะฝึกใจของตนให้ดีได้นั่นเอง
  • พี่ดอกแก้ว

    22 มีนาคม 2548 16:04 น. - comment id 442836

    @...แก้วนีดา...
    
    อีกหนึ่งของผู้สร้างงานที่ให้ความร่มเย็นใจ
    ขอบคุณมากนะคะแก้วนีดาที่แวะมาเยี่ยมเยียน
    
    การเสนองานแนวนี้..หากหวังที่จะให้มีใครติดตามอย่างมากมาย..คงเป็นความหวังที่เลื่อนลอยมาก
    เพียงแต่พี่ดอกแก้วตั้งความหวังไว้ว่า ..เพียงแค่ได้เขียนออกมา..ก็นับว่าสมความปรารถนาแล้ว
    แม้จะไม่มีใครติดตามนัก..ก็เกิดประโยชน์ที่ตนเองเป็นผู้แรก..คือได้กระทำกุศลกรรมที่ควรแก่ฐานะนั่นเองค่ะ
    
    ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
    
  • rain..

    22 มีนาคม 2548 19:10 น. - comment id 442898

    เรน ..  สัญญา ..นะคะ ..  เรนจะไม่เป็นโคถึก ที่คึกคะนอง ..
       ..เรน ..จะไม่เป็น .. 
          คนที่..  ถูกบังคับ .. ให้เขียนภาพ ..  ที่เรน ..  ไม่เคยเห็น ..
    
         เรน.. กราบขอบคุณ .. ในความเมตตา ..  ที่ให้เรน ..
    เรน..  สัญญา ..  
           วันที่ เรน ..  ค้นพบ ..  
    เรน ..  จะไปกราบ.. สวยๆ ..
     เรนจะ no secret..  ระหว่างเรา ..  นะคะ..
          เรน ..  รัก .. ความรู้สึก ..  ดีๆ ... ตรงนี้จัง ..
                   
        เรน ..  คิดถึง ..  นะคะ ..
    
        ผู้หญิง ..  ที่เรนใกล้ ..แล้วไม่สับสน ..
     เป็นเหตุผล ..  ที่เรน บอกไม่ได้ ..
        บางครั้ง ..เรนรู้สึก..เหมือน อยู่ไกล ..
     บางที คล้ายใกล้ ..  แค่นิดเดียว..เอง ..
    
           ...แว้ป ..
        เรน ..  ขอโทษ ..นะคะ ..  แบบเรนคิดกลอนตั้งนาน .. ก็ ยังคิดไม่ออก ..
       แต่ เรน ..ก็ อยากมา .. ทักทาย..พี่ดอกแก้วนะคะ ..
             ...
  • ผู้หญิงไร้เงา

    22 มีนาคม 2548 19:44 น. - comment id 442911

    รับรู้สิ่งที่สอน
    เป็นบทกลอนในวันนี้
    จะปรับปรุงสิ่งดีดี
    ให้ตนนี้ได้เห็นทาง
    
    *-*คิดถึงมากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชอบจัง*-*
  • ชัยชนะ

    22 มีนาคม 2548 20:12 น. - comment id 442923

    เป็นโคถึกคึกคะนองลำพองยิ่ง
    ในทุกสิ่งอาจทลายหายสาบสูญ
    ควรใคร่ก่อนกระทำไปได้เพิ่มพูล
    จะเกื้อกูลชีวิตพิชิตชัย
    
    
    
    
  • โค..ที่ไม่ค่อยโง่มากนัก

    23 มีนาคม 2548 06:29 น. - comment id 443093

    กลอนของคุณดอกแก้ว..
    เหมือนจะพยายามเน้นย้ำ ความกาจกล้าท้าทาย
    ว่า เป็นลักษณะ ของว้วดุ..สัตว์สี่เท้า ที่ไร้สมอง
    เปรียบคนที่สำแดงความกล้าหาญ โดยไร้สติปัญญา .....เปรียบคนที่มีความรู้ แต่ไม่มีคุณธรรม
    
    คงต้องขอสงสัย ตามประสา คนเกิดปีโค...
    
    ว่า....ก็ถ้ามีโคถึกที่รู้ธรรม...หรือโคที่คิดเป็น..
    และมีพลังอันกล้าแกร่ง...เรียกว่า วัวพันธุ์พิเศษ
    คอยเป็นพลังใจ ให้เพื่อนโค..เวลาที่ถูกหาว่าโง่
    คงจะดีกว่าไหมคะ..กว่าที่จะให้โคโง่หมดทุกตัว
    
                อาจจะมีโคถึก..เคยสึกบวช
         มิหมายอวดลวดลายโลดฉายฉาน
         แต่บังเอิญ..เป็นโคเพชร เก็จตระการ
         วิชาชาญเชี่ยวธรรมโลก..โชคท้าทาย
    
              สำคัญหนึ่ง มิพึงเปรียบเทียบมนุษย์
        เป็นแค่โค โง่งุด สุดหมิ่นหมาย
        สมองโค หรือสมองคน (ปนวัวควาย)
        มันก็คล้ายคล้ายกัน..ในกมลสันดาน..
    
              สำคัญสอง มิปองขู่ ลบหลู่ค่า
        อย่าลืมว่า ..ค่าโคนันทิวิศาล
        ตำนานพุทธสุดวิเศษเทศน์บุราณ
        โคก็รู้รสสารแห่งฐานธรรม
    
               อาจจะมี..โคธรรม์ สวรรค์ส่ง
         ให้มาลงกวีเว็บกรีดเล็บร่ำ
         ทั้งกาจกล้า สง่าผงาด เริงนาฏกรรม
         เป็นผู้นำ โครุ่นใหม่...ใครจะรู้ !!
    
        
        
    
            
    
             
        
    
  • )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

    23 มีนาคม 2548 07:29 น. - comment id 443126

    เห็นด้วย  กับอาจารย์ต้อยครับ
    
    คิดถึงจัง
    
    แวะมาเป็นกำลังใจให้นะครับ
    
    
  • เพียงพลิ้ว

    23 มีนาคม 2548 08:30 น. - comment id 443135

    ไม่เป็นโคถึกค่ะพี่ดอกแก้ว
    เป็นแมวค่ะ
  • มัดหมี่จ้า

    23 มีนาคม 2548 10:08 น. - comment id 443170

    อ่านงานงามแล้วจิตใจดีขึ้นมากค่ะพี่ดอกแก้ว
    พักนี้มัดหมี่งานยุ่งตุงนัง
    อยากจะปลง ๆ เหมือนกันนะคะ
    แต่ทำยากจังค่ะ
    
    คิดถึงพี่ดอกแก้วนะคะ
    แวะมาชื่นชมค่ะ
  • พี่ดอกแก้ว

    23 มีนาคม 2548 16:30 น. - comment id 443331

    @...เรนน้อย...
    
    ...ความผยองในความสามารถของตน
    จะเป็นดาบที่ย้อนกลับมาเชือดเฉือนตนเองได้ง่าย
    กลายเป็นหุ่นเชิด และกลายเป็นโศกนาฏกรรมของชีวิต
    อย่างคนรุ่นใหม่ไฟแรง..กลายเป็นเหยื่อของคนรุ่นเก่าลายครามก็มาก
    เหนือฟ้ายังมีฟ้า...
    ดีใจมากนะจ๊ะที่ได้ทราบว่าน้องเรนตั้งใจที่จะไม่เป็นคนที่ถูกบังคับให้เขียนภาพไม่เคยเห็น
    ...ความลุ่มหลงในคำป้อยอของผู้อื่นก็เช่นกัน
    ที่ทำให้จุดยืนหวั่นไหวไปนอกทิศทาง ...สำคัญตัวผิด
    และเดินผิดทางอย่างน่าสงสาร
    ...ความท้อถอยคือสิ่งที่ทำลายความหวัง
    และความฝันโดยตรง
    
    ความรู้ความสามารถทางโลกที่เรามี..แม้เพียงเล็กน้อย
    ก็เป็นโทษได้หากขาดความรู้ทางธรรมมาเป็นมาตรฐานทางความเข้าใจ
    สำหรับพุทธศาสนิกชนแล้ว ..
    ธรรมะจึงเป็นโอสถทิพย์ที่หล่อเลี้ยงใจและเป้าหมายไว้ให้คงอยู่ต่อไปได้
    เพราะถ้าเข้าใจบ้างว่า  ความสมหวังและความผิดหวัง
    คือสิ่งที่ใครก็ไม่สามารถบังคับบัญชาได้
    ลาภ ยศ สรรเสริญ ความสุขและทุกข์ที่เกิดขึ้นก็ไม่จีรัง 
    ความอ่อนน้อมต่อผู้อื่นเป็นกุศลกรรมชนิดหนึ่งที่ไม่น่าอับอายเลย
    เมื่อเข้าใจอย่างนี้ก็จะมีพลังภายในที่จะขับเคลื่อนชีวิตไปสู่เป้าหมายได้มากขึ้น
    
    แล้วเราคงได้พบกันนะจ๊ะ...น้องน้อยของพี่
    
  • พี่ดอกแก้ว

    23 มีนาคม 2548 16:31 น. - comment id 443333

    @...ผู้หญิงไร้เงา...
    
    เคยประสบพบเห็นเป็นตัวอย่าง
    ผู้หมายสร้างกลับทำลายขายความหวัง
    เริ่มต้นเป็นมะลิซ้อนซ่อนพลัง
    สุดท้ายพังผิดผลิมะลิลา
    
    ขอบคุณค่ะน้องตูน...
    ในอดีตชนชั้นปัญญาชนมากมายที่วอดวายด้วยความมุทะลุ
    และคนดีมากมายกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย
    ขออวยพรให้น้องตูน...เดินทางไปสู่ความฝันได้อย่างราบรื่นนะคะ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    23 มีนาคม 2548 16:32 น. - comment id 443334

    @...ชัยชนะ...
    
    เพียงแค่แรงแห่งกายใช้ทำศึก
    เหมือนโคถึกคึกตนจนผยอง
    ไร้ไหวพริบปฏิภาณซ่านลำพอง
    ถูกเถือหนังทำกลอง..น่าเสียดาย
    
    ขอบคุณที่แวะมาแจมค่ะน้องชัย
    
  • พี่ดอกแก้ว

    23 มีนาคม 2548 16:33 น. - comment id 443335

    @...โค..ที่ไม่ค่อยโง่มากนัก ...
    
    ใครก็ตามมีธรรมนำชีวิต
    จักสัมฤทธิ์เร็วไวในปรารถนา
    ไร้บาดแผลทางใจใช้ปัญญา
    รอบรู้ความตรงหน้าแตกฉานพอ
    
    คำโคถึกคึกคะนองปองหมายว่า
    อาการกล้าเพียงแรงเท่านั้นหนอ
    มิได้หมายถึงหมิ่นใครให้ร้อนคอ
    มิได้ยอยกตนจนเหนือใคร
    
    หากใครหมายเป็นโคเพชรเก็จตระการ
    หรือเป็นโคนันทิวิศาลส่อวิสัย
    หรือเป็นโคผู้นำความอำไพ
    ขออวยชัยให้สำเร็จเสร็จสมโค
    
    คำกลอนนี้ที่เปรยเอ่ยโคถึก
    มุ่งให้ตรึกถึงวัยไม่ยโส
    อย่าพลั้งพลาดขาดพริบไหวในนะโม
    อย่างมุ่งโชว์โอ้อวดต้องตรวจทาน
    
    โคไม่โค..โง่ไม่โง่ ...ปีโคไหน
    คือภาษาว่าไว้ให้ขับขาน
    เป็นเพียงบัญญัติธรรมนำสะพาน
    ให้สื่อสารเข้าใจในชีวิต
    
    สวัสดีค่ะคุณโค..ที่ไม่ค่อยโง่มากนัก 
    เรื่องของคำว่าโคถึก..มีอธิบายไว้แล้วในคำตอบที่ตอบนู๋นิ่ม
    หรือคุณดาหลา&ปะการัง
    
    ขอบคุณมากนะคะที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น
    ก็เลยได้ทราบถึงโคที่ดีอีกหลายชีวิต..
    และให้ข้อคิดได้ดีมากเลยค่ะ
    แล้วแวะมาเยี่ยมเยียนอีกนะคะ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    23 มีนาคม 2548 16:33 น. - comment id 443337

    @...น้องไก่ ผลิใบสู่วัยกล้า...
    
    ขอบคุณกำลังใจจากน้องชายคนดีค่ะ
    เห็นงานน้องไก่แล้วก็ชื่นชมเสมอ
    ฝีมือรุดหน้าทุกคืนวัน
    คิดถึงน้องไก่เช่นกันค่ะ
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    23 มีนาคม 2548 16:34 น. - comment id 443340

    @...น้องกานต์...
    
    เป็นแมวเหมียวเที่ยวดูหนูในบ้าน
    ประกอบงานกตัญญูรู้คุณเขา
    ช่างน่ารักแมวน้อยคอยแบ่งเบา
    และหมอบเฝ้าเป้าหมายไม่คลายเลย
    
    น่ารักจังค่ะน้องกานต์
    ว่าแต่อธิบายอีกนิดสิคะว่าแมวของน้องกานต์นั้นเป็นอย่างไร
    
  • พี่ดอกแก้ว

    23 มีนาคม 2548 16:35 น. - comment id 443343

    @...น้องมัดหมี่...
    
    งาน..คือภาระหนึ่งของชีวิต
    หลายคนต้องการทำงานด้วยความสุข..แต่ก็ทำไม่ได้
    เพราะปัญหาและอุปสรรคหลายอย่างประดังเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
    อาการตั้งตัวไม่ติดจึงเกิดขึ้น
    
    หลายคนเครียดกับการรับมือในสถานการณ์ต่างๆ
    ที่มุ่งจะจัดการให้ได้ทุกสถานการณ์
    ซึ่งบางครั้งก็ไม่สอดคล้องกับความสามารถของตน
    เรียกว่า นอกจากจะไม่รู้เขาแล้วก็ยังไม่รู้เรา..คือกำลังของตนเองอีกด้วย
    บางทีการนิ่งสงบและเลือกแก้ไขเพียงบางปัญหาที่ทำได้
    อาจช่วยผ่อนคลายความเครียดลงไปได้...ซึ่งวิธีการนี้พี่ดอกแก้วทำเสมอค่ะ
    คือแก้ไขที่ตนเองง่ายกว่าที่จะไปแก้ไขผู้อื่น
    
    ขอให้งานหายยุ่งตุงนังเร็วๆนะคะ
    จะได้มีเวลามาเขียนกลอนเยอะๆ
    รักษาสุขภาพด้วยนะคะ...น้องมัดหมี่
    
    
  • โค...ที่ไม่โง่..มากนัก...

    23 มีนาคม 2548 20:54 น. - comment id 443506

    ถึง คุณดอกแก้ว โดยเฉพาะ
    
    วัยของคนเขียน
           พากเพียรสร้างงาน อลังการ สมวัยใหญ่
                 ใช้ความคิด จินตนาการอันสดใส
                      มอบใจ มอบรัก มอบฝัน...
    
    วัยของคนอ่าน..
            ผ่านโลกมาไม่เท่ากัน
                     วัยอ่อน รู้ร้อนหนาว ฤานั่น
                         ขลาดเขลาไม่เท่าทัน..เป็นธรรมดา
    
    วัยใหญ่..
           รู้ธรรมนำใจ สมวัยกล้า
                   มุ่งหมายถ่ายทอด ในศรัทธา
                            แต่มิหยั่งรู้ดินฟ้า..อนาคต...
    
    วัยอ่อน..
            รับคำพร่ำสอน ไปทั้งหมด
                     สิบนิ้วยอกรประณต
                           ดื่มด่ำ คำรสมธุวลี...
    
    วัยแก่...
           เห็นธรรมนำแผ่รัศมี
               รู้แล้ว เที่ยงแท้ ไม่มี...
                 ทุกอย่าง วางชี้..ด้วยเวลา...
    
    คำตอบของคุณดอกแก้ว...
               สมแล้วแก่วัย..(ใกล้หลักห้า)
                   นำทางยุวมิตร..เยาว์ปัญญา
                           ตีตราค่า(โค)คนในผลงาน...
    
    อ่านคำตอบ แจ้งขอบจิต มิตรน้อยน้อย
             แล้วค่อยค่อยตามอารมณ์ผสมผสาน
                     พบวาที ที่ซ่อนไว้ เป็นนัยพาล
                         คล้ายคล้ายคิดระราน..ผลงานใคร..
    
    ไม่นิยม ชมผู้ รู้สามารถ
             เท่าเทียม เหลี่ยมฉลาด..ใช่หรือไม่
                    หาข้อคิด จับผิดพลาด อนาถใจ..
                        นั่นคือสิ่งซ่อนไว้..ใจลึกลด..
    
    เหนือฟ้า ยัง มีฟ้า และยอดฟ้า
            มีฉากชั้นหลั่นเมฆา เหลือกำหนด
                   มีดอกแก้ว ธรรมดา..ค่างามงด
                       มีหยาดหยด แก้วทิพะ เจียระไน...
    
    มีแก้วจริง แก้วปลอม..หลอมร่วมโลก
            มีเสือโฮก สางสิงห์..(ลิง ปลาไหล ฯลฯ)
                  ใยหยามชน คนกวี ผู้มีไฟ
                         ในเมื่อใจ มีธรรมชู..ควรรู้ดี...
    
    คิดว่าคุณดอกแก้ว...
             สะท้อนแวว แก้วฝัน..อันสมศรี
                     สมศักดิ์ สมวัย มาด้วยดี
                           อย่าราวี ด้วยการนำ ธรรมมาราน
    
    โลกวิชช์ ธรรมวิชช์...
           เป็นตราตรู คู่ชีวิต..ทุกทิศสถาน
                    ความสามารถ ..กาจกล้า ฟ้าประทาน
                        ปวงชนย่อมสาธุการ..นานนิรา
    
    ไม่ต้องช่วยอวยชัย..ก็ไปโลด
             ขอได้โปรด..ทำใจให้เห็นค่า
                    หากรำคาญ งานจำหลัก ศิลป์อักษรา
                         ไม่ต้องเข้าไปอ่านหน้า..ที่ท้าทาย..
    
    รู้ทิศทาง กระจ่างเจน..ไม่เบนเข็ม
           ไม่ใช่แค่ โคเล็ม หญ้ากระหาย
                     มิใช่โชว์..โคเพชร เก็จกำจาย
                        หากไม่อยากหน้าหงาย.อย่าก่ายเกิน
    
    วัยคนอ่าน ผ่านทายท้า มามากนัก
         พบคำรัก คำชัง พรั่งสรรเสริญ
                ทุกทุกก้าว ทุกทุกทาง ที่ย่างเดิน
                    ผ่านเผชิญ คำริษยา..มาพร่างพรู..
    
    ช่วยไม่ได้...
           เดินต่างทาง ไม่ขวางใคร..ใช่มิสู้
                  ไม่เป็นมิตร..ขออย่าคิด เป็นศัตรู
                        ต่างเรียนรู้ ต่างทาง..และต่างธรรม์
    
    ไม่มีใครโง่งมตกจมจ่อม
            จนไม่ยอมฟังธรรมบทพุทธพจน์สรรค์
                    ใครไม่ยอมอ่อนน้อม..ค้อมไหว้วันท์
                          อย่าห้ำหั้นบั่นค่า..ว่าทรามโทรม..
    
    วัยของคนบนถนนกวี..มีหลายหลาก
          อย่าถางถาก ฝากวจีที่ถ่มโถม
                   สอนธรรมเยาว์ สาธุ...ขออนุโลม..
                          แต่ อย่า โหม สุม ไฟ ให้ ใคร ชัง
    
    .........................................
    
    เพราะ การ โหม โถม ไฟ ซ่อน นัย ร้อน
          เอา ไว้ ใน บท กลอน สอน คน หวัง
                 ไฟ จัก ย้อน สะท้อน ฤทัย ให้ ผุ พัง
                           ทั้ง ทั้ง ยัง ไม่ ถึง วัย เถ้า ไฟ ฟอน
    
    สัก วัน หนึ่ง จึง เสีย ใจ หาก ได้ รู้
            สร้างศัตรูเอาไว้..ในคำสอน
                   คนอ่านเป้นเขาเห็นไฟซ่อนในกลอน
                       ขอให้ย้อนสอนตนยั้ง..อีกครั้งเทอญ
    ....................................................
                       
                  
    
    
                           
    
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    23 มีนาคม 2548 22:05 น. - comment id 443538

    @...โค...ที่ไม่โง่..มากนัก... 
    
    เบื้องแรกที่ลงกลอนนี้ก็เกรงว่า..อาจมีข้อตำหนิที่พาดพิงถึงโค...ว่าไปดูหมิ่นเหยียดหยาม..จึงอธิบายความไว้ในคำตอบของนู๋นิ่ม...สำรวจตรวจใจแล้วก็ยืนยันเหมือนเดิมค่ะ
    
    สำหรับหน้าที่บอกมาคือ หน้า..ที่ท้าทาย..นั้น
    ก็ไม่ทราบว่าหน้าไหนนะคะ
    เพราะปกติเข้ามาก็มาลงงานแล้วก็แวะทักทายน้องๆบ้างเท่าที่จะมีเวลา
    
    สำหรับในคำตอบของคุณโค...ที่ไม่โง่..มากนัก... หากมีถ้อยความใดที่อ่านแล้วเกิดความขัดเคืองใจก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ ที่ไม่อาจทำให้ถูกใจได้... และส่วนหนึ่งที่เป็นคำตอบของคุณโคฯนั้นด้วยเห็นว่า ในกลอนของคุณโคฯแสดงถึงความรู้ทางธรรมมิใช่น้อย จึงได้นำพระอภิธรรมมาเขียนโต้ตอบด้วย
     
    โดยเฉพาะในบทสุดท้ายของกลอนที่ตอบคุณโคคือเนื้อหาส่วนหนึ่งของพระอภิธรรมมัตถสังคหะคือเรื่องของบัญญัติธรรม ...ที่สอนถึงสิ่งใช้สมมุติเรียกชื่อสิ่งต่างๆในกลุ่มคนชนเผ่า มิได้มีสภาวธรรมอยู่ภายในคำพูดนั้นๆเลย ..เพียงแต่ใช้เป็นสื่อเท่านั้นเอง
    
    หลายคนเกิดปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันก็เพราะยึดติดอยู่ในคำพูดหรือภาษา ...
    และชื่นชอบกันก็เพราะภาษาที่ถูกใจอีกเช่นกัน...
    
    คงต้องขออภัยอีกครั้งที่ทำให้ไม่สบอารมณ์นะคะ
    และคงได้แต่บอกว่า สุขทุกข์อยู่ที่ใจ ...คิดมากเกินไป..ใจจะร้อนรน
    
  • somebody

    24 มีนาคม 2548 12:50 น. - comment id 443809

    โลกนี้หนอพอเคล้าเฝ้าทุกสิ่ง
    ช่างยากยิ่งใฝ่ปองสนองเขา
    เอาประดับความรู้อย่าหูเบา
    แล้วนำเอามาตรองสนองตน
    
              ประกอบธรรมมาโพกโกรกศีรษะ
    เข้าชำระอวิชามาเฝ้าสน
    เล่าเรียนรู้มุ่งหน้าอย่าร้อนรน
    ค่อยเคี่ยวข้นปลิดละลายสลายไป
    
                ทางสองแพร่งนี้หนอขอจักแจ้ง
    ให้รู้แสดงแห่งมันจะผ่องใส
    ทางหนึ่งดีมีไว้ประดับใจ
    อีกหนึ่งไซร้ร้ายนักควรจักวาง
    
                 มันวนเวียนเพียรเคล้าเอาในจิต
    ให้หลงผิดแนวทางมิกระจ่าง
    เลาะเลี้ยวลดกดเกี่ยวเหนี่ยวอำพลาง
    จะอ้างว้างเมื่อสายไปให้ระทม
    
                 อันรู้เขารู้เราเฝ้าดียิ่ง
    ล้วนทุกสิ่งรอบรู้แล้วสร้างสม
    อย่าหลงใหลพร่ำเพ้อจะระทม
    ดุจยาขมของโคถึกที่คึกไป
    
                  เพื่อนนี่หนอขอฝากเพียงเท่านี้
    ตลอดชีวีย่อมตายอยู่แล้วไซร้
    หากจะตายหมั่นสร้างทางวิไล
    ภาวนาไว้ตายแล้วได้เป็นพรหม.
    
                        แก้วประเสริฐ.
  • พี่ดอกแก้ว

    24 มีนาคม 2548 21:51 น. - comment id 444063

    @...แก้วประเสริฐ...
    
    ทางของโลกโศกเศร้าเคล้าทุกข์เข็ญ
    หาร่มเย็นเท่าทางธรรมนำผ่องใส
    บางคนรู้แต่มิอาจเลือกอย่างใจ
    จำก้าวไปไกลห่างทางร่มธรรม
    
    เพราะมิพร้อมในทรัพย์กับความรู้
    จึงต้องสู้ทำงานการอิ่มหนำ
    เลี้ยงชีวิตก้าวไปในร่องกรรม
    คิดถึงธรรมได้แต่คิดเพราะติดงาน
    
    การก้าวไปในทางโลกจึงโชกเลือด
    เพราะถูกเชือดด้วยอารมณ์ไม่แตกฉาน
    หลงสรรเสริญเพลินไปในวันวาน
    อีกห้วงกาลถูกถ้อยคำทำลายทรวง
    
    หากตั้งใจไปทางโลกหาโชคลาภ
    จำต้องหาบเสบียงธรรมตามทัพหลวง
    เพื่อบำรุงปรุงใจให้พ้นลวง
    ก้างสู่ดวงดาวนั้นดั่งฝันปอง
    
    และเมื่อพร้อมน้อมชัยได้มาแล้ว
    การเปลี่ยนแนวสู่ทางธรรมนำสนอง
    จะง่ายดายคล้ายไม้อ่อนนอนครรลอง
    หัวใจทองจะเกิดง่ายในภาวนา
    
    
    สวัสดีค่ะคุณแก้วประเสริฐ..มิตรที่แสนดี
    ขอบคุณในบทกลอนดีๆที่นำมาวางไว้นะคะ
    ใช่เลยค่ะ ...การเดินทางทางธรรมนั้นต้องค่อยเป็นค่อยไป...ดังที่คุณแก้วประเสริฐว่าไว้
    
    ประกอบธรรมมาโพกโกรกศีรษะ
    เข้าชำระอวิชามาเฝ้าสน
    เล่าเรียนรู้มุ่งหน้าอย่าร้อนรน
    ค่อยเคี่ยวข้นปลิดละลายสลายไป
    
    
    ขอบคุณในน้ำใจแห่งมิตรค่ะ
    
    
    
    
    
  • ลักษมณ์

    24 มีนาคม 2548 23:33 น. - comment id 444112

    แอบมายืนคึกเคียงข้างอยู่ใกล้ๆยามดึกครับ พี่ดอกแก้ว : ]
  • พี่ดอกแก้ว

    25 มีนาคม 2548 21:26 น. - comment id 444471

    @...ลักษมณ์...
    
    น่ากลัวไปรึเปล่า..แอบมาตอนดึกๆอย่างนี้
    แถมพระจันทร์ใกล้เต็มดวงอยู่แล้ว...๕๕๕
    
    สวัสดีค่ะลักษมณ์..อีกหนึ่งมิตรที่น่ารัก
    คำเดียวที่จะบอกอย่างตั้งใจ ...ขอบคุณมากค่ะ ที่แวะมาเป็นเพื่อนในค่ำคืนนี้
    
  • 4895_tiki unlogged_in

    26 มีนาคม 2548 17:42 น. - comment id 444875

    ง่า คุณดอกแก้ว
    ที่มาอ่านอีกรอบ เพราะมีใครไม่ทราบ
    นำ คำตอบ น้องเรน กับ คุณดอกแก้ว
    ไปแปะไว้ที่กระทู้ข้าพเจ้า
    เลย ต้องแวะมาอ่าน เพราะคราวที่แล้ว
    อ่านลวกๆค่ะ
    เขานำไปแปะไว้ที่กระทุ้นี้ค่ะ
    
    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_73285.php
    
    ไม่ค่อยเข้าใจอะไรเหมือนกัน เพิ่งเข้ามาในเว็บ
    วันนี้ หายไปสองสามวัน
    สวัสดีนะคะ คุณดอกแก้ว
    
  • ดอกแก้ว

    26 มีนาคม 2548 22:46 น. - comment id 445026

    @...คุณทิกิ...
    
    ขอบคุณมากค่ะที่มาแจ้งข่าวให้ทราบ
    ทำใจให้สบายเถอะนะคะ
    และคงไม่ต้องทำความเข้าใจอะไรหรอกค่ะ
    หากเห็นว่าไม่สมควรก็จัดการไปตามสิทธิของเจ้าของพื้นที่เถอะนะคะ
    
    และที่สำคัญ..ขอให้คุณทิกิมีกำลังใจต่อสู้อุปสรรคทุกอย่างจนผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะคะ
    
  • tiki

    27 มีนาคม 2548 17:20 น. - comment id 445217

    ขอบคุณมากค่ะ
    ขอบคุณที่ให้กำลังใจ
    อาจารย์ สุฯ เมื่อวานท่านให้ข้อคิดว่า
    เมื่อเศรษฐกิจบีบรัดก็หดตัวเราลงมา
    ให้พอแก่เศรษฐกิจเฉพาะหน้าไปก่อน
    รวยเมื่อไหร่ค่อยย้อนไปแก้ปัญหากันใหม่
    ค่ะ ยุ่งกับชีวิตคิดแล้วอย่างไรก็สู้ค่ะ 
    ขอบคุณที่ให้กำลังใจเสมอนะคะ
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มีนาคม 2548 21:03 น. - comment id 445795

    @...คุณทิกิ...
    
    ขอบคุณกำลังใจและความห่วงใยจากคุณทิกิเช่นกันค่ะ
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน