23 พฤศจิกายน 2547 19:09 น.

*** ตามหาฝัน ***

กอกก


      

        มาอีกครั้งยังแดนแผ่นดินนี้
ที่ซึ่งมีความหลังเป็นดั่งแผล
ยังเด่นชัดเช่นลิ่มทิ่มดวงแด
ย้ำความแพ้แผลเก่าที่เน่าใน

       ประคองร่างย่างเหยียบเดินเรียบก้าว
แม้นใจร้าวลึกหม่นต้องทนไหว
ระริกสั่นกลั้นกลืนฝืนไว้ใน
อย่าให้ใครคราเห็นเป็นโจษจัน

      สีหน้ารื่นชื่นแจ่มฝืนแต้มไว้
ระบายใส่เสแสร้งเหมือนแกล้งฝัน
ถึงจะเศร้าเราเสสุขนิรันดร์
ทุกคืนวันผันผ่านด่านรานใจ

       กลิ่นกาแฟแม้กรุ่นละมุนลิ้น
ครากลืนกินยังขมตรมหวั่นไหว
ไร้คนเดิมเติมหวานพาลเศร้าไป
ไม่มีใครเคียงข้างร้างคนปอง

       เคยมีกันและกันนั้นที่นี่
มาวันนี้นำตนคนผยอง
ดั้นด้นหาคนหนึ่งซึ่งหวังปอง
ตะโกนร้องเรียกกู่ทั่วภูไกล
 
       ณ อ่างขาง ดอยนี้ที่หนาวเหน็บ
ฤทัยเจ็บเจียนล้นทนไม่ไหว
กัดฟันกรอดพรอดพร่ำระส่ำใน
พี่อยู่ไหนน้องหามานานวัน

       กับชีวิตผิดพลาดมิขลาดแก้
ไม่ยอมแพ้พาตนค้นหาฝัน
อยากขอโทษ โปรดด้วยช่วยจำนรรจ์
โทสะนั้นน้องเขลา เศร้าเหลือเกิน

       ลาแล้วหนา ลาร้างดอยอ่างขาง
ที่ซึ่งสร้างเรื่องราวร้างห่างเหิน
หมดเวลาหาฝันต้องรั้นเดิน
ไม่ยอมเมินมุ่งหา วันหน้าเยือน

              
              
                 ***********



**  เรื่องเล่าจากดอยอ่างขาง **


				
17 พฤศจิกายน 2547 03:55 น.

** จาก...ขุนเขาเศร้า...ถึงทะเล **

กอกก




     ขุนเขาหนาว  พราวหมอก  ที่หยอกฟ้า
พาอุรา  ร้าวไหว  ให้คิดถึง
เย็นยะเยียบ  ใจเศร้า  เคล้าคะนึง
แลซาบซึ้ง  ถึงทะเล  เคยเห่ใจ

     ยินเสียงแว่ว  แผ่วหวน  ทวนลมล้อ
เหมือนใครคลอ  คล้ายครวญ  ชวนหลงใหล
แล้วใจเหงา  เจ้าก็ลอย  ละล่องไป
ผ่านฟ้าไกล  ให้ถึง  ซึ่งทะเล

    คำคิดถึง  ซึ้งใจ  มีมามอบ
เพียงเพื่อปลอบ  ประจักษ์ฝัน  อย่าหันเห
คำรักนั้น  มั่นไว้  ไร้รวนเร
ไม่ว้าเหว่  พี่จ๋า  อย่ากังวล


     อยู่แห่งไหน  ไกลมาก  คนฟากฟ้า
ฝากดารา  รั้งพี่ยา  อย่าฉงน
ความจริงใจ  ให้มาล้น  ค่าเปรอปรน
กระวายวน  ว้าวุ่น  จะขุ่นตรม

     เพลงรักจาก  ทะเล  ที่เห่กล่อม
ดวงใจน้อม  นำบรรเทา  เศร้าขื่นขม
 เพลงยอดภู  กู่ก้อง  พ้องตามลม
รักชื่นชม  ในพี่  ที่ห่วงใย

    รักคิดถึง  ซึ้งนะ  ทะเลเห่
แสนสนเท่ห์  พี่มีรัก  ตระหนักใส
ฝากขุนเขา  เคล้าคละ  ทะเลใจ
โยงสองใย  สื่อสาย  เชื่อมสัมพันธ์


         (.คิดถึงนะคะ.)


              ************

				
12 พฤศจิกายน 2547 03:17 น.

** ชีวิตที่พิเศษกว่า**

กอกก

   

    
     ราตรีหนึ่งซึ่งเงียบสงัดนัก
กระท่อมรักเรืองไฟสว่างไสว
การเคลื่อนที่มีบ้างที่ข้างใน
กับคล้ายใครครวญคราง..ซ่อนพรางคำ

     โกลาหลปนร้าวเรื่องราวนี้
การเกิดที่ทรมานปานกระหน่ำ
อีกหนึ่งบทกฎแต่งแต้มบ่วงกรรม
ซึ่งได้นำนวลเกิดกำเนิดกาย

     สามีอยู่คู่ข้าง นางเมียรัก
อิงหัวพักพาดหมอนกึ่งนอนหงาย
หายใจลึกคิดถึงลูกที่ผูกกาย
ผ่อนคงหายคลายเจ็บเจ้าคนดี

     กัดฟันเบ่งเร่งคลอดอยากกอดลูก
ความพันผูกพ่อแม่แลสุขี
หมอจำเป็นทำคลอดปลอดภัยดี
พ่อคนนี้นำพาภาคภูมิไกล

     พ่อและแม่เป็นคนเยือนที่เลือนถิ่น
จากที่กินที่กำเนิดเกิดอาศัย
จากเมืองจีนทิ้งถิ่นฐานมาขวานไทย
จึงยากไร้ร้างมิตรจิตจากจร

     ด้วยจำเป็นเข็ญยากหากใจสู้
มีความรู้อยู่บ้างอย่างปู่สอน
พ่อของลูกสู้ได้อย่างราญรอน
ทุกบทตอนแต้มต่อหมอจำใจ

     ชีวิตนี้  มีที่  พิเศษกว่า
ดีใจค่ะคุณขาคุณว่าไหม
คลอดจากแม่แต่มือพ่อรอแกว่งไกว
จะมีใครคลอดระบือมือพ่อเรา

       
             
           ***************   


           
          **อาจเนื่องจากวันนี้คล้ายจะเป็นวันที่พิเศษ (สำหรับลูก)
             ความพันผูกจึงส่งใจให้คิดหวน แล้วก็ยิ้มให้กับตัวเอง
          ลูกของพ่อแม่ทุกคนกำเนิดโดยการทำคลอดจากมือของพ่อ
        
                                      พี่สาวเล่าให้ฟังว่า

คืนนั้นยามดึก หลังจากที่หนังตะลุงเลิก พี่สาวและพี่ชายกำลังจะเข้าบ้าน
     เพื่อนบ้านมาห้ามเอาไว้ว่า *อย่าเพิ่งเข้าบ้าน แม่กำลังคลอดน้อง*
         พี่สาวที่ยังเด็กอยู่ก็ไม่เข้าใจนัก คอยอยู่นอกบ้านกับพี่ชาย
       แต่ก็ได้ไปแอบดูแม่ที่กำลังคลอดน้องโดยมีพ่อเป็นผู้ทำคลอด

                                          พี่สาวบอกว่า

                          เห็นเลือดที่แดง..เห็นน้องตัวแดงๆ
                      วันนี้น้องคนนั้นได้โตมาในโลกที่สดใสนี้
                                               จน
                       กำลังนั่งเล่าเรื่องราวให้คุณอ่านอยู่นี่ไง
        เหมือนชีวิตที่พิเศษกว่า คือคนที่คลอดจากท้องแม่ด้วยฝีมือพ่อ
                                วันนี้คล้ายวันเกิดของลูก
              อยากบอกว่าลูกรักและระลึกถึงพ่อและแม่เสมอนะคะ

                                      รักพ่อและแม่ค่ะ


                                       ****************

				
9 พฤศจิกายน 2547 20:35 น.

** เสียงสนบาดใจ**

กอกก


     

     สนสาดเสียง  เคียงใครพ้อ  เหมือนต่อว่า
ลมอู้มา  พาพัดใส่  จนใบไหว
ระริกรี้  นี่หรือลม  ข่มสนไกว
พลิ้วมาไกล  ให้รัญจวน  ครวญเหงาใจ

      เสียงสนสาด  คาดด้วยทุกข์  ที่จุกอก
ให้เพ้อพก  พร่ำหา  อุราไหน
ถึงคนหนึ่ง  ซึ่งอยู่ถิ่น  ดินแดนไกล
ใจหวั่นไหว  วูบหา  คราสนคราง

     สาดเสียงสน  ปนเสียงไห้  ได้สะอื้น
ทนกล้ำกลืน  ฝืนไว้ก่อน  ตอนใกล้สาง
น้ำตาชื้น  ขืนให้ย้อน  ตอนรุ่งราง
แสงจางจาง  จับสนเถื่อน  เลือนงดงาม

      พระจันทร์เสี้ยว  เกี่ยวดาว  ที่ราวฟ้า
ขึ้นค้างคา  คงไว้  ให้เกรงขาม
ส่องสว่าง  กลางภู  ดูงดงาม
ด้วยนิยาม  ดูเดือนเหงา  คืนเศร้าใจ

      หนาวสะท้าน  พาลสั่นส่าย  จนกายห่อ
นั่งตัวงอ  ขอแฝงฝืน  คืนฟ้าใส
พร่ำรำพึง  ถึงเรื่องเศร้า  เจ้าสนไกว
ตาเพ่งไป  ในหว่างเขา   ที่เคล้าเดือน

      ฉันมานี่  ที่เขาค้อ  รอรักร้าง
วันคืนช่าง  เชื่องช้า  พาให้เหมือน
คำสาปส่ง  จงใจ  ให้มาเยือน
เสียงสนเฉือน ฉีกใจราน  เกินกร้านทน
 
     แล้วร้องไห้  ไม่อายจันทร์  พลันสะอื้น
จะกล้ำกลืน  ฝืนลืมรัก  อีกสักหน
สนสาดเสียง  เสียงสนสาด  พิฆาตตน
สาดเสียงสน  เศร้าโศกท้อ  ทรมาน


                 *******************


       
        ** เสียงสนสาดมาเป็นระยะๆ  คล้ายเสียงคลื่นที่โหมกระหน่ำ
               เสียงหวีดหวิวครวญครางช่างรบกวนจิตใจเหลือเกิน 
            จึงแอบย่องออกจากเต้นท์มานั่งที่ตรงริมผาคนเดียวเงียบๆ 
                                       หนาว..จนกายสั่นไหว  
                เพ็ญขึ้นสิบค่ำส่องสกาว คู่กับดาวงามๆ อีกหนึ่งดวง
        เห็นสนต้องลมไหวระริก ยิ่งดึกยิ่งถาโถมทวีคูณจนเสียงอึงคะนึง
                                หนาว..จนต้องกอดอกตัวเองแน่น
   ทอดสายตาไกลมองไปที่หุบเขาซึ่งเป็นเงาสลัวแต่ช่างกระจ่างในความรู้สึก
                  ภาพเก่าๆ ในความทรงจำเริ่มประกายชัดขึ้นมาอีกครั้ง
 สายลมหนาว คนใจร้าว พร้อมกับสนที่สาดเสียงกระหน่ำโหม ในคืนจันทร์เพ็ญ

                    จน..ถอดใจได้บทกลอนนี้ออกมา แทนความในใจ**


                                       *******************

				
7 พฤศจิกายน 2547 02:08 น.

** วิญญาณที่ล่องลอย**

กอกก


     
      เป็นวิญญาณ  ปราณดับ  ที่ลับแล้ว
ดุจดวงแก้ว  กร้านแสง  ไม่แจ้งใส
ให้หลงผิด  คิดพะวง  สงสารใจ
เพราะยึดใน  นรรูป..วูบหลงทาง

      และล่องลอย  คอยรัก  ปักสวาท
ฝันที่วาด  พาดพ้น  หนทางขวาง
ปลิดร่างทิ้ง  สิ่งเหลือหรือ  เพียงชื่อนาง
ยังอำพราง  พันใจ  ด้วยใยลวง

      ความรักล้น  ท้นแน่น  แก่นใจรัก
จึงจมปลัก  ปริเทเวศ  เหตุห่วงหวง
ยึดถือมั่น  อันรัก  ที่ปักทรวง
เพียงสิ่งลวง  หลอนจิต  ติดตามใจ

      แม้นเหมือนใกล้  แต่ไกลล้น  คนฝั่งฟ้า
ดวงวิญญา  ยวนสวาท  วาดหวามไหว
เอื้อมไม่ถึง  ซึ่งกระแส  แปรส่งไป
ทำกระไร  รักมาก..วิบากกรรม

      จึงวนเวียน  เยียนสู่  เฝ้าดูเขา
แล้วก็เศร้า  โศกตรม  ขมขื่นหนำ
วิญญาณนี้  ที่ล่องลอย  คอยระกำ
เพราะถลำ  นำฆ่าตัว  แหมชั่วจริง

      จะรักใคร  ได้รัก  ก็รักเถิด
อย่าเตลิด  รักเพลิน  เกินใจหญิง
รักให้เหลือ  เผื่อรักตัว   ต้องประวิง
กลัวดำดิ่ง  ดั่ง วิญญาณที่ล่องลอย 

         
             
              *****************


                   **อุทิศแด่**
       
      ** ทุกดวงวิญญาณที่ล่องลอย**


                ****************



อกหักได้  ::  แต่อย่าทำตัวเหมือนฆ่าตัวเอง 
                   จนเป็นเช่นวิญญาณที่ล่องลอย



				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกอกก
Lovings  กอกก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกอกก
Lovings  กอกก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกอกก
Lovings  กอกก เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกอกก