22 ตุลาคม 2552 19:09 น.

**ตัวไกล..ใจเหงา**

คนกุลา

bhutan-rhododendron.jpgeastern_himalayas_bhutan.jpg
  ๐ อากาศเย็นเป็นใจพอให้เหงา
เมฆบางเบาเคล้าภูดั่งคู่ขวัญ
ลอยอ้อยอิ่งนิ่งรอคลอตะวัน
ที่จะผันผ่านเยือนเหมือนเช่นเคย

 ๐  กาบางตัวกลัวอะไรจึ่งได้ร้อง
เมืองทั่งผองเงียบจริงดุจนิ่งเฉย
นั่งทบทวนหวนวันผันล่วงเลย
ลมรำเพยเฉยเรียบเกินเปรียบเชียว

  ๐ หิมาลัยยามนี้หิมะจับ
สะท้อนวับขับแสงแข่งภูเขียว
ยอดบางยอดทอดชูดูแหลมเรียว
หมู่นักเที่ยวเทียวไต่คงไม่กลัว

  ๐ บนลาดเขาเนาว์เรือนกลายเกลื่อนกลาด
สายทางพาดลาดวนจนเวียนหัว
คู่นกเพรียกเรียกหาข้างฟ้ามัว
คงจักกลัวคู่ร้างยามห่างกัน

  ๐ แดดทอจับพยับเมฆเสกสร้างสี
เมื่อม่านคลี่สีแสงแต่งภาพฝัน
ห่มเทือกภูพรูพร่างกลางม่านควัน
ร่ายเชิงชั้นนั้นสวยด้วยกลมกลืน

  ๐ มาทำใมไกลมากห่างจากบ้าน
ทิ้งถิ่นฐานจำพรากจากใจฝืน
ฝันรับขวัญขวัญใจยามได้คืน
ลืมตาตื่นชื่นใจได้ข่าวมา

  ๐ แม้เพียงข้อความสั้นเธอ- ฉันส่ง
บอกพะวงใจครวญหวลห่วงหา
สื่อสารใจใส่ความสารข้ามมา
เพียงเพื่อว่าผ่อนพลางคราห่างกัน

  ๐ อากาศเย็นเป็นใจพอให้เหงา
เมฆบางเบาเคล้าคู่ภูเคียงขวัญ
เมื่อหิมะรวมก่อรอตะวัน
หวังส่งฝันข้ามฟ้ามาปลอบนวล..ฯ

...... 

คนกุลา
ในวสันต์

.........
 

Bhutan-Buddhist-Monastery-babasteve.jpgBhutan%2520039.jpgBhutanTrekMain.jpgbhutan-top-banner.jpgdzong-of-punakha-bhutan1.jpg				
20 ตุลาคม 2552 10:28 น.

**แรมทางใจ**

คนกุลา

bhutan.jpg 
๐ วงตะวันวาดแสงสีแดงฉาน
สาดผสานสีทองยอด"ซอง"สวย
ร่องน้ำใสไหลหลั่งรินระรวย
เหมือนกับช่วยเล่าขานตำนานเมือง

๐ "ภูนาคา"ภาษาไทยคล้ายเมืองนาค
ที่นี่หากถามใครไม่ได้เรื่อง
เมื่อสร้างโดยเทพคงคาหาเปล่าเปลือง
คล้ายกับเรื่องนาคินทร์ถิ่นขวานทอง

  ๐ สืบเรื่องราวกล่าวขานเล่าผ่านรุ่น
ล้วนสร้างบุญบารมีหามีสอง
ก่อนก่อร่างสร้างนามตามครรลอง
เกิดสร้าง"ซอง"ของ"ชับดุง"แห่งทุ่งดอย

  ๐ เพราะหนทางยังไกลต้องได้กลับ
ต้องลาลับแรมไกลใจเหงาหงอย
เพราะต้องผ่านย่านผาฝ่าเมฆลอย
ก่อนแดดคล้อยค่อยมาฝ่าคืนคราว

  ๐ เรากลับมาคราในฟ้าใกล้มืด
ป่าเย็นชืดเงียบสนิทปิดฟ้าหนาว
เมฆบางปอยลอยคว้างกลางฟ้ายาว
ก่อนพลันดาวพราวแสงแต่งฟากไกล

  ๐ เขาสีดำคล้ำนภาเพลานี้
ค่อยมืดสีริมทางข้างน้ำใส
ผ่านภูเขาเทาขวางบนทางไพร
กับดวงใจใฝ่ฝันอันท้าทาย

  ๐ ดุ่มเดินทางกลางเปลี่ยวแถมเลี้ยวลด
ต้องจำกฎงดประมาทเกินคาดหมาย
ย้ำพลังป่ากว้าง-ดาวพร่างพราย
และไฟรายเบื้องล่างดังเคยมี

  ๐ เมื่อเดินทางกลางป่ามากับเพื่อน
ก็ไม่เหมือนขวัญตามารศรี
ตามค้นหาคว้าฝันหวั่นฤดี
ครามิมีเคียงข้างของบางคน

  ๐ คืนกลับมาอีกครั้งหลังฟ้ามืด
และเย็นชืดหากดาวพราวเวหน
อยากฝากคำข้ามฟ้าหาหน้ามล
ว่าห่วงคนห่างไกลบ้างไหมนวล..ฯ

...... 

คนกุลา
ในวสันต์

.........

ซอง      คือ ที่ทำงานของข้าราชการและพระในที่เดียว
                 กันคล้ายศาลากลาง หรือศูนย์ราชการของ
                 ไทย 

ภูนาคา  คือ ชื่อเมืองๆหนึ่งของภูฐาน เป็นเมืองเก่าที่มี
                ตำนานมานาน 

ซับดุง    คือ ตำแหน่งผู้นำทางศาสนจักรและอาณาจักร
                 ซึ่งเป็นคนๆเดียวกัน ภูฐานใช้ระบบแบบนี้
                 ในตอนรวมชาติใหม่ๆ ก่อนจะเข้าสู่ระบบ
                 กษัตริย์แบบสมบูรณาญาสิทธิราช ในยุค
                 ต่อมา



bhutan.jpgbhutan_temples.jpg				
9 ตุลาคม 2552 20:26 น.

**เริงสายธาร**

คนกุลา

p2217636.jpg
    ๐ แว่วคำวอนอ่อนหวานสายธารรัก
ใครนะถักทอร้อยสร้อยสายขวัญ
ปานรินธารน้ำใจส่งให้กัน
หวังคำมั่นควั่นเกลียวเกี่ยวเคียงปอง

 ๐  กล่าวเป็นนัยใบไม้กับสายน้ำ
ที่เน้นย้ำความหมายคลายหมางหมอง
โลมสายธารม่านรักถักไยทอง
หวังเพียงครองคู่ข้างไม่ห่างไกล

  ๐ ใบไม้ปลิวลิ่วคว้างลาร้างต้น
ร่อนล่วงหล่นลงผ่านธารน้ำไหล
สืบเรื่องราวเล่าขานตำนานไพร
สบัดใบลอยลมพรมนที

  ๐ ลำนำใจในธารรินสาส์นรัก
ชั้นเพิงพักผุดพรายร่ายวิถี
สายธารใดใครเอ่ยเผยวจี
ร้อยวลีกวีจารธารเว้าวอน

  ๐ กรองคำกล่าวเล่าเรื่องเมืองใบไม้
จากแดนไกลในเขาเนาว์สิงขร
โรยลาร่างพร่างใบในวันจร
ลงออดอ้อนแอบว่ายสายน้ำวน

  ๐ ระเริงรำฉ่ำใบในสายน้ำ 
ล่องผุดดำร่ำระบายอาบสายฝน
ควะคว้างควงร่วงพริ้วปลิวเพียงยล
เหมือนต้องมนต์ใบไม้ร่ายระบำ

  ๐ ใบไม้เรียมเทียมหมายคล้ายคู่ชื่น
มิเป็นอื่นแอบหวามรักงามขำ
จะถนอมนวลนางอย่างเคยทำ
ด้วยภักดิ์ย้ำเยี่ยงใบไม้เริงสายธาร..ฯ

  ๐ แว่วคำวอนร่อนร่ายสายธารรัก
ใครนะถักทอย้ำคำแสนหวาน
พากษ์ไพเราะเสนาะเสียงสำเนียงกานท์
เห่ขับขานกล่อมหทัยให้อุ่นอิง..ฯ

...... 

คนกุลา
ในวสันต์

..................

  

 numtokzaiyokyai.jpgRushing%20Stream.jpg118255017101.jpg				
3 ตุลาคม 2552 18:28 น.

**ลำพูน..ในอ้อมกอดดอย**

คนกุลา

takpa8.jpg 
เมื่อจากเวียงเชียงใหม่ในยามเช้า
ก่อนวิ่งเข้าเขตุลำพูนสมบูรณ์ยิ่ง
แนวป่ายางช่างรักษาน่าชมจริง
ร่มทางวิ่งเรียงรายสายทางจร

มาคราใดใจหวังยังไม่สิ้น
ได้เยือนดินดงเขาเงาสิงขร
จากอีสานบ้านนาแดนป่าดอน
มาแอ่ววอนอ้อนคำคนลำพูน

เคยมานับนานมากจากคราวนั้น
ในวัยวันแผ่นดินแทบสิ้นสูญ
แม่ทาเอยเคยอาศัยในลำพูน
ใจอาดูรคราลับจำกลับเนา

อีกหลายครามาผ่านม่านเขาคล้อย
ตรงแนวรอยเถิน-ลี้มิเห็นเจ้า
คอยมองเหลียวเลี้ยวลาดไฟสาดเงา
ผ่านดอยเต่าเข้าฮอดตลอดมา

ช่วงทางเถินไปลี้ที่เขาข้าม
ช่อพวงครามงามสยายเชิงชายผา
ทางคดเคี้ยวเที่ยวรอต่อกันมา
ทะเลฟ้า-ภูเขาเงาทาบราง

เวียงเวฬุคามตามขานตำนานกล้า
ครั้นเจ้ากาวิละคุมซุ่มพลบ้าง
ก่อการใหญ่เอาชัยม่านย่านป่าซาง
สู้สรรค์สร้างกู้ถิ่นดินล้านนา

ยิ่งโบราณกาลสมัยยังได้ชื่อ
ยินเลื่องลือพระนางจามฯงามสง่า
ลูกกษัตริย์ลวะรัฐอโยธยา
ชนบูชาเนื้อทองมาครองเมือง

สืบต่อจำกำหนดจดบันทึก
ย้ำสำนึกมากมายหลากหลายเรื่อง
กษัตรีย์แสนงามนามประเทือง
ดังเป็นเรื่องลือเก่าเล่ามานาน

สร้างหริภุญไชยได้เรืองรุ่ง
เฝ้าผดุงวังเวียงเคียงสถาน
คงกษัตริย์ครองรัฐฉัตรเนิ่นนาน
สืบสายสานงานแปงแต่งบ้านเมือง

ในอ้อมแควแม่ปิงยิ่งไหลรี่
กวงนทีรินกรายคล้ายเล่าเรื่อง
ให้ลูกหลานขานเก่ามิเปล่าเปลือง
มลังเมลืองเรื่องเล่าคราวต่อมา

ไกลอยู่กลางขุนเขาและเงาฝัน
ขุนตาลนั้นถ้ำรถไฟใครรู้ค่า
ยาวที่สุดในประเทศเขตนครา
ที่ใดกล้ามาเทียบเปรียบขุนตาล

อุทยานแม่ปิงยิ่งมนตร์ขลัง
ในภวังค์หวังไหวใจแว่วหวาน
วิหารน้ำท่ามเขาเนานมนาน
ดังวิมานเมืองแมนในแดนดิน

มาเมืองนี้มีชมพระบรมธาตุ
กราบพระบาทบทบงสุ์พระทรงศีล
บรรจงจบนบใจใสเรื่อริน
วอนพระปิ่นปกช่วยอำนวยดล

คนลำพูนพื้นสายย้ายจากเหนือ
เคลื่อนลงเมื่อยุ่งยากจากถิ่นต้น
การสงครามยามมีในที่ตน
รวบรวมพลคนกล้ามุ่งฝ่าฟัน

จากสิบสองปันนาว่าไกลมาก
สุดฟ้าฟากจากถิ่นดินแดนฝัน
สืบตำนานหลานลูกปลูกฝังกัน
ด้วยกลิ่นควันสงครามจึงข้ามไกล

หนีภัยทุกข์คุกคามสามฝ่ายฟ้า
บ่ายมุ่งหน้าลงมาหาเมืองใหม่
พอพบทรากปรักร้างข้างเขตุไทย
สร้างขึ้นใหม่ใจจำย้ำชนยอง

ธิดายองน้องสวยด้วยฟ้าห่ม
งามสวยสมชมใดไม่มีสอง
ทุกคนไกลเกินหมายได้เคียงครอง
หวังร่วมปองห้องใจให้พักพิง

กราบพระบาทตากผ้าว่าศักดิ์สิทธิ์
ขอพึ่งฤทธิ์จิตปักเพียงสักสิ่ง
หากบุญมีสมมาดชาติก่อนจริง
เพียงได้อิงแอบหมายคนใกล้ใจ


.....................

คนกุลา

ในวสันต์



uttayanping.jpgmaeping.jpgkuntan.jpg				
1 ตุลาคม 2552 22:28 น.

** สุราษฎร์...ในความทรงจำ**

คนกุลา

rubber11w091.jpg
...........................................


เครื่องคล้อยลอยร่อนลงตรงทางวิ่ง
น้องชายดิ่งรีบมาจากนาสาร
รักเหมือนน้องวันสมัยวัยทำงาน
เดี๋ยวนี้ท่านโตใหญ่ในการเมือง

มาบ้านดอนครั้งนี้นับกี่ครั้ง
เคยมานั่งทำการงานต่อเนื่อง
พักโรมแรมใกล้ใกล้ไม่สิ้นเปลือง
เจ้าของเรื่องจัดไว้ให้อย่างดี

ก่อนไปพักน้องพาไปท่าข้าม
นั่งร้านงามอร่อยลิ้นลือถิ่นที่
โต๊ะริมนั่งฝั่งน้ำงามตาปี
สายนทีคลี่เรื่องราวชาวบ้านดอน

หลังบรรยายจบลงตรงช่วงเช้า
เขาพาเข้าในหมายรายการก่อน
ดูสวนปาล์มตามกำหนดทุกบทตอน
ก่อนจากจรตรงไปเมืองไชยา

ไปเยือนเยี่ยมสวนปาล์มนามทักษิณ
เคยได้ยินชื่อนี้นานนักหนา
บรรยายฟังเข้าใจได้คลับคลา
เพราะผู้มาไม่เคยดูรู้เรื่องปาล์ม

ออกจากสวนปาล์มเข้ายามบ่าย
ตะวันคลายคล้ายคลาดไม่อาจห้าม
ไปวัดธารน้ำไหลใจติดตาม
กราบงามงามพุทธทาสสะอาดองค์

กราบหุ่นท่านเหมือนจริงแท้สิ่งสร้าง
ดังรูปร่างเมื่อครั้งยังเป็นสงฆ์
มรณภาพตราบความดีที่ดำรง
พิศดูองค์อีกครั้งยังอาลัย

แวะเดินวนตามที่มีคนเล่า
ดูมะพร้าวนาฬิเกฤๅเฉไฉ
มะพร้าวเดี่ยวยืนต้นฉงนใจ
สอนอะไร...เวลาหรือปริศนาธรรม

เลยล่วงโรงมหรสพพบทุกสิ่ง
แต่เวลายิ่งไล่ล่าเข้ามาย้ำ
กราบพระท่านอธิบายขยายคำ
ขออภัยหลายล้ำจำจรลี

ตรงไปเมืองไชยากราบพระธาตุ
ดังได้กราบบาทบงส์พระทรงศรี
เป็นวัดเก่าเล่าเรื่องเมืองเคยมี
ส่งศักดิ์ศรีเรืองรุ่งกรุงพันพาน

จุดสุดท้ายเยือนพุมเรียงเคยเคียงที่
มาพบมีคนเล่ากล่าวคำขาน
แต่แปลกใจทำใมอยู่คู่ตำนาน
ฝีมือการทอผ้าไหมให้งุนงง

ก็ขิดผ้าแพรไหมใครเทียมเจ้า
เคยคลอเคล้าเย้าข้างอย่างไหลหลง
มาพุมเรียงเห็นกี่ไหมไล่ลายลง
ดังเวียนวงกลับอีสานแดนบ้านเฮา

จากพุมเรียงตะวันลอยลงคล้อยเคลื่อน
แดดเลือนเลือนเคลื่อนสาดทาบลาดเขา
คงต้องจำจากกันครั้นฟ้าเทา
ต้องเร่งเร้าไปถึงท่าเวลาบิน

......................


มาตามขอ  ไม่รอ  คราวหลัง
ร้อยกรองดัง  ตามใจ  โฉมฉิน
หากยินยอม  ขอพี่  ได้ยิน
จะขีดดิน  สอเล่า  เพื่อสาวพยอม

มาบ้านดอน  พบงามงอน  สดสวย
ดำขำด้วย  ลมเล  เห-ย้อม
ตาดำขลับ  ยอมรับ  ว่ายอม
ใคร่เด็ดดอม...บัวผุดดิน..รินร่ายชายรอ

ยามนุ้ยนาด  สวยชาติ  สวยจ้าน
มาจวนหน้าหวาน  แค่บ้าน  คนสวย
พาไหว้พระ  ตะพี่นี่  กราบด้วย
พ่อท่านช่วย  ให้ได้ชม  สมใจ...
นี่นุ้ยเหอ...ให้ได้ชม  สมใจ

ลำนำกลอนใต้  ไม่หมาย  เทียบเคียง
จำใจเรียง  ร่ายร่ำ  คำไข
พอเขียนได้  เพราะเคย  ได้ไป
กรองหัวใจ  เรียงราย  ได้มา

....................................


หมดเวลาต้องจำไกลจากไปแล้ว
เหมือนหมดแววหวังไหวจำไกลหน้า
อีกเมื่อไรคืนบ้านดอนหวนย้อนมา
ช่วยแก้วตาหน้านวลทำสวนปาล์ม


.................................................
 

เห็นว่ามีกลอนนำเที่ยวเมืองไทย เลยขอขุดกลอนที่แต่งไว้ มาร่วม
ด้วยช่วยกันนะครับ

คำศัพท์ท้องถิ่น

จวน......แปลว่า         พบ
นุ้ย..........."               น้องสาว
เหอ.........."               ครับ   คะ  เนาะ (เป็นคำลงท้าย..)
ตะ  ต้า......"               นะ   
สวยชาติ  สวยจ้าน ..."       สวยมากจริงๆ
แค่บ้าน......."             ที่บ้าน
ลมเล........"                ลมทะเล



คนกุลา

ในวสันต์

 				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกุลา