31 สิงหาคม 2552 12:19 น.
				
												
				
								คนกุลา
		
					
				
 ๏ สายฝนพรมแหล่งหล้า  โลมดิน   แม่เฮย 
โปรยสู่ธรณินทร์            พลิกฟื้น
มวลคนสัตว์หากิน          ยังชีพ     อยู่แฮ
เราก็คงใจชื้น                 หากได้ฝนปรอยฯ
๏ ยามฝนปรายจากฟ้า     คราใด    ท่านเอย
ปานดั่งฝนในใจ              ฉ่ำแล้ว
ฝอยฝนฝากคนไกล        เกินสื่อ     แม่นา
เรียมส่งใจราวแก้ว         ส่องเนื้อนวลสมรฯ
๏ เสียงฝนทนร่ำร้อง       ปานคราง
เหมือนห่วงใยนวลปราง  แน่งน้อง
ครืนครืนคัคนางค์          เวียนคร่ำ  ครวญนา
เป็นดั่งใจหมายป้อง        ปกให้นางเขษมฯ
๏ ฝนเอยเพียงบอกให้     นำคำ      ไปนา
เพียรบอกเธอจงจำ         กอดข้าฯ
สายฝนร่ำโรยพรำ          ใจยิ่ง       คิดนา
ฝนผิพาใจล้า                 ยิ่งให้หวังถวิลฯ
๏ หวังฝนรินตกพื้น          ธาตรี
ไหลล่องนองชลธี              หลากล้น
ใจครวญว่าคนดี               คงคิด  ฮอดแฮ
เหมือนเมื่อเรียมคราวด้น  ขอบฟ้าหานางฯ
๏ วอนฝนยามหลั่งแล้ว     หายตรม เถิดนา
หวังดอกฝนพรายพรม      พร่างพร้อย
งามใสสดชวนชม           แลโล่ง    ตานา
ฝนพรั่งพรูเหมือนสร้อย    สอดไว้เวียนศอฯ
๏ ฝนฤๅเลือนจากนี้          โปรยปราย
ใจพี่คราวคืนหมาย           เยี่ยมเจ้า
ฝนพราวสื่อเป็นสาย          นำสู่       นางเฮย
หวังว่านวลยังเฝ้า              รับสร้อยสายฝนฯ
                   
          .........
คนกุลา
ในวสันต์
 
๏ สายฝนพรมแหล่งหล้า  โลมดิน   แม่เฮย 
โปรยสู่ธรณินทร์            พลิกฟื้น
มวลคนสัตว์หากิน          ยังชีพ     อยู่แฮ
เราก็คงใจชื้น                 หากได้ฝนปรอยฯ
๏ ยามฝนปรายจากฟ้า     คราใด    ท่านเอย
ปานดั่งฝนในใจ              ฉ่ำแล้ว
ฝอยฝนฝากคนไกล        เกินสื่อ     แม่นา
เรียมส่งใจราวแก้ว         ส่องเนื้อนวลสมรฯ
๏ เสียงฝนทนร่ำร้อง       ปานคราง
เหมือนห่วงใยนวลปราง  แน่งน้อง
ครืนครืนคัคนางค์          เวียนคร่ำ  ครวญนา
เป็นดั่งใจหมายป้อง        ปกให้นางเขษมฯ
๏ ฝนเอยเพียงบอกให้     นำคำ      ไปนา
เพียรบอกเธอจงจำ         กอดข้าฯ
สายฝนร่ำโรยพรำ          ใจยิ่ง       คิดนา
ฝนผิพาใจล้า                 ยิ่งให้หวังถวิลฯ
๏ หวังฝนรินตกพื้น          ธาตรี
ไหลล่องนองชลธี              หลากล้น
ใจครวญว่าคนดี               คงคิด  ฮอดแฮ
เหมือนเมื่อเรียมคราวด้น  ขอบฟ้าหานางฯ
๏ วอนฝนยามหลั่งแล้ว     หายตรม เถิดนา
หวังดอกฝนพรายพรม      พร่างพร้อย
งามใสสดชวนชม           แลโล่ง    ตานา
ฝนพรั่งพรูเหมือนสร้อย    สอดไว้เวียนศอฯ
๏ ฝนฤๅเลือนจากนี้          โปรยปราย
ใจพี่คราวคืนหมาย           เยี่ยมเจ้า
ฝนพราวสื่อเป็นสาย          นำสู่       นางเฮย
หวังว่านวลยังเฝ้า              รับสร้อยสายฝนฯ
                   
          .........
คนกุลา
ในวสันต์

 
				
			 
			
				29 สิงหาคม 2552 14:53 น.
				
												
				
								คนกุลา
		
					
				
 ๏ ใจดวงเดิมเริ่มสร้าง       ควรเคียง
หวังว่าคอยสานเสียง        กล่อมเกื้อ
ยามไกลคิดถึงเพียง         เกินเอ่ย    แม่นา
ลมหอบเอานวลเนื้อ         รักให้เธอชมฯ
๏ วอนลมหมายสื่อเจ้า     ลอยมา  นางเอย
เพ็ญพร่างกลางดารา       เด่นคว้าง
แสงนวลอาบนภา           นานเนิ่น  กาลแฮ
อวลยิ่งเหมือนราวอ้าง     เร่งให้เรียมตรมฯ
๏ จันทร์เอยใครเอ่ยบ้าง   ถามใจ   น้องนา
จันทร์เยี่ยมมายามใด      พร่างพร้อย
คืนจันทร์ส่องแสงไกล     งามนัก  นางเฮย
ตัวพี่เทียมดาวน้อย          ภักดิ์น้องจันทร์สมร
๏ ฤๅเพียงลวงว่าให้         วอนคำ  แม่เอย
หวังส่งเป็นลำนำ             แด่น้อง
แปลงจินต์สื่อสารจำ-       นรรย์ต่อ  นวลนา 
ยังกริ่งเพียงคนซ้อง         แซ่ให้ใจตรอมฯ
๏ เพียงคำวอนฝากแล้ว     สายลม  แม่เอย
ตรงจากใจดวงตรม           ฝากฟ้า
หวังเห็นสุขยามชม           คราใหม่  งามแฮ
จึงฝากใจคราล้า               รับด้วยถนอมกัน
๏ วานลมหวังบอกเนื้อ     นัยความ 
เลยลิ่วหานงราม             นุชเจ้า
สานใจแว่วไหวหวาม      ไปบอก  เธอเฮย
หวังเมื่อคืนหวนเหย้า       รับถ้อยนางมาฯ
๏ ยามลมโลมพัดไล้         เรียวจันทร์  แม่นา
เหงาอยู่เพียงบางวัน         เหว่ว้า
หวังลมช่วยเชยขวัญ        แทนกอด  พี่แฮ
รอพี่หานานช้า                กลับห้วงใจถวิลฯ
                               .........
คนกุลา
ในวสันต์
 
     
๏ ใจดวงเดิมเริ่มสร้าง       ควรเคียง
หวังว่าคอยสานเสียง        กล่อมเกื้อ
ยามไกลคิดถึงเพียง         เกินเอ่ย    แม่นา
ลมหอบเอานวลเนื้อ         รักให้เธอชมฯ
๏ วอนลมหมายสื่อเจ้า     ลอยมา  นางเอย
เพ็ญพร่างกลางดารา       เด่นคว้าง
แสงนวลอาบนภา           นานเนิ่น  กาลแฮ
อวลยิ่งเหมือนราวอ้าง     เร่งให้เรียมตรมฯ
๏ จันทร์เอยใครเอ่ยบ้าง   ถามใจ   น้องนา
จันทร์เยี่ยมมายามใด      พร่างพร้อย
คืนจันทร์ส่องแสงไกล     งามนัก  นางเฮย
ตัวพี่เทียมดาวน้อย          ภักดิ์น้องจันทร์สมร
๏ ฤๅเพียงลวงว่าให้         วอนคำ  แม่เอย
หวังส่งเป็นลำนำ             แด่น้อง
แปลงจินต์สื่อสารจำ-       นรรย์ต่อ  นวลนา 
ยังกริ่งเพียงคนซ้อง         แซ่ให้ใจตรอมฯ
๏ เพียงคำวอนฝากแล้ว     สายลม  แม่เอย
ตรงจากใจดวงตรม           ฝากฟ้า
หวังเห็นสุขยามชม           คราใหม่  งามแฮ
จึงฝากใจคราล้า               รับด้วยถนอมกัน
๏ วานลมหวังบอกเนื้อ     นัยความ 
เลยลิ่วหานงราม             นุชเจ้า
สานใจแว่วไหวหวาม      ไปบอก  เธอเฮย
หวังเมื่อคืนหวนเหย้า       รับถ้อยนางมาฯ
๏ ยามลมโลมพัดไล้         เรียวจันทร์  แม่นา
เหงาอยู่เพียงบางวัน         เหว่ว้า
หวังลมช่วยเชยขวัญ        แทนกอด  พี่แฮ
รอพี่หานานช้า                กลับห้วงใจถวิลฯ
                               .........
คนกุลา
ในวสันต์

 
				
			 
			
				26 สิงหาคม 2552 18:51 น.
				
												
				
								คนกุลา
		
					
				
 ๏ พรมฝนมาพร่างพื้น      ธารา 
คราเมื่อสองเรามา           ร่วมเหย้า
คลอนางสุดบุญตา            ใจพี่  แม่เอย
เชยชิดขวัญใจเจ้า            รักแท้ยืนยงฯ
๏ สายลมพรมพัดให้        นางใด นวลเอย 
หวังฝากคำลอยไกล         สู่เจ้า
ลมคราหากลาไป             ใจหม่น  แม่เฮย
เคยเอ่ยคำเพียงเย้า        ฝากให้จดจำ     
๏ ลำนำคำกู่ก้อง              ถามไป
ฤๅใคร่ถามใครใคร          ตอบถ้อย
เพียรฝันพร่ำฝนไกล       ใจบอก  นางนา
หวังคนึงนวลน้อย             ตอบข้าฯหายตรมฯ
๏ เคยเคียงครองจากเจ้า  ยังจำ  นางเอย 
คราพี่เคยวอนคำ             คู่น้อง
ยามคราวบอกงามขำ        ใจภักดิ์  เธอนา
ฤๅว่านวลยังข้อง              จิตเจ้าสงสัยฯ    
๏ ใจครวญหวังฝากฟ้า      ลอยลม  มาเฮย
เพียงใคร่หมายเชยชม      ยิ่งแล้ว
เพ็ญนวลพร่างสวยสม       งามนัก  แม่เอย 
ใจรักวางนางแก้ว             แด่น้องเพียงเดียว
       
          .........
๏ พรมฝนมาพร่างพื้น      ธารา 
คราเมื่อสองเรามา           ร่วมเหย้า
คลอนางสุดบุญตา            ใจพี่  แม่เอย
เชยชิดขวัญใจเจ้า            รักแท้ยืนยงฯ
๏ สายลมพรมพัดให้        นางใด นวลเอย 
หวังฝากคำลอยไกล         สู่เจ้า
ลมคราหากลาไป             ใจหม่น  แม่เฮย
เคยเอ่ยคำเพียงเย้า        ฝากให้จดจำ     
๏ ลำนำคำกู่ก้อง              ถามไป
ฤๅใคร่ถามใครใคร          ตอบถ้อย
เพียรฝันพร่ำฝนไกล       ใจบอก  นางนา
หวังคนึงนวลน้อย             ตอบข้าฯหายตรมฯ
๏ เคยเคียงครองจากเจ้า  ยังจำ  นางเอย 
คราพี่เคยวอนคำ             คู่น้อง
ยามคราวบอกงามขำ        ใจภักดิ์  เธอนา
ฤๅว่านวลยังข้อง              จิตเจ้าสงสัยฯ    
๏ ใจครวญหวังฝากฟ้า      ลอยลม  มาเฮย
เพียงใคร่หมายเชยชม      ยิ่งแล้ว
เพ็ญนวลพร่างสวยสม       งามนัก  แม่เอย 
ใจรักวางนางแก้ว             แด่น้องเพียงเดียว
       
          .........
 

 
				
			 
			
				25 สิงหาคม 2552 19:08 น.
				
												
				
								คนกุลา
		
					
				
 ๏ นภามัวหม่นแล้ว        ฝนพราย 
รินหลั่งเหมือนเป็นสาย  ใส่สร้อย 
เพียงพรำร่ำระบาย        งามกว่า  ใดนา 
ดังม่านพรมเรียงร้อย      ห่มด้วยสังวาลย์ ฯ
๏ สายฝนรินสู่หล้า        คราใด  น้องเอย 
มวลส่ำสัตว์พงไพร        ชุ่มชื้น 
ไหลโลมท่าทางไกล       ธารทุ่ง   นองเฮย 
หวังสิ่งหลงลืมฟื้น          ชื่นน้ำคราวเห็นฯ
๏ เสียงครวญดังยั่วเย้า  ติงเตือน 
ลมพร่างครางลางเลือน    กว่าแสร้ง 
คอยโฉมแม่คืนเรือน      มาสู่  ใจนา 
ฤๅว่าคัคนางค์แกล้ง        พี่ให้ยอกหทัย ฯ
๏ หลังสายฝนหลั่งล้น     โลมดิน  ลงนา
งามผ่องปานยุพิน         แน่งน้อง 
ยามใครใคร่ยลยิน       สวยแม่  นางเอย 
วานพี่หวังยังข้อง           สู่ฟ้าถามสรวงฯ
๏ ทุกคราวฝนพร่ำฟ้า     คราใด นางเอย
วันใหม่งามสดใส          ยิ่งแล้ว
คราฝนหล่นในใจ         ทรวงพี่  ตรมนา  
หวังแต่เพียงนางแก้ว    ช่วยให้สุขเกษมฯ
                         .........
             
๏ นภามัวหม่นแล้ว        ฝนพราย 
รินหลั่งเหมือนเป็นสาย  ใส่สร้อย 
เพียงพรำร่ำระบาย        งามกว่า  ใดนา 
ดังม่านพรมเรียงร้อย      ห่มด้วยสังวาลย์ ฯ
๏ สายฝนรินสู่หล้า        คราใด  น้องเอย 
มวลส่ำสัตว์พงไพร        ชุ่มชื้น 
ไหลโลมท่าทางไกล       ธารทุ่ง   นองเฮย 
หวังสิ่งหลงลืมฟื้น          ชื่นน้ำคราวเห็นฯ
๏ เสียงครวญดังยั่วเย้า  ติงเตือน 
ลมพร่างครางลางเลือน    กว่าแสร้ง 
คอยโฉมแม่คืนเรือน      มาสู่  ใจนา 
ฤๅว่าคัคนางค์แกล้ง        พี่ให้ยอกหทัย ฯ
๏ หลังสายฝนหลั่งล้น     โลมดิน  ลงนา
งามผ่องปานยุพิน         แน่งน้อง 
ยามใครใคร่ยลยิน       สวยแม่  นางเอย 
วานพี่หวังยังข้อง           สู่ฟ้าถามสรวงฯ
๏ ทุกคราวฝนพร่ำฟ้า     คราใด นางเอย
วันใหม่งามสดใส          ยิ่งแล้ว
คราฝนหล่นในใจ         ทรวงพี่  ตรมนา  
หวังแต่เพียงนางแก้ว    ช่วยให้สุขเกษมฯ
                         .........
  

 
				
			 
			
				24 สิงหาคม 2552 20:07 น.
				
												
				
								คนกุลา
		
					
				
 ๏ คืนคราฝนร่ำฟ้า           ปรอยปรอย 
ใจพี่ยังคงคอย                  นิ่มเจ้า 
หวังถวิลปิ่นผมปอย           ปักคู่  มวยนา 
คำเอ่ยมิเคยเย้า                 กริ่งน้องนางเคืองฯ
 ๏ ยามวสันต์รินสู่หล้า        โปรยปราย แม่เอย 
ปานว่าใจละลาย                นั่นแล้ว 
ดอกฝนหล่นเป็นสาย          สาดใส่  นองนา
หวังแต่เพียงนางแก้ว         อย่าร้างกายไกลฯ
๐ ฤๅรักจักห่างเศร้า            เนาว์จินต์
ใจพี่ยามฝนริน                  ห่วงน้อง
ภักดิ์โฉมแม่ยุพิน              หวังคู่  นวลนา
เต็มเปี่ยมจิตทุกห้อง           มอบให้เธอครองฯ
๏ ฝนเอยเหมือนดั่งคล้าย     ครางครวญ  
ฤๅส่งเสียงเชิญชวน            คู่เคล้า 
ฤดีสื่อใจนวล                    เคียงคู่  กันนา 
หวังพี่มีเพียงเจ้า                แน่งน้อยหวลถวิล ฯ 
                          .......................
       
 ๏ คืนคราฝนร่ำฟ้า           ปรอยปรอย 
ใจพี่ยังคงคอย                  นิ่มเจ้า 
หวังถวิลปิ่นผมปอย           ปักคู่  มวยนา 
คำเอ่ยมิเคยเย้า                 กริ่งน้องนางเคืองฯ
 ๏ ยามวสันต์รินสู่หล้า        โปรยปราย แม่เอย 
ปานว่าใจละลาย                นั่นแล้ว 
ดอกฝนหล่นเป็นสาย          สาดใส่  นองนา
หวังแต่เพียงนางแก้ว         อย่าร้างกายไกลฯ
๐ ฤๅรักจักห่างเศร้า            เนาว์จินต์
ใจพี่ยามฝนริน                  ห่วงน้อง
ภักดิ์โฉมแม่ยุพิน              หวังคู่  นวลนา
เต็มเปี่ยมจิตทุกห้อง           มอบให้เธอครองฯ
๏ ฝนเอยเหมือนดั่งคล้าย     ครางครวญ  
ฤๅส่งเสียงเชิญชวน            คู่เคล้า 
ฤดีสื่อใจนวล                    เคียงคู่  กันนา 
หวังพี่มีเพียงเจ้า                แน่งน้อยหวลถวิล ฯ 
                          .......................
 


