20 สิงหาคม 2550 12:48 น.

หนึ่งนักฝัน

ตะวัน


นานแล้วนานแสนนาน
ที่ความฝัน มันคืบคลาน ผ่านมุมเก่า
ในระนาบ ราบเรียบ และเงียบเหงา
ช่างอึมครึม ซึมเซา เสียนี่กระไร
หวังแต่ฟ้า ราตรีนี้ จะมีแสง
จากหลืบเร้น เส้นทแยง ดาวแสงใหม่
แต่เปล่าเลย ดาวยังเลย แล้วเลยไป
จะเดือนเก่า หรือดาวใหม่ ก็ไร้แนว
กระพริบตา ที่พร่าพรำ หยดน้ำตา
เพื่อร่ำลา วันเวลา ที่ลาแล้ว
จากครั้งหนึ่ง ซึ่งเคยประดับ  วับแวว
ถึงครั้งนี้ ที่ไหวแผ่ว ฝันเจ้าเอย

ได้แต่นิ่ง ประวิงวัน อันเคลื่อนไหว
ปล่อยน้ำตา ล้าไหล ไปเฉย-เฉย
ปล่อยให้หยาดหยดอุ่น ที่คุ้นเคย
มาเลี้ยงส่ง ความล่วงเลย ที่จำใจ
ยังคงเป็น คนหนึ่งคน บนโลกกว้าง
ยังสืบเท้า ก้าวย่าง  อย่างคนส่วนใหญ่
ติดก็แต่ ถูกสะกด ให้หมดไฟ
หนึ่งนักฝัน ผู้มั่นใจ ตายไปแล้ว 

				
6 สิงหาคม 2550 00:03 น.

ดาริกาที่รัก

ตะวัน

มองฟ้า...จากมุมมองของท้องฟ้า
สัมผัสดวง ดาริกา ที่ล้าแสง
ประหนึ่งดา - ริการอน จนอ่อนแรง
กลางมหรสพ การแสดงของฟากฟ้า
มหรสพหลังคบไฟได้ถูกปลิด
โรงละครฟากฟ้าประดิษฐ์ แสงไฟกล้า
ดูนั่นซี ฟ้าฟากนี้มีจันทรา
ห้อมด้วยเหล่าดาริกานับร้อยพัน

แต่อีกฟากมีซากดาวที่แสงดับ
จากโชติช่วงแล้วล่วงลับพร้อมกับฝัน
เบื้องหลังฉากมหรสพภพอนันต์
มีเสียงเพลงจากสวรรค์ถึงนรกานต์
เสียงจากเพลงบรรเลงสวดอย่างปวดร้าว
ทั้งรุ่มร้อนและเหน็บหนาวกราวประสาน
เรียกน้ำตาจากวิญญาณ์ ราวสายธาร
อาลัยแสง...อันตระการวันวานสกาว

ใช่ไหมเล่าเจ้าดาริกาเอ๋ย
ถึงวันนี้เจ้าคงเคยผ่านร้อนหนาว
โคจรผ่านฉากหลังนี้ก็หลายคราว
เห็นหลุมศพของดวงดาวก็หลายครา
หลุมฝังศพที่กลบเกลื่อนความอัปลักษณ์
อยู่หลังฉากอาณาจักรของท้องฟ้า
สุดท้ายแล้วก็ว่างเปล่า...เจ้าดาริกา
เจ้าจะรอนทั้งโรยราถึงเมื่อไร

มหรสพเพียงตบตา ดาริกาที่รัก
พอเสียเถิด หยุดพัก สักวันไหม
จิบสุรา เคล้าน้ำตาแห่งอาลัย
กลางสุสานอันกว้างใหญ่ไปด้วยกัน
สวนสุสานที่ไม่มีสีและแสง
ณ หลังฉากการแสดงของสีสัน
ซึ่งราบเรียบเยียบเย็นเป็นนิรันดร์
จะไม่มี ใครอื่นฝัน นอกจากเรา



เถิดปล่อยวาง บ้างเถิดหนา ดาริกาที่รัก				
Lovers  0 คน เลิฟตะวัน
Lovings  ตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตะวัน
Lovings  ตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตะวัน
Lovings  ตะวัน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตะวัน