6 มิถุนายน 2556 20:42 น.

วันเวลาแห่งดอกไม้

บนข.


ผีเสื้อร่ายรำระบำฟ้อน                       

ปีกร่อนไหววับสลับสี ท่ามแสงอบอุ่นไมตรี                         

แห่งแสงสุรีย์เยาว์วัน

 

บินร่อนอวดงามอยู่หวามไหว          

จะอวดพงไพรหรือจอมขวัญ

สดชื่นรื่นเริงในเพลิงวัน                   

บุปผาอวดถันแห่งมาลี

งามเอย...เจ้าดอกไม้                          

แต่งแต้มพงไพรอยู่หลากสี

อ่อนโยนเชิญชวนยินดี                     

เจ้าคือนารีแห่งพงไพร

 

กลีบงามยามกลีบเจ้าเบ่งบาน           

อ่อนหวานเกสรอยู่อ่อนไหว สายลมพรมผ่านสะท้านใจ

จุมพิตลูบไล้อยู่บางเบา

 

แสงเอย...แสงแดดอย่าแผดกล้า      

โปรดเถิดเมตตาอย่าแผดเผา

สงสารมาลีนงเยาว์                             

ย่อยยับอับเฉาโรยรา

 

แม้เพียงกลีบน้อยเจ้าย่อยยับ             

ทุกข์โศกท่วมทับท้นฟ้า ใครเล่าจะปลอบกานดา                     

หมู่มวลบุปผามาลี

 

ผีเสื้อร่ายรำระบำฟ้อน                       

ปีกว่อนไหววับสลับสี

รีบเถอะก่อนแสงสุรีย์                        

เข่นฆาตมาลีแหลกลาญ

ก่อนเจ้าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า           

ก่อนมวลบุปผาอ่อนหวาน ซบกิ่งทิ้งกลีบวายปราณ                     

ร่วงโรยลับกาล...เวลา
22 พฤษภาคม 2556 18:27 น.

ฝัน

บนข.


ฉัน....                                                    
กับจันทร์กระจ่างกลางเวหา
ยิ้มกับดาวพราวพร่างกลางนภา        
กอดเมฆาอบอุ่นละมุนละไม

กระซิบคำพร่ำฟ้าเวหาหน                 
ฟ้าโปรดเห็นใจคนเกินทนไหว
คนผู้เสียทุกอย่างกระทั่งใจ                
มอบรักใครหมดรักที่ภักดี

รัก....                                                      
แม้รู้ซึ้งตระหนักว่ารักนี้
เสมือนกอดกองทุกข์ทับทวี               
ยิ่งนานปีทุกข์ถมระทมทรวง

ที่ไหนใครรักมักเป็นทุกข์                  
เพราะไฟรักเร้ารุกให้หนักหน่วง
ฉันก็พร้อมยอมผจญผลทั้งปวง         
หากรักลวงรักเล่ห์เพทุบาย

เธอ...                                                     
ผู้ซึ่งฉันเผลอไผใจมักง่าย
รักแล้วหลงดงรักดักใจกาย                
มิอาจถ่ายถอนจิตคิดเป็นไท

มัตสยาหลงน้ำซ้ำติดเหยื่อ                
หมู่กวางเนื้อติดบ่วงที่ลวงไว้
สิ้นชีพช้ำกำสรดหมดอาลัย               
ฉันสิ้นใจรักลวงติดบ่วงพลัน

คิดถึง....                                                                
ใครจะซึ้งคำนี้ดีเท่าฉัน
เอ่ยคำรักฝากฟ้ามาจำนรรจ์                
ว่ายังคิดถึงกันวันเวลา

คิดถึงกันเสมอเธอที่รัก                       
และโปรดได้ประจักษ์ทุกฟากฟ้า
รักยังรักคิดถึงยังตรึงตรา                    
ทุกห้วงใจโหยหายิ่งอาลัย

ฝัน...                                                      
กับเพ็ญจันทร์โสภาสง่าใส
สบตาดาวพราวพรับระยับไกล 
เสมือนใครเคยพบเคยสบตา

จันทร์กระจ่างกลางฟ้าเวหาหน  
ส่องใจจนกระจ่างสว่างจ้า  
ยิ้มกับดาวพราวพร่างกลางนภา        
ในอ้อมอุ่นอกฟ้า...มากล่อมใจ...     


				
10 กรกฎาคม 2557 07:43 น.

เยื่่อใย

บนข.

หากมิลืมความหลังที่ฝังจิต           

ก็จงคิดถึงมันให้หวั่นไหว

มันเป็นแค่ความหลังที่ฝังใจ         

โปรดอาลัยอาวรณ์ให้ย้อนมา

เชิญเถิดหากใจจักใคร่คิด            

ถึงเยื่อใยในจิตคิดโหยหา

ย้อนความหลังครั้งกาลที่ผ่านมา   

คลุกเคล้าหยดน้ำตาไม่ว่ากัน

จะดับถ่านไฟเก่ากระนั้นหรือ        

ท่ามกลางลมโหมกระพือหรืออย่าฝัน

ไฟก็ยังคงที่ยังมีควัน                   

ยังรอวันคุ กรุ่น เป็นอุ่นไอ

กลับไปผิงไฟเก่าเถิดที่รัก              

เผื่อเธอจักสดชื่นจากขื่นไหม้

คนความหลังยังคอยรอยอาลัย     

เธอก็เหลือเยื่อใย...ใยอำพราง

ฉันแค่คนจรจัดคนพลัดถิ่น          

แบกหัวใจแหว่งหวิ่นไว้ว่างๆ

เพียงแค่เธอเมตตามาจัดวาง        

รักยามว่างเช้าเย็นไม่เป็นไร

สุขและทุกข์เพียงพอไม่ขอมาก     

มิลำบากหากเธอจักเผลอไผล

หวนใจกลับฟื้นฝอยรอยเยื่อใย      

ตามที่ใจเรียกหาไม่ว่าเลย

ทิ้งฉันไว้ที่นี่เถิดที่รัก                    

หากเธอจักต้องการผ่านเฉยๆ

ฉันแค่คน บางคน ไม่คุ้นเคย        

มินานเลยจะลับกาลกับวารวัน

ทิ้งฉันไว้ที่นี่เถิดที่รัก                    

ให้ฉันล้มจมปลักกับความฝัน

จะเพียรดับกองไฟไม่เหลือควัน     

จงตัดฉันอย่าให้เหลือ....แม้เยื่อใย....

14 มกราคม 2556 22:20 น.

*ชาย*

บนข.

 

เป็นชายคลองมองน้ำแค่ฉ่ำชื่น		
มิอาจยื่นหยั่งชายลงหมายน้ำ
มองน้ำเยาะเซาะชายสายธารนำ	
ตลิ่งช้ำน้ำเซาะกระแซะชาย

อนิจจาชายช้ำประจำคลอง		
น้ำไม่มองไม่เห็นกระเซ็นสาย
ทิ้งชายไหลล่วงลับมิกลับกลาย		
ตราบจนชายวายพังสองฝั่งคลอง

เป็นชายคาค่าหมายเพียงชายขอบ	
ตามระบอบขอบชายแค่หมายจ้อง
คนชายคาอย่าหมายสิทธิ์ไปคิดจอง 	
เป็นเจ้าของห้องหับที่ลับใจ

คงเป็นได้แค่ฝันชั้นชายขอบ		
อยู่ริมรอบขอบชายได้อาศัย
คนชายคาค่าหดหมดอาลัย		
เขาเห็นใจเพียงหมายแค่ชายตา

เกิดเป็นชายอย่าหมายว่าข้าบุรุษ	
ผู้สูงสุดเลิศเลอเสนอค่า
ที่ว่าเด่นอาจเป็นได้แค่ชายคา		
หรืชายป่าชายเขาชายเราเอย

จะกี่ชายร้อยชายยังพ่ายแพ้		
ต่อเพศแม่สตรีนี่ละเหวย
คำดอกไม้ชายคามาเปรียบเปรย	
ใครละเลยอาจเปิงเสียเชิงชาย

เราเป็นชายริมคลองยืนจ้องน้ำ		
ก็เพียงฉ่ำชื่นจิต...หากคิดหมาย
กระโจนลงลำธารสำราญกาย		
ก็อาจจมน้ำตาย...ริมชายนาง...  
				
3 มกราคม 2556 16:04 น.

* หอมดินกลิ่นนา *

บนข.


หอมดินกลิ่นนาข้าวกล้าเขียว	
ลมพัดกรูเกรียวไล้เรียวข้าว
ท้องฟ้าฉ่ำฝนก็หล่นพราว	
ปลอบข้าวปลอบขวัญชาวนา

ดินฉ่ำน้ำชุ่มเพราะอุ้มน้ำ	
กสิกรกสิกรรมเพาะชำกล้า
ดินว่างร้างข้าวก็พราวตา	
ข้าวกล้างอกงามตามทำนอง
		
กล้าน้อยค่อยค่อยแตกกอ	
แตกหน่อก่อกล้านาทั้งผอง
ลมร่ายพร่ายริ้วพริ้วมอง	
ต้นข้าวทั้งท้องออกรวงงาม

เต็มนาท้องทุ่งยุ้งฟ้า		
รวงทองงามตาวาบหวาม
จากกล้าก่อรวงริ้วงาม		
นิยามทุกข์ยากชาวนา
		
ชาวนาคนจนต้องทนยาก
ทุกข์ทนซ้ำซากเหนื่อยล้า
หยาดเหงื่อแรงงานผ่านมา
มอบเป็นเหรียญตราชาวนาไทย

		
หมดนาหมดหน้าเก็บเกี่ยว	
หนี้สินหน่วงเหนี่ยวหวั่นไหว
ยุ้งฉางว่างเปล่าเศร้าใจ		
ขายข้าวเลี้ยงใคร...ชาวนา
		
หอมดินกลิ่นจางฟางข้าว	
ลมแล้งอบอ้าวผะผ่าวหน้า
ซังข้าวปลิดปลิวละลิ่วฟ้า	
คือวิญญาณชาวนาปลิดปลง

ตั้งหน้ารอหวังหน้าฟ้าฝนใหม่	
ต่อลมหายใจผุยผง
หว่านกล้าชีพกล้าคืนคง	
ต่อหนี้ยืนยง....ชาวนา
 				
Lovers  0 คน เลิฟบนข.
Lovings  บนข. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบนข.
Lovings  บนข. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบนข.
Lovings  บนข. เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงบนข.