22 พฤศจิกายน 2554 21:37 น.

...อยู่กับใคร..

บนข.



อยู่คนเดียวให้ชั่งยั้งความคิด	
ระวังจิตคิดปรุงให้ฟุ้งซ่าน
คิดวิตกสงสัยให้รำคาญ		
ส่ออาการวิปริตเพราะคิดไป

คิดไม่ลงปลงไม่ตกรกสมอง	
จิตจดจ้องคิดวุ่นครุ่นสงสัย
อยู่คนเดียวหากไม่ยั้งระวังใจ	
ประสบภัยความคิดเพราะจิตตน

อยู่กับคนหลากหลายทั้งชายหญิง	
ย่อมมากสิ่งมากความตามสับสน
ให้ระวังวาจาอย่าร้อนรน		
คำพูดตนอาจผลาญการไมตรี

เป็นมนุษย์สุดนิยมที่ลมปาก	
สุนทรภู่ท่านฝากคตินี้
ก่อนจะพูดจงระวังยั้งวจี		
จะไม่มีสงครามความคารม

อยู่กับพาลดื้อรั้นสันดานชั่ว	
จงระวังเกลือกกลั้วความชั่วขรม
แม้นมิรักฝักใฝ่ใจนิยม		
อาจติดปมภาพลบว่าคบพาล

อันปลาเน่าในข้องฟ้องปลาเป็น	
ว่าอาจเหม็นเข็นขุกทุกสถาน
แม้นจำเป็นต้องคบประสบพาล	
จงตั้งการยับยั้งระวังตัว

อยู่กับคนฉลาดจงคาดคิด		
พลั้งเพียงนิดเสียรู้เป็นรูรั่ว
อาจโดนหลอกชอกช้ำระยำยัว	
ถึงเสียตัวเสียการงานเวลา

เขาฉลาดก็จงคาดการเฉลียว	
ให้ปราดเปรียวเด็ดขาดฉลาดกว่า
ฟันต่อฟันพันตูตาต่อตา		
ฉลาดมาจงปัญญาฉลาดไป

คุณจะอยู่กับใครได้ทั้งนั้น		
ตราบเท่าคุณรู้ทันกันแก้ไข
โลภโกรธหลงบงการสันดานใจ	
ก็อยู่ได้เป็นสุขทุกเวลา

คุณจะอยู่กับใครได้ในโลก	
ตราบรู้ทันทุกข์โศกในโลกหล้า
และเสพโลกทั้งปวงด้วยปัญญา	
โลกหรือกล้าแว้งงัด...เข้ากัดคุณ

 				
16 พฤศจิกายน 2554 12:45 น.

วัดสายตาประกอบใจ

บนข.


วัดสายตา		
ก็เพราะคู่นัยนาน่าหวาดหวั่น
อวัยวะดวงตาค่าสำคัญ		
หากหมดมันมืดมิดทุกทิศทาง

ฉันมองใกล้ไม่ชัดอึดอัดแท้
ทั้งมองไกลก็แย่ระยะห่าง
ทั้งไกลใกล้เสมือนว่าเลือนราง	
เป็นฟ่าฟางซ้อนซ้ำทำไงดี

ไปหาหมอ		
เพื่อจะเช็คต้นตอให้ถ้วนถี่
และรักษาป้องกันทันท่วงที
อาการนี้คงเซาทุเลาลง

ฟังคำหมอวินิจฉัยใจระทึก	
ว่าโรคนี้ล้ำลึก...หากประสงค์
จะมองเห็นได้อย่างใจจำนง
หมอฟันธงชี้ชัดตัดแว่นตา

ของแปลกปลอม		
แต่ฉันก็ยินยอมก็เพราะว่า
อยากมองเห็นเช่นกาลที่ผ่านมา	
โลกนี้งามโสภาสักเพียงไร

เมื่อร่างกายนี้ก็ของปลอม		
เก่าก็พร้อมจะเปลี่ยนใหม่
สายตาคงวอดวายหากสายไป	
ตัดแว่นใส่เห็นชัดในบัดดล

แว่นวิเศษ		
ฉันใส่แล้วเกิดเหตุน่าฉงน
เพราะกลับมองโปร่งใสถึงใจตน	
เห็นกิเลสสับสนอยู่อัดแอ

เห็นสุขทุกข์คลุกเคล้าอยู่เร่าร้อน
เห็นวัฏฏะสัญจรยิ่งย่ำแย่
เห็นอัตตายึดมั่นมิผันแปร		
เห็นสันดานที่แท้แห่งตัวตน

หมดปัญหา		
บัดนี้คู่นัยนาน่าฉงน
จะมองใกล้มองไกลไม่กังวล	
ที่มืดมนฟ่าฟางก็จางลา

จะมองโลกภายนอกก็ชัดใส
ยิ่งมองโลกภายในสว่างจ้า
ได้เห็นชัดกิเลสขังที่บังตา		
หมดปัญหาฟ่าฟาง...สว่างใจ 				
27 ตุลาคม 2554 18:58 น.

""งง""

บนข.


กูละงงสงสัยในชีวิต		
กูยิ่งคิดยิ่งงงยิ่งสงสัย
ชีวิตกูกูคิดชีวิตใคร		
หนทางใดกูงงกูหลงเดิน

กูยิ่งเดินยิ่งหลงในดงชัฏ		
ถูกบ่วงรัดมัดกูอยู่นานเนิ่น
จิตวิญญาณตกอับกูยับเยิน	
งงเหลือเกินกูงงกูหลงทาง

เกิดเป็นกูอยู่เป็นตนทนจรจัด	
กรรมวัฏฏ์เวียนวนด้นสงสาร
ตายแล้วเกิดเกิดแล้วจมกี่ลมปราณ
 ทรมานนานเนิ่นเกินกัปกัลป์

ชีวิตคืออะไรกูใคร่รู้		
(เดาว่าการต่อสู้และแข่งขัน)
ระหว่างตัวกูผู้สามัญ		
กับภพชาติอนันต์ยาวไกล

กูมุ่งหมายยุดภพสยบเท้า		
หยุดร้อนเร่าทั้งหลายแหล่กูแน่ไหม
อาวุธคืออัตตากูพาไป		
หวังสยบภพไตรบรรลัยลง

แต่รบกันทุกครั้งกูพังพ่าย		
ทั้งอาวุธมากมายโลภโกรธหลง
ภพคือผู้คว้าชัยไปยิ่งยง		
กูยังคงเวียนว่ายกระหายชัย

กูละงงสงสัยในชีวิต		
กูยิ่งคิดยิ่งงงยิ่งสงสัย
ชีวิตกูกูคิดชีวิตใคร	
วัฏฏะใดกูงงกูหลงเดิน

ใจกูคิดถนัดกำจัดภพ	
ด้วยหวังจบกันดารอันนานเนิ่น
แต่อัตตาเจ้ากรรมมันซ้ำเชิญ	
กูกลับเพลินหลงภพ...จบไม่ลง...				
10 ตุลาคม 2554 18:27 น.

...เคลื่อนนิ่ง....

บนข.


ขุนเขานั้นยังยงคงขุนเขา		
นทีเล่ายังคงดำรงไหล
สายลมเย็นก็ยังเช่นสายลมไกว		
แดดร้อนไซร้ยังดำรงคงเตโช

ศิลาแกร่งก็ยังแกร่งศิลานั้น		
ผืนทรายนั่นยังประจักษ์อยู่อักโข
น้ำยังคงตัวตนบนอาโป		
คลื่นยังโชว์คลื่นสาดบนหาดทราย

พฤกษาคงสล้างอย่างพฤกษา		
มวลมาลาคงกลิ่นมิสิ้นหาย
ป่ายังคงผืนป่าลดาพราย		
สัตว์ทั้งหลายยังคงสัตว์อยู่อัตรา

และฝูงคนยังคงชัดอัตตาอยู่		
หญิงชายคู่ยังคงคู่มนุสสา
กิเลสคงกิเลสเหตุมายา			
ชักนำพาหมู่สัตว์ทุกบัดใจ

โลกยังคงหมุนวนมิพ้นโลก		
สุขทุกข์โศกยังคงโชกตามโลกไหว
วันเวลายังคงกาลและผ่านไป		
ชีพใดใดคงย่อยยับไปกับกาล

ปุถุชนยังคงเกิดเตลิดภพ		
จนเจนจบภพชาติวาดสังขาร
สะสมกองอวิชชามาช้านาน		
มิอาจผลาญภพชาติให้ขาดไป

ขุนเขานั้นมิยิ่งยงคงขุนเขา		
นทีเล่าหยุดนิ่งมิติงไหว
สายลมเย็นก็มิเช่นสายลมไกว		
แดดร้อนไซร้ก็ไร้ร้อนสะท้อนเงา

สรรพสิ่งที่เห็นว่าเช่นนั้น		
แท้ก็ย้อมแปรผันทั้งนั้นเล่า
น้ำหยุดนิ่งแท้จริงตลิ่งเนาว์		
กลับร้อนเร่าเคลื่อนไหว...เห็นไหมนั่น

				
7 ตุลาคม 2554 18:08 น.

""""ตื่นเถิด""""""

บนข.


ไก่ขันประชันเสียง		
ส่งสำเนียงเสียงประสาน
ปลุกภวังค์แห่งรัตติกาล	
ขึ้นแหวกม่านแห่งราตรี

แสงดาวกระพริบฟ้า		
ดุจสายตานวลมณี
วับวิบระยิบถี่			
ก่อนหริบหรี่สัญจรลา

น้ำค้างก็พร่างพราว		
ใสสกาวพราวยอดหญ้า
หยดน้ำค้างหยาดน้ำตา		
หนาวอุรารัตติกาล

ตื่นเถิดผู้หลับใหล		
ปลดปล่อยใจจากฝันหวาน
ราตรีนี้มินาน			
ต้องแหลกลาญด้วยทิวา

ตื่นเถิดมารับขวัญ		
ก่อนดาวนั้นจะอ่อนล้า
เก็บดาวพราวนภา		
ฝากท้องฟ้าและราตรี

ตื่นเถิดมารับขวัญ		
ก่อนหยาดน้ำค้างนั้นจะหมองศรี
เก็บทุกหยดน้ำค้างมณี		
ฝากที่ยอดหญ้าลดาวัลย์

ไก่ขันประชันเสียง		
ส่งสำเนียงเสียงกระชั้น
ตื่นเถิดก่อนตะวัน		
จะฟาดฟันรัตติกาล

เก็บรัตติกาลนี้			
ฝากราตรีก่อนผันผ่าน
(และ)เก็บทุกข์ดวงใจทรมาน
ฝากพสุธาธาร....และธาตรี				
Lovers  0 คน เลิฟบนข.
Lovings  บนข. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบนข.
Lovings  บนข. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบนข.
Lovings  บนข. เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงบนข.